ข้อมูลเพิ่มเติม:การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานลำปาง โทร. 054-222-214
https://www.facebook.com/lampang.tourism/
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ซุ้มประตูวัดพระธาตุเสด็จ วัดพระธาตุเสด็จเป็นวัดในพื้นที่อำเภอเมืองลำปางแต่ที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปค่อนข้างมากถ้าเปรียบเทียบกับวัดอื่นๆ ในอำเภอเมืองเหมือนกัน แต่ด้วยจุดเด่นของวัดอันมีปูชนียสถานที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน และประวัติที่น่าสนใจ จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังวัดแห่งนี้อยู่ตลอด จากถนนพหลโยธินเลี้ยวเข้าบ้านเสด็จมีซุ้มประตูโขงของวัดเด่นตระหง่าน
ซุ้มประตูเล็ก ตรงกำแพงวัด มีประตูทางเข้าเป็นทางที่รถผ่านได้ ส่วนด้านข้างสร้างซุ้มประตูเล็กๆ ให้คนเดินผ่านได้ บานประตูลายรดน้ำปิดทองสวยงามแต่ไม่เปิดให้ใช้แล้ว บนซุ้มประตูเป็นงานปูนปั้นอ่อนช้อยสวยงามรอบด้าน แม้ว่าซุ้มประตูนี้จะสร้างขึ้นมาในยุคหลังเป็นของใหม่ แต่ก็สร้างได้อย่างกลมกลืนกับศิลปศาสนสถานภายในวัด
พระวิหารหลวง เป็นวิหารหลังใหญ่ สร้างแบบโล่งไม่มีผนัง ด้านหลังมองทะลุไปพอจะเห็นองค์พระธาตุเสด็จอยู่ด้านหลัง ด้านหน้าเขียนว่าสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2476 น่าจะหมายถึงการบูรณะสร้างหลังใหม่เพราะหลังเก่าน่าจะสร้างในยุคเดียวกันกับองค์พระเจดีย์ (ประมาณปี พ.ศ.1992)
หลวงพ่อห้ามญาติ พระประธานในพระวิหารกลาง เป็นพระพุทธรูปเนื้อสำริดปางลีลา ประดิษฐานในบุษบกงดงามมาก
พระธาตุเสด็จ เดินอ้อมมาด้านข้างของวิหารกลางก็จะเห็นองค์พระธาตุที่ละม้ายคล้ายคลึงกับพระธาตุลำปางหลวงเอามากๆ แต่ขนาดเล็กกว่าเท่านั้น ในบริเวณรอบๆ องค์พระธาตุก็จะมีอุโบสถ วิหารหลวง วิหารสุวรรณโคมคำ เรียกรวมว่าวิหารบริวารองค์พระธาตุ พ.ศ. ๒๓๔๙ ตรงกับเดือนยี่เหนือ ขึ้น ๑๐ ค่ำ วันพฤหัสบดี เกิดปรากฏการณ์แผ่นดินไหวทำให้แท่นเจดีย์ที่ทำนั้นทรุดโทรมลงมาพระยาลัวะ เจ้าเมืองศรีนครชัย พร้อมทั้งพระสงฆ์มีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน ก็จัดการหล่อเหล็กยาว ๕ ศอก ทำเป็นไส้กลางและก็เสริมสร้างเป็นองค์เจดีย์พระธาตุขึ้น แล้วสร้างฉัตรทองคำเพิ่มอีก ๒ รวมเป็น ๕ และทำเป็นซีเหล็ก ๑๓ ล้อมอีก ๒๑๕๐ เล่ม ฉัตรทองเหลืองปักตรงมุมอีก ๔ มุมๆ ละ ๑ ฉัตร รวมพระธาตุเสด็จกว้าง ๗ วา สูง ๑๕ วา และประกาศเชิญชวนประชาชนมาฉลองสมโภชกัน ๗ วัน ๗ คืน ในวันเพ็ญเดือน ๓ (เดือนเหนือ ๕ เหนือ) ซึ่งเป็นประเพณีการจัดงานเทศกาลประจำปีมาจนปัจจุบัน
ในสมัยราชกาลที่ ๓ ทรงโปรดเกล้าฯให้พระเจ้าหอคำดวงทิพย์คุมทัพล้านนา ช่วยกองทัพอังกฤษรบกับพม่า ยุคนั้นเป็นยุคบัตราสถาปนาตำแหน่ง สัตตราจาเจื่องเจ้าอันเป็นเค้าอยู่ลานนา ให้พระเจ้าหอคำดวงทิพย์ เป็นใหญ่แก่ลานนาทั้งมวล ได้ทรงบูรณะเจดีย์วัดพระธาตุเสด็จในปี พ.ศ. ๒๓๖๒ โดยขอความร่วมมือกับประชาราษฎร์ นักปราชญ์ พระสงฆ์ รวบรวมทองเหลือง ทองแดง และทองคำบูรณะรอยร้าวขององค์พระธาตุและบุด้วยแผ่นทองฉลุลวดลาย เรียกว่า ทองจังโก และได้ทรงสร้างกำแพงแก้วและมหาศาลา เพื่อให้เป็นที่พักอาศัยของผู้คนที่มาทำบุญเพื่อความเจริญรุ่งเรืองในพระ พุทธศาสนา
การบูรณะปฏิสังขรณ์เจดีย์วัดพระธาตุเสด็จในยุคหลัง
ครั้งที่ ๑ เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๖ องค์เจดีย์เกิดการผุผังลงหากปล่อยทิ้งไว้จะเกิดการเสียหาย พระสีหสุวรรณวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดลำปาง วัดเชียงราย พระครูอินทรวิชัย เจ้าคณะอำเภอเมืองลำปาง วัดคะตึกเชียงมั่น พระครูอุตรวงศ์ธาดา วัดหมื่นกาด พระอธิการแก้วมา อภิชโย เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเสด็จ ขุนไตรกิตยานุกูล ข้าหลวงภาค ๕ นายอำเภอเมืองลำปาง ศึกษาธิการอำเภอเมืองลำปาง แม่เลี้ยงเต่า จันทรวิโรจน์ พร้อมด้วยเศรษฐีและคหบดีชาวลำปางเป็นผู้ร่วมกันอุปถัมภ์การบูรณะ
ครั้งที่ ๒ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๐ พระครูรัตนาคม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเสด็จ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ พุทธศาสนิกชน เศรษฐีและคหบดีชาวลำปางร่วมกันบูรณะได้ทูลเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยาม มกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธียกยอดฉัตรเจดีย์เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๒
ครั้งที่ ๓ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๘ พระครูรัตนาคม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเสด็จ พร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์ และคณะศรัทธาวัด โดยมีคุณงามนิจ เรืองศร คหปตานี จากกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันอุปถัมภ์การบูรณ์ปฏิสังขรณ์ โดยลงรักปิดทองและหุ้มทองจังโกทั่วทั้งองค์ให้เหลืองอร่ามอยู่จนทุกวันนี้ และได้ทูลเชิญพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามกุฎราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธียกยอดฉัตรเจดีย์เมื่อ วันพฤหัสบดี ที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓
ศาลาอนุสรณ์ 80 ปี หลวงพ่อพระครูรัตนาคม
วิหารสุวรรณโคมคำ พงศาวดารหอคำนครลำปาง กล่าวถึงความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองและเศรษฐกิจในยุคที่พระเจ้าหอคำดวง ทิพย์บูรณะพระธาตุเสด็จ ใน พ.ศ. ๒๓๖๒ ว่า” ภายหน้าแต่นั้น สภาวะบ้านเมืองทั้งเมืองก็เจริญรุ่งเรือง กิจกรรมบำเพ็ญบริบูรณ์ทุกประการเศรษฐกิจมั่งคั่งเพิ่มพูลทั้งโภคทรัพย์ หมากพลู ยาสูบพรั่งพร้อมผลผลิตทางการเกษตรพืชผลนาไร่ทั่วประเทศเขตควมเพิ่มพูลทุก ประการเมื่อศักราช ๑๑๘๔ ปี สี (ปีมะโรง) เจ้ามหาอภยะสีหราชเจ้า (ดวงทิพย์) ได้บำเพ็ญกุศลหื้อทานยังมหาอัฐบริขารหลวงในวัดเสด็จ ตามจารีตประเพณี ทักษิณาวัตร สามรอบ นมัสการที่เท้าห้าแห่ง ก็ ทอดพระเนตรเห็นยังมหาธาตุเจดีย์เก่าแก่คร่ำคร่ามีรอยผุผังหลายแห่งก็มีศรัท ธบูรณะปฏิสังขรจึงได้ปรึกษาหารือกับเสนาอำมาตย์ราชเทวี และนักปราชญ์ ว่าเราปรารถนาที่จะประกอบการมหากุศลปวารณาที่จะบูรณะพระธาตุเสด็จ กษัตรามีวาจา สันนี้แล้ว ครั้นรุ่งขึ้นก็นิมนต์ยังเจ้าสมณพราหมณ์ ผู้เจริญด้วยศีลจริยาวัตร ปรึกษาเรื่องจะบูรณะเจดีย์วัดพระธาตุเสด็จ เป็นทองสุกปลั่งตั้งแต่ยอดรอดธรณีพระสังฆเจ้าเจริญอนุโมทนากถาว่าคำปรารถนา แห่งมหาอุปราชาเจ้าขอจงอุดมด้วยสัมฤทธิ์ผลทุกประการด้วยเถิด”
ใน พ.ศ. ๒๓๖๖ ได้ทรงสร้างวิหารสุวรรณโคมคำ วัดพระธาตุเสด็จ พร้อมกับสร้างพระประธานในวิหาร และเขียนลวดลายประดับเสาวิหารด้วยการลงรักปิดทอง วิหารนี้จึงเรียกชื่อตามสถาปัตยกรรมลานนาว่า วิหารลายคำ พงศาวดารเจ้าเจ็ดตนกับหอคำมงคลกล่าวถึงตอนที่พระเจ้าหอคำดวงทิพย์ สร้างวิหาร สุวรรณโคมคำวัดพระธาตุเสด็จว่า “ตราบต่อเท้าอักขระป๋าเวณีเดือนห้าเป็งมารอดแล้ว เจ้าก็เอารี้พลโยธาอากะราชเทวีราชมนตรีภายใต้ทั้งภายนอกและภายในเสด็จแล้ว เจ้าก็แต่งห้างเครื่องครัวทาน มีมหาอัตถะบริขารตานตุงแป้นสองผืน ปูชายังภะคะวาต๋น สร้างใหม่ภายมหาวิหาร เจ้าก็เปิกบาย แลจำศีลกิ๋นตานโอกาสหยาดน้ำยังมหาวิหารอันต๋นได้สร้างใหม่จิ่งใส่จื่อว่า วิหารโคมคำ พระพุทธรูปเจ้าต๋นสร้างใหม่ ใส่ชื่อว่า พระพุทธรูปพระธาตุเสด็จ ก็มีวันนั้นแล”
จบการนำเที่ยวแล้วครับ ฮู้ เที่ยววัดเดียวได้ความรู้เพียบขนาดนี้เลย รักเมืองไทยจริงๆ ครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ