More Related Content Similar to การสะท้อนของแสง (19) More from Ponpirun Homsuwan (10) การสะท้อนของแสง2. แสง (light) เป็นพลังงานที่อยู่ในรูปคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งมีสมบัติดังนี้
1. แสงเป็นคลื่นตามขวาง
2. แสงเดินทางโดยไม่จาเป็นต้องอาศัยตัวกลาง
3. แสงเดินทางสุญญากาศได้ด้วยความเร็ว 3x108
4. แสงเดินทางเป็นเส้นตรงในตัวกลางชนิดเดียวกัน
5. แสงจะหักเหเมื่อเดินทางผ่านตัวกลางต่างชนิดกัน
แหล่งกาเนิดแสงมีทั้งแหล่งกาเนิดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น แสงดวงอาทิตย์
ที่เป็นแหล่งพลังงานของสิ่งมีชีวิต แหล่งกาเนิดแสงที่มนุษย์สร้างขึ้น
เช่น แสงสว่างจากหลอดไฟ
13. การเกิดภาพจากกระจกเงาราบ (Plane Mirrors)
กระจกเงาราบ คือ กระจกแบนราบซึ่งมีด้านหนึ่งสะท้อนแสง ดังนั้นภาพที่
เกิดขึ้นจึงเป็นภาพเสมือน อยู่หลังกระจก มีระยะภาพเท่ากับระยะวัตถุ และขนาดภาพ
เท่ากับขนาดวัตถุ ภาพที่ได้จะกลับด้านกันจากขวาเป็นซ้ายของวัตถุจริง
รูปแสดงการเกิดภาพจากกระจกเงาราบ
15. ภาพที่เกิดจากกระจกเงาระนาบ 2 บาน วางทามุมกัน
ถ้านาวัตถุไปวางระหว่างกระจกเงาระนาบสองบานวางทามุมต่อกัน
ภาพที่เกิดจากกระจกเงาระนาบบานหนึ่งถ้าอยู่หน้าแนวกระจกเงาระนาบอีกบานหนึ่ง
ภาพนั้นจะทาหน้าที่เป็นวัตถุ ทาให้เกิดการสะท้อนแสงครั้งที่ 2 เกิดภาพที่สองขึ้น
โดยระยะภาพก็ยังคงเท่ากับระยะวัตถุ และถ้าภาพทั้งสองยังอยู่หน้าแนวกระจกเงา
ระนาบบานแรกอีก ภาพนั้นจะทาหน้าที่เป็นวัตถุในการสะท้อนต่อไปอีกกลับไปกลับมา
ระหว่างกระจกสองบานจนกว่าภาพที่อยู่หลังแนวกระจก จึงจะไม่มีการสะท้อนทาให้
เกิดภาพอีก
17. ตัวอย่างที่ 1 กระจกเงาราบ 2 บาน วางนามุม 60 องศาต่อกัน จงหาจานวน
ภาพที่เกิดขึ้น
วิธีคิด จากสูตร
= 6-1
= 5 ภาพ
จานวนภาพที่เกิดจากกระจกเงาราบ 2 บานวางทามุมต่อกัน 60 องศา
เท่ากับ 5 ภาพ ตอบ
18. ตัวอย่างที่ 2 กระจกเงาราบสองบานวางทามุมต่อกัน 45 องศา เมื่อนาดิน
น้ามันไปวางระหว่างกระจกทั้งสองจะเห็นภาพกี่ภาพ
วิธีคิด จากสูตร n = 360 -1
n = 360 -1
= 8 – 1
= 7 ภาพ
จานวนภาพที่เกิดจากกระจกเงาราบ 2 บานวางทามุมต่อกัน 45 องศา
เท่ากับ 7 ภาพ ตอบ
45
21. จากภาพ
จุด C คือ จุดศูนย์กลางของวงกลม ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางความโค้งของกระจกด้วย
R คือ รัศมีของทรงกลม เรียกว่า รัศมีความโค้งของกระจก
P คือ จุดที่อยู่บริเวณกึ่งกลางของผิวกระจก เรียกว่า ขั้วกระจก
22. 1. กระจกนูน คือ กระจกที่รังสีตกกระทบและรังสีสะท้อนอยู่คนละด้านกับจุด
ศูนย์กลางความโค้ง
2. กระจกนูนเป็นกระจกกระจายแสง
3. ทาให้เกิดภาพเสมือนหัวตั้งขนาดเล็กกว่าวัตถุ
กระจกนูนมีลักษณะสาคัญดังนี้
23. 1. กระจกเว้า คือ กระจกที่รังสีตกกระทบและรังสีสะท้อนอยู่ด้านเดียวกับจุดศูนย์กลาง
ความโค้ง
2. กระจกเว้าเป็นกระจุดรวมแสง ถ้าให้รังสีตกกระทบขนานกับแกนมุขสาคัญ รังสีที่
สะท้อนออกจากกระจกจะลู่ไปรวมกันที่จุดจุดหนึ่ง เรียกว่า จุดโฟกัส
3. เกิดได้ทั้งภาพเสมือน และภาพจริง มีทั้งขนาดเล็ก ใหญ่และเท่ากับวัตถุ
กระจกเว้า มีลักษณะสาคัญดังนี้
24. ส่วนประกอบของกระจกโค้ง
1. จุดศูนย์กลางความโค้ง ตามรูปคือจุด C เป็นจุดที่เมื่อมีรังสีตกกระทบกระจกผ่านจุดนี้
รังสีสะท้อนจะผ่านทางเดิม (แต่มีทิศตรงข้าม)
2. ขั้วกระจก ตามรูปคือจุด O เป็นจุดที่แบ่งครึ่งกระจกออกเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน
3. จุดโฟกัส ตามรูปคือจุด F เป็นจุดรวมรังสีสะท้อน
4. เส้นแกนมุขสาคัญ ในรูปคือเส้นตรงที่ลากผ่านจุด C F O
5. ความยาวโฟกัส f คือระยะจากจุด O ถึงจุด F
6. รัศมีความโค้งของกระจก R จะเท่ากับ 2f
30. สีของแสง
การมองเห็นสีต่าง ๆ บนวัตถุเกิดจากการผสมของแสงสี เช่น แสงขาวอาจเกิดจาก
แสงเพียง 3 สีรวมกัน แสงทั้ง 3 สี ได้แก่ แสงสีแดง แสงสีเขียว และแสงสีน้าเงิน
หรือเรียกว่า สีปฐมภูมิ และถ้านาแสงที่เกิดจากการผสมกันของสีปฐมภูมิ 2 สี
มารวมกันจะเกิดเป็น สีทุติยภูมิ ซึ่งสีทุติยภูมิแต่ละสีจะมีความแตกต่างกัน
ในระดับความเข้มสีและความสว่างของแสง ดังภาพ