- 20 ก.พ. 2561
ติดตามข่าวสารอีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ที่เพจเฟซบุ๊ก อุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง ได้โพสต์รูปภาพพร้อมทั้งระบุข้อความทั้งหมดเอาไว้ว่า
"บานประตูวัดพระฝาง" เป็นบานประตูไม้จำหลักปิดทองประดับกระจกโบราณสมัยอยุธยาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดอุตรดิตถ์ และเป็นบานประตูพุทธศาสนสถานที่มีความสวยงามมากที่สุด 1 ใน 3 คู่ของจังหวัดอุตรดิตถ์ คือ บานประตูวิหารวัดพระฝาง, บานประตูพระวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ และบานประตูวิหารวัดดอนสัก โดยประตูวิหารวัดพระฝางนี้เป็น 1 ใน 2 คู่ บานประตูสำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน
บานประตูคู่นี้แต่ละบานมีขนาดกว้าง 1.2 เมตร สูง 5.3 เมตร และหนาถึง 16 เซนติเมตร ทำจากไม้ปรุแกะสลักเป็นลายกนกก้านขด ลายพุ่มทรงข้าวบิณฑ์ บานละ 7 พุ่ม ระหว่างพุ่มทรงข้าวบิณฑ์มีกนกใบเทศขนาบ สองข้างขวามือด้านบนมีอกเลาประตูอยู่ตรงกลาง แกะสลักเป็นลายเทพพนม ตอนบนอกเลา 4 องค์ตอนล่างอกเลา 4 องค์
เดิมบานประตูคู่นี้ติดตั้งเป็นบานประตูของพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุประจำเมืองฝาง (วัดพระฝาง) มาตั้งแต่สมัยอยุธยา ในระยะหลังเมืองฝางเสื่อมความเจริญ วัดพระฝางและวิหารหลวงจึงถูกทิ้งให้รกร้างทรุดโทรมขาดการดูแลรักษา อันตรายต่อการถูกโจรกรรมและถูกทำลายจากภัยธรรมชาติ ดังนั้นในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494 พระสุธรรมเมธี (บันลือ ธมฺมธโช) เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ในสมัยนั้นจึงได้ขออนุญาตกรมศิลปากรนำมาเก็บรักษาไว้อาคารธรรมสภา วัดธรรมาธิปไตย ซึ่งอยู่ในตัวเมืองอุตรดิตถ์แทน โดยจากประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ในรายการที่ 29.1-29.2 ลงวันที่ 9 กันยายน 2530 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 104 หน้าที่ 10 ตอนที่ 235 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2530 ได้ระบุว่าบานประตูทั้งคู่นี้ ยังคงเป็น "สมบัติของวัดพระฝาง" จนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันบานประตูวัดพระฝางบานเดิมจัดแสดงอยู่ที่อาคารธรรมสภา วัดธรรมาธิปไตย ภายในตัวเมืองอุตรดิตถ์ ส่วนบานจำลองสร้างใหม่ติดตั้งจัดแสดงอยู่ในกรอบประตูวิหารหลวงวัดพระฝาง สามารถเข้าชมได้ทุกวัน
ภาพและข้อมูลจากเฟซบุ๊ก อุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง