รสจัดจ้านตำรับไทย
เกิดเป็นคนกรุงทั้งที จะตั้งต้นตระเวนหาร้านอาหารไทยแท้ๆ สักร้าน แต่ไม่รู้จะเริ่มที่ไหน ขอบอกว่า “หยดน้ำชวนชิม” หนนี้มีอาหารตำรับไทยแท้มาบอกกล่าวนั่นคือ “กาหลง” บรรยากาศริมน้ำเจ้าพระยา สุดซอยวัดเทวราชกุญชร ถนนสามเสน เมื่อเข้าไปสัมผัสร้านแล้วจะรู้สึกปลดปล่อยอารมณ์ หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองหลวงได้อย่างเต็มที่
|
ด้วยความที่ร้าน “กาหลง” เปิดให้บริการมาเป็นเวลา 26 ปี เพราะเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. 2526 จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่ารสชาติของเมนูต่างๆ นั้นจะเข้มข้นเพียงใด เพราะขนาดชาวต่างชาติฟากยุโรปนั้นเวียนวนมาแวะกินบ่อยๆ เพราะคนที่เคยลิ้มลองแล้วเกิดติดใจได้ส่งข้อความโพสต์ความประทับใจซะจนมีคนตามมากินเป็นทิวแถวโดยเฉพาะ “ต้มยำกุ้ง” ที่ชาวต่างชาติรู้ดีว่าเมนูนี้คือสัญลักษณ์ตัวแทนของประเทศไทย
|
|
|
ต้มยำกุ้งอันลือชื่อ |
เมี่ยงปลาทู สุดฮิต |
ไก่คั่วเกลือ สูตรดั้งเดิม |
เมนูนิยมและไม่ควรจะพลาดนั้นได้แก่ “ต้มยำกุ้ง” อันลื่อเลื่อง ต่อมาที่นิยมไม่แพ้กันคือ “กุ้งเผา” จากนั้นคือ “เมี่ยงปลาทู” ที่ทางร้านใช้ปลาทูทั้งตัวมาทอด เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงตามตำรับเมี่ยง นั่นก็คือ ถั่ว ขิง ตะไคร้ พริกขี้หนูสด หอมแดง ใบชะพลู บวกกับการราดน้ำเมี่ยงตามตำรับของร้าน ยิ่งใส่เนื้อปลาทูเข้าไปนะ ฮึมม์! กลมกล่อมอย่าบอกใคร
อีกหนึ่งเมนูที่ดูเหมือนจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาก็คือ “ไก่คั่วเกลือ” ชนิดที่กรอบนอกนุ่มใน มีความมันกรุบกรอบแบบไม่เหมือนใคร เมื่อใดที่ลิ้นของคุณได้สัมผัสรสชาติแต่ละจานแล้ว ต้องบอกว่า “เจ๋งจริง”เพราะ ด้วยความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน เจ้าของร้านบอกว่า เมนูต่าง ๆ ของทางร้านนั้นเกิดจากความใกล้ชิดคุณแม่จนกลายเป็นการเรียนรู้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งคุณแม่ก็ได้วิชามาจากคุณยายอีกทอดหนึ่ง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะบอกว่า เป็นร้านอาหาร 3 ชั่วอายุคน โดยเจ้าของร้านคนปัจจุบันตั้งใจจะสืบทอดเจตนารมย์ของคุณแม่ด้วยการให้ร้านอาหารแห่งนี้คงอยู่ต่อไป
หากใครคิดที่จะแหวกความจำเจจากที่เคยเป็น ลองหามุมใหม่ๆ ให้กับชีวิตดูบ้างเพื่อสร้างกำไรให้กับตัวเอง “กาหลง” เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 11.30 น.–22.00 น.ไม่มีวันหยุด ขอแนะนำว่าถ้าอยากเพิ่มอรรถรสให้การรับประทานอาหารมีรสชาติความโรแมนติกล่ะก็ต้องไปถึงสักเวลาประมาณ 6 โมงเย็น แล้วคุณจะเห็นบรรยากาศริมน้ำเจ้าพระยาทั้งแบบกลางวันและพลบค่ำ ทำให้การรับประทานอาหารของคุณในค่ำคืนนั้นมีความประทับใจแบบไม่รู้ลืมเลือน
วารสารหยดน้ำ
ฉบับเดือนกันยายน - ตุลาคม 2552
|