rxzIoZ
rxzIoZ
rxzIoZ
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
วัดท่าซุง<br />
สารบัญ<br />
การเดินทาง ๖<br />
สถานที่น่าสนใจ ๗<br />
อำเภอเมืองอุทัยธานี ๗<br />
อำเภอหนองขาหย่าง ๑๔<br />
อำเภอหนองฉาง ๑๔<br />
อำเภอทัพทัน ๑๕<br />
อำเภอสว่างอารมณ์ ๑๖<br />
อำเภอลานสัก ๑๖<br />
อำเภอห้วยคต ๒๑<br />
อำเภอบ้านไร่ ๒๓<br />
เทศกาลงานประเพณี ๒๘<br />
สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ๓๐<br />
ตัวอย่างโปรแกรมนำาเที่ยว ๓๓<br />
สิ่งอำานวยความสะดวกในจังหวัดอุทัยธานี ๓๔<br />
สถานที่พัก ๓๔<br />
ร้านอาหาร ๓๖<br />
หมายเลขโทรศัพท์สำาคัญ ๓๘
๔ ๕<br />
งานประเพณีตักบาตรเทโว<br />
อุทัยธานี<br />
เมืองพระชนกจักรี ปลาแรดรสดี ประเพณีเทโว<br />
ส้มโอบ้านนำ้ำตก มรดกโลกห้วยขาแข้ง<br />
แหล่งต้นนำ้ำสะแกกรัง ตลาดนัดดังโคกระบือ<br />
จังหวัดอุทัยธานี ตั้งอยู่ในเขตภาคเหนือตอนล่าง มีพื้นที่ประมาณ ๖,๗๓๐<br />
ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและภูเขาสูง สภาพป่าไม้ของจังหวัด<br />
อุทัยธานีอุดมสมบูรณ์มีความหลากหลายทางธรรมชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์<br />
ป่าห้วยขาแข้งจึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นผืนป่าอนุรักษ์ที่ควร<br />
ค่าแก่การดูแลรักษาและนำาความภาคภูมิใจมาสู่คนไทยทุกคน<br />
ดินแดนบางส่วนพบหลักฐานว่าเคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ก่อนประวัติ-<br />
ศาสตร์และเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณหลายเมือง ได้แก่เมืองโบราณบึงคอก<br />
ช้างในสมัยทวารวดี เมืองโบราณบ้านใต้ เมืองโบราณบ้านคูเมือง และ<br />
เมืองโบราณการุ้ง<br />
ตามตำานานกล่าวว่าในสมัยสุโขทัยท้าวมหาพรหมได้เข้ามาสร้างเมืองที่บ้าน<br />
อุทัยเก่า(อำาเภอหนองฉาง)แล้วพาคนไทยมาอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านกะเหรี่ยง<br />
และหมู่บ้านมอญจึงเรียกว่า “เมืองอู่ไทย” ตามกลุ่มหรือที่อยู่ของคนไทย<br />
ต่อมาเกิดความแห้งแล้งกระแสนำ้ำเปลี่ยนทาง เมืองจึงถูกทิ้งร้าง ในสมัย<br />
อยุธยา ชาวกะเหรี่ยงชื่อ“พะตะเบิด”เข้ามาปรับปรุงเมืองอู่ไทยโดยขุด<br />
ทะเลสาบขังนำ้ำไว้ใกล้เมืองและเป็นผู้ปกครองเมืองอู่ไทยเก่าคนแรก ชื่อ<br />
เมืองจึงเรียก เพี้ยน เป็น“เมืองอุไทย”ตามสำาเนียงชาวกะเหรี่ยงและมีฐานะ<br />
เป็นหัวเมืองหน้า ด่านชั้นนอกสกัดกั้นกองทัพพม่าที่จะเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา<br />
ต่อมาในสมัย กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีการอพยพผู้คนมาตั้งบ้านเรือนที่<br />
ริมฝั่งแม่นำ้ำ สะแกกรังมากขึ้น และได้กลายเป็นที่ตั้งของตัวเมืองอุทัยธานี<br />
ในปัจจุบัน<br />
อุทัยธานีมีสถานที่น่าสนใจทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี<br />
หลายแห่งที่น่ามาเที่ยวชมและศึกษาหาความรู้ อีกทั้งมีสินค้าที่ระลึกประเภท<br />
หัตถกรรมและอาหารการกินมากมาย เช่น หน่อไม้รวก ข้าวเกรียบปลา ผล<br />
ไม้แช่อิ่ม ผ้าทอ เครื่องจักสานซึ่งสามารถนำากลับไปเป็นของฝากได้<br />
อาณาเขต<br />
ทิศเหนือ<br />
ติดต่อกับอำาเภอพยุหะคีรี อำาเภอโกรกพระ<br />
และอำาเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์<br />
ทิศใต้ ติดต่อกับอำาเภอวัดสิงห์และอำาเภอหันคา<br />
จังหวัดชัยนาท อำาเภอเดิมบางนางบวช<br />
จังหวัดสุพรรณบุรี<br />
ทิศตะวันออก<br />
ติดต่อกับอำาเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์และ<br />
อำาเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท โดยมีแม่นำ้า<br />
เจ้าพระยาเป็นเส้นแบ่งเขตแดน<br />
ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำาเภออุ้มผาง จังหวัดตาก<br />
อำาเภอสังขละบุรี และอำาเภอศรีสวัสดิ์<br />
จังหวัดกาญจนบุรี
๖ ๗<br />
การปกครอง<br />
จังหวัดอุทัยธานี แบ่งการปกครองออกเป็น ๘ อำาเภอ คือ อำาเภอเมือง<br />
อุทัยธานี อำาเภอหนองขาหย่าง อำาเภอทัพทัน อำาเภอหนองฉาง อำาเภอ<br />
สว่างอารมณ์ อำาเภอห้วยคต อำาเภอลานสัก และอำาเภอบ้านไร่<br />
การเดินทาง<br />
รถยนต์ จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปอุทัยธานีได้หลายเส้นทาง<br />
ได้แก่<br />
๑. จากถนนพหลโยธินผ่านจังหวัดสระบุรี อำาเภอโคกสำาโรง จังหวัดลพบุรี<br />
อำาเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ และอำาเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ข้าม<br />
แม่นำ้ำเจ้าพระยาลงแพขนานยนต์ ที่อำาเภอมโนรมย์ ผ่านวัดท่าซุง (วัด จัน<br />
ทาราม) ศาลากลางจังหวัด เข้าตลาดอุทัยธานี รวมระยะทางประมาณ ๓๐๕<br />
กิโลเมตร<br />
๒. จากทางหลวงหมายเลข ๓๒ (สายเอเซีย) ผ่านอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี<br />
ชัยนาท แล้วเลี้ยวซ้ายตรงทางแยกท่านำ้ำอ้อยบริเวณหลักกิโลเมตร ที่ ๒๐๖<br />
เข้าทางหลวงหมายเลข ๓๓๓ ข้ามสะพานแม่นำ้ำเจ้าพระยา ระยะทาง<br />
ประมาณ ๑๖ กิโลเมตร ผ่านหน้าโรงพยาบาลเลี้ยวซ้ายเข้าตลาดอุทัยธานี<br />
รวมระยะทางประมาณ ๒๒๒ กิโลเมตร<br />
๓. จากทางหลวงหมายเลข ๓๒ (สายเอเซีย) ผ่านอยุธยา ประมาณกิโลเมตร<br />
ที่ ๓๐ เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข ๓๓๔ และจากนั้นเข้าทางหลวง<br />
หมายเลข ๓๐๙ ไปตามเส้นทาง ข้ามสะพานจังหวัดอ่างทอง แล้วมาตาม<br />
ทางหลวงหมายเลข ๓๑๑ ผ่านจังหวัดสิงห์บุรี ผ่านอำาเภอสรรพยาจังหวัด<br />
ชัยนาท จากนั้นเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข ๓๑๘๓ เข้าจังหวัดอุทัยธานี<br />
รวมระยะทางประมาณ ๒๘๓ กิโลเมตร<br />
รถโดยสารประจำาทาง บริษัท ขนส่ง จำากัด บริการเดินรถระหว่างกรุงเทพฯ-<br />
อุทัยธานีทุกวัน จากสถานีขนส่งหมอชิต ๒ ใช้เวลาเดินทางประมาณ<br />
๔ ชั่วโมง รถโดยสารปรับอากาศบริการ เวลา ๐๔.๓๐-๑๗.๕๐ น.<br />
สอบถามรายละเอียด โทร. ๑๔๙๐ www.transport.co.th สถานีเดินรถอุทัยธานี<br />
โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๐๕๘, ๐ ๕๖๕๑ ๑๙๑๔, ๐ ๕๖๕๑ ๒๘๕๙<br />
นอกจากนี้ยังมีรถโดยสารจากจังหวัดอุทัยธานี ไปยังจังหวัดนครสวรรค์<br />
สุพรรณบุรี และนครปฐม<br />
รถไฟ สามารถโดยสารรถไฟไปลงที่สถานีนครสวรรค์ แล้วต่อรถประจำาทาง<br />
มายังอุทัยธานีอีกประมาณ ๕๐ กิโลเมตร ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่<br />
หน่วยบริการเดินทาง โทร. ๑๖๙๐, ๐ ๒๒๒๐ ๔๔๔๔ www.railway.co.th<br />
การเดินทางภายในจังหวัด มีทั้งรถสองแถว และรถบัสประจำาทางวิ่งตาม<br />
เส้นทางต่างๆ เช่น อุทัยธานี-หนองฉาง อุทัยธานี-วัดสิงห์ อุทัยธานี-บ้านไร่<br />
ลานสัก-สว่างอารมณ์-ทัพทัน บ้านไร่-คลองแห้ง เป็นต้น<br />
ระยะทางจากอำาเภอเมืองอุทัยธานีไปอำาเภอต่างๆ<br />
อำาเภอหนองขาหย่าง ๑๐ กิโลเมตร<br />
อำาเภอทัพทัน ๑๙ กิโลเมตร<br />
อำาเภอหนองฉาง ๒๒ กิโลเมตร<br />
อำาเภอสว่างอารมณ์ ๓๓ กิโลเมตร<br />
อำาเภอห้วยคต ๔๕ กิโลเมตร<br />
อำาเภอลานสัก ๕๗ กิโลเมตร<br />
อำาเภอบ้านไร่ ๘๐ กิโลเมตร<br />
สถานที่น่าสนใจ<br />
อำาเภอเมืองอุทัยธานี<br />
วัดสังกัสรัตนคีรี ตั้งอยู่เชิงเขาสะแกกรัง สุดถนนท่าช้าง ในเขตเทศบาลเมือง<br />
ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูป<br />
คู่บ้านคู่เมืองอุทัยธานี มีประวัติว่าในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า-<br />
จุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้นำาพระพุทธรูปขนาดย่อมที่ชำารุดไปไว้ตาม<br />
หัวเมืองต่างๆ เมืองอุทัยธานีได้รับ ๓ องค์ โดยอัญเชิญลงแพมาขึ้นฝั่งที่ท่า<br />
พระ (ตรงข้ามศาลาประชาคมจังหวัดอุทัยธานี) แล้วนำามาประดิษฐานไว้ที่<br />
วัดขวิด พระพุทธรูปองค์หนึ่งมีขนาดใหญ่เป็นพระเนื้อสำาริดปางมารวิชัย<br />
หน้าตักกว้าง ๓ ศอก สร้างในสมัยพระยาลิไท ฝีมือช่างสุโขทัย มีส่วนเศียร<br />
กับส่วนองค์พระเป็นคนละองค์ เข้าใจว่าคงซ่อมเป็นองค์เดียวกันก่อนนำามา<br />
ไว้ที่เมืองอุทัยธานี ต่อมาเมื่อยุบวัดขวิดไปรวมกับวัดทุ่งแก้ว จึงได้ย้ายพระ<br />
พุทธรูปองค์นี้ไปไว้ที่วัดสังกัสรัตนคีรี ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไป ๑ กิโลเมตร<br />
และได้ทำาพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในพระเศียร พร้อมกับถวายนามว่า<br />
“พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์” ในวันแรม ๑ ค่ำ าเดือน ๑๑ ของทุกปี มีการจัดงาน<br />
ประเพณีตักบาตรเทโว ซึ่งพระสงฆ์ประมาณ ๕๐๐ รูปจะเดินลงบันไดจาก<br />
ยอดเขาสะแกกรังมารับบิณฑบาตที่ลานวัดเป็นประเพณีที่สำาคัญของจังหวัด<br />
การเดินทาง จากตัวเมืองใช้ถนนท่าช้างจนสุดทาง ด้านซ้ายมือเป็นพระวิหาร<br />
ประดิษฐานพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูปประจำาจังหวัดอุทัยธานี<br />
ด้านขวามือเป็นบันไดขึ้นเขาสะแกกรัง<br />
เขาสะแกกรัง จากบริเวณลานวัดสังกัสรัตนคีรีมีบันไดขึ้นสู่ยอดเขาสะแกกรัง<br />
หรือใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๒๒๐ เป็นระยะทาง ๔ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้าย<br />
บริเวณสนามกีฬาจังหวัดไปตามทางขึ้นสู่ยอดเขา จากบนยอดเขาสามารถ<br />
มองเห็นทิวทัศน์เมืองอุทัยธานีได้กว้างขวาง เป็นที่ตั้งมณฑปประดิษฐาน
๘ ๙<br />
รอยพระพุทธบาทจำาลอง ซึ่งย้ายมาจากวัดจันทาราม สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๘<br />
ด้านหน้ามีระฆังใบใหญ่ที่พระปลัดใจและชาวอุทัยธานีร่วมกันสร้างเมื่อ พ.ศ.<br />
๒๔๔๓ ถือกันว่าเป็นระฆังศักดิ์สิทธิ์ ใครที่ไปเที่ยวอุทัยธานีแล้วไม่ได้ขึ้นไป<br />
ตีระฆังใบนี้ก็เท่ากับไม่ได้ไปเที่ยวอุทัยธานี<br />
ใกล้กับมณฑปบนยอดเขาสะแกกรังเป็นที่ประดิษฐาน พระราชานุสาวรีย์<br />
สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกนาถ แห่งรัชกาลที่ ๑ พระนามเดิมคือนายทองดี<br />
รับราชการตำาแหน่งพระอักษรสุนทรศาสตร์ เสมียนตรากรมมหาดไทย<br />
และต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นเจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์ ครั้นในสมัย<br />
กรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกปฐมกษัตริย์แห่งราช<br />
วงศ์จักรี (พระนามเดิมนายทองด้วง) ได้สถาปนาพระอัฐิพระบิดาเป็นสมเด็จ<br />
พระชนกาธิบดี เมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๘<br />
พระบรมรูปของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกนาถ เป็นรูปหล่อขนาดสอง<br />
เท่าขององค์จริงประทับนั่งบนแท่นพระหัตถ์ซ้ายถือดาบประจำาตำาแหน่งเจ้า<br />
พระยาจักรี ทั้งฝักวางบนพระเพลาซ้าย และทรงวางพระหัตถ์ขวาบนพระ<br />
เพลาขวา ด้านขวามือมีพานวางพระมาลาเส้าสูง ไม่มียี่ก่า (ขนนก) สวม<br />
พระบาทด้วยรองเท้าแตะไม่หุ้มส้นพระบาท มีพิธีถวายสักการะพระราชานุ-<br />
สาวรีย์แห่งนี้ ในวันที่ ๖ เมษายน ของทุกปี ซึ่งตรงกับช่วงที่ดอกสุพรรณิการ์<br />
หรือฝ้ายคำา ดอกไม้ประจำาจังหวัดอุทัยธานีบานสะพรั่งอยู่ทั่วไปบนเขา<br />
สะแกกรัง<br />
เลยพระราชานุสาวรีย์ไปทางป่าหลังเขา ประมาณ ๒๐๐ เมตร จะพบหมุด<br />
แผนที่โลก ซึ่งใช้ในการสำารวจแผนที่ สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๕<br />
วัดมณีสถิตย์กปิฏฐาราม ตั้งอยู่ที่ถนนสุนทรสถิตย์ หลังสวนสุขภาพ<br />
ตรงวงเวียนหอนาฬิกา เป็นวัดที่สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ ชาวเมืองเรียก<br />
กันว่า วัดทุ่งแก้ว ในวัดนี้มีพระปรางค์ใหญ่อยู่องค์หนึ่ง ฐานกว้าง ๘ เมตร<br />
สูง ๑๖ เมตร ลักษณะเป็นปรางค์ห้ายอด สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๒ ภายใน<br />
บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ และเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อแย้มผู้<br />
สร้างวัดนี้ บริเวณวัดมีสระนำ้ำก่ออิฐเป็นสระนำ้ำมนต์ขนาดใหญ่ กลางสระมี<br />
แผ่นศิลา อักขระยันต์ของหลวงพ่อแย้มฝังเอาไว้ นำ้ำในสระแห่งนี้เคยใช้เป็น<br />
นำ้ำสรง พุทธาภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จ<br />
พระเจ้าอยู่ หัวรัชกาลที่ ๖ และรัชกาลที่ ๗<br />
วัดธรรมโฆษก หรือ วัดโรงโค ถนนศรีอุทัย ตำาบลอุทัยใหม่ ใกล้ตลาด<br />
เทศบาล เคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีถือนำ้ำพระพิพัฒน์สัตยาของ<br />
ข้าราชการเมือง อุทัยธานี และเป็นลานประหารนักโทษ เป็นวัดที่สร้างใน<br />
สมัยต้นกรุงรัตนโก-สินทร์ ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมืองดงาม<br />
จัดว่าสวยงามที่สุดใน อุทัยธานี สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือช่างสมัยอยุธยาตอน<br />
ปลายที่ยังมีชีวิตอยู่ถึง สมัยรัตนโกสินทร์ จิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพพุทธ<br />
วัดธรรมโฆษก หรือ วัดโรงโค<br />
ประวัติตอนเสด็จลงจาก ดาวดึงส์ และตอนผจญมาร ผนังข้างด้านบนเป็น<br />
ภาพเทพชุมนุมสลับกับ พัดยศ กรอบหน้าต่างด้านนอกเป็นลายปูนปั้น วิหาร<br />
สร้างยกพื้นสูงกว่าโบสถ์ หน้าบันเป็นรูปช้างสามเศียร ภายในมีแท่น<br />
ประดิษฐานพระพุทธรูปซึ่งมี ประมาณ ๒๐ องค์ จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ<br />
บนหน้าต่างด้านนอกมีลายปูนปั้นเป็นเรื่องรามเกียรติ์ประดับเป็นกรอบ<br />
ประตูวิหารเป็นไม้จำาหลักลายดอก ไม้ทาสีแดงงดงามมาก โบสถ์และวิหาร<br />
มีพระปรางค์และเจดีย์เรียงรายอยู่ ๒-๓ องค์<br />
กำาแพงรอบโบสถ์ของวัดนี้ก่อต่อกับฐานวิหารเพราะมีพื้นสูงกว่า ประตูเป็น<br />
ซุ้มแบบจีน และด้านหลังโบสถ์มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปเช่นเดียวกับ<br />
ด้านหน้า มีกุฏิเล็กอยู่ติดกับกำาแพงโบสถ์ เป็นฝีมือช่างสมัยอยุธยา บาน<br />
ประตูวัดแกะสลัก ฝีมือช่างในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เป็นลายดอกไม้<br />
ประกอบใบกระจังต่อก้านสลับดอกเรียงเป็นแถวสวยงามมาก พื้นในเป็น<br />
สีแดงเข้าใจว่าเดิมคงลงสีทองบนตัวลายไว้ บานหน้าต่างแกะเป็นลวดลาย<br />
เดียวกัน ปกติโบสถ์จะปิดหากต้องการชมต้องแจ้งล่วงหน้าติดต่อโทร. ๐ ๕๖๕๑<br />
๑๔๕๐ วัดธรรมโฆษกได้รับการจดทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว<br />
ลำานำ้ำสะแกกรัง ไหลผ่านตัวจังหวัดอุทัยธานี มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า ในสมัย<br />
ก่อน เมื่อพ่อค้าล่องเรือผ่านมาจะรู้ได้ว่าถึงบ้านสะแกกรังแล้ว โดยเฉพาะ<br />
ในเดือนยี่ถึงเดือนสามจะสังเกตได้ชัดเจน ต้นสะแกจะออกดอกเล็กๆ ช่อ<br />
ยาวสี เขียวอมเหลืองห้อยลงมาริมนำ้ำ บริเวณสองฝั่งแม่นำ้ำมีเรือนแพอยู่เรียง<br />
ราย ฝั่งแม่นำ้ำด้านตะวันตกมีอาคารบ้านเรือนอยู่หนาแน่นและเป็นตลาด<br />
ใหญ่ของที่ขายนั้น ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะปลูกเอง ทำาเอง รวมทั้งอาหารคาว<br />
หวาน ส่วนฝั่งแม่นำ้ำด้านตะวันออกเป็นเกาะเทโพ มีสวนผลไม้ และป่าไผ่<br />
ตามธรรมชาติ เรือนแพที่อยู่สองฝั่งแม่นำ้ำเป็นเรือนไม้สร้างคร่อมบนแพ<br />
ลูกบวบไม้ไผ่<br />
ชาวเรือนแพเหล่านี้ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง หลังจากที่ได้ปลามาจะ<br />
นำามาชำาแหละ เสียบไม้เป็นแผง ผึ่งให้แห้ง ย่างรมควันทำาเป็นปลาแห้ง และ
๑๐ ๑๑<br />
นำาไปขายในตลาด ตามเรือนแพริมนำ้ำเหล่านี้ ยังมีกระชังเลี้ยงปลาสวาย<br />
ปลาแรด และปลาเทโพบ้างเล็กน้อย<br />
สภาพความเป็นอยู่ที่สามารถพบเห็นตามสองฝั่งลำานำ้ำสะแกกรัง จึงเหมาะ<br />
สำาหรับนั่งเรือชมทิวทัศน์รอบเกาะเทโพ หรือจะนั่งไปถึงอำาเภอมโนรมย์<br />
จังหวัดชัยนาท ใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง<br />
เรือล่องแม่นำ้ำสะแกกรัง เรือหางยาว มีหลังคา จุได้ ๑๐-๑๒ คน ค่าเช่า<br />
ภายใน เขตเทศบาลราคา ๒๕๐ บาท หากไปถึงวัดท่าซุง ประมาณ ๘๐๐<br />
บาท ติดต่อ ที่ ลุงฉลอง โทร. ๐๘ ๙๘๕๙ ๙๓๙๔ หากต้องการล่องเรือ<br />
ขนาดใหญ่เหมา ราคาประมาณ ๔,๐๐๐ บาท จุได้ ๔๐ คน ไม่รวมค่าบริการ<br />
อาหารเย็น ล่องเวลา ๑๖.๐๐-๑๙.๐๐ น. สอบถามรายละเอียดได้ที่คุณวีระ<br />
บำารุงศรี โทร. ๐๘ ๖๕๗๗ ๗๗๘๑, ๐๘ ๑๘๓๐ ๐๖๕๓ โทรสาร ๐ ๕๖๕๑<br />
๓๐๖๒<br />
เกาะเทโพ เดิมเป็นแหลมยื่นออกมาคั่นระหว่างแม่นำ้ำเจ้าพระยาและแม่นำ้ำ<br />
สะแกกรัง ซึ่งมาบรรจบกันทางทิศใต้ของแหลม แต่มีการขุดคลองเชื่อมทาง<br />
เหนือในภายหลัง เพื่อให้แม่นำ้ำเจ้าพระยามาหนุนแม่นำ้ำสะแกกรังในยามนำ้ำ<br />
แล้ง แหลมนี้จึงกลายเป็นเกาะเทโพ<br />
เกาะเทโพเป็นจุดที่น่าสนใจสำาหรับผู้ชอบปั่นจักรยานท่องเที่ยว หลังจาก<br />
ข้าม สะพานที่เชื่อมต่อระหว่างตลาดสดเทศบาลและวัดอุโปสถาราม ซึ่ง<br />
ไม่ยาวนัก และแคบเพียงรถมอเตอร์ไซค์สวนกัน นับเป็นจุดเริ่มต้นการเดิน<br />
ทางบนเกาะ เทโพ บรรยากาศสองข้างเป็นป่าไผ่ ไร่ข้าวโพด และทุ่งนาให้<br />
บรรยากาศที่ สงบร่มรื่น ชาวบ้านที่นี่ทำาสวนส้มโอ มีทั้งพันธุ์มโนรมย์ และ<br />
ขาวแตงกวา และยังปลูกมะไฟด้วย<br />
เมื่อผ่านบ้านท่าดินแดงจะเห็นเสื่อลำาแพนวางขายอยู่ ชาวบ้านใช้ต้นไผ่ที่มี<br />
อยู่หนาแน่นในพื้นที่นำามาสานเสื่อ และวางขายกันที่หน้าบ้าน ไม่ได้ส่ง<br />
ตลาด หากเดินทางต่อไปถึงวัดภูมิธรรม ก็จะมีศาลาให้นั่งพัก บรรยากาศ<br />
ในวัดเงียบสงบ เมื ่อปั ่นจักรยานครบรอบเส้นทางที ่กำาหนดไว้ก็จะถึงท่าเรือ<br />
ที่จะข้ามไปวัดท่าซุงได้ รวมระยะทางปั่นจักรยานบนเกาะทั้งหมด ๓๓<br />
กิโลเมตร<br />
นอกจากนี้ ยังมีแหล่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำาบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ มากมาย เช่น<br />
ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากปลา กลุ่มแม่บ้านปลาแปรรูปเกาะเทโพ กลุ่ม<br />
ทำามีดจากเหล็กกล้า กลุ่มจักสานไม้ไผ่ กลุ่มธูปหอม<br />
แผนที่เกาะเทโพ และตัวเมืองอุทัยธานี สามารถติดต่อได้ที่ คุณประสงค์<br />
ศรีเมือง ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพจังหวัดอุทัยธานี (ร้านเจริญจักรยาน)<br />
เลขที่ ๑๐๐-๑๐๒ ถนนท่าช้าง อำาเภอเมืองอุทัยธานี โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๙๙๑<br />
ได้ทุกวัน อบต.หาดทนง มีจักรยานจำานวน ๓๐ คัน ให้เช่าในราคาคันละ<br />
๔๐ บาท/ วัน ติดต่อได้ที่คุณสวัสดิ์ บุญเกตุ (กลุ่มผลิตภัณฑ์จากเหล็กกล้า)<br />
โทร. ๐๘ ๖๒๑๖ ๓๕๑๐<br />
วัดอุโปสถาราม เดิมชื่อ วัดโบสถ์มโนรมย์ ชาวบ้านเรียกว่าวัดโบสถ์ เป็น<br />
วัดเก่าแก่อยู่ริมลำานำ้ำสะแกกรัง บนเกาะเทโพ ในเขตเทศบาลเมือง จาก<br />
ตลาดสดเทศบาล มีสะพานข้ามแม่นำ้ำไปยังวัดอุโปสถาราม ซึ่งตั้งอยู่บน ฝั่ง<br />
ตะวันออกของแม่นำ้ำ สิ่งที่น่าสนใจในวัดได้แก่ จิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์<br />
และวิหาร เป็นภาพเขียนสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ในโบสถ์เป็นภาพพุทธ<br />
ประวัติเริ่มตั้งแต่ประสูติจนถึงปรินิพพานฝีมือประณีตมาก ในวิหารเขียน<br />
ภาพพระพุทธเจ้าเสด็จโปรดเทพยดาบนสวรรค์และภาพปลงสังขาร ด้านบน<br />
ฝาผนังเป็นพระสงฆ์สาวกชุมนุมสลับกับพัดยศเหมือนจะไหว้พระ ประธาน<br />
ในวิหาร ฝาผนังด้านนอกหน้าวิหารมีภาพถวายพระเพลิงพระบรม ศพ<br />
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และภาพชีวิตชาวบ้านที่เกี่ยวกับพุทธ<br />
ศาสนา เข้าใจว่าเป็นฝีมือชั้นหลัง นอกจากนี้ภายในวัดอุโปสถาราม ยังมี<br />
สิ่ง ของที่น่าชมอีกมาก เช่น เสมาหินสีแดงหน้าโบสถ์ ตู้พระธรรมและตู้ใส่<br />
ของ เขียนลายกนกเถาลายดอกไม้ บาตรฝาประดับมุกที่ได้รับพระราชทาน<br />
จากรัชกาลที่ ๕ เป็นฝีมือช่างสิบหมู่ และหงส์ยอดเสา เป็นต้น นอกจากนี้<br />
ยังมีอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่น่าชมหลายหลัง ได้แก่ มณฑปแปด<br />
เหลี่ยม ลักษณะผสมแบบตะวันตก มีลายปูนปั้นคล้ายไม้เลื้อยที่กรอบ<br />
หน้าต่าง และ มีพระพุทธรูปปูนสลักนูนสูงอยู่ด้านนอกอาคาร เจดีย์หกเหลี่ยม<br />
เจดีย์ย่อ มุมไม้สิบสองทรงรัตนโกสินทร์ หอประชุมอุทัยพุทธสภา เป็นศาลา<br />
ทรงไทย ใช้เป็นหอสวดมนต์ หน้าบันประดับลวดลายปูนปั้น และแพโบสถ์<br />
นำ้ำตั้งอยู่ หน้าวัด สร้างขึ้นเพื่อรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้า<br />
อยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จประพาสมณฑลฝ่ายเหนือใน พ.ศ. ๒๔๔๙ เดิมเป็นแพ<br />
แฝด ๒ หลัง มีช่อฟ้า ใบระกาเหมือนอุโบสถทั่วไป หน้าบันมีป้ายวงกลม<br />
จารึก ภาษาบาลี “สุ อาคต เต มหาราช” แปลว่า มหาราชเสด็จฯ มาดี<br />
ต่อมา ใน พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้ซ่อมแซมบูรณะใหม่เป็นหลังเดียวยกพื้น ๒ ชั้น<br />
หลัง คาทรงปั้นหยา และย้ายป้ายกลมมาไว้หน้าจั่วตรงกลาง แพโบสถ์นำ้ำ<br />
หลังนี้ ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา เช่น งานแต่งงาน บวชนาค งานศพ และ<br />
งาน บุญต่างๆ<br />
วัดจันทาราม หรือ วัดท่าซุง เดิมเป็นวัดที่สร้างในสมัยอยุธยา มีโบสถ์ขนาด<br />
เล็กภายในมีจิตรกรรมฝาผนังภาพพุทธประวัติฝีมือช่างพื้นบ้านเข้าใจว่า<br />
เขียนในสมัยหลัง บางภาพต่อเติมจนผิดส่วน สมบัติอีกชิ้นหนึ่งของวัด คือ<br />
ธรรมาสน์ที่หลวงพ่อใหญ่สร้าง ที่วิหารมีพระปูนปั้น มีลวดลายไม้จำาหลัก<br />
ขอบหน้าบันเหลืออยู่ ๒-๓ แห่ง<br />
ด้านตรงข้ามกับวัดเป็นปูชนียสถานแห่งใหม่ มีบริเวณกว้างขวางมาก พระราช<br />
พรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำา) พระเถระผู้มีชื่อเสียงได้สร้างอาคาร ต่างๆ
๑๒ ๑๓<br />
วัดท่าซุง<br />
มากมาย เช่น พระอุโบสถใหม่ ภายในประดับและตกแต่งอย่าง วิจิตร บาน<br />
หน้าต่างและประตูด้านในเขียนภาพเทวดาโดยจิตรกรฝีมือดี พระบาท<br />
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำาเนินมาตัดลูกนิมิตพระ อุโบสถแห่ง<br />
นี้ บริเวณโดยรอบสร้างกำาแพงแก้วและมีรูปหล่อหลวงพ่อปาน และหลวง<br />
พ่อใหญ่ขนาด ๓ เท่า อยู่มุมกำาแพงด้านหน้า มณฑป และ พระ วิหาร ที่<br />
ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำาลอง และศพของหลวงพ่อฤาษีลิงดำา ที่ไม่เน่า<br />
เปื่อย อาคารเหล่านี้ส่วนใหญ่มีลักษณะภายนอกคล้ายคลึงกันคือ สร้างด้วย<br />
โมเสกสีขาวใสเหมือนแก้ว นอกจากนี้ยังมีศาลาหลายหลังใช้เป็นสถานที่ฝึก<br />
สมาธิและมีที่พักให้ด้วย อาคารแต่ละหลังจะมีเวลาเปิด-ปิดไม่ตรงกันและ<br />
ปิดช่วงกลางวัน โดยอาคารแต่ละหลังจะทยอยเปิดตั้งแต่เวลา ๑๐.๓๐ น.<br />
และจะเปิดให้ชมโดยพร้อมเพรียงกันอีกครั้งตั้งแต่เวลา ๑๔.๐๐ น. เป็นต้นไป<br />
บริเวณท่านำ้ำวัดท่าซุงมีเรือนำาเที่ยวขนาด ๔๐ ที่นั่ง บริการนำาเที่ยวเส้นทาง<br />
วัดท่าซุง-หมู่บ้านกลางนำ้ำ แวะซื้อของที่ระลึก และผักปลอดสารพิษจากชาว<br />
บ้าน ใช้เวลาประมาณ ๔๐ นาที ราคาคนละ ๔๐ บาท ติดต่อคุณนิด โทร.<br />
๐๘ ๙๙๕๘ ๑๔๗๙, ๐๘ ๗๕๒๗ ๒๒๔๓<br />
การเดินทาง วัดท่าซุง ตั้งอยู่หมู่ ๒ ตำาบลนำ้ำซึม สามารถเดินทางไปได้<br />
หลายวิธี ๑) ไปตามทางหลวงหมายเลข ๓๒๖๕ มุ่งตรงไปทางแพข้ามฟาก<br />
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฯ<br />
อำาเภอมโนรมย์ ประมาณ ๑๒ กิโลเมตร ๒)รถโดยสารสองแถวสีฟ้า สาย<br />
อุทัยธานี-ท่าซุง<br />
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น ตั้งอยู่ที่ศูนย์การศึกษา<br />
นอกโรงเรียน ถนนศรีอุทัย ตรงข้าม ททท. สำานักงานอุทัยธานี ภายในจัด<br />
แสดงเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องพัฒนาอาชีพ ห้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ห้อง<br />
จัดแสดงโครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายยศเจ้า<br />
เมือง ห้องจำาลองไม้จำาหลัก และบ้านไทย เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา ๐๘.๓๐-<br />
๑๖.๓๐ น. สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๕๑๑, ๐ ๕๖๕๗ ๑๑๔๓<br />
พระแสงดาบศัตราวุธประจำาเมืองอุทัยธานี เป็นพระแสงดาบที่จังหวัดอุทัย<br />
ธานีได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้ง<br />
เสด็จพระราชดำาเนินประพาสหัวเมืองฝ่ายเหนือถึงเมืองอุทัยธานี เมื่อ พ.ศ.<br />
๒๔๔๙ พระแสงดาบนี้พระราชทานแก่จังหวัดอุทัยธานีเป็นลำ าดับที่ ๓ (อันดับ<br />
๑ เมืองอยุธยา อันดับ ๒ เมืองชัยนาท)<br />
พระแสงดาบศัตราวุธ เป็นดาบไทยทำาด้วยเหล็กสีขาวอย่างดี ปลายแหลม<br />
คมด้านเดียว มีนำ้ำหนักเบา สันเป็นลาย ฝังงาในเนื้อเหล็กรูปดอกไม้ร่วง<br />
และริมสันทั้งสองข้างมีลายทองเป็นรูปก้านขด โคนตรงกลางมีจารึกนาม<br />
อักษร “พระแสงสำาหรับเมืองอุไทยธานี” ด้ามพระแสงทำาด้วยไม้เนื้อแข็ง<br />
หุ้มทองลงยา โคนเป็นลายกนกตาอ้อย ปลายด้ามเป็นรูปจุฑามณีบัวควำ่ำ ๓<br />
ชั้น ประดับด้วยพลอย ต้นฝักพระแสงทำาด้วยทองคำาเป็นรูปรักร้อย<br />
ประดับพลอย มีกาบกนกหุ้ม ต้นฝักทำาด้วยทองคำาเป็นลายก้านขด ช่อดอก<br />
แกมใบประดับพลอย ตัวฝักพระแสงทำาด้วยทองคำาดุน ฝักทั้งสองข้างมี<br />
ลวดลายต่างๆ สวยงามมาก นับเป็นศิลปกรรมฝีมือเยี่ยมแห่งกรุงรัตนโก-<br />
สินทร์และเป็นพระแสงดาบสำาคัญประจำาเมืองอุทัยธานี ปัจจุบันเก็บรักษา<br />
ไว้ที่ คลังจังหวัดอุทัยธานี จะนำาออกให้ชมเฉพาะในงานพระราชพิธีเท่านั้น<br />
ฮกแชตึ๊ง เลขที่ ๔๒๗ ถนนศรีอุทัย ตำาบลอุทัยใหม่ เป็นบ้านไม้สักแบบจีน<br />
อายุเก่าแก่กว่า ๑๐๐ ปี ชาวจีนอพยพมาที่หมู่บ้านสะแกกรังตั้งแต่สมัย
๑๔ ๑๕<br />
อยุธยาตอนปลาย ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าที่มากับเรือสินค้า ในอดีตหมู่บ้าน<br />
นี้เป็นตลาดการค้าที่รุ่งเรือง “ฮกแชตึ๊ง” ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งที่พบ<br />
ปะสังสรรค์ เดิมเคยเป็นร้านขายยา และเป็นศูนย์กลางในการจัดงานต่างๆ<br />
เช่น เทศกาลกินเจประจำาปี เป็นต้น ปัจจุบันชั้นบนใช้เก็บเครื่องดนตรี<br />
ชั้นวางยาและสิ่งของที่ใช้ในงานพิธีเทศกาลกินเจ เจ้าของคือคุณเสงี่ยม<br />
ปาลวัฒน์วิไชย<br />
อำาเภอหนองขาหย่าง<br />
วัดหนองพลวง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๒๓๒ สิ่งสำาคัญภายในวัด ได้แก่ พระ<br />
อุโบสถ เป็นโบสถ์ท้องสำาเภา อาคารก่ออิฐถือปูน ทรงจั่วหน้าบันด้านหน้า<br />
ประดับลวดลายปูนปั้นและเครื่องถ้วยเคลือบ แต่ด้านหลังเรียบไม่มีลวดลาย<br />
เป็นปูนสีขาวฉาบเกลี้ยงๆ ดูเรียบง่ายงามตา ไม่มีช่อฟ้า มีทางเข้าทางเดียว<br />
เสมาเป็นหินสลักสวยงามบนฐานรูปดอกบัว<br />
การเดินทาง ออกจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข ๓๓๓ ระหว่าง<br />
กิโลเมตรที่ ๙-๑๐ วัดอยู่ทางขวามือติดกับโรงเรียนหนองขาหย่างวิทยาคม<br />
อำาเภอหนองฉาง<br />
เมืองอุไทยธานีเก่า อยู ่ที ่บ้านอุทัยธานีเก่า เป็นที ่ตั ้งของเมืองอุไทยธานีมา<br />
ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งยังคงมีซากโบราณสถานเหลืออยู่ เช่น ที่วัด<br />
หัวหมาก วัดยาง และวัดกุฏิ ส่วนบริเวณโดยรอบได้กลายเป็นทุ่งนาไปหมด<br />
วัดที่ยังคงสภาพอยู่จนถึงปัจจุบันนี้คือ วัดแจ้ง มีพระปรางค์ซึ่งเดิมสร้างเมื่อ<br />
พ.ศ. ๒๐๘๑ ต่อมาถูกพม่าทำาลายยอดหัก บูรณะซ่อมแซมครั้งล่าสุดเมื่อ<br />
พ.ศ. ๒๕๒๘ โบสถ์เก่าเป็นโบสถ์ขนาดเล็กประตูเดียวแบบอยุธยาตอนปลาย<br />
ลายปูนปั้นของพระปรางค์และหน้าบันโบสถ์เป็นฝีมือเดียวกัน ภาพจิตรกรรม<br />
ภายในโบสถ์เขียนขึ้นเมื่อบูรณะครั้งล่าสุด เป็นภาพพระราชกรณียกิจของ<br />
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อีกวัดหนึ่งคือ วัดหัวเมือง ซึ่งยังคงมีซาก<br />
โบสถ์เก่าแบบอยุธยาเหลืออยู่ และเจดีย์โบราณขนาดเล็กหน้าโบสถ์เก่า<br />
การเดินทาง จากตลาดหนองฉางสามแยกโรงเรียนทองประสาทเวทย์ ตรง<br />
มาทางเดียวกับวัดหนองขุนชาติ พบสามแยกเลี้ยวขวาไปประมาณ ๑<br />
กิโลเมตร จะถึงวัดแจ้ง ส่วนวัดหัวเมืองอยู่เลยวัดแจ้งไปอีก ๑ กิโลเมตร<br />
วัดหนองขุนชาติ เป็นวัดสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ มีมณฑปประดิษฐาน<br />
พระพุทธบาทจำาลอง มีการจัดงานนมัสการพระพุทธบาททุกวันขึ้น ๑๒ ค่ำา<br />
เดือน ๓ ไทย เป็นประจำาทุกปี งานมี ๑๐ วัน ๑๐ คืน<br />
การเดินทาง วัดอยู่ในตลาดหนองฉางจากทางหลวงหมายเลข ๓๐๑๒<br />
สายหนองฉาง-ทัพทัน เลี้ยวซ้ายตรงสามแยกไปตามทางหลวงหมายเลข<br />
๓๐๑๓<br />
อำาเภอทัพทัน<br />
วัดทัพทัน ตั้งอยู่บนถนนสายอุทัยธานี-ทัพทัน ทางหลวงหมายเลข ๓๒๒๑<br />
ห่างจากอำาเภอเมืองอุทัยธานี ประมาณ ๑๙ กิโลเมตร ก่อนถึงที่ว่าการอำ าเภอ<br />
ทัพทัน ๑ กิโลเมตรด้านซ้ายมือ บานประตูโบสถ์สวยงาม ฝีมือช่างสมัย<br />
รัตนโกสินทร์ บานหนึ่งแกะเป็นรูปคนถือธง ระบุ พ.ศ. ๒๔๖๖ อีกบานหนึ่งระบุ<br />
ว่าเป็นปีกุน มีลวดลายสวยงาม อกเลาบานประตูมีลวดลายยาวตลอด บาน<br />
ประตูอีกคู่หนึ่งแกะเป็นรูปเทวดาถือคันศรยืนบนพญานาค ด้านล่างเป็นภูเขา<br />
มีสัตว์ต่างๆ ด้านบนเป็นลายกนกมะลิเลื้อย บานประตูคู่นี้ไม่แกะลวดลาย<br />
ที่อกเลา เข้าใจว่าเป็นฝีมือช่างพื้นบ้าน<br />
แหล่งทอผ้าพื้นเมืองบ้านโคกหม้อ ชาวบ้านโคกหม้อเป็นชาวลาวครั่งที่อพยพ<br />
มาจากเวียงจันทน์ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มีฝีมือการทอผ้ามาก เป็น<br />
มรดกทางวัฒนธรรมของชาวลาวครั่งที่สืบทอดต่อกันมากว่า ๒๐๐ ปี หลัง<br />
จากเสร็จสิ้นภารกิจการทำานา ผู้หญิงในหมู่บ้านจะทอผ้า เป็นผ้ามัดหมี่ต่อ<br />
ตีนจก ผ้ายกดอกลายเชิงแบบเก่า ลวดลายบนผ้าเป็นแบบโบราณ เช่น ลาย<br />
ด่าน เมืองลาว ลายนาค ลายด่านใหญ่ เป็นต้น ในสมัยก่อนใช้ครั่งย้อมผ้า<br />
มีศูนย์ทอผ้า ๒ กลุ่ม คือ ศูนย์ทอผ้าบ้านโคกหม้อ อยู่ข้างวัดโคกหม้อ เป็น<br />
กลุ่มทอผ้าไหม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. ๐ ๕๖๙๘ ๖๐๘๙ และศูนย์<br />
สาธิต และจำาหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มทอผ้าบ้านโคกหม้อ หมู่ ๒ หลังองค์การ<br />
บริหาร ส่วนตำาบลโคกหม้อ เป็นกลุ่มที่ทอผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ<br />
การเดินทาง จากอำาเภอทัพทันไปตามทางหลวงหมายเลข ๓๐๑๓ ทางไป<br />
อำาเภอสว่างอารมณ์ ประมาณ ๑๐ กิโลเมตร แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข<br />
๓๔๕๖ ตรงไปมีป้ายบอกให้แยกซ้ายไปบ้านโคกหม้อ ประมาณ ๔ กิโลเมตร<br />
กลุ่มทอผ้าอยู่ติดกับวัดโคกหม้อ<br />
เขาปฐวี ตำาบลตลุกดู่ เป็นเทือกเขาขนาดเล็กยาวประมาณ ๗๕๐ เมตร สูง<br />
๒๕๓ เมตร มีลักษณะเป็นเทือกเขาหินที่เรียงซ้อนกันเป็นยอด ค่อนข้าง สูง<br />
ชัน มีถำ้ำขนาดเล็กและใหญ่ อยู่เรียงรายโดยรอบประมาณ ๓๐ ถำ้ำ เช่น ถำ้ำ<br />
ประทุน ถำ้ำบันได ถำ้ำอ่าง ถำ้ำช่องลม ถำ้ำพุทธประวัติ ถำ้ำปลา และ ถำ้ำค้างคาว<br />
เป็นต้น พบเครื่องมือหินและโครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ บริเวณ<br />
ลานกว้างหน้าเขามีร่มไม้และฝูงลิงจำานวนมาก<br />
ตลาดนัดวัว-ควาย หนองหญ้าปล้อง บ้านหนองหญ้าปล้อง ใกล้กับ<br />
โรงเรียนทัพ ทันอนุสรณ์ เดินทางจากอำาเภอทัพทันไปตามถนนสายทัพทัน-<br />
สว่างอารมณ์ ทางหลวงหมายเลข ๓๐๑๓ ประมาณ ๑ กิโลเมตร ตลาดอยู่<br />
ด้านขวามือ ตลาดมีบริเวณพื้นที่ซื้อขายกว้างใหญ่ ในแต่ละครั้งจะมีวัวควาย<br />
ถูกนำามา ขายนับพันตัว ตลาดนัดจะมีบางวันและมีวัวควายสับเปลี่ยนกัน<br />
มาขาย ใน วันอาทิตย์ และวันพุธ ยังมีข้าวของเครื่องใช้เกี่ยวกับวัวควาย<br />
มาขายด้วย ตลาดวายในช่วงเย็น
๑๖ ๑๗<br />
อำาเภอสว่างอารมณ์<br />
เมืองโบราณบึงคอกช้าง ตำาบลไผ่เขียว มีคูเมืองและกำาแพงดินล้อมรอบ<br />
ค้นพบซากโบราณ เครื่องปั้นดินเผา หินบดยา เครื่องมือเหล็ก ลูกปัดสีเหลือง<br />
นอกจากนี้ยังขุดพบศิลาจารึกอักษรขอมโบราณ ๓ หลัก ปัจจุบันมีสภาพเป็น<br />
สวนป่าปลูกมีต้นไม้ขนาดใหญ่ ปกคลุมอยู่ทั่วไป ส่วนบริเวณคูเมืองตื้นเขิน<br />
โบราณวัตถุที่ถูกค้นพบได้นำาไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ และ<br />
วัฒนธรรมท้องถิ่น ภายในศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ตรงข้าม ททท.<br />
สำานักงานอุทัยธานี<br />
การเดินทาง จากอำาเภอเมืองอุทัยธานีใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๒๒๑ ผ่าน<br />
อำาเภอทัพทัน เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๓๐๑๓ ผ่านอำาเภอสว่างอารมณ์<br />
จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๔๕๖ มุ่งหน้าสู่อำาเภอลานสัก ระยะทางจาก<br />
อำาเภอสว่างอารมณ์ประมาณ ๑๔ กิโลเมตร ถึงสถูปเจดีย์ด้านซ้ายมือ และ<br />
มีป้ายบึงคอกช้าง ถนนสายนี้ตัดผ่านตัวเมืองเก่าบึงคอกช้างพอดี<br />
อำาเภอลานสัก<br />
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง ได้รับการจดทะเบียนเป็น<br />
มรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในการ ประชุมคณะกรรมการ<br />
มรดกโลกของยูเนสโก ระหว่างวันที่ ๙-๑๓ ธันวาคม ๒๕๓๔ ณ เมืองคาร์เทจ<br />
ประเทศตูนีเซีย<br />
ห้วยขาแข้งมีพื้นที่ครอบคลุม ๖ อำาเภอ ๓ จังหวัด คือ อำาเภอบ้านไร่<br />
อำาเภอลานสัก อำาเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี อำาเภอสังขละบุรี<br />
อำาเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และอำาเภออุ้มผาง จังหวัดตาก มีพื้นที่<br />
๓,๖๐๙,๓๗๕ ไร่ หรือ ๕,๗๗๕ ตารางกิโลเมตร โดยมีการรวมพื้นที่ของเขต<br />
รักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรเข้ามาด้วยทำาให้เป็นผืนป่าอนุรักษ์ต่อเนื่อง<br />
ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้<br />
ลักษณะอากาศที่ห้วยขาแข้งหากเป็นฤดูร้อนจะร้อนมาก ฤดูฝนมีฝนตกหนัก<br />
ตลอดทั้งวัน และมีฤดูหนาวสั้นมาก<br />
ห้วยขาแข้งได้เป็นมรดกโลกเพราะสภาพป่าของที่นี่มีความหลากหลายทาง<br />
ธรรมชาติประกอบด้วยป่าถึง ๕ ใน ๗ ชนิด ที่พบในเขตร้อนชื้น ได้แก่<br />
ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา ป่าทุ่งหญ้า ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ก่อให้เกิดความ<br />
หลากหลายของพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ต่างๆ บางชนิดเป็นสัตว์ที่หายากใกล้<br />
จะสูญพันธุ์ เช่น ควายป่า เลียงผา เสือดาว หมาใน ไก่ป่า นกยูงไทย และ<br />
ยังมีแมลงป่าพันธุ์ต่างๆ อีกมากมาย<br />
ปกติเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวที่เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้<br />
ทั่วไป เพราะพื้นที่นี้จัดเป็นเขตอนุรักษ์และมีความอ่อนไหวสูง ฉะนั้นการมี<br />
คนจำานวนมากเข้าไปอาจก่อให้เกิดปัญหาความไม่สมดุลของระบบนิเวศ ได้<br />
แต่อย่างไรก็ดีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งซึ่งได้กลายเป็นมรดกโลก<br />
และเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป จึงเปิดจุดผ่อนปรนทั้งหมด ๓ จุด ให้ประชาชน<br />
ทั่วไปเข้าไปศึกษาธรรมชาติ ได้แก่ ๑.บริเวณสำานักงานเขต รักษาพันธุ์สัตว์<br />
ป่าห้วยขาแข้ง อำาเภอลานสัก มีกิจกรรมเดินป่าเส้นทางของ บ้านเสือ คารวะ<br />
อนุสรณ์สถาน “สืบ นาคะเสถียร” ๒.บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่า ไซเบอร์ อำาเภอ<br />
ห้วยคต กิจกรรมตั้งแคมป์ริมนำ้ำตกไซเบอร์ (ดูรายละเอียด ที่นำ้ำตกไซเบอร์)<br />
๓. บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยแม่ดี อำาเภอบ้านไร่ ทาง หลวงหมายเลข<br />
๓๐๑๑ สายห้วยแม่ดี-บ้านใหม่คลองอังวะ กิจกรรมตั้ง แคมป์ตามโครงการ<br />
ห้องรับแขกห้วยขาแข้ง และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ การเข้าไปในเขตฯ<br />
ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด<br />
ในบริเวณที่ทำาการเขตฯ มีรูปปั้นคุณสืบ นาคะเสถียร หันหน้าไปทางทิศ<br />
ตะวัน ตกเฉียงใต้ เพื่อดูความเป็นไปของผืนป่าตะวันตก มีบันได ๘ ขั้น<br />
ที่สื่อความ หมายว่าคุณสืบดำารงตำาแหน่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ<br />
อยู่ ๘ เดือน และลวดลายบนบันไดบ่งบอกถึงอุปสรรคในการทำางานที่นี่<br />
อาคารอนุสรณ์สถานสืบ นาคะเสถียร ซึ่งใช้เป็นอาคารเอนกประสงค์ในการ<br />
จัดกิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับคุณสืบไว้ด้วย “ผมคิดว่า<br />
ชีวิตผมได้ทำาดีที่สุดแล้ว ผมคิดว่า ผมได้ช่วยเหลือสังคมดีแล้ว ผมคิดว่า<br />
ได้ทำาตามกำาลังของผมดีแล้วและผมพอใจ ผมภูมิใจในสิ่งที่ผมทำา” เป็นคำา<br />
กล่าวของคุณสืบ นาคะเสถียร ผู้เป็นกำาลังสำาคัญผลักดันให้ป่าห้วยขาแข้งได้<br />
กลายเป็นมรดกโลก<br />
บ้านพักคุณสืบ ซึ่งภายในบ้านพักยังคงสภาพไว้เหมือนครั้งที่คุณสืบยังมี ชีวิต<br />
อยู่ ในห้องนอนที่คุณสืบจบชีวิตลง มีโต๊ะทำางานซึ่งมีรูปภาพต่างๆ วางอยู่<br />
เช่น รูปลูกสาว รูปคนงาน รูปป่าไม้ ด้านข้างโต๊ะมีรองเท้าวางอยู่สองสามคู่<br />
และที่ควรระลึกถึง คือ อนุสรณ์คนงานลาดตระเวน ที่ถูกยิงเสียชีวิตขณะ<br />
ปฏิบัติหน้าที่ อยู่บริเวณหน้าบ้านพักรับรอง หากมีโอกาสแวะมาที่ห้วยขาแข้ง<br />
และได้มาเยี่ยมที่บ้านพักคุณสืบ หรือ ที่อาคารอนุสรณ์คนงานลาดตระเวน<br />
อาจจะได้อะไรกลับไปมากกว่าจิตสำานึกด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพียง<br />
อย่างเดียว<br />
เส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาหินแดง มีความยาวประมาณ ๖ กิโลเมตรใช้เวลา<br />
เดินประมาณ ๔ ชั่วโมง มีจุดสื่อความหมายธรรมชาติทั้งหมด ๑๘ จุด<br />
ประกอบด้วยป่าผลัดใบ ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ และป่าดิบแล้ง มีจุด<br />
ชมวิวโป่งเทียม หลังเดือนธันวาคมจะมีนกหลายชนิด นกที่พบมาก<br />
เช่น นกแขกเต้า และนกโพระดก เส้นทางนี้ปกติเดินเองได้โดยขอคู่มือ<br />
ที่สำานัก งานเขตฯ หากต้องการคนนำาทางต้องติดต่อล่วงหน้าที่หน่วย<br />
ป้องกันไฟป่า ห้วยขาแข้ง โทร. ๐๘ ๕๗๒๕ ๘๔๓๓, ๐๘ ๗๘๔๐ ๐๓๑๖<br />
www.huaikhakhaeng.net เส้นทางศึกษาธรรมชาตินี้ปิดเดือนเมษายน
๑๘ ๑๙<br />
การเดินทาง มี ๒ เส้นทาง คือ<br />
๑. เข้าทางที่ทำาการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อยู่ห่างจากตัวจังหวัด<br />
ประมาณ ๑๐๒ กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๓๓ สายอุทัยธานี-<br />
หนองฉาง จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๔๓๘ สายหนองฉาง-ลานสัก<br />
ถึงหลักกิโลเมตรที่ ๕๓-๕๔ เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ ๑๕ กิโลเมตร ถึง<br />
ที่ทำาการเขตฯ สำาหรับหน่วยพิทักษ์ป่าทุ่งแฝก ซึ่งตั้งอยู่ริมห้วยทับเสลา จาก<br />
ที่ทำาการเขตฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ต่อไปยังหน่วยพิทักษ์ป่ากะปุก<br />
กะเปียง ระยะทาง ๑๔ กิโลเมตร และ สถานีวิจัยเขานางรำา ระยะทาง<br />
๑๗ กิโลเมตร<br />
๒. เข้าทางหน่วยพิทักษ์ป่าเขาบันได อยู่ทางทิศใต้ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์<br />
ป่าห้วยขาแข้งห่างจากตัวจังหวัดอุทัยธานีประมาณ ๑๓๗ กิโลเมตร ตาม<br />
ทางหลวงหมายเลข ๓๓๓ สายอุทัยธานี-หนองฉาง แล้วเข้าสู่ทางหลวงหมาย<br />
เลข ๓๒๘๒ สายหนองฉาง-บ้านไร่ ระยะทางประมาณ ๘๐ กิโลเมตร<br />
แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนลูกรังผ่านบ้านใหม่คลองอังวะอีกประมาณ ๓๐<br />
กิโลเมตรถึงด่านตรวจคลองระยาง ไปยังหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยแม่ดี และหน่วย<br />
พิทักษ์ป่าเขาบันได<br />
ไม่ควรเดินทางในฤดูฝน เนื่องจากธารนำ้ำสูงขึ้นท่วมถนนดินแดง รถเข้า ไม่<br />
ได้<br />
ที่พัก การเข้าพักต้องไปติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย ๑๕ วัน ที่ฝ่ายจัดการ เขต<br />
รักษาพันธุ์สัตว์ป่า สำานักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และ<br />
พันธุ์พืช สอบถามรายละเอียด โทร. ๐ ๒๕๖๑ ๔๒๙๒-๓ ต่อ ๗๖๕ หรือเขต<br />
รักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ตู้ ปณ.๗ อำาเภอลานสัก จังหวัด อุทัยธานี<br />
๖๑๑๖๐ โทร. ๐๘ ๕๗๒๕ ๘๔๓๓, ๐๘ ๗๘๔๐ ๐๓๑๖ www.huaikhakhaeng.<br />
net จุดที่ได้รับอนุญาตให้พักแรมได้มีอยู่ ๓ จุด จุดแรก คือ บริเวณสำานัก<br />
งานเขตฯ มีบ้านพักขนาดพักได้ ๑๐ คน จำานวน ๗ หลัง และอาคารฝึก<br />
อบรมขนาดจุ ๘๐ คน จุดที่สอง หน่วยพิทักษ์ป่าไซเบอร์ จุดที่ สาม คือ<br />
หน่วยพิทักษ์ป่าห้วยแม่ดี<br />
เขาพระยาพายเรือ ตำาบลลานสัก ห่างจากอำาเภอเมืองอุทัยธานี ๕๙<br />
กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข ๓๔๓๘ สายหนองฉาง-ลานสัก ตรงหลัก<br />
กิโลเมตรที่ ๒๙-๓๐ แยกขวาเข้าที่ว่าการอำาเภอลานสัก และเข้าทางลูกรัง<br />
ไปอีก ๔ กิโลเมตร ถึงเชิงเขาแล้วเดินขึ้นสู่ปากถำ้ำอีกประมาณ ๑๕๐ เมตร<br />
เป็นเขา ลูกเล็ก สูง ๒๕๗ เมตร เมื่อมองจากระยะไกลจะแลดูคล้ายเรือ<br />
สำาเภาลำาหนึ่ง บนยอดเขามีจุดชมทิวทัศน์ ภายในประกอบด้วยถำ้ำเล็กๆ<br />
เชื่อมต่อกันได้แก่ ถำ้ำแก้ว ถำ้ำสีชมพู ถำ้ำท้องพระโรง ถำ้ำอ่างนำ้ำมนต์ และ<br />
ถำ้ำพุทธสถาน ภาย ในถำ้ำซับซ้อนมากจึงต้องมีป้ายบอกทางและมีไฟฟ้าเพื่อ<br />
ความสะดวกในการเที่ยวชมความงามของหินงอกหินย้อย ตอนบนของถำ้ำ<br />
มีพระนอนขนาดใหญ่ ส่วนทางเข้าถำ้ำต่างๆ อยู่ด้านซ้ายมือ มีทางเข้าทาง<br />
เดียว ซึ่งเป็นทางลึกถึง ข้างล่าง และมีบันไดลงไปถึงก้นถำ้ำ<br />
เขาผาแรด ตำาบลลานสัก ห่างจากด้านหลังที่ว่าการอำาเภอลานสัก ประมาณ<br />
๗.๕ กิโลเมตร เขาผาแรดนี้อยู่ห่างจากเขาพระยาพายเรือประมาณ ๘<br />
กิโลเมตร เป็นเขาลูกเล็ก ๆ มีความสูงประมาณ ๓๗๖ เมตร ภายในเขา<br />
ลูกนี้เป็นที่ตั้งของถำ้ำซึ่งมีหินงอกหินย้อย เป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาว และ<br />
มีสำานักสงฆ์อยู่ใกล้เชิงเขา<br />
เขาปลาร้า เป็นเขาที่แบ่งเขตหมู่บ้านห้วยโศก อำาเภอลานสัก กับ ตำาบลเขา<br />
บางแกรก อำาเภอหนองฉาง เขาปลาร้ามีขนาดใหญ่ สูงชันมากประมาณ<br />
๕๙๘ เมตร สภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ต้องเดินเท้าและปีนเขา ระยะทาง<br />
๙๐๐ เมตร ใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง จึงจะถึงยอดเขาและแลเห็นภูมิ<br />
ประเทศที่สวยงาม ข้างบนเป็นที่ราบขนาดใหญ่และมีป่าไม้มะค่า<br />
หน้าผาด้านตะวันตกที่ระดับความสูง ๓๒๐ เมตร พบภาพเขียนก่อน<br />
ประวัติศาสตร์อายุประมาณ ๓,๐๐๐ ปี เป็นลายเส้นสีดำาและสีแดง เส้นสีดำา<br />
ค่อนข้างจางไปแล้ว ส่วนสีแดงยังเห็นได้อยู่ เขียนไว้ตลอดแนวยาวประมาณ<br />
๙ เมตร เขียนด้วยสีแดงมีกลุ่มภาพมนุษย์หลายแบบหลายลักษณะและกลุ่ม<br />
ภาพสัตว์ ภาพมีทั้งหมดประมาณ ๔๐ ภาพ แสดงให้เห็นถึงสภาพชีวิตสังคม<br />
ของคนยุคโบราณซึ่งเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุทัยธานี<br />
นักโบราณคดีได้แบ่งกลุ่มภาพเขียนบนเขาปลาร้าไว้สี่กลุ่ม คือ กลุ่มที่หนึ่ง<br />
กลุ่มภาพที่มีคนท่ามกลางสัตว์เลี้ยง (คาดว่าเป็นสุนัข) กลุ่มที่สอง กลุ่มภาพ<br />
ที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างคนกับวัว การไปจับวัวป่า นำากลับมาเลี้ยง กลุ่ม<br />
ที่สาม กลุ่มภาพที่แสดงถึงการประกอบพิธีกรรม คนที่อยู่ในภาพมีเครื่อง<br />
ประดับซึ่งต่างจากคนทั่วไป และสัตว์ที่อยู่ในภาพมีลักษณะคล้ายลิงอยู่ด้วย<br />
กลุ่มที่สี่ กลุ่มภาพเบ็ดเตล็ดซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพสัตว์ ภาพเขียนสีที่นี่ถือ<br />
ได้ ว่ามีความประณีตและเน้นเหมือนจริงกว่าแหล่งอื่น คำแนะนำสำหรับ<br />
เดินขึ้น เขาปลาร้า เตรียมนำ้ำดื่มให้พร้อม และใส่รองเท้าผ้าใบที่กระชับ<br />
เพราะทาง เดินเป็นหินก้อนเล็กและลื่นตลอด พกสัมภาระเท่าที่จำาเป็น<br />
เท่านั้น<br />
การเดินทาง จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๓๓ ผ่านอำาเภอหนองฉาง<br />
จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๔๓๘ สายหนองฉาง-ลานสัก อีกประมาณ<br />
๒๑.๕ กิโลเมตร จะเห็นเทือกเขาปลาร้าอยู่ซ้ายมือ แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทาง<br />
ลาดยางอีกประมาณ ๗.๕ กิโลเมตร หากนั่งรถโดยสารประจำาทาง ใช้สาย<br />
อุทัยธานี-ลานสัก จากนั้นต่อรถจากลานสัก ลงที่แยกห้วยโศก แล้วต่อรถ<br />
จักรยานยนต์รับจ้างเข้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาปลาร้า
๒๐ ๒๑<br />
หุบป่าตาด<br />
หุบป่าตาด หมู่ ๑ ตำาบลทุ่งนางงาม ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๕๐ กิโลเมตร<br />
เข้าทางเดียวกับเขาปลาร้า อยู่ก่อนถึงเขาปลาร้าประมาณ ๑ กิโลเมตร ถำ้ำ<br />
นี้ค้นพบโดยพระครูสันติธรรมโกศล (หลวงพ่อทองหยด) เจ้าอาวาส วัดถำ้ำ<br />
ทอง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๒ พระครูได้ปีนลงไปในหุบเขานี้ พบว่ามี ต้นตาดเต็ม<br />
ไปหมด (ต้นตาดเป็นไม้ดึกดำาบรรพ์ตระกูลเดียวกับปาล์ม) จึง เจาะถำ้ำเพื่อ<br />
เป็นทางเข้าใน พ.ศ. ๒๕๒๗ ต่อมากรมป่าไม้ได้ประกาศเป็น พื้นที่อนุรักษ์<br />
เพราะมีสภาพทางภูมิศาสตร์แปลกและมีพันธุ์ไม้หายาก เช่น เต่าร้าง เปล้า<br />
คัดค้าวเล็ก ขนุนดิน เป็นต้น หุบป่าตาดอยู่ในความดูแลของ เขตห้ามล่า<br />
สัตว์ป่าถำ้ำประทุน ทางเดินเข้าหุบเขาป่าตาดมืดสนิท แต่เดิน ไม่นานจะถึง<br />
ปล่องขนาดใหญ่ที่แสงส่องลงมาและจะพบป่าตาด ให้ความรู ้ สึกเหมือนว่า<br />
ได้มาอยู่ในโลกยุคดึกดำาบรรพ์ ลักษณะคล้ายป่าดงดิบ ความ ชุ่มชื้นสูง แสง<br />
ส่องถึงพื้นได้เฉพาะตอนเที่ยงวันเพราะมีเขาหินปูนสูงชันล้อม รอบ มีความ<br />
ร่มรื่นเหมาะแก่การเดินชมธรรมชาติ ระยะทางเดินไป-กลับ ๗๐๐ เมตร ใช้<br />
เวลาประมาณ ๓๐ นาที ค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ ๒๐ บาท เด็ก ๑๐ บาท<br />
ชาวต่างชาติ ๒๐๐ บาท การเตรียมตัวไปหุบป่าตาด ควรพกไฟฉายและยา<br />
ทากันยุงไปด้วย เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถำ้ำประทุน โทร. ๐ ๕๖๙๘ ๙๑๒๘<br />
ถำ้ำเขาฆ้องชัย เป็นเทือกเขาอยู่ในตำาบลลานสัก มีความสูงประมาณ ๓๕๓<br />
เมตร ทางด้านหน้าของเขาฆ้องชัยเป็นถำ้ำตื้นกว้างเหมือนอุโมงค์ใหญ่ เข้าใจ<br />
ว่าเดิมมีมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์อาศัยอยู่เพราะพบเครื่องมือหิน และเศษ<br />
ภาชนะดินเผา ภายในถำ้ำมีฝูงค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำานวนมาก ในเวลาเย็น<br />
จะเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาหากินนานนับชั่วโมง และถ้าสามารถ ปีน<br />
หน้าผาสูงไปได้จะพบถำ้ำอยู่ทางด้านบน มีถำ้ำธงชัย ถำ้ำมหาสมบัติ ถำ้ำเป็ด<br />
และถำ้ำลม ใกล้กันเป็นที่ตั้งของเขาอีกลูกหนึ่งซึ่งมีถำ้ำสวยงาม บริเวณตรง<br />
กลางเป็นที่ดินในหุบเขามีเนื้อที่กว้างขวางมากซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดและโรง<br />
เรียนลานสักวิทยา<br />
การเดินทาง จากอำาเภอเมืองอุทัยธานีใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๓๓ ผ่าน<br />
อำาเภอหนองฉาง จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๔๓๘ สายหนองฉาง-<br />
ลานสัก และก่อนถึงอำาเภอลานสักประมาณ ๒ กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายมือ<br />
เข้าโรงเรียนลานสักวิทยา และไปอีกประมาณ ๕๐๐ เมตร จะถึงเขาฆ้องชัย<br />
ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๕๒.๔ กิโลเมตร<br />
สวนป่าห้วยระบำา ตำาบลระบำา ห่างจากตัวจังหวัด ๗๘ กิโลเมตร มีเนื้อที่่<br />
๑๑,๗๔๐ ไร่ เป็นสวนป่าปลูกของบริษัทไม้อัดไทย ปลูกไม้สัก และไม้ ยูคา<br />
ลิปตัส สนประดิพัทธ์ ผู้สนใจสามารถเข้าไปชมแปลงป่าปลูกใหม่ได้ หาก<br />
ต้องการพักค้างคืน มีเรือนพักรับรอง พักได้ประมาณ ๓๐ คน แต่ต้อง<br />
เตรียมเสบียงไปเอง หน้าแล้งมีนำ้ำน้อย หน้าฝนทางเข้าลำาบาก รายละเอียด<br />
ติดต่อบริษัท ไม้อัดไทย โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๐๙๔ หรือสำานักงานป่าไม้จังหวัด<br />
โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๐๐๙<br />
การเดินทาง ไปตามทางหลวงหมายเลข ๓๔๓๘ ประมาณหลักกิโลเมตร<br />
ที่ ๔๖ เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ ๑๖ กิโลเมตร<br />
เขื่อนทับเสลา หมู่ ๖ ตำาบลระบำา เป็นเขื่อนชลประทานขนาดใหญ่ กั้นลำา<br />
ห้วยทับเสลา ทำาให้เกิดอ่างเก็บนำ้ำเหนือเขื่อน ซึ่งมีทัศนียภาพสวยงาม มี<br />
ภูเขาสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง บริเวณตอนใต้ของเขื่อนมีสภาพเป็นป่าเต็ง<br />
รังและสวนป่าปลูก คนในท้องถิ่นนิยมมาพักผ่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ มีร้าน<br />
ค้าสวัสดิการ<br />
การเดินทาง จากอำาเภอลานสักไปตามทางหลวงหมายเลข ๓๔๓๘ ประมาณ<br />
๑๕ กิโลเมตร ตรงหลักกิโลเมตรที่ ๔๗ ถึงทางแยก เข้าเขื่อนทับเสลา<br />
เข้าไปประมาณ ๒ กิโลเมตร ถึงจุดชมวิว หากมาจากตัว เมืองทางเข้า<br />
อยู่ด้านซ้ายมือ<br />
อำาเภอห้วยคต<br />
นำ้ำตกไซเบอร์ หรือ นำ้ำตกหินลาด อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยพิทักษ์<br />
ป่าไซเบอร์ เป็นนำ้ำตกที่อยู่ใกล้หมู่บ้านไซเบอร์ บ้านซับแม่บือ ตำาบลคอก<br />
ควาย อำาเภอห้วยคต อยู่ห่างจากจังหวัด ๘๖ กิโลเมตร นำ้ำตกนี้เกิดจาก<br />
ลำาห้วยล่อยจ้อยที่ไหลมาจากภูเขาสูงของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง<br />
ทำาให้เกิดนำ้ำตกขึ้นเป็นระยะๆ หลายชั้น นำ้ำตกส่วนที่อยู่ตอนบน เรียกว่า<br />
นำ้ำตกล่อยจ้อย บางแห่งตกจากที่สูงปะทะกับก้อนหินใหญ่ เรียกว่า นำ้ำตก<br />
หินลาด ข้างล่างเป็นแอ่งนำ้ำขนาดใหญ่รับนำ้ำตกซึ่งลงมาไม่ขาดสาย บาง<br />
แห่งไหลซอกซอนไปตามเกาะแก่งหินลงสู่เบื้องล่าง เป็นทางยาวสูงตำ่ำหลาย<br />
ชั้นสวยงามมาก มีนำ้ำมากในเดือนกันยายน-ต้นเดือนพฤศจิกายน ลำาห้วย<br />
ล่อยจ้อยจะไหลไปรวมกับห้วยทับเสลา บริเวณโดยรอบเป็นป่าหวาย ต้นไม้<br />
ร่มครึ้ม และมีใบไม้เปลี่ยนสีในเดือนพฤศจิกายนด้วย
๒๒ ๒๓<br />
น้ำาตกไซเบอร์ หรือ น้ำาตกหินลาด<br />
ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก มีบ้านรับรอง ๑ หลัง พักได้ ๒๐-๓๐ คน<br />
ไม่มีอาหารบริการ ผู้มาพักต้องเตรียมเสบียงมาเอง และต้องมีหนังสือจาก<br />
ฝ่ายจัดการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเพราะอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของเขตรักษา<br />
พันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง สอบถามรายละเอียด โทร. ๐ ๒๕๖๑ ๔๒๙๒-๓<br />
ต่อ ๗๖๕<br />
การเดินทาง จากทางหลวงหมายเลข ๓๒๘๒ หลักกิโลเมตรที่ ๓๐ เลี้ยว<br />
เข้าไปอีกประมาณ ๗ กิโลเมตร เดินเท้าต่ออีก ๙๐๐ เมตร สภาพทางเข้า<br />
เป็น ทางลูกรังและมีหินคมตลอดเส้นทาง รวมทั้งต้องผ่านธารนำ้ำหลายจุด<br />
หน้าฝนเดือนสิงหาคม-ตุลาคม รถเข้าไม่ได้เลย ต้องใช้รถกระบะที่มีกำาลัง<br />
ขับเคลื่อนดีหรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อ หากเดินทางโดยรถประจำาทาง จาก<br />
ตลาดบ้านไร่ นั่งสายบ้านไร่-คลองแห้ง มาลงที่บ้านทองหลางหลักกิโลเมตร<br />
ที่ ๑๙ แล้วเช่ารถสองแถว<br />
นำ้ำพุร้อนบ้านสมอทอง บ้านสมอทอง ตำาบลคอกควาย ในโครงการอ่าง เก็บ<br />
นำ้ำห้วยขุนแก้ว เป็นนำ้ำพุร้อนธรรมชาติขนาดเล็กที่ผุดขึ้นมาผิวดิน เป็นนำ้ำ<br />
ใสและมีกลิ่นกำามะถันฉุน นำ้ำร้อนขนาดต้มไข่สุกภายใน ๕ นาที ไหล ผ่าน<br />
ช่องเขาไปรวมกับนำ้ำในลำาห้วยคอกควาย ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงให้เป็น<br />
บ่อนำ้ำพุร้อน และเป็นจุดชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกที่สวยงาม<br />
การเดินทาง สามารถเดินทางจากอำาเภอหนองฉางสู่อำาเภอบ้านไร่ ไปตาม<br />
ทางหลวงหมายเลข ๓๒๘๒ สายบ้านไร่-ลานสัก ประมาณ ๓๓ กิโลเมตร<br />
สังเกตเห็นหลวงพ่อพุทโธ พระพุทธรูปขนาดใหญ่อยู่ทางขวามือตรงกลาง<br />
หุบ เขาพอดี เมื่อผ่านสะพานข้ามคลองไปได้สองสะพานจะมีทางแยกตรง<br />
ทาง โค้ง เข้าสู่โครงการอ่างเก็บนำ้ำห้วยขุนแก้วไป ๒ กิโลเมตร จะถึงบริเวณ<br />
นำ้ำพุ ร้อนบ้านสมอทอง<br />
อำาเภอบ้านไร่<br />
เมืองโบราณบ้านการุ้ง ตำาบลวังหิน เป็นแหล่งชุมชนโบราณ สภาพเมือง<br />
เป็นรูปวงกลมรี เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๘๐๐ เมตร เป็นคูเมืองชั้นเดียว<br />
คูนำ้ำกว้าง ๒๐ เมตร ลึก ๓ เมตร บริเวณคูติดถนน มีการขุดลอกคูนำ้ำใหม่<br />
มีนำ้ำขังตลอดปี คันดินกว้าง ๖ เมตร ปัจจุบันเป็นที่ทำาการของแขวงการ<br />
ทาง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ค้นพบ ได้แก่ ระฆังหินพระพุทธรูปปาง<br />
เสด็จลง จากดาวดึงส์ เศษภาชนะดินเผาขวานหิน เครื่องประดับ และซาก<br />
เจดีย์อยู่ทาง ทิศใต้ของตัวเมืองไปประมาณ ๓ กิโลเมตร เป็นซากเจดีย์ก่อ<br />
ด้วยอิฐดินเผา ขนาดใหญ่ ฐานเจดีย์กว้าง ๗ เมตร ปัจจุบันด้านหน้าคูเมือง<br />
การุ้ง มีศาลเจ้า แม่การุ้งตั้งอยู่ริมทางหลวง เป็นที่เคารพสักการะของ<br />
ประชาชนทั่วไป เมืองการุ้งได้รับการขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมื่อวันที่ ๘<br />
มีนาคม ๒๔๗๘<br />
การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๓๓ สายหนองฉาง-บ้านไร่ ผ่านบ้าน<br />
ทุ่งนาทางแยกเขาตะพาบจนถึงบ้านการุ้ง ก่อนถึงอำาเภอบ้านไร่ประมาณ<br />
๑๐ กิโลเมตร เมืองการุ้งอยู่บริเวณทางโค้ง ด้านซ้ายมือมีศาลเจ้าแม่การุ้ง<br />
เห็น เด่นชัด ห่างจากตัวเมืองอุทัยธานีประมาณ ๖๙ กิโลเมตร<br />
วัดถำ้ำเขาตะพาบ ตั้งอยู่บนเขาลูกเล็กในพื้นที่ตำาบลวังหิน ห่างจากตัวจังหวัด<br />
ประมาณ ๕๖ กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข ๓๓๓ สายอุทัยธานี-บ้านไร่<br />
มีทางแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข ๓๒๑๓ ไปประมาณ ๑ กิโลเมตร วัด<br />
อยู่ทางขวามือ<br />
ถำ้ำเขาตะพาบอยู่สูงจากระดับพื้นประมาณ ๑๐ เมตร ในบริเวณเดียวกัน มี<br />
ถำ้ำอีกหลายแห่ง ทางด้านหน้าของถำ้ำได้สร้างพระพุทธรูปและจัดเป็น เขต<br />
สังฆาวาส ส่วนถำ้ำที่อยู่ด้านหลัง เลี้ยวขวามือเป็นถำ้ำท้องพระโรง ถำ้ำแก้ว ถำ้ำ<br />
ปราสาท และ ถำ้ำเรือ เป็นต้น หากเลี้ยวซ้ายจะพบทางออกด้านหลัง ซึ่ง<br />
เป็นทางไปสู่ถำ้ำลึกที่มีบันไดลงไปถึงก้นถำ้ำ ตรงอุโมงค์หลังถำ้ำมีหินรูปร่าง<br />
คล้ายตะพาบ และเคยพบเครื่องมือหินสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ถำ้ำทุกแห่ง<br />
มีไฟฟ้าส่องทางเพื่ออำานวยความสะดวกในการเข้าชมและมีค้างคาวอาศัย<br />
อยู่ เป็นจำานวนมาก
๒๔ ๒๕<br />
วัดเขาวงพรหมจรรย์ ตำาบลวังหิน เข้าทางเดียวกับวัดถำ้ำเขาตะพาบแต่อยู่<br />
เลยมาประมาณ ๗ กิโลเมตร และแยกซ้ายไปอีก ๑ กิโลเมตร เป็นวัดที่ตั้ง<br />
อยู่ในหุบเขา ๒ ลูก คือ เขาวงและเขาพรหมจรรย์ มีถำ้ำที่น่าสนใจอยู่หลาย<br />
ถำ้ำ เช่น ถำ้ำแจ้งมีแสงส่องถึง ถำ้ำงูเหลือมมีงูเหลือมอาศัยอยู่หลายตัว ถำ้ำนำ้ำ<br />
มีนำ้ำขังตลอด ช่วงแล้งนำ้ำถึงเข่า ช่วงฝนนำ้ำถึงอก ส่วนถำ้ำเพชรถำ้ำพลอย มี<br />
หินงอกหินย้อย เวลาสะท้อนแสงเป็นประกายแวววาวคล้ายเพชรพลอย การ<br />
เข้าชมถำ้ำแก้วและถำ้ำเพชรต้องมีคนนำาทาง ด้านขวามือมีชะง่อนหินสูง ตั้ง<br />
มณฑปขนาดเล็ก และไหล่เขามีอุโบสถสวยงาม<br />
วัดถำ้ำเขาวง ตำาบลบ้านไร่ เป็นเขาขนาดใหญ่ ห่างจากอำาเภอไป ๑๒<br />
กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข ๓๐๑๑ ผ่านทางโค้งศาลเจ้าพ่อเขารัก<br />
แล้ว มาตัดกับสามแยกให้เลี้ยวขวาไปประมาณ ๖ กิโลเมตร จะมีทางแยก<br />
เลี้ยวซ้าย เข้าสู่เขาวง ประมาณ ๘ กิโลเมตร ถึงทางแยกเข้าไปอีก ๓๐๐<br />
เมตร ลาด ชันขึ้นทีละน้อย เส้นทางอ้อมโค้งเป็นหน้าผาต้องไต่ไปตามซอก<br />
เขา<br />
ตัววัดเป็นอาคาร ๔ ชั้น ใต้ถุนเป็นลานเอนกประสงค์รวมทั้งร้านขายของ<br />
ชั้นที่ ๒ เป็นวิหาร ชั้นที่ ๓ เป็นกุฏิ ส่วนโบสถ์จะอยู่ชั้นที่ ๔ สร้างด้วย ไม้<br />
สัก และไม้มะค่า รวมทั้งไม้เก่าจากเรือนไทยที่อยุธยา อ่างทอง หลังคา<br />
นำามาจากลำาพูน ช่างที่เข้าตัวเรือนรวมทั้งทำาส่วนตัวเหงา ป้านลม และ<br />
จั่ว มาจากอยุธยา<br />
การจัดภูมิทัศน์ในวัดถือว่าสวยงาม ฉากหลังเป็นเขาหินปูนสูงตระหง่าน<br />
ด้านหน้ามีบ่อนำ้ำและสวนตกแต่งด้วยหิน ไม้ดัด และไม้ประดับ มูลค่าใน<br />
การ ก่อสร้างประมาณ ๓๐ ล้านบาท ระหว่างทางเดินไปชมถำ้ำ ผ่านนำ้ำตก<br />
เทียม ที่ดูเข้ากับบรรยากาศ ที่เขาด้านหลังมีถำ้ำอยู่ ๗-๘ ถำ้ำ บางถำ้ำเป็นที่<br />
นั่งวิปัส- สนาสำาหรับพระภิกษุ บางถำ้ำเป็นถำ้ำค้างคาว บางถำ้ำมีหินงอก<br />
หินย้อยให้ชม บนเขาเป็นที่ราบกว้าง มีไม้ยาง ไม้มะค่า ไม้เสลา เป็นต้น<br />
และมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่บ้าง<br />
วนอุทยานถำ้ำเขาวง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดอุทัยธานี เป็น<br />
ส่วนหนึ่งของผืนป่าตะวันตกติดกับอุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัด สุพรรณบุรี<br />
สภาพโดยทั่วไปเป็นภูเขาหินปูนสูงชันสลับซับซ้อน มีความลาด ชันมากกว่า<br />
๓๕ เปอร์เซ็นต์ เป็นแหล่งต้นนำ้ำลำาธารที่ไหลผ่านอำาเภอบ้านไร่ จังหวัด<br />
อุทัยธานี<br />
สถานที่น่าสนใจ ได้แก่<br />
ถำ้ำพุหวาย เป็นถำ้ำขนาดใหญ่ ภายในถำ้ำกว้างขวาง มีหินงอกหินย้อย เช่น<br />
รูปเจดีย์ อ่างนำ้ำ ทางเข้าถำ้ำอยู่บนไหล่เขาต้องเดินขึ้นไป อากาศถ่ายเท ได้<br />
สะดวก มีโพรงทะลุถึงด้านตรงข้ามของภูเขา มีค้างคาวอาศัยอยู่ ๙ ชนิด<br />
ติดต่อคนนำาทางได้บริเวณปากถำ้ำ ใช้เวลาเดินประมาณ ๑ ชั่วโมง ทางด้าน<br />
ถำ้ำพุหวาย<br />
หลังของถำ้ำพุหวาย มี ถำ้ำเทพมาลี หรือ ถำ้ำพญานาค เป็นถำ้ำขนาดเล็กค่อน<br />
ข้างลึกมีความสวยงามตามธรรมชาติของหินงอกหินย้อย ยอดเขาพุหวาย<br />
สูง ๗๐๐ เมตรจากระดับนำ้ำทะเล สามารถมองเห็นทัศนียภาพสวยงามกว้าง<br />
ไกล บนสันเขาเป็นป่าเต็งรังที่ค่อนข้างสมบูรณ์<br />
การเดินทาง จากอำาเภอบ้านไร่ใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๐๑๑ สายบ้านไร่-<br />
พุบอน ผ่านโค้งศาลเจ้าพ่อเขารัก จนกระทั่งถึงทางแยกที่มีป้ายบ้านอี<br />
หลุม-บ้านเขาพุเตย เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ ๖ กิโลเมตร ผ่านทางเข้าวัด<br />
ถำ้ำเขาวง มาอีก ๓ กิโลเมตร จะถึงทางเข้าถำ้ำพุหวาย
๒๖ ๒๗<br />
ศูนย์ทอผ้าพื้นเมืองลายโบราณผาทั่ง ผ้าทอลายโบราณของลาวครั่ง ซึ่งมี<br />
ถิ่นฐานเดิมอยู่ในประเทศลาว แล้วอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในภาคกลางของ<br />
ประเทศไทย มีการทอผ้าสืบต่อกันมาทั้ง ผ้าซิ่น ผ้าขาวม้า ย่าม ผ้าโพก<br />
หัวนาค ผ้าห่ม หมอนเท้า ผลิตภัณฑ์ของศูนย์ทอผ้าพื้นเมืองโบราณบ้าน<br />
ผาทั่งนี้ ได้รับรางวัลมากมาย เช่น รางวัลชนะเลิศการประกวดหนึ่งตำาบล<br />
หนึ่งผลิตภัณฑ์ ระดับประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๖ และรางวัลชนะเลิศระดับโลก<br />
จากองค์การยูเนสโก เป็นต้น นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าชมและเลือกซื้อผ้าทอ<br />
พื้นเมืองลายโบราณผาทั่ง ติดต่อได้ที่ ๓๒ หมู่ ๒ ตำาบลห้วยแห้ง อำาเภอ<br />
บ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี โทร. ๐๘ ๙๒๗๐ ๙๖๘๓<br />
หลวงพ่อโตวัดผาทั่ง จากศูนย์ทอผ้าพื้นเมืองลายโบราณบ้านผาทั่ง เลี้ยว<br />
ซ้ายไปอีก ๑ กิโลเมตร จะถึงวัดผาทั่ง ซึ่งมีหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ ขนาด<br />
หน้าตักกว้าง ๒๓ เมตร สูง ๕๒ เมตร สร้างโดยแรงศรัทธาของคณะ<br />
ศิษย์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ด้านหลังขององค์หลวงพ่อโต<br />
มีต้นสาละ สูงราว ๓-๔ เมตร<br />
ศูนย์แสดงและสาธิตการทอผ้าพื้นเมือง (กลุ่มทอผ้าไพจิตต์) ตั้งอยู่หลัง<br />
วัดบ้านไร่ ติดกับโรงเรียนบ้านหน้าฝายบึงตาโพ เลี้ยวเข้าซอยข้างโรงเรียนไป<br />
๗๐๐ เมตร เป็นกลุ่มทอผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ รวมทั้งรับสอนด้วย ลาย<br />
ที่ทอเป็นลายโบราณ เช่น ลายขอหลวง ลายขอคำาเดือน จำาหน่ายผลิต<br />
ภัณฑ์ ผ้าซิ่น ผ้าคลุมเตียง ผ้าคลุมโต๊ะ ผ้าตัดชุด หมอนขิด ในบริเวณนี้ยัง<br />
มีพิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณอายุกว่าร้อยปี<br />
นำ้ำตกผาร่มเย็น บ้านใหม่ร่มเย็น สามารถมองเห็นได้จากริมถนน เป็นสายนำ้ำ<br />
สีขาวทิ้งตัวลงมาในป่าทึบอยู่เบื้องล่าง ชาวอุทัยธานีว่าที่นี่เป็นนำ้ำตกที่สวย<br />
ที่สุดในจังหวัด เพราะสายนำ้ำที่ไหลลงมานั้นเป็นสายบางๆ ตกลงมาตรงๆ<br />
คล้ายสายฝน ผ่านหน้าผาดินที่มีมอสสีเขียวเกาะอยู่เต็มไปหมด ประกอบ<br />
กับ พื้นที่เป็นป่ารกครึ้ม ทำาให้คนที่ได้ยืนชมมีความรู้สึกชุ่มฉำ่ำเย็นตามไป<br />
ด้วย การเดินเข้าสู่นำ้ำตกผาร่มเย็นใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาที ปกติเดินเอง<br />
ได้ แต่หากต้องการคนนำาทางติดต่อได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำาบลเจ้าวัด<br />
โทร. ๐ ๕๖๙๘ ๔๐๖๙ หรือติดต่อผ่านห้วยป่าปก รีสอร์ท โทร. ๐ ๕๖๕๙<br />
๖๑๕๐-๔<br />
การเดินทาง จากอำาเภอบ้านไร่ใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๐๑๑ สายบ้านไร่-พุ<br />
บอน จนกระทั่งถึงทางเข้าบ้านใหม่ร่มเย็น เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ ๒<br />
กิโลเมตร จะถึงปากทางเดินเท้า จากนั้นเดินเท้าสู่นำ้ำตกอีก ๔๐๐ เมตร<br />
ศูนย์วัฒนธรรมชาวเขาบ้านอีมาด-อีทราย หมู่ ๔ ตำาบลแก่นมะกรูด อยู่ภาย<br />
ใต้การดูแลของศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จังหวัดอุทัยธานี ถือว่า<br />
อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ชาวเขาเป็นชาวกะเหรี่ยง มีชีวิต<br />
สงบและเรียบง่าย และยังคงเคร่งครัดในประเพณีดั้งเดิม งานประเพณี ที่<br />
น่าสนใจ เช่น งานไหว้เจดีย์ ซึ่งจะมีการรำาวงรำาดาบ และงานไหว้ต้นโพธิ์<br />
ฯลฯ ญาติพี่น้องที่แยกย้ายจะกลับมารวมตัวกัน ประเพณีทั้งสองนี้จัดขึ้น ใน<br />
เดือนเมษายนของทุกปี กำาหนดวันจัดงานจะขึ้นอยู่กับความพร้อมของ ท้อง<br />
ถิ่น เช่น เก็บเกี่ยวผลผลิตในท้องถิ่นเรียบร้อยแล้ว และที่สำาคัญหมู่บ้าน นี้<br />
มีข้อห้ามในการเล่นการพนัน และดื่มสุรา<br />
ผู้มาเยือนสามารถพักค้างคืนที่บ้านชาวกะเหรี่ยง หมู่บ้านเจ้าวัดยางแดง<br />
หรือบ้านพักในศูนย์วัฒนธรรมซึ่งในบริเวณมีพิพิธภัณฑ์ชาวเขาอยู่ด้วย<br />
ติดต่อ โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๒๐๒๖ ในเวลาราชการ และจำาหน่ายสินค้าหัตถกรรม<br />
ผ้าทอพื้นเมืองสีธรรมชาติ เครื่องจักสานไม้ไผ่ และผลผลิตการเกษตรตาม<br />
ฤดูกาล<br />
การเดินทาง จากอำาเภอบ้านไร่ ไปตามทางหลวงหมายเลข ๓๐๑๑ สาย<br />
บ้านไร่-พุบอน ประมาณ ๒๐ กิโลเมตร สุดถนนลาดยาง แล้วไปตามถนน<br />
ลูกรังอัดอีก ๑ กิโลเมตร<br />
ผ้าทอบ้านไร่
๒๘ ๒๙<br />
ถ้ำาเกร็ดดาว เลยจากศูนย์วัฒนธรรมชาวเขาบ้านอีมาด-อีทราย ไปประมาณ<br />
๑ กิโลเมตร จะมีทางเดินเท้าต่อไปถ้ำาเกร็ดดาว จากปากถ้ำามีบันไดไม้ไผ่<br />
ทอดยาวลงไปในถ้ำา เป็นถ้ำาขนาดใหญ่ ในถ้ำามีแท่งหินใหญ่ เมื่อถูกแสง<br />
จะเป็นประกาย เพดานถ้ำาเต็มไปด้วยค้างคาว และชาวบ้านได้ใช้ขี้ค้างคาว<br />
เป็นปุ๋ยใส่ไร่นา สิ่งที่ต้องเตรียมไปด้วยเวลาเที่ยวถ้ำา คือ ไฟฉาย<br />
นำ้ำตกตาดดาว เลยจากปากทางเข้าถำ้ำเกร็ดดาวไปเล็กน้อย ฝั่งตรงข้ามเป็น<br />
ทางเข้านำ้ำตกตาดดาว ไหลผ่านโขดหินลงมา ๙ ชั้น บริเวณโดยรอบเป็น<br />
ป่า สมบูรณ์<br />
สวนพฤกษศาสตร์ เลยจากศูนย์วัฒนธรรมมาประมาณ ๕ กิโลเมตร สภาพ<br />
เป็นธรรมชาติ อากาศเย็นสบาย ใช้เวลาเดินเที่ยวประมาณ ๑ ชั่วโมง ใน<br />
สวนปลูกไม้ท้องถิ่นที่มีประโยชน์และมีความหลากหลายของพันธุ์พืช เช่น<br />
สะเดาป่า นำาผลและใบมาทำายาป้องกันแมลง ต้นสบู่ นำาผลแก่มาอาบนำ้ำ<br />
สระผม ซักเสื้อผ้า รางจืด มีสรรพคุณแก้เมา บางอย่างก็มีพิษ เช่น ขนของ<br />
ต้นช้างร้อง มีฤทธิ์ทำาให้คันหากโดนเข้าจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อน ยาน่อง มี<br />
ยางที่เป็นพิษ พรานสมัยก่อนนำามาทาที่ปลายลูกดอกเพื่อใช้ล่าสัตว์ เป็นต้น<br />
เทศกาลงานประเพณี<br />
งานตักบาตรเทโว วัดสังกัสรัตนคีรี ถือเป็นประเพณีสำาคัญในวันออกพรรษา<br />
ของจังหวัดอุทัยธานี จัดขึ้นในวันแรม ๑ ค่ำา เดือน ๑๑ (ตุลาคม) ของทุกปี<br />
พระสงฆ์ทุกรูปที่จำาพรรษาในอำาเภอเมืองอุทัยธานีประมาณ ๕๐๐ รูป จะเดิน<br />
ลงบันไดเป็นแถวจากยอดเขาสะแกกรังนำาด้วยพระพุทธรูปปางเสด็จจาก<br />
ดาวดึงส์ลงมารับบิณฑบาตข้าวสาร อาหารแห้งจากพุทธศาสนิกชนที่ลานวัด<br />
โดยสมมติมณฑปบนยอดเขาสะแกกรังเป็น “สิริมหามายากูฎคาร” ที่พระ<br />
พุทธเจ้าทรงเทศน์โปรดพระพุทธมารดา แล้วเสด็จกลับสู่โลกมนุษย์ลงบันได<br />
๓๓๙ ขั้น ซึ่งถือเป็นบันไดแก้วสู่สังกัสนคร คือ บริเวณวัดสังกัสรัตนคีรี ในวัน<br />
นั้นประชาชนจะแต่งกายสวยงามและมาร่วมทำาบุญกันอย่างพร้อมเพรียง<br />
นับเป็นงานประเพณีที่มีชื่อเสียงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทุกปี ในวัน<br />
นี้คหบดีของจังหวัดอุทัยธานี จะนำางาช้างเก่าแก่ที่สะสมไว้มาจัดเป็นโต๊ะหมู่<br />
บูชาเพื่อรำาลึกถึงบุญคุณที่ช้างมีต่อชาวอุทัยธานี ซึ่งแต่ก่อนมีอาชีพทำาไม้<br />
นักท่องเที่ยวสามารถชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้ด้วย ซึ่งใน ๑ ปีจะมีเพียง<br />
วันเดียวเท่านั้น<br />
งานไหว้พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ วัดสังกัสรัตนคีรี เป็นงานท้องถิ่น จัดใน<br />
วันขึ้น ๓-๘ ค่ำา เดือน ๔ ของทุกปี เป็นงานประเพณีไหว้พระคู่บ้านคู่เมือง<br />
อุทัยธานี ซึ่งเดิมนั้นเป็นงานนมัสการปิดทองพระพุทธบาทจำาลองบนยอด<br />
เขาสะแกกรัง ในระยะหลังจึงจัดงานในคราวเดียวกันที่วัดนี้ในวันขึ้น ๕ ค่ำ า<br />
เนื ่องจากเป็นวันที ่พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่มาไหว้พระพุทธมงคลศักดิ ์สิทธิ์<br />
และขึ้นยอดเขาเพื่อปิดทองพระพุทธบาทจำาลองมากที่สุด และได้จัดให้มี<br />
การละเล่นสนุกสนานควบคู่กันไปทุกปี<br />
งานวันมรดกโลกห้วยขาแข้ง จัดระหว่างวันที่ ๕-๙ ธันวาคม ของทุกปี<br />
เนื่องในโอกาสที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้รับการประกาศจาก<br />
UNESCO ให้เป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ” เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๓๔<br />
และคณะรัฐมนตรีจึงมีมติอนุมัติให้วันที่ ๙ ธันวาคม ของทุกปี เป็นวัน<br />
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง-ทุ่งใหญ่นเรศวรมรดกโลก โดยมีกิจกรรม<br />
อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจัดค่ายพักแรม ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ริ้วขบวนแห่<br />
ประกวดหุ่นสัตว์ เป็นต้น<br />
งานวันรำาลึกสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก และงานกาชาดจังหวัดอุทัย<br />
ธานี จัดระหว่างวันที่ ๒๗ มีนาคม-๕ เมษายน ของทุกปี ณ บริเวณ<br />
สนามกีฬาจังหวัด เพื่อสักการะและรำาลึกถึงสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก<br />
แห่งรัชกาลที่ ๑<br />
งานประจำาปีวัดหนองขุนชาติอำาเภอหนองฉาง จัดวันขึ้น ๑๒ ค่ำา ถึง วันแรม<br />
๕ ค่ำา เดือน ๓ ของทุกปี เดิมเป็นงานนมัสการพระพุทธบาทจำาลอง ต่อมา<br />
ได้รับความนิยมมากจึงจัดเป็นงานประจำาปี<br />
การละเล่นพื้นเมืองที่บ้านท่าโพ อำาเภอหนองขาหย่าง จัดขึ้นในเทศกาล<br />
ตรุษสงกรานต์ คือระหว่างวันที่ ๑๓-๑๔ เมษายน โดยชาวบ้านในหมู่บ้าน<br />
ท่าโพและหมู่บ้านพันสี จะมาร่วมกันจัดการละเล่นพื้นเมืองที่วัดท่าโพ<br />
เล่นเพลงชักกะเย่อ เพลงโลม เพลงรำาวงโบราณอย่างสนุกสนานแต่ละ<br />
เพลงมีท่ารำาประกอบเฉพาะ ผลัดกันเล่นมอญซ่อนผ้า เจี๊ยบๆ จ้อย ช่วงชัย<br />
เสือกินวัว และแม่ศรี ตามแต่จะแข่งขันกัน การละเล่นต่างๆ ในหมู่บ้าน<br />
แห่งนี้ส่วนใหญ่ยังใช้เนื้อร้องเพลงแบบเดิมคงไว้ซึ่งประเพณีปฏิบัติกันมา<br />
หลายชั่วอายุคน<br />
การละเล่นของชาวกะเหรี่ยง ณ หมู่บ้านกะเหรี่ยง ตำาบลคอกควาย และ<br />
ตำาบลแก่นมะกรูด อำาเภอบ้านไร่ ยังคงรักษาประเพณีเดิมไว้ มีเต้นรำาเชอ<br />
โฮเตตามจังหวะ การร้องเพลงกล่อมลูก เป็นต้น ประเพณีการแต่งงานและ<br />
การหย่าร้าง การนับถือผี งานบุญเจ้าวัด และการทอผ้าพื้นเมือง เป็นต้น<br />
งานแห่เจ้าของชาวจีนในอุทัยธานี เป็นประเพณีของชาวจีนในอุทัยธานีที่<br />
จะจัดพิธีแห่เจ้าพ่อและเจ้าแม่ซึ่งประดิษฐานอยู่ตามศาลต่างๆ โดยกำาหนด<br />
มีงานตามการครบปีของเจ้าแต่ละองค์ ซึ่งบางองค์ ๕ ปีแห่ครั้งหนึ่ง<br />
บางองค์ ๑๒ ปีแห่ครั้งหนึ่ง บางองค์ ๑๔ ปีแห่ครั้งหนึ่ง ไม่เหมือนกัน การ<br />
แห่เจ้าพ่อปุงเถ่ากง เจ้าพ่อหลักเมืองอุทัยธานี มีขบวนสาวงามถือธงร่วม<br />
ขบวนเป็นแถวยาวผ่านตลอดไปตามถนนรอบเมือง และมีสิงโตคณะต่างๆ<br />
ของชาวจีนในอุทัยธานีร่วมให้พรตามร้านค้าคนจีนในตลาด ซึ่งทุกร้าน
๓๐ ๓๑<br />
จะตั้งโต๊ะบูชาประดับด้วยงาช้างขนาดใหญ่สวยงาม ถ้าเป็นงานของเจ้าแม่<br />
ทับทิม “จุ้ยบ้วยเนี้ยว” จะมีพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงเจ้าแม่เมื่อครบ ๑๒ ปี และ<br />
พิธีเข้าทรงทำาการลุยไฟด้วย<br />
สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก<br />
ปลาแรดสะแกกรัง เป็นปลาเลี้ยงในแม่นำ้ำสะแกกรัง ตัวโตขนาด ๒ กิโลกรัม<br />
ใช้ทอดกรอบกับกระเทียมพริกไทย รสอร่อยจิ้มนำ้ำปลามะนาว<br />
ปลาเทโพและปลาสวาย ใช้นึ่งผสมเครื่องปรุง หรือใช้แกงกับหน่อไม้ทำา ปลา<br />
เจ่า มันปลาจะช่วยเพิ่มรสอาหารให้อร่อย<br />
ปลาลวก เป็นอาหารที่มีชื่อของอุทัยธานีรับประทานกับข้าวต้ม จำาหน่าย ที่<br />
ตลาดกลางคืน ใช้ปลาช่อนสดลวกนำ้ำร้อนผสมเครื่องปรุงมีรสอร่อย<br />
ปลาย่าง นิยมปลาเนื้ออ่อนย่าง ปลากดย่างและรมควันอย่างโบราณ กลิ่น<br />
หอมน่ารับประทาน<br />
ส้มโอเกาะเทโพ เป็นส้มที่ปลูกบนเกาะเทโพ รสหวาน ส่งจำาหน่ายที่ตลาด<br />
มโนรมย์จนเป็นที่รู้จัก<br />
หน่อไม้รวกเขาสะแกกรัง เป็นหน่อไม้จากต้นไผ่รวกที่ขึ้นบนเขาสะแกกรัง<br />
มีรสชาติหวานกรอบ บรรจุใส่ขวดเพื่อเป็นของฝาก สามารถเก็บไว้ได้นาน<br />
นับปี หน่อไม้หน่อสั้นสำาหรับรับประทานกับนำ้ำพริก และหน่อยาวใช้<br />
ประกอบอาหาร<br />
เห็ดโคนดอง เป็นเห็ดที่ขึ้นในป่าอำาเภอบ้านไร่และอำาเภอทัพทัน มีเนื้อ แน่น<br />
กรอบอร่อย แตกต่างจากเห็ดโคนที่อื่น และนิยมทำาเป็นเห็ดโคนดองบรรจุ<br />
ขวด นำาไปประกอบอาหารได้หลายชนิด<br />
ผ้าทอพื้นเมือง มีทั้งผ้าไหมและผ้าฝ้าย ผลิตกันมากในหมู่บ้านโคกหม้อ<br />
อำาเภอทัพทัน และหมู่บ้านลาวต่าง ๆ เช่น หมู่บ้านผาทั่ง หมู่บ้านนาตาโพ<br />
หมู่บ้านสะนำา หมู่บ้านห้วยแห้ง หมู่บ้านทองหลาง ซึ่งอยู่ในอำาเภอบ้านไร่<br />
บ้านใหม่ ไทยอีสาน อำาเภอลานสัก<br />
เครื่องจักสานท่ารากหวาย เป็นภาชนะสานด้วยไม้ไผ่บนเกาะเทโพ ทำาเป็น<br />
กระเป๋าถือ ตะกร้า กระบุง กระจาด ทุกรูปแบบได้รับความนิยมมากเพราะ<br />
ฝีมือประณีต นอกจากนี้ยังมีเครื่องจักสานทำาจากผักตบชวา เช่น หมวก<br />
และกระเป๋า<br />
ข้าวเกรียบปลา และข้าวกุ้งกรอบ ผลิตจากกุ้ง และปลากรายแท้ๆ ข้าวกุ้ง<br />
กรอบ อร่อย หวาน เค็ม ได้รสชาติของปลาและกุ้งจากธรรมชาติ<br />
นำ้ำปลาปลาสร้อยท่าซุง เป็นนำ้ำปลาแท้ทำาจากปลาสร้อยที่อยู่ในแม่นำ้ำ สะแก<br />
กรัง โดยเฉพาะตำาบลท่าซุง เป็นนำ้ำปลาที่สะอาด มีกลิ่นหอม แต่ยัง ผลิต<br />
ได้จำานวนไม่มากนัก<br />
ขนมกงหนองแก เป็นขนมหวานที่ผลิตจากหมู่บ้านหนองแกรสอร่อยหวาน<br />
หอมตามตำารับเดิม ซึ่งมีชื่อเสียงดังคำากล่าวขานที่ว่า “นำ้ำยานำ้ำทรง ขนม<br />
กงหนองแก” ทำาจำาหน่ายวันต่อวัน<br />
ยาลมจีน เป็นยาลมจีนสูตรโบราณที่ผสมครบตามตำารา มีชื่อทั่วประเทศ<br />
ตัวยาแรงมาก ขายเป็นขีดและบรรจุขวด ผลิตกันหลายยี่ห้อ<br />
ผลไม้แช่นำ้ำผึ้ง เป็นผลไม้แห้งผสมนำ้ำผึ้งเก็บไว้ได้นาน รับประทานอร่อย มี<br />
ทั้งมะม่วง กระท้อน มะเฟือง มะขาม พุทรา มะยม ที่นิยมกันมาก คือ<br />
มะม่วงแช่นำ้ำผึ้ง และมะขามแช่อิ่ม<br />
กระยาสารท ผสมนำ้ำผึ้งรสหวานหอม กรอบอร่อย ต่างจากท้องที่อื่น<br />
ขนมปังสังขยา เป็นขนมปังลูกเล็กเนื้อนุ่มสอดไส้สังขยา หรือ ไส้ใบเตย<br />
รสชาติหวานหอม ทำาจำาหน่ายวันต่อวัน<br />
ร้านจำาหน่ายของที่ระลึก<br />
อำาเภอเมืองอุทัยธานี<br />
กลุ่มชุมชนรักการดีพัฒนา (มีดช่างแขก) ๕๐/๔ ถนนรักการดี ตำาบลอุทัยใหม่<br />
โทร. ๐๘ ๑๘๘๘ ๑๔๑๐ โทรสาร ๐ ๕๖๕๗ ๑๓๓๔<br />
เครื่องหอมไทยเดิม ๖๒ หมู่ ๖ ตำาบลเกาะเทโพ โทร. ๐๘ ๑๙๗๓ ๒๙๓๑<br />
(ธูป ทอมกันยุงกลิ่นตะไคร้หอม ธูปหอมอโรมา กำายาน นำ้ำมันหอมระเหย<br />
ตามราศี เทียนรำ่ำผ้า เทียนอบขนม นำ้ำหอมไทยเดิม ยาดมสมุนไพร)<br />
ฉัตรอุทัย ๗๓ ถนนมหาราช ตำาบลอุทัยใหม่ โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๗๑๒,<br />
๐ ๕๖๕๗ ๑๔๒๗ เปิด ๐๖.๐๐-๑๙.๐๐ น. (ข้าวกุ้งกรอบ ข้าวเกรียบปลาก<br />
ราย แคบหมู หนังปลา)<br />
ซามิ้นโอสถ (ยาหอมทับทิม) ๕๗ ถนนท่าช้าง โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๓๑๔<br />
(ยาแผนโบราณ)<br />
ตั้งยู่ฮวด ๕๖๑ ถนนศรีอุทัย ตำาบลอุทัยใหม่ โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๒๘๕, ๐ ๕๖๕๑<br />
๑๐๓๖, ๐๘ ๑๘๘๖ ๗๒๑๗ เปิด ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น. (ผลไม้แช่อิ่มชนิดต่างๆ)<br />
ปลาแรดบ้านโรงนำ้ำแข็ง ๓๑ หมู่ ๕ ตำาบลท่าซุง โทร. ๐๘ ๑๙๕๓ ๙๘๖๖<br />
เปี๊ยกโบวี่ ๒๒ หมู่ ๕ ตำาบลสะแกกรัง โทร. ๐ ๕๖๕๒ ๔๑๖๓, ๐๘ ๑๙๗๓<br />
๘๙๘๓ , ๐๘ ๑๗๔๐ ๒๗๕๕ (มีสาขาในเมืองบริเวณวงเวียนปลาแรด เยื้อง<br />
ร้าน 7-11)<br />
ไพพรรณ ๓๙๑ ถนนศรีอุทัย โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๖๖๐ เปิด ๐๗.๐๐-๑๙.๐๐ น.<br />
(ผลไม้แช่อิ่มชนิดต่าง ๆ เบเกอรี่ ขนมปังสังขยา ขนมไทย)<br />
มีดช่างทิน ๒/๕ หมู่ ๓ ตำาบลหนองไผ่แบน โทร. ๐ ๕๖๕๒ ๔๐๓๕, ๐๘<br />
๙๘๕๖ ๓๕๘๕
๓๒ ๓๓<br />
แม่ป่วยลั้ง ๑ ๗๕ ถนนมหาราช โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๗๗๕ เปิด ๐๖.๐๐-๒๐.๐๐ น.<br />
(ข้าวกุ้งกรอบ ข้าวเกรียบปลากราย ข้าวตังหมูหยอง ข้าวตังหน้างา แคบหมู<br />
หนังปลา)<br />
แม่ป่วยลั้ง ๒ ๔๙/๑๐-๑๑ ถนนรักการดี หน้าโรงพยาบาลอุทัยธานี โทร.<br />
๐ ๕๖๕๑ ๓๙๗๕ เปิด ๐๗.๐๐-๒๐.๐๐ น. (ข้าวกุ้งกรอบ ข้าวเกรียบปลากราย<br />
ข้าวตังหมูหยอง ข้าวตังหน้างา แคบหมู หนังปลา)<br />
ส. ฉัตรอุทัย ๑๒๗ ถนนเติบศิริ ตำาบลอุทัยใหม่ โทร. ๐ ๕๖๕๗ ๑๔๒๗<br />
เปิด ๐๖.๐๐-๑๙.๓๐ น. (ข้าวเกรียบปลากราย แคบหมู หนังปลา<br />
และของฝากประจำาจังหวัด)<br />
หมอวิรัติ (ยาหอมซามิ้น) ๔๔ ถนนมหาราช โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๓๘๙<br />
(ยาจีนแผนโบราณ)<br />
ร้านบุษวะดี ๑๑๗ ถนนสุนทรสถิตย์ ตำาบลอุทัยใหม่ โทร. ๐ ๕๖๕๒ ๔๒๐๓<br />
เปิด ๐๙.๐๐-๒๑.๐๐ น. (จำาหน่ายสินค้า OTOP ของจังหวัดอุทัยธานี<br />
และจังหวัดใกล้เคียง)<br />
กลุ่มผู้ผลิตและจำาหน่ายผ้าทอ<br />
อำาเภอเมืองอุทัยธานี<br />
ร้านไหมแกมฝ้าย ๕๐/๓ ถนนรักการดี โทร. ๐ ๕๖๕๒ ๔๓๐๓ (ผ้าฝ้าย<br />
ผ้าไหม ผ้าทอ ผ้าจก ผ้าใยกัญชา ชุดสำาเร็จรูป)<br />
อำาเภอหนองขาหย่าง<br />
กลุ่มทอผ้าตีนจกดงขวาง หมู่ ๑ (วัดดงขวาง) บ้านดงขวาง โทร. ๐ ๕๖๕๙<br />
๗๐๙๓ (ผ้าจก)<br />
กลุ่มทอผ้าบ้านห้วยรอบ ๓๗ หมู่ ๒ บ้านห้วยรอบ ตำาบลห้วยรอบ โทร.<br />
๐๘ ๖๒๑๓ ๔๒๑๐ (ผ้ามัดหมี่ ผ้าไหมประดิษฐ์)<br />
กลุ่มรวมใจพัฒนา หมู่ ๔ ตำาบลหนองไผ่ (ผ้าพื้น ไหมประดิษฐ์)<br />
ศูนย์ฝึกอาชีพตำาบลห้วยรอบ หมู่ ๓ ตำาบลห้วยรอบ โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๓๒๓๔<br />
(ผ้าไหมประดิษฐ์)<br />
อำาเภอทัพทัน<br />
กลุ่มทอผ้าบ้านโคกหม้อ ๔/๑ หมู่ ๒ บ้านโคกหม้อ ตำาบลโคกหม้อ โทร.<br />
๐ ๕๖๕๑ ๓๔๔๘, ๐๘ ๑๓๗๙ ๑๒๐๐ (ผ้าไหมลายโบราณ ผ้ามัดหมี่)<br />
กลุ่มทอผ้าแม่บ้านเกษตรกรโคกหม้อ หมู่ ๒ บ้านโคกหม้อ โทร. ๐ ๕๖๕๑<br />
๓๑๘๙, ๐๘ ๙๙๐๖ ๙๙๒๙, ๐๘ ๑๘๘๗ ๖๗๔๐ (ผ้ามัดหมี่ ผ้าพื้น)<br />
อำาเภอบ้านไร่<br />
กลุ่มทอผ้าบ้านทัพคล้าย ๓๙ หมู่ ๒ บ้านทัพคล้าย ตำาบลทัพหลวง โทร.<br />
๐๘ ๙๖๗๙ ๗๒๓๔ (ผ้าจก)<br />
กลุ่มทอผ้าบ้านทัพหลวง ๓ หมู่ ๑ บ้านทัพหลวง ตำาบลทัพหลวง โทร.<br />
๐ ๕๖๕๔ ๖๑๒๘ (ผ้าจก ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าห่ม ผ้าคลุมเตียง)<br />
กลุ่มทอผ้าบ้านนาตาโพ ๒๙ หมู่ ๓ บ้านนาตาโพ ตำาบลบ้านบึง โทร.<br />
๐ ๕๖๕๓ ๙๓๖๒, ๐๘ ๑๙๗๑ ๐๕๒๑ (ผ้าฝ้ายลายโบราณ ผ้ามัดหมี่ฝ้าย<br />
ผ้าไหม ผ้าขิด ผ้าจก)<br />
กลุ่มทอผ้าบ้านเนินคีรี ๓๖/๑ หมู่ ๑๐ ตำาบลทับหลวง โทร. ๐ ๕๖๕๔<br />
๒๔๖๐, ๐ ๕๖๕๔ ๖๑๕๘<br />
กลุ่มทอผ้าไพจิตต์ ๒๙ หมู่ ๓ บ้านนาตาโพ ตำาบลบ้านบึง โทร. ๐๘ ๑๙๗๑<br />
๐๕๒๑, ๐๘ ๑๙๕๓ ๒๓๗๒, ๐๘ ๑๙๗๒ ๔๓๔๑ (ผ้าจก)<br />
กลุ่มผ้าทอพื้นเมืองลายโบราณ บ้านผาทั่ง ๓๒ หมู่ ๒ บ้านผาทั่ง<br />
ตำาบลห้วยแห้ง โทร. ๐ ๕๖๕๓ ๙๑๕๗ (ผ้าจก ผ้าฝ้าย)<br />
กลุ่มทอผ้าศรีนิน ๗๓ หมู่ ๑ ตำาบลบ้านบึง โทร. ๐ ๕๖๕๔ ๖๑๒๕,<br />
๐๘ ๑๗๘๕ ๖๐๗๐ (ผ้าจก ผ้าไหม ผ้าคลุมไหล่ ผ้าคลุมเตียง ผ้าขาวม้า)<br />
กลุ่มทอผ้าบ้านพูลสุข ๘๖/๑ หมู่ ๒ ตำาบลบ้านบึง โทร. ๐ ๕๖๕๓ ๙๔๑๒<br />
ตัวอย่างโปรแกรมนำาเที่ยว<br />
วันที่ ๑ -ออกเดินทาง จากกรุงเทพฯ ถึง จังหวัดอุทัยธานี<br />
-ขึ้นยอดเขาสะแกกรังชมทิวทัศน์เมืองอุทัยธานี<br />
กราบรอยพระพุทธบาท ตีระฆัง ๑๐๐ ปี<br />
สักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปฐมบรม<br />
มหาชนกนาถ<br />
-รับประทานอาหารกลางวันบนเรือ ชมวิถีชีวิตชาว<br />
แพสองฝั่งแม่นำ้ำสะแกกรัง<br />
-ขึ้นเรือที่วัดท่าซุง นมัสการหลวงพ่อฤาษีลิงดำา<br />
และชมความงดงามของวิหารแก้ว<br />
-ออกเดินทางไปเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง<br />
อำาเภอลานสัก<br />
-สักการะรูปปั้นคุณสืบ นาคะเสถียร วีรบุรุษแห่ง<br />
การอนุรักษ์ธรรมชาติ ฟังบรรยายสรุป<br />
ชมสไลด์ภาพสัตว์ป่าหายาก รับประทาน<br />
อาหารเย็น<br />
-พักค้างคืน
๓๔ ๓๕<br />
วันที่ ๒ -สูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า เดินป่าศึกษา<br />
ธรรมชาติตามตามความเหมาะสม<br />
โดยเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า<br />
-ชมผ้าทอลายโบราณ บ้านนาตาโพ บ้านผาทั่ง<br />
อำาเภอบ้านไร่<br />
-เดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยทางหลวงหมายเลข<br />
๓๓๓ อำาเภอบ้านไร่-อำาเภอด่านช้างสุพรรณบุรี<br />
ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ<br />
สิ่งอำานวยความสะดวกในจังหวัดอุทัยธานี<br />
สถานที่พัก<br />
(ราคาห้องพักในเอกสารนี้เปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามจากโรงแรมก่อน<br />
เข้าพัก)<br />
อำาเภอเมืองอุทัยธานี<br />
๓๓๓ เฮาส์ ๑/๑-๑๒ ถนนพหลโยธิน ตำาบลสะแกกรัง โทร. ๐ ๕๖๕๒ ๔๘๘๓<br />
จำานวน ๔๐ ห้อง ราคา ๒๐๐-๔๕๐ บาท<br />
บ้านจ่าพงษ์ โฮมสเตย์ ๒๑ หมู่ ๕ ตำาบลเกาะเทโพ โทร. ๐ ๕๖๙๘ ๐๑๒๒,<br />
๐๘ ๖๕๙๑ ๐๔๑๙ จำานวนบ้าน ๒ หลังคาเรือน ราคา ๓๕๐ (รวมอาหาร<br />
๒ มื้อ)<br />
บ้านเจ้าพระยา ๗๒/๕ ตำาบลเกาะเทโพ โทร. ๐๘ ๑๙๐๙ ๑๙๖๕ ราคา<br />
๑,๒๐๐-๑,๘๐๐ บาท<br />
บ้านสวนชลัมภ์ รีสอร์ท ๑๔๒ หมู่ ๘ ตำาบลนำ้ำทรง โทร. ๐๘ ๖๒๑๓ ๗๕๑๔,<br />
๐๘ ๑๐๓๘ ๑๘๑๒ www.baansuanchalum.com, E-mail:baansuanchalum@<br />
yahoo.com จำานวน ๓๐ ห้อง ราคา ๑,๒๐๐-๒,๕๐๐ บาท<br />
พญาไม้ รีสอร์ท ๓๔-๓๖ หมู่ ๑ ถนนสะแกกรัง ตำาบลสะแกกรัง โทร.<br />
๐ ๕๖๕๗ ๑๗๖๗, ๐๘ ๑๖๗๔ ๑๙๙๒ www.payamairesort.com จำานวน<br />
๒๐ ห้อง ราคา ๘๐๐-๑,๖๐๐ บาท บริการล่องเรือ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา<br />
๐๘.๓๐ น. ราคา ๕๐ บาท/ คน หากเช่าเหมาลำา (ไม่เกิน ๒๐ คน) คิด<br />
ราคาตามระยะทาง<br />
พิบูลย์สุข ๓๓๖ ถนนศรีอุทัย ตำาบลอุทัยใหม่ โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๐๔๘,<br />
๐ ๕๖๕๑ ๑๖๔๗ โทรสาร ๐ ๕๖๕๑ ๑๐๐๓ จำานวน ๗๙ ห้อง ราคา ๑๙๐-<br />
๖๐๐ บาท<br />
ริมนที โฮมสเตย์ ๖๐ หมู่ ๕ บ้านโรงนำ้ำแข็ง ตำาบลท่าซุง โทร. ๐๘ ๑๔๗๕<br />
๙๙๒๑, ๐๘ ๑๘๘๘ ๖๗๙๒ จำานวน ๘ หลังคาเรือน ราคา ๒๐๐-๒,๐๐๐ บาท<br />
ริเวอร์ มารีน่า รีสอร์ท ๑๑๐ หมู่ ๔ เกาะเทโพ ตำาบลท่าซุง โทร. ๐<br />
๕๖๕๐ ๒๖๔๗, ๐๘ ๙๕๓๓ ๗๕๕๙ www.rivermarinaresort.com,<br />
E-mail:rivermarina@thailand.com จำานวน ๙ ห้อง ราคา ๖๐๐-๑,๓๐๐<br />
บาท<br />
วันเพ็ญ โฮมสเตย์ ถนนเกาะเทโพ-ท่าซุง โทร. ๐๘ ๑๙๕๓ ๙๘๖๖ จำานวน<br />
๕ หลัง ราคา ๒๐๐ บาท/ คน<br />
ห้วยขาแข้งเชษฐศิลป์ ๒๖ ถนนพหลโยธิน ตำาบลอุทัยใหม่ โทร. ๐ ๕๖๕๒<br />
๔๘๓๓-๕, ๐ ๕๖๕๑ ๑๒๖๓ โทรสาร ๐ ๕๖๕๑ ๑๒๖๔ จำานวน ๑๒๐ ห้อง<br />
ราคา ๗๕๐-๒,๕๐๐ บาท<br />
อมรสุข ๑ ๗๑/๒๓ ถนนรักการดี ตำาบลอุทัยใหม่ (ตรงข้ามโรงพยาบาลอุทัย<br />
ธานี) โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๖๙๓ โทรสาร ๐ ๕๖๕๒ ๔๓๓๙ จำานวน ๓๗ ห้อง<br />
ราคา ๑๕๐-๔๐๐ บาท<br />
อมรสุข ๒ ๔๐/๑๒ ถนนมณีรัตน์ ตำาบลอุทัยใหม่ โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๒๑๖๔<br />
จำานวน ๒๒ ห้อง ราคา ๑๕๐-๓๕๐ บาท<br />
อุทัย ริเวอร์ เลค ๘ หมู่ ๕ ตำาบลเกาะเทโพ โทร. ๐ ๕๖๙๘ ๐๐๔๔-๕,<br />
๐๘ ๙๑๖๒ ๘๑๘๘, ๐๘ ๑๘๘๖ ๕๗๙๓ www.uthairiverlake.com จำานวน<br />
๒๐ ห้อง ราคา ๑,๗๐๐-๒,๘๐๐ บาท<br />
ไอยรา ปาร์ค โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ๕๕ หมู่ ๔ ตำาบลหาดทนง อยู่บนทาง<br />
หลวงหมายเลข ๓๓๓ ก่อนถึงตัวเมืองอุทัยธานี ๘ กิโลเมตร โทร. ๐ ๕๖๕๑<br />
๖๓๓๓ โทรสาร ๐ ๕๖๕๑ ๖๒๒๒ กรุงเทพฯ โทร. ๐ ๒๒๕๙ ๘๕๑๑-๖<br />
โทรสาร ๐ ๒๒๕๙ ๘๕๑๐ www.iyarapark.com, E-mail: reservation@<br />
iyarapark.com จำานวน ๓๕๘ ห้อง ราคา ๕,๖๐๐-๔๕,๐๐๐ บาท บังกะโล<br />
๓๒ หลัง ราคา ๓,๕๐๐-๕,๓๐๐ บาท<br />
อำาเภอบ้านไร่<br />
ปางนเรศวร์ รีสอร์ท ๑๑๓ หมู่ ๓ ถนนบ้านอีหลุบ-เขาพุเตย ตำาบลบ้านไร่<br />
โทร. ๐ ๕๖๕๗ ๙๑๕๐, ๐๘ ๑๙๘๖ ๔๐๙๙ กรุงเทพฯ โทร. ๐ ๒๕๖๑ ๑๔๑๗,<br />
๐ ๒๕๗๙ ๑๒๙๕ บ้านพัก ๓ หลัง (๑๒ ห้อง) ราคา ๕๐๐-๘๐๐ บาท<br />
ภูเคียงเดือน ๒๕๙ หมู่ ๑ ตำาบลบ้านไร่ โทร ๐๘ ๑๗๐๗ ๔๘๕๑ http://<br />
phukeangduan.9nha.com จำานวนบ้านพัก ๓ หลัง ห้องพัก ๙ ห้อง<br />
ราคา ๓๕๐-๗๐๐ บาท<br />
ภูแสงทอง รีสอร์ท ๑๙๙ หมู่ ๘ ตำาบลบ้านไร่ โทร. ๐ ๕๖๕๘ ๖๓๐๙ โทรสาร<br />
๐ ๕๖๕๘ ๖๓๑๐ www.phuseangthong.com จำานวน ๔๙ ห้อง ราคา<br />
๑,๕๐๐-๖,๐๐๐ บาท บรรยากาศท่ามกลางสวนปาล์ม
๓๖ ๓๗<br />
วัฒนา เกสต์เฮาส์ ๙๙ หมู่ ๑ ตำาบลบ้านไร่ บริเวณสี่แยก ปตท. เลี้ยวขวา<br />
๓๐๐ เมตร โทร. ๐ ๕๖๕๓ ๐๙๔๒, ๐ ๕๖๕๓ ๙๓๑๑ จำานวน ๒๑ ห้อง<br />
ราคา ๒๘๐-๓๘๐ บาท<br />
ห้วยขาแข้งคันทรีโฮม รีสอร์ท ๑๐๒ หมู่ ๘ ถนนบ้านไร่-ลานสัก ตำาบล<br />
คอกควาย โทร. ๐๘ ๑๘๖๗ ๔๙๖๗, ๐๘ ๑๙๗๓ ๑๒๑๓ โทรสาร ๐ ๕๖๕๒<br />
๔๕๔๗ www.countryhomeresort.com, E-mail: hkk_cth@yahoo.com<br />
จำานวน ๕๐ หลัง ราคา ๘๐๐-๑,๗๐๐ บาท<br />
ห้วยป่าปก รีสอร์ท ๑๔๙ หมู่ ๓ ตำาบลบ้านไร่ โทร. ๐ ๕๖๕๙ ๖๑๕๐-๔,<br />
๐ ๕๖๕๙ ๖๐๐๐-๑, ๐๘ ๑๙๕๓ ๑๕๓๒ โทรสาร ๐ ๕๖๕๙ ๖๑๕๒ www.<br />
huayparpok.com บ้านพัก ๘๕ หลัง ราคา ๑,๒๐๐-๔,๒๐๐ บาท<br />
อวตาร มิราเคิล ๔๕๔ หมู่ ๓ ตำาบลบ้านไร่ โทร. ๐ ๕๖๕๙ ๖๑๖๔ โทรสาร<br />
๐ ๕๖๕๙ ๖๑๐๙ กรุงเทพฯ โทร. ๐ ๒๕๑๓ ๖๑๗๑ โทรสาร ๐ ๒๕๑๓ ๖๑๘๘<br />
www.avataarange.com จำานวน ๖๔ ห้อง ราคา ๕,๓๐๐-๑๘,๐๐๐ บาท<br />
อำาเภอหนองฉาง<br />
เฉ่ง รีสอร์ท ๒๗๗ หมู่ ๕ ตำาบลหนองฉาง โทร. ๐ ๕๖๕๒ ๑๓๙๖,<br />
๐๘ ๑๗๔๕ ๙๕๕๒ http://chengresort.9nha.com จำานวน ๙ ห้อง ราคา<br />
๓๕๐-๔๓๐ บาท<br />
ศรีวิจิตร รีสอร์ท ๑๑๖/๓ หมู่ ๑ ตำาบลหนองสรวง โทร. ๐ ๕๖๕๒ ๑๔๘๓-๔<br />
จำานวน ๒๖ ห้อง ราคา ๓๕๐-๔๐๐ บาท<br />
อำาเภอลานสัก<br />
นวรัตน์ โฮมสเตย์ ๓๑๓/๑ ตำาบลทุ่งนางาม โทร. ๐๘ ๗๐๐๓ ๔๕๗๑<br />
จำานวน ๑ หลังใหญ่ รับได้ ๕๐ คน ราคา ๕๐๐ บาท/ คน/ คืน ค่าอาหาร<br />
๕๐ บาท/ คน<br />
บ้านจีระดิษฐ์ ๑๘๘/๑ หมู่ ๒ ตำาบลลานสัก โทร. ๐ ๕๖๕๒ ๒๐๙๘ ห้องพัก<br />
๑๕ ห้อง ราคา ๓๐๐-๘๐๐ บาท<br />
สนธยาบ้านพัก ๒๑ หมู่ ๔ ตำาบลทุ่งนางาม โทร. ๐ ๕๖๙๘ ๙๐๗๙,<br />
๐๘ ๑๘๘๗ ๔๖๕๙ ห้องพัก ๖ ห้อง ราคา ๓๐๐-๖๐๐ บาท<br />
หุบป่าตาด โฮมสเตย์ ๔๒ /๑ หมู่ ๓ ตำาบลทุ่งนางาม โทร. ๐๘ ๑๘๘๗<br />
๖๗๑๗, ๐๘ ๑๘๘๖ ๓๘๔๑ จำานวน ๗ หลัง ราคา ๖๐๐-๑,๕๐๐ บาท<br />
ร้านอาหาร<br />
อำาเภอเมืองอุทัยธานี<br />
กังสดาล ๑๓๙ ถนนณรงค์วิถี ตำาบลอุทัยใหม่ โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๔๕๓๓,<br />
๐๘ ๑๗๐๗ ๐๓๐๕ เปิด ๑๐.๐๐-๒๒.๐๐ น. (อาหารตามสั่ง)<br />
เกษรอาหารอีสาน ๒๖/๑๗-๑๙ ถนนรักการดี ตำาบลอุทัยใหม่ โทร. ๐ ๕๖๕๑<br />
๒๒๔๕, ๐๘ ๑๔๗๕ ๐๒๖๖ เปิด ๑๑.๐๐-๒๐.๐๐ น. (อาหารอีสาน)<br />
โกตี๋ข้าวมันไก่ ๙๕ ถนนท่าช้าง ตำาบลอุทัยใหม่ โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๒๐๑๓,<br />
๐๘ ๑๕๓๔ ๗๗๓๙ เปิด ๐๖.๐๐-๑๔.๓๐ น. (ร้านเชลล์ชวนชิม: ข้าวมันไก่<br />
และอาหารตามสั่ง)<br />
ครัวคุ้งสำาเภา ติดทางลงโป๊ะมโนรมย์ ฝั่งอุทัยธานี โทร. ๐๘ ๖๖๗๘ ๗๘๕๐,<br />
๐๘ ๑๔๘๓ ๑๙๔๔ เปิด ๑๐.๐๐-๒๑.๐๐ น. (อาหารตามสั่ง ปลาแม่นำ้ำ)<br />
ครัวน้องทราย ติดแม่นำ้ำเจ้าพระยา ๘๗/๑ หมู่ ๔ ตำาบลเกาะเทโพ โทร.<br />
๐ ๕๖๙๘ ๐๐๘๙ เปิด ๑๐.๐๐-๒๐.๐๐ น. (อาหารตามสั่ง ปลาแม่นำ้ำ)<br />
ครัวเป๊ปซี่ ๑๑๓ หมู่ ๒ ถนนมโนรมย์-อุทัย กิโลเมตรที่ ๘ ตำาบลท่าซุง โทร.<br />
๐ ๕๖๕๐ ๒๕๙๙, ๐๘ ๗๒๐๓ ๘๕๓๑ เปิด ๑๐.๐๐-๒๑.๐๐ น. (อาหารตามสั่ง)<br />
ครัวสะแกกรัง ตำาบลนำ้ำซึม ทางไปวัดท่าซุง โทร. ๐ ๕๖๕๒ ๐๑๒๗-๘<br />
โทรสาร ๐ ๕๖๕๒ ๐๑๒๘ เปิด ๑๐.๐๐-๒๑.๐๐ น. (อาหารตามสั่ง ปลาแม่นำ้ำ<br />
มีแพอาหาร)<br />
ตุ๋ยปลาแรด ๖๗-๖๘ ถนนท่าช้าง ตำาบลอุทัยใหม่ โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๒๓๗๕<br />
เปิด ๐๘.๐๐-๒๐.๐๐ น. (อาหารตามสั่ง เน้นปลาแรด)<br />
นกน้อย ๙/๔ ถนนศรีอุทัย สะพานข้ามแม่นำ้ำภาคเหนือ ตำาบลอุทัยใหม่<br />
โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๙๕๒ เปิด ๑๐.๐๐-๒๒.๐๐ น. (อาหารตามสั่ง)<br />
ป้าสำาราญ ๔๒/๑ หมู่ ๔ ทางเข้าบ้านท่าซุง ตำาบลเกาะเทโพ โทร. ๐ ๕๖๙๘<br />
๐๐๘๕ เปิด ๑๐.๐๐-๒๑.๐๐ น. (ปลาแม่นำ้ำ, อาหารตามสั่ง)<br />
พรหมท่าซุง (ตรงข้ามวัดท่าซุง) ๗๒ หมู่ ๑ ถนนอุทัย-มโนรมย์ ตำาบลนำ้ำซึม<br />
โทร. ๐ ๕๖๕๐ ๒๕๘๕, ๐ ๕๖๕๐ ๒๕๙๕, ๐๘ ๙๗๐๓ ๘๕๓๐ เปิด ๑๐.๓๐-<br />
๒๐.๓๐ น. (อาหารไทย อาหารพื้นบ้านภาคใต้ ปลาแม่นำ้ำ)<br />
มุมสบาย ๔๑๗/๔๗ ถนนศรีอุทัย ตำาบลอุทัยใหม่ โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๑๐๔, ๐๘<br />
๑๙๖๒ ๔๗๙๓ เปิด ๑๐.๐๐-๒๒.๐๐ น. (อาหารไทย จีน ฝรั่ง และคาราโอเกะ)<br />
ร้านอาหารบ้านบัวหลวง บริเวณหอนาฬิกา โทร. ๐ ๕๖๕๒ ๕๐๔๗,<br />
๐๘ ๔๙๘๘ ๑๗๔๒ เปิด ๑๐.๐๐-๒๒.๐๐ น. (อาหารตามสั่ง, อาหารเวียต นาม)<br />
เรือนแพประมง ๒๕ แพคลองสะแกกรัง โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๙๙๖ เปิด ๐๙.๐๐-<br />
๒๑.๓๐ น. (อาหารตามสั่ง ปลาแม่นำ้ำ)<br />
ลำาไยไอศกรีม ๖ ถนนมหาราช ตำาบลอุทัยใหม่ โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๗๔๖,<br />
๐๘ ๑๘๘๘ ๘๙๗๐ เปิด ๑๐.๓๐-๒๑.๐๐ น. (ไอศกรีมและเครื่องดื่ม)<br />
โหนก ก๋วยเตี๋ยว ไก่ หมูตุ๋น ๕๐ ซอยธนาคารทหารไทย ตรอกโรงยา ถนน<br />
ราชอุทิศ โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๒๘๔๓ เปิด ๐๙.๐๐-๑๕.๐๐ น.
๓๘ ๓๙<br />
อำาเภอบ้านไร่<br />
สวนอาหารครัวอนันต์ ๓๑๐ หมู่ ๑ ตำาบลบ้านไร่ โทร. ๐ ๕๖๕๓ ๙๐๓๕,<br />
๐ ๕๖๕๔ ๖๒๘๒ เปิด ๑๐.๐๐-๒๑.๓๐ น. (อาหารทะเล แกงป่า)<br />
อำาเภอทัพทัน<br />
ครัวอุไร ๑/๑๔ หมู่ ๑ ถนนทัพทัน-หนองฉาง ตำาบลทัพทัน โทร. ๐ ๕๖๕๔<br />
๐๒๑๔, ๐๘ ๙๙๕๙ ๔๕๔๑ เปิด ๐๗.๐๐-๒๒.๐๐ น. (อาหารตามสั่ง)<br />
อำาเภอสว่างอารมณ์<br />
ร้านเจ๊จุก ๒๑/๕ หมู่ ๑ ถนนธรรมสุนทร หน้าดับเพลิงเทศบาล โทร. ๐ ๕๖๕๙<br />
๙๐๔๘, ๐๘ ๑๙๗๒ ๐๔๕๓ เปิด ๐๖.๐๐-๑๕.๐๐ น. (อาหารตามสั่ง)<br />
อำาเภอลานสัก<br />
ครัวบ้านคุณ ๓๗๐ หมู่ ๒ ก่อนถึงที่ว่าการอำาเภอ ๒๐๐ เมตร เปิด ๐๙.๐๐-<br />
๒๒.๐๐ น. (อาหารตามสั่ง)<br />
แตนโภชนา ๓๖๒ หมู่ ๒ ถนนหนองฉาง-ลานสัก ห่างจากโรงพยาบาลลานสัก<br />
ประมาณ ๒๐๐ เมตร เปิด ๐๙.๐๐-๒๒.๐๐ น. (อาหารตามสั่ง)<br />
หมายเลขโทรศัพท์สำาคัญ<br />
ประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร. ๐ ๕๖๕๒ ๐๘๒๖,<br />
๐ ๕๖๕๑ ๑๙๑๕<br />
สำานักงานจังหวัด โทร. ๐ ๕๖๕๒ ๐๗๓๗,<br />
๐ ๕๖๕๑ ๑๐๖๓<br />
ที่ว่าการอำาเภอ โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๐๖๒<br />
โรงพยาบาลอุทัยธานี โทร. ๐ ๕๖๕๒ ๔๔๕๕-๘<br />
๐ ๕๖๕๑ ๑๐๘๑<br />
สถานีตำารวจภูธร อำาเภอเมืองฯ โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๐๕๕,<br />
๐ ๕๖๕๒ ๐๐๗๓<br />
๐ ๕๖๕๒ ๐๒๙๖,<br />
๐ ๕๖๕๑ ๑๒๗๕<br />
ที่ทำาการไปรษณีย์โทรเลข โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๑๐๙๗,<br />
๐ ๕๖๕๑ ๑๕๙๓<br />
ตำารวจทางหลวง โทร. ๑๑๙๓<br />
ตำารวจท่องเที่ยว โทร. ๐ ๕๖๒๓ ๓๐๗๓,<br />
๐ ๕๖๘๘ ๑๕๑๕<br />
กรมอุตุนิยมวิทยา โทร. ๑๑๘๒<br />
ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว ททท.<br />
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย<br />
สำานักงานใหญ่<br />
๑๖๐๐ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน<br />
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐<br />
โทร. ๐ ๒๒๕๐ ๕๕๐๐ (๑๒๐ หมายเลข)<br />
โทรสาร ๐ ๒๒๕๐ ๕๕๑๑<br />
E-mail : info@tat.or.th<br />
Website : www.tourismthailand.org<br />
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา<br />
๔ ถนนราชดำาเนินนอก เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย<br />
กรุงเทพฯ ๑๐๑๐๐<br />
เปิดบริการทุกวัน ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น.<br />
ททท. สำานักงานอุทัยธานี<br />
๑๐๐/๑-๒ ถนนศรีอุทัย ตำาบลอุทัยใหม่<br />
อำาเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี ๖๑๐๐๐<br />
โทร. ๐ ๕๖๕๑ ๔๙๘๒ โทรสาร ๐ ๕๖๕๑ ๒๙๑๖<br />
www.tourismthailand.org/uthaithani<br />
E-mail: tatuthai@tat.or.th<br />
พื้นที่รับผิดชอบ: อุทัยธานี นครสวรรค์