พระธรรมราชานุวัตร
(สุทัศน์ สุทสฺสนมหาเถร ป.ธ.๖)
อดีตเจ้าอาวาสวัดพระแก้ว พระอารามหลวง
อดีตเจ้าคณะภาค๖ และ อดีตหัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ ๔
พระธรรมราชานุวัตร
ฉายา สุทสฺสโน
นามสกุล หลักแน่น
อายุ ๗๔ ปี ๕๔ พรรษา


สังกัด วัดพระแก้ว พระอารามหลวง
เลขที่ ๑๙ ถ.ไตรรัตน์ ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย รหัสไปรษณีย์ ๕๗๐๐๐

หมายเลขบัตรประชาชน ๓๑๐๐๒๐๒๙๙๗๓๐๑

หมายเลขหนังสือสุทธิ ๕๕/๒๕๐๘
วิทยฐานะ
นักธรรมชั้นเอก
เปรียญธรรม ๖ ประโยค
- ครุศาสตรบัณฑิต (ค.บ. กิตติมศักดิ์) มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
- พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต (พธ.ด. กิตติมศักดิ์) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต (ค.ด. กิตติมศักดิ์) มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
- รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต (รป.ด.กิตติมศักดิ์) มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

ข้อมูลพื้นฐาน
๑. สถานะเดิม
ชื่อ สุทัศน์ นามสกุล หลักแน่น
เกิดวันขึ้น ๖ ค่ำ เดือนอ้าย (๑) (เดือน ๓ เหนือ)
วันจันทร์ ที่ ๑๐ เดือน ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๘๘
เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย สัณฐาน สันทัด สีเนื้อ ขาว-เหลือง
ตำหนิ แผลเป็นที่นิ้วชี้ซ้าย
บิดาชื่อ นาย หลาน หลักแน่น
มารดาชื่อ นาง คำ หลักแน่น
พี่น้องร่วมสายโลหิต ๒ คน

๑.นาง บุญตวย นามสกุล หลักแน่น (เสียชีวิตแล้ว)
๒.พระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ สุทสฺสโน นามสกุล หลักแน่น)

ภูมิลำเนาเดิม (บ้านเกิด) ณ บ้านเลขที่ ๑๘๓ หมู่ที่ ๑ บ้านสันมะเค็ด ตำบลหัวฝาย อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย


๒. บรรพชา
เมื่ออายุ ๑๓ ปี ตรงกับ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๖ (๘) ปีจอ วันเสาร์ ที่ ๑๐ เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๐๑ ณ วัดสันมะเค็ด ตำบลหัวฝาย อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย
โดยมี พระครูยติวัตรวิมล เจ้าคณะอำเภอเวียงป่าเป้า เจ้าอาวาสวัดหนองบัว ตำบลแม่ขะจาน อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย เป็นพระอุปัชฌาย์

๓. อุปสมบท
เมื่ออายุ ๒๐ ปี ตรงกับ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๘ (๑๐) วันเสาร์ ที่ ๑๐ เดือน กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๐๘ เวลา ๑๒.๓๐ น.
ณ พัทธสีมา วัดพระแก้ว ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
โดยมี พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ (วงศ์ ทานว์โส) วัดพระแก้ว ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เป็นพระอุปัชฌาย์
พระครูเมธังกรญาณ (สมเพชร อนาลโย) วัดเชียงยืน ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เป็นพระกรรมวาจาจารย์
เจ้าอธิการบุญทิน กิตฺติสาโร วัดดอยพระบาท ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เป็นพระพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับฉายานามว่า “สุทสฺสโน”

เมื่ออุปสมบทแล้ว สังกัด วัดพระแก้ว ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมี พระเดชพระคุณพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ (วงศ์ ทานว์โส) เป็นเจ้าอาวาส

๔. ประวัติการจำพรรษา
๔.๑ สังกัดวัดพระแก้ว ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ย้ายเข้า พ.ศ. ๒๕๐๔ ย้ายออก พ.ศ. ๒๕๑๑ อยู่จำพรรษา ๗ พรรษา
๔.๒ สังกัดวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม แขวงจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ย้ายเข้า พ.ศ. ๒๕๑๑ ย้ายออก พ.ศ. ๒๕๒๑ อยู่จำพรรษา ๑๐ พรรษา
๔.๓ สังกัดวัดพระแก้ว ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ย้ายเข้า พ.ศ. ๒๕๒๑ จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. ๒๕๖๒)

๕. ประวัติการศึกษา
๕.๑ ได้สำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านสันมะเด็ด ตำบลหัวฝาย อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย

๕.๒. ได้รับการถวายปริญญากิตติมศักดิ์ ดังนี้
พุทธศักราช ๒๕๓๗ ปริญญาตรี ครุศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ค.บ. กิตติ์) จาก มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย
พุทธศักราช ๒๕๔๓ ปริญญาเอก พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พธ.ด. กิตติ์) จาก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พุทธศักราช ๒๕๔๕ ปริญญาเอก ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ค.ด. กิตติ์) จาก มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย
พุทธศักราช ๒๕๕๑ ปริญญาเอก รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (รป.ด. กิตติ์) จาก มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

๕.๓ การศึกษาทางพระปริยัติธรรมแผนกธรรม – บาลี
นักธรรมชั้นตรี สำนักศาสนศึกษาวัดสันมะเค็ด ตำบลหัวฝาย อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย สำนักเรียนคณะจังหวัดเชียราย
นักธรรมชั้นโท สำนักศาสนศึกษาวัดสันมะเค็ด ตำบลหัวฝาย อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียราย สำนักเรียนคณะจังหวัดเชียราย
นักธรรมชั้นเอก สำนักศาสนศึกษา วัดพระแก้ว ตำบลเวียง อำเภอเมือง เชียงราย จังหวัดเชียงราย สำนักเรียนคณะจังหวัดเชียงราย

เปรียญธรรม ๓ ประโยค
สำนักศาสนศึกษา วัดพระแก้ว ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย สำนักเรียนคณะจังหวัดเชียงราย

เปรียญธรรม ๔ ประโยค
สำนักศาสนศึกษา วัดพระแก้ว ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย สำนักเรียนคณะจังหวัดเชียงราย

เปรียญธรรม ๕ ประโยค
สำนักเรียนวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม แขวงจิตรลดา เขตตุสิต กรุงเทพมหานคร สำนักเรียนคณะกรุงเทพมหานคร

เปรียญธรรม ๖ ประโยค
สำนักเรียนวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม แขวงจิตรลดา เขตตุสิต กรุงเทพมหานคร สำนักเรียนคณะกรุงเทพมหานคร


๖. ได้ดำรงตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์
๖.๑ ตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์
๑. วันที่ ๑๗ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๒๑
ได้รับพระบัญชา แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “รองเจ้าอาวาสวัดพระแก้ว พระอารามหลวง”
๒. วันที่ ๘ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๒๓
ได้รับพระบัญชา แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย”
๓. วันที่ ๘ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๐
ได้รับพระบัญชา แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว พระอารามหลวง”
๔. วันที่ ๘ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๐
ได้รับพระบัญชา แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย”
๕. วันที่ ๒๔ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๑
ได้รับพระบัญชา แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “รองเจ้าคณะภาค ๖” (ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน)
๖. วันที่ ๒๘ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๐
ได้รับพระบัญชา แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “เจ้าคณะภาค ๖” (ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน)
๖.๒ ได้ดำรงตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์ (พิเศษ)
๑. พุทธศักราช ๒๕๑๓
ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “เลขานุการเจ้าคณะภาค ๖” ใน พระธรรมกิตติ โสภณ (สุวรรณ สุวณฺณโชโต ป.ธ.๗) ต่อมาได้รับสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จ พระพุทธชินวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร
๒. วันที่ ๒ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๗
ได้รับพระบัญชา แต่งตั้งให้เป็น “พระอุปัชฌาย์” ประเภท วิสามัญ
๖.๓ ได้ดำรงตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์ อื่น ๆ
๑. วันที่ ๑๔ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๑๐
ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ครูสอนโรงเรียนพระปริยัติธรรมจังหวัดเชียงราย วัดเจ็ดยอด ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
๒. วันที่ ๕ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๑๓
ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ครูสอนโรงเรียนพระปริยัติธรรมประจำสำนักเรียนวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร
๓. ปี พุทธศักราช ๒๕๒๑ – ๒๕๒๙
ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ครูใหญ่โรงเรียนพุทธิวงศ์วิทยา พระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา วัดพระแก้ว พระอารามหลวง” ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
๒. ปี พุทธศักราช ๒๕๓๐
ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “อาจารย์ใหญ่สำนักเรียนวัดพระแก้ว พระอารามหลวง” ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
๒. ปี พุทธศักราช ๒๕๓๐
ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “รักษาการผู้จัดการโรงเรียนพุทธิวงศ์วิทยา” พระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา วัดพระแก้ว พระอารามหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
๓. วันที่ ๑๙ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๕
ได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ตรวจการงานพระธรรมทูต ภาคเหนือ”
๔. วันที่ ๒๗ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕
ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้จัดการโรงเรียนพุทธิวงศ์วิทยา” พระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา วัดพระแก้ว พระอารามหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
๕. วันที่ ๒๑ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๒
ได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้เป็น “หัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ ๔” (ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน)
๕. พุทธศักราช ๒๕๔๖
ได้เป็นประธานดำเนินการและเป็นผู้ก่อตั้ง “วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย” ในโครงการขยายห้องเรียนมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา ห้องเรียนวัดพระแก้ว พระอารามหลวง จังหวัดเชียงราย

๗. สมณศักดิ์ที่ได้รับพระราชทาน
๑. วันที่ ๕ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖
ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นธรรม
ในราชทินนามที่ “พระธรรมราชานุวัตร วิภัชธรรมโกศล โสภณกิจจานุกิจ นิวิฐธรรมสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”
๒. วันที่ ๑๐ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๓๙
ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นเทพ
ในราชทินนามที่ “พระเทพรัตนมุนี ศรีสังฆโสภณ วิมลศาสนกิจจาทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”
๓. วันที่ ๕ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๓
ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นราช
ในราชทินนามที่ “พระราชรัตนากร สาทรกิจจานุกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”
๔. วันที่ ๕ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๘
ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ
ในราชทินนามที่ “พระอุดมปัญญาภรณ์”
๕. วันที่ ๑๐ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๖
ได้รับการแต่งตั้งเป็น “พระครูปลัดสุวัฒนพุทธิคุณ ไพบุลสังฆานุนายก ปิฎกธรรมวิจิตร” พระครูปลัดของพระราชาคณะ เจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฎ ฐานานุกรมใน พระพุทธิวงศมุนี (สุวรรณ สุวณฺณโชโต ป.ธ. ๗) เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร
๖. พุทธศักราช ๒๕๒๐ สอบได้เปรียญธรรม ๖ ประโยค

๘. สมณศักดิ์ต่างประเทศที่ได้รับ
๑. วันที่ ๑๘ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑
ได้รับการถวายและยกยอสมณศักดิ์ ยกย่องในสมัญญานามว่า “พระราชครูธรรมราชานุวัตร” จากคณะสงฆ์ประเทศเมียนมาร์
โดย ท่านพระมหาคุรุครูบาแสงหล้า อภิธชอัคค มหาสัทธัมมโชติก อัคคมหาบัณฑิต (พระรัตนรังษี พระครูบาเจ้าแสงหล้า ธมฺมสิริ) วัดพระธาตุสายเมือง จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์

๙. คุณูปการที่มีต่อวัดพระแก้วและคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย ภาค ๖ หนเหนือ
ในห้วงระยะเวลาที่พระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ สุทสฺสโน ป.ธ.๖) เป็นเจ้าอาวาสวัดพระแก้ว พระอารามหลวง ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ เป็นต้นมา ได้บูรณะและได้ก่อสร้างเสนาสนะ ถาวรวัตถุมากมายภายในวัด ดังนี้

๑. ได้เป็นประธานบูรณะพระเจดีย์ สถานที่เคยค้นพบพระพุทธมหามณีปฏิมากร (พระแก้วมรกต) จำนวน ๓ ครั้ง (ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๓๓ ครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๓๘ ครั้งที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๕๘)
๒. ได้เป็นประธานบูรณะพระอุโบสถ จำนวน ๓ ครั้ง (ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๔๓ ครั้งมี่ ๒ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๕๙)
๓. พุทธศักราช ๒๕๓๓ ได้เป็นประธานการก่อสร้าง “อาคารสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวัณณโชตมหาเถร)” เป็นสถานที่จำวัดของพระภิกษุ-สามเณร และถวายเป็นอาจริยะบูชา แด่ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณ สุวณฺณโชโต ป.ธ.๗) (สมเด็จองค์ปฐม หนเหนือ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร อาคารกว้าง ๒๕ เมตร ยาว ๔๐ เมตร สูง ๔ ชั้น
๔. พุทธศักราช ๒๕๓๔ ได้เป็นประธานการก่อสร้างสร้าง “หอพระหยกเชียงราย” เพื่อประดิษฐาน“ พระพุทธรตนากรนวุติวัสสานุสรณ์มงคล” ขนาดกว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๑๒ เมตร
๕. พุทธศักราช ๒๕๓๘ ได้เป็นประธานการก่อสร้างสร้าง “อาคารโฮงหลวงแสงแก้ว” สำหรับเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ประจำวัดพระแก้ว ขนาดกว้าง ๑๐ เมตรยาว ๒๔ เมตร สูง ๒ ชั้น
๖. พุทธศักราช ๒๕๔๔ ได้เป็นประธานการก่อสร้าง “อาคารเทพรัตน์ ๔๔” ขนาดกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๔๗ เมตร สูง ๓ ชั้น เป็นอาคารเรียนรวม โรงเรียนพุทธิวงศ์วิทยา พระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา วัดพระแก้ว
๗. พุทธศักราช ๒๕๔๖ ได้เป็นประธานการก่อสร้าง “อาคารพระธรรมราชานุวัตร” ขนาดกว้าง ๕ เมตร ยาว ๖ เมตร สูง ๓ ชั้น เป็นอาคารสำนักงานและห้องผู้อำนวยการ โรงเรียนพุทธิวงศ์วิทยา พระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา วัดพระแก้ว
๘. พุทธศักราช ๒๕๕๐ ได้เป็นประธานการก่อสร้าง “อาคาร ๑๐๐ ปี พระพุทธวงศ์วิวัฒน์ (วงศ์ ทานวํโส)” ขนาดกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๐ เมตร สูง ๓ ชั้น ใช้เป็นอาคารที่พักรับรองพระอาคันตุกะ
๙. พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้เป็นประธานการก่อสร้าง “อาคารสุวัณณโชโต” ขนาดกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๐ เมตร สูง ๕ ชั้น เป็นอาคาร สำนักงานเจ้าคณะภาค ๖ สำนักงานวัดพระแก้ว และสำนักงานมูลนิธิพุทธิวงศ์วิวัฒน์
๑๐. พุทธศักราช ๒๕๕๕ ได้เป็นประธานการก่อสร้าง “ศาลาบำเพ็ญกุศลอนุสรณ์ เชิด–อมรามุนิกานนท์” ขนาดกว้าง ๑๒ ยาว ๓๐ เมตร สูง ๒ ชั้น เป็นอาคารบำเพ็ญกุศลและจัดกิจกรรมทั่วไป
๑๑. พุทธศักราช ๒๕๖๐ ได้เป็นประธานการก่อสร้าง “ศาลาธรรมสถานอมรา มุนิกานนท์” ขนาดกว้าง ๑๕ เมตร ยาว ๔๐ เมตร สูง ๒ ชั้น เป็นอาคารบำเพ็ญกุศล ณ ธรรมสถานอมรา มุนิกานนท์ (วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย บ้านน้ำลัด ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย

นอกจากนี้พระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ สุทสฺสโน ป.ธ.๖) เมื่อได้ดำรงตำแหน่ง เป็นเจ้าอาวาสวัดพระแก้ว (พ.ศ. ๒๕๓๐-๒๕๖๒ ) เป็นเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย (พ.ศ. ๒๕๓๐-๒๕๔๑) เป็นรองเจ้าคณะภาค ๖ (พ.ศ. ๒๕๔๑-๒๕๕๐) เป็นเจ้าคณะภาค ๖ (พ.ศ. ๒๕๕๐–ปัจจุบัน พ.ศ. ๒๕๖๒ ) ได้อาศัยวัดพระแก้ว พระอารามหลวง เป็นฐาน ได้ดำเนินการในโครงการต่างๆ บางโครงการเป็นงานเฉพาะกิจ บางโครงการเป็นงานต่อเนื่อง และมีผลสำเร็จเป็นรูปธรรม อาทิเช่น

๑. พุทธศักราช ๒๕๓๐ ได้เป็นประธานโครงการจัดงานพิธีสมโภชเมืองเชียงราย ครบ ๗๒๕ ปี
๒. พุทธศักราช ๒๕๓๓ ได้เป็นประธานโครงการจัดงานพิธีสมโภชสมเด็จพระราชาคณะองค์ปฐมของภาคเหนือ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณ สุ วณฺณโชตมหาเถร ป.ธ.๗)
๓. พุทธศักราช ๒๕๓๓ ได้เป็นประธานโครงการสร้างพระพุทธรัตนากรนวุติวัสสานุสรณ์มงคล (พระหยกเชียงราย) เพื่อเป็นอนุสรณ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เจริญพระชนมายุ ๙๐ พรรษา
๔. พุทธศักราช ๒๕๓๓–๒๕๓๘ ได้เป็นประธานโครงการนำพระสงฆ์ไปเยี่ยมประชาชน ในเขตโครงพัฒนาดอยตุง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
๕. พุทธศักราช ๒๕๓๐-๒๕๓๗ ได้เป็นประธานโครงการนำพระสงฆ์ไปเยี่ยมหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (อพป.)
๖. พุทธศักราช๒๕๓๔-๒๕๓๙ ได้เป็นประธานโครงการถวายความรู้ เจ้าอาวาส-มรรคนายก วัดในเขตปกครองจังหวัดเชียงราย ในหลักสูตรศาสนพิธีท้องถิ่น
๗. พุทธศักราช ๒๕๕๔-๒๕๕๗ ได้เป็นประธานโครงการเดินธรรมยาตรา ขึ้นไปสักการะพระธาตุเจ้าดอยตุง พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองของชาวเหนือล้านนา
๘. พุทธศักราช ๒๕๕๕ ได้เป็นประธานโครงการสมโภชเมืองเชียงราย ครบ ๗๕๐ ปี โดยได้จัดสร้างถาวรวัตถุ เพื่อเป็นอนุสรณ์ ๔ ประการ ดังนี้
๑. ได้บูรณะ“ พระธาตุดอยตุง” เพื่อเปลี่ยนรูปแบบให้เป็นไปตามรูปแบบเดิมที่ ครูบาเจ้าศรีวิชัย บูรณะไว้ พ.ศ. ๒๔๗๐ ได้รับเงินงบประมาณจากกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ปีงบประมาณ ๒๕๕๑-๒๕๕๒ จำนวน ๒๓ ล้านบาท และได้ดำเนินการบูรณะแล้วเสร็จเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๕๓
๒. ได้สร้าง “พุทธมณฑล สมโภช ๗๕๐ ปี เมืองเชียงราย” ณ บ้านต้นง้าว ตำบลบัวสลี อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย บนพื้นที่ ๑๕๐ ไร่
๓. ได้สร้าง “วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย” เพื่อเป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาพัฒนาการศึกษา ของคณะสงฆ์ได้รับอนุญาตจากทางราชการ ให้ใช้ศาลากลางจังหวัดหลังเดิม บนดอยจำปี ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย เป็นอาคารเรียนรวมของวิทยาลัยสงฆ์เชียงราย เมื่อ พุทธศักราช ๒๕๕๔
๔. ได้สร้าง “ตึกสงฆ์อาพาธ” เป็นอาคาร ๕ ชั้น ในโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้รับเงินงบประมาณจากระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ ๒๕๕๒ จำนวน ๔๔ ล้านบาท อาคารตึกสงฆ์อาพาธ ได้สร้างเสร็จและเปิดอาคารใช้แล้ว ตั้งแต่ พุทธศักราช ๒๕๕๕

๑๐. ประกาศเกียรคุณที่ได้รับ อาทิเช่น
๑. พุทธศักราช ๒๕๕๕ ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณสูงสุด “คนดี ศรีเชียงราย” เนื่องใน โอกาสสมโภช ๗๕๐ ปี เมืองเชียงราย จาก ผู้ราชการจังหวัดเชียงราย
๒. พุทธศักราช ๒๕๕๙ ได้รับประกาศเกียรติคุณ “ศาสนทายาทของแผ่นดิน” ผู้บำเพ็ญ ประโยชน์และสร้างศาสนทายาทสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาอย่างโดด เด่น จาก สำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง กรณราชวิทยาลัย
๓. พุทธศักราช ๒๕๖๑ ได้รับประกาศเกียรติคุณ “โครงการสร้างความปรองดองสมาน ฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล ๕ (ตามยุทธศาสตร์ ชาติ ๒๐ ปี) จากประธานคณะกรรมการชับเคลื่อนหมู่บ้านรักษาศีล ๕

๑๑. การมรณภาพ
โดยปกติพระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ สุทสฺสโน ป.ธ.๖) เป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีมาโดยตลอด เมื่อวันที่ ๑๙-๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๒พระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ สุทสฺสโน ป.ธ.๖) ไปปฏิบัติศาสนกิจในหน้าที่เจ้าคณะภาค ๖ ณ จังหวัดน่าน หลังจากกลับมาจากจังหวัดน่าน ท่านมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ประกอบกับมีอาการท้องร่วงด้วย เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๒ เวลาประมาณหนึ่งทุ่มกว่า ๆ ได้นำท่านส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เมื่อไปถึงคณะแพทย์ได้ตรวจอาการพบว่าท่านป่วยเป็นโรคไส้ติ่งอักเสบ จึงทำการผ่าตัดรักษา หลังจากรับการผ่าตัดรักษาจนอาการทั่วไปดีขึ้น ในขณะนั้นคณะแพทย์ได้ทำการเอ็กซเรย์ ตรวจพบก้อนเนื้อบริเวณตับ จึงแจ้งให้ท่านทราบเพื่อให้การตรวจพบก้อนเนื้อนั้นชัดเจนขึ้น คณะแพทย์ได้ปรารภว่า ขอนิมนต์ท่านไปตรวจฉายรังสีรักษาตัว ณ โรงพยาบาลสงฆ์ มหาราชนครเชียงใหม่ จากนั้นเมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๒ คณะแพทย์ได้นิมนต์ท่านให้กลับมาพักฟื้นที่วัดพระแก้ว

วันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๒ คณะแพทย์ได้นิมนต์ให้กลับมาพักฟื้นที่วัดพระแก้ว และเตรียมตัวไปรับการตรวจฉายรังสี รักษาตัว ณ โรงพยาบาลสงฆ์ มหาราชนครเชียงใหม่ จนถึงวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๒

วันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ท่านจึงได้เดินทางไปตรวจฉายรังสีและรักษาตัว ณ โรงพยาบาลสงฆ์ มหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทย์ตรวจพบว่าท่านป่วยเป็นโรคมะเร็งตับระยะที่ ๔ คณะแพทย์ได้ทําการรักษาตามอาการขณะพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลสงฆ์ มหาราชนครเชียงใหม่ นั้น ได้รับความเมตตาจากพระมหาเถรานุเถระ ที่รู้จักคุ้นเคย เคารพนับถือเข้าเยี่ยมอาการของท่านตลอด อาทิ พระเดชพระคุณพระวิสุทธิวงศาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้มอบหมายให้ พระราชวิสุทธิเวที เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ พระภาวนาโกศลเถร และกองงานเลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เป็นผู้แทนเข้าเยี่ยมอาการ และมีพระเดชพระคุณ พระพรหมมงคล ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๗ วัดพระธาตุศรีจอมทอง พระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะภาค ๗ พระเดชพระคุณพระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค ๗ พระเทพโกศล พระเทพญาณเวที พระเทพมังคลาจารย์ พระเทพปริยัติ พระเทพสิงหวราจารย์ พระเทพรัตนนายก พระราชวิสุทธิเวที รองเจ้าคณะภาค ๗ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ คณะสงฆ์จังหวัดลำพูน คณะสงฆ์จังหวัดลำปาง คณะสงฆ์จังหวัดแพร่ คณะสงฆ์จังหวัดน่าน คณะสงฆ์จังหวัดพะเยา คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย ตลอดจนถึงคณะศรัทธาญาติโยม เข้าเยี่ยมอาการของท่านตลอด จนถึงวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒ คณะแพทย์จึงนิมนต์ท่านกลับมาพักรักษาตัว ณ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

วันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๙.๒๐ น. ท่านเดินทางถึงโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์พักรักษาตัว ณ ตึกสงฆ์อาพาธ สมโภช ๗๕๐ ปีเมืองเชียงราย ชั้น ๕ ห้อง ๗๕๐๓ เป็นเวลา ๕ วันช่วงที่พักรักษาตัวโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ คณะแพทย์ทำการรักษาตามอาการแบบประคับประคอง จนถึงวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๒ คณะแพทย์ ย้ายท่านจากห้อง ๒๕๐๓ ไปพักรักษาตัวห้อง ๗๕๐๒ ขณะที่พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นั้น มีพระมหาเถระ พระเถระ พระสังฆาธิการ ที่มีความคุ้นเคยและเคารพนับถือ เข้าเยี่ยมอาการของท่านตลอด อาทิพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติมงคล ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๖ พระเทพญาณเวที พระเทพกิตติเวที พระเทพเวที พระราชกิตติเวที พระราชเขมากร พระราชสิทธินายก (ซึ่งท่านก็อาพาธพักรักษาตัวอยู่ห้อง ๗๕๐๑) พระราชปริยัติ พระรัตนรังษี (พระครูบาแสงหล้า) พระอุดมบัณฑิต คณะสงฆ์จังหวัดลำปาง คณะสงฆ์จังหวัดแพร่ คณะสงฆ์จังหวัดน่าน คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย และพระเถรานุเถระตลอดจนถึงคณะศรัทธาญาติโยมที่เคารพนับถือท่าน

วันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๒ เวลาประมาณ ๑๙.๑๕ น. ซึ่งขณะนั้น คณะสงฆ์วัดพระแก้วกำลังประชุมหารือข้อการงานของวัดพระแก้ว พระรัตนมุนีก็ได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ว่าพระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ สุทสฺสโน ป.ธ.๖) มีอาการทรุดหนัก เกรงว่าจะมรณภาพแล้ว จากนั้นคณะสงฆ์วัดพระแก้ว มีพระรัตนมุนีพระครูสิริธรรมนิวิฐ พระสงฆ์วัดพระแก้วทุกรูป ที่ประชุมอยู่ที่นั้น และพระสงฆ์ต่างอารามที่ทราบข่าว ก็รีบเดินทางไปโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ตึกสงฆ์อาพาธสมโภช ๗๕๐ ปีเมืองเชียงราย ชั้นที่ ๕ ห้อง ๗๕๐๒ (ห้องพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ วงศ์ ทานวํโส) เมื่อไปถึงก็พบว่าพระธรรมราชานุวัตรมีความดันโลหิต การเต้นของหัวใจ และชีพจรอยู่ในระดับ ๖๐-๕๐ พระสงฆ์ ทุกรูปจึงช่วยกันสวดมนต์บทโพชฌังคปริตร และบทคุณของพระรัตนตรัย (อิติปิโส สวากขาโต สุปฏิปันโน) แต่ความดันโลหิต การเต้นของหัวใจและชีพจรของท่านก็ไม่ดีขึ้น ลดลงไปเรื่อย ๆ

จนถึงเวลา ๑๙.๔๙ น. พระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ สุทสฺสโน ป.ธ.๖) ก็ได้ละสังขารด้วยอาการอันสงบ จากคณะสงฆ์-คณะศรัทธาวัดพระแก้ว และคณะศิษยานุศิษย์ ไปอย่างไม่มีวันกลับ เหลือไว้แต่คุณงามความดี คุณาลังการอเนกอนันต์นานัปการ ที่พระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ สุทสฺสโน ป.ธ.๖) ได้กระทำบำเพ็ญมาด้วยดีตั้งแต่บรรพชาอุปสมบท อุทิศกายถวายชีวิตไว้ในพระพุทธศาสนา เป็นศาสนทายาทตลอดชีวิต สิริรวมอายุ ๗๓ ปี ๖ เดือน ๒๘ วัน
พระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ สุทสฺสนมหาเถร ป.ธ.๖)

ขณะเป็นสามเณรสุทัศน์ พุทธศักราช ๒๕๐๔
พระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ สุทสฺสนมหาเถร ป.ธ.๖)

ขณะเป็นพระมหาสุทัศน์ พุทธศักราช ๒๕๑๑
พระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ สุทสฺสนมหาเถร ป.ธ.๖)

ขณะเป็นพระมหาสุทัศน์ พุทธศักราช ๒๕๑๑
วันที่ ๑๐ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๖
สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณ สุวณฺณโชโต ป.ธ.๗)
ขณะดำรงสมณศักดิ์ เป็น พระพุทธิวงศมุนี แต่งตั้งให้ พระมหาสุทัศน์ สุทสฺสโน ป.ธ.๖
เป็น “พระครูปลัดสุวัฒนพุทธิคุณ ไพบุลสังฆานุนายก ปิฎกธรรมวิจิตร”
พระครูปลัดของพระราชาคณะ เจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฎ
ณ พระอุโบสถ วัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง
อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา
วันที่ ๒ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๗
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสน์ วาสนมหาเถร)
ทรงประทานพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช เลขที่ ๖/๒๕๒๗
แต่งตั้งให้ พระครูปลัดสุวัฒนพุทธิคุณ (สุทัศน์ สุทสฺสโน ป.ธ.๖)
เป็น “พระอุปัชฌาย์ ประเภท วิสามัญ”
ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร
วันที่ ๕ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๘
ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ
ในราชทินนามที่ “พระอุดมปัญญาภรณ์”
ถ่าย หน้าพระเจ้าล้านทอง พระประธานในพระอุโบสถ วัดพระแก้ว พระอารามหลวง
อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
วันที่ ๕ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๒๙
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปวง ธมฺมปญฺโญ ป.ธ.๕)
วัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา
ขณะดำรงสมณศักดิ์ ที่ พระราชวิสุทธิโสภณ รองเจ้าคณะภาค ๖
มอบคำสั่งแต่งตั้ง ให้ พระอุดมปัญญาภรณ์ (สุทัศน์ สุทสฺสโน ป.ธ.๖)
เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระแก้ว พระอารามหลวง
ณ พระอุโบสถ วัดพระแก้ว พระอารามหลวง
อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
วันที่ ๘ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๐
สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณ สุวณฺณโชโต ป.ธ.๗)
ขณะดำรงสมณศักดิ์ เป็น พระพุทธิวงศมุนี เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ
มอบพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช เลขที่ ๑/๒๕๓๐
แต่งตั้งให้ พระอุดมปัญญาภรณ์ (สุทัศน์ สุทสฺสโน ป.ธ.๖)
ดำรงตำแหน่ง “เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย”
ณ ศาลาการเปรียญ วัดพระแก้ว พระอารามหลวง
อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
วันที่ ๕ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๓
ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นราช
ในราชทินนามที่ “พระราชรัตนากร สาทรกิจจานุกิจ มหาคณิสสรบวรสังฆาราม คามวาสี”
ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร
วันที่ ๕ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖
ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นธรรม
ในราชทินนามที่ “พระธรรมราชานุวัตร วิภัชธรรมโกศล โสภณกิจจานุกิจ
นิวิฐธรรมสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”
ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร
วันที่ ๑๘ เดือน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ได้รับการถวายและยกยอสมณศักดิ์ ยกย่องในสมัญญานามว่า “พระราชครูธรรมราชานุวัตร”
จากคณะสงฆ์ประเทศเมียนมาร์ โดย ท่านพระมหาคุรุครูบาแสงหล้า อภิธชอัคค มหาสัทธัมมโชติก อัคคมหาบัณฑิต (พระรัตนรังสี พระครูบาเจ้าแสงหล้า ธมฺมสิริ)
ณ วัดพระธาตุสายเมือง จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์