ยามเข้าไปเที่ยวป่า แต่ละคนย่อมสนใจสิ่งละอันพันละน้อยในราวไพรไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นพืช
สัตว์ หรือทิวทัศน์สวยงาม แต่เชื่อแน่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่สามารถดึงดูดความสนใจของทุกคนโดยเฉพาะหญิงสาว
ได้มากที่สุด นั่นคือดอกไม้ป่าสีสวยที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์
และเมื่อเอ่ยถึงความงามของดอกไม้ในป่า กล้วยไม้มักติดอันดับท็อปฮิตเป็นชนิดแรก ๆ
ด้วยเป็นดอกไม้ที่มีรูปลักษณ์ไม่เหมือนใคร แถมยังมีสีสันสดใสหลากหลายไปตามสายพันธุ์
จนกล้วยไม้ได้รับการยกย่องให้เป็นอัญมณีแห่งพงไพร
กล้วยไม้เป็นพืชกลุ่มใหญ่ที่มีชนิดพันธุ์มหาศาล เฉพาะในเมืองไทยก็มีไม่ต่ำกว่า ๑,๐๐๐ ชนิด
แถมกระจายกันงอกงามตามป่าไม้ทุกประเภท แม้กระทั่งบนลานหินอันแสนแห้งแล้งก็ยังอุตส่าห์มีกล้วยไม้บานอวดดอกสวยอยู่ได้เลย
ใครไปเที่ยวภูกระดึงน่าจะเคยเห็นดอกไม้สีชมพูสดเข้มชูช่อขึ้นมาบนก้อนหิน นั่นแหละ ! กล้วยไม้ชนิดหนึ่ง มีชื่อเรียกแปลก ๆ ว่า ม้าวิ่ง
เมื่อมีชนิดพันธุ์จำนวนมากและผลัดกันออกดอกหมุนเวียนไปตามฤดูกาล ในป่าจึงมีกล้วยไม้ให้ชมตลอดปี
แต่ก่อนไปชมของจริงในธรรมชาติ มาทำความรู้จักจุดเด่นของกล้วยไม้เสียก่อน ไม่งั้นไปแล้วอาจดูผิดได้
เพราะดอกไม้หลายชนิดก็มีลักษณะคล้ายกล้วยไม้เหมือนกัน แต่ถ้าพิจารณาให้ดี จะเห็นว่าดอกกล้วยไม้ต่างจากพืชในวงศ์อื่น
ๆ ชัดเจน กล้วยไม้ของจริงต้องมีกลีบเลี้ยงสามกลีบ ส่วนใหญ่มีขนาดและรูปทรงเหมือนกัน กลีบดอกก็มีสามกลีบ
สองกลีบบนมีขนาดและรูปทรงเหมือนกัน แต่กลีบดอกล่างพัฒนาเป็นกลีบปากที่มีขนาด รูปทรง และสีสัน
ต่างจากกลีบอื่นอย่างชัดเจน
่
เจ้ากลีบปากนี่เองที่เป็นสิ่งสำคัญยืนยันว่าเป็นกล้วยไม้ขนานแท้ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องนับญาติกัน
จะดูกล้วยไม้ให้สนุกต้องมีตัวช่วยด้วย ไม่มีอะไรมาก แค่กล้องส่องทางไกลตัวเดิม (ที่ใช้ดูนกนั่นละ) กับแว่นขยายก็พอ
อย่าเพิ่งสงสัยว่าทำไมต้องพกอุปกรณ์ต่างกันสุดขั้วแบบนี้ไปด้วย เดาได้ไม่ยากหรอก
กล้องส่องทางไกลเตรียมไว้สำหรับส่องดูกล้วยไม้บนยอดไม้สูง ๆ ส่วนแว่นขยายก็ไว้ดูกล้วยไม้ดอกจิ๋ว ๆ
พวกนี้มีมากเสียด้วย กล้วยไม้ดอกจิ๋วนี่แหละท้าทายดีนักเชียว หลายชนิดดูไม่เหมือนกล้วยไม้เอาเสียเลย
บางชนิดไพล่ไปคล้ายไม้เลื้อย ทำให้มองข้ามไปง่าย ๆ บางชนิดโผล่เพียงดอกจิ๋วขึ้นมา ต้องอาศัยแว่นขยายส่องหากลีบปาก
ถึงจะรู้ว่าเป็นกล้วยไม้
คู่มือกล้วยไม้เป็นตัวช่วยสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ เลือกเล่มที่กะทัดรัดเหมาะแก่การพกพาสมกับเป็นคู่มือภาคสนาม
ก่อนซื้อดูให้ดีว่าเป็นคู่มือกล้วยไม้ป่า อย่าเผลอไปหยิบฉบับกล้วยไม้เลี้ยงมาล่ะ เข้าป่าแล้วจะพลิกหาไม่เจอ
ทีนี้ก็ไปดูกล้วยไม้ในธรรมชาติได้แล้ว ในป่ามีกล้วยไม้อยู่แทบทุกหนทุกแห่ง ทั้งบนพื้นดิน
โขดหิน และต้นไม้ เราจึงแบ่งกล้วยไม้ตามลักษณะการอาศัยได้ ๓ ประเภท
เริ่มจากกล้วยไม้ดิน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า มีรากหรือลำต้นอยู่แถวหน้าดินหรือใต้ผิวดิน
เช่น ยี่โถปีนัง ว่านน้ำทอง อีกประเภทหนึ่งเลือกเติบโตและขยายพันธุ์อยู่บนหินแทนการยึดเกาะดินหรือต้นไม้
เช่น เอื้องกระเจี้ยง เอื้องคำหิน รวมทั้งม้าวิ่งเจ้าเก่า
กล้วยไม้ประเภทสุดท้ายมีจำนวนมากที่สุด คือกล้วยไม้อิงอาศัย เป็นกล้วยไม้ที่ขึ้นอยู่บนต้นไม้
อาศัยรากช่วยยึดเกาะให้ติดแน่นและหาอาหารมาเลี้ยงลำต้นด้วย เช่น เอื้องครั่งแสด
เอื้องสิงโตงาม และหวายชนิดต่าง ๆ กล้วยไม้ประเภทนี้เองที่ต้องใช้กล้องส่องทางไกลช่วย
ถ้าเป็นกอที่อยู่บนคบไม้สูง ๆ
ลักษณะการอาศัยของกล้วยไม้เช่นนี้สามารถบอกให้ทราบว่าจะพบกล้วยไม้อะไรบ้างในป่าที่ไป
นี่เป็นข้อดีในการช่วยเลือกสถานที่ดูกล้วยไม้ เช่น กล้วยไม้ในป่าโปร่งมักเป็นพวกกล้วยไม้ดินที่มีการพักตัวเหลือเพียงหัวใต้ดินในฤดูแล้งและสามารถทนต่อไฟป่าได้ดี
เช่น นางอั้วน้อย เอี้ยงสีตอง หากเป็นกล้วยไม้อิงอาศัยก็มักเป็นประเภทที่มีใบหนาแข็งและมีไขเคลือบบนผิวใบเพื่อป้องกันการคายน้ำ
เช่น เอื้องเข็มแดง เอื้องเข็มแสด เขากวางอ่อน
ตามป่าดงดิบพบกล้วยไม้ได้มากกว่าป่าโปร่ง ส่วนใหญ่เป็นพวกชอบดินชุ่มชื้น และไม่ต้องการแสงมากนัก เช่น
กล้วยปลวกม่วง เอื้องน้ำจันทร์ กล้วยไม้อิงอาศัยที่มีใบใหญ่และหนานุ่ม เช่น เอื้องมังกร สร้อยทอง
ก็ชอบอากาศที่มีความชื้นสูง ยิ่งเป็นกล้วยไม้ในป่าดงดิบเขาต้องทนทานต่ออากาศเย็นได้ดีอีกด้วย
กล้วยไม้ดินในป่าดงดิบเขาก็มี สำเภางาม เอื้องแฝง ส่วนกล้วยไม้อิงอาศัยก็เช่น กระดิ่งภู
เอื้องพลายชมพู เอื้องลำต่อ
กล้วยไม้ก็เหมือนสิ่งอื่น ๆ ในธรรมชาติ มีทั้งพบได้ง่ายและหาดูยาก ก่อนไปดูก็ตรวจสอบพื้นที่ก่อนว่า
เป็นป่าประเภทไหน จะได้ทราบว่าจะมีกล้วยไม้อะไรให้เห็นบ้าง รวมถึงช่วงเวลาออกดอก
เมื่อไปดูแล้วก็สังเกตลักษณะการอาศัยว่าเป็นกล้วยไม้ดิน อิงอาศัย หรืออาศัยบนหิน
่
เมื่อพบกล้วยไม้ แม้จะชื่นชมเพียงใดก็ต้องไม่เด็ดดอกกลับไป
ทุกวันนี้กล้วยไม้ในธรรมชาติถูกลักลอบนำออกจากป่ามาขายมากเกินไปอยู่แล้ว
จนหลายชนิดใกล้สูญพันธุ์ พบเห็นยากขึ้นทุกที ถ้าไม่เชื่อไปดูที่สวนจตุจักรในวันเปิดตลาดนัดก็ได้
จะมีกล้วยไม้มากองสูงให้คนเลือกซื้อไปเลี้ยงทุกสัปดาห์
ถ้ายังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป อีกหน่อยคงไม่มีกล้วยไม้ให้ดูในธรรมชาติ
หรือไม่ก็ต้องแบกเทเลสโคปส่องขึ้นไปบนยอดไม้สูงลิบ...ถึงจะเห็นของจริง
|