ขี่ช้าง ล่องแพ ลุยถ้ำ สนุกสุดที่กาญจนบุรี

โดย...กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย

ธรรมชาติส่งสัญญาณสู่ฤดูฝน คนรักการผจญภัยทางน้ำก็คงเตรียมอุปกรณ์กันน้ำไว้แล้วเพราะอีกไม่นานน้ำตามแก่งต่างๆ จะกลับมาไหลเชี่ยวอีกครั้ง เรือยางล่องแก่งก็จะถูกนำมาใช้งานอีกหน

จังหวัดที่มีกิจกรรมท้าทายบนสายน้ำ (จืด) ต้องยกให้ จ.กาญจนบุรี ดินแดนแห่งธรรมชาติ อุดมไปด้วยป่าไม้ น้ำตก ถ้ำ มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและเทือกเขาสูง โดยมีแม่น้ำ 2 สายหลักไหลผ่าน คือ แม่น้ำแควใหญ่และแควน้อย ที่ไหลไปบรรจบกับแม่น้ำแม่กลองที่ตัวเมืองกาญจนบุรี

ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ทำให้กาญจนบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อย่างล่องแก่ง ล่องแพ หรือพายแคนูในแม่น้ำที่มีให้เลือกหลายเส้นทาง ได้แก่ แม่น้ำน้อย เริ่มจากช่วงหมู่บ้านแม่น้ำน้อยถึงน้ำตกไทรโยคใหญ่ใช้เวลาราว 3 ชม. แม่น้ำแควน้อย ตั้งแต่น้ำตกไทรโยรใหญ่ไปถ้ำละว้าใช้เวลา 3 ชม.เช่นกัน แม่น้ำแควใหญ่ เริ่มจากสะพานข้ามแม่น้ำแควถึงบริเวณหน้าเมืองใช้เวลา 1 ชม.ครึ่ง และแม่น้ำซองกาเลีย จากหมู่บ้านสะเน่พ่องถึงบ้านซองกาเลีย อ.สังขละบุรี ใช้เวลาประมาณ 4 ชม.

กิจกรรมล่องแพถือเป็นวิธีที่คลาสสิกที่สุด สะท้อนวิถีชีวิตของลูกแม่น้ำแควได้ชัดเจน ลักษณะเป็นแพราบนั่งได้ไม่เกิน 5 คน ไม่มีเครื่องยนต์แต่ใช้วิธีพายและถ่อไปในบางช่วงที่น้ำน้อย ส่วนใหญ่จะพายทวนน้ำขึ้นไปแล้วขากลับจะปล่อยให้นักท่องเที่ยวใส่ชูชีพลอยคอตามน้ำกลับมา กิจกรรมนี้มักจะพ่วงไปกับการขี่ช้าง

ในกาญจนบุรีมีปางช้างหลายแห่ง เพราะสมัยก่อนเป็นเขตพื้นที่ทำป่าไม้ ซึ่งใช้ช้างในการลากจูง แต่ปัจจุบันไม่สามารถตัดไม้ได้แล้ว ช้างที่มีอยู่จึงตกงานทำให้ต้องแยกย้ายไปอยู่ตามปางช้างต่างๆ ที่ทำเป็นแนวท่องเที่ยว การขี่ช้างสามารถนั่งได้ 2 คนต่อ 1 เชือก มีควาญช้างนั่งบังคับอยู่บนหัวช้าง เส้นทางเดินจะแตกต่างกันไป แล้วแต่ว่าปางช้างนั้นตั้งอยู่ที่ไหน บางแห่งติดแม่น้ำและป่าก็จะให้ช้างเล่นน้ำก่อนแล้วเดินต่อไปเข้าป่า ซึ่งจะให้ได้ประสบการณ์ใหม่เพราะเราจะได้เห็นธรรมชาติรอบตัวในความสูงกว่าช้างและจังหวะการเดินของพี่บิ๊กก็ช่างเป็นเอกลักษณ์

หากล่องแพเส้นทางแม่น้ำแควน้อยจะไปสิ้นสุดที่ถ้ำละว้า เป็นจุดหมายปลายทางที่ทำให้ทริปของความตื่นเต้นจบลงอย่างสวยงาม ถ้ำละว้าเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ภายในเป็นโถงโปร่งมีหินงอกหินย้อยสวยงาม แสงจากภายนอกส่องเข้ามาไม่ถึง แต่มีแสงจากหลอดไฟตามทางเดินให้แสงสว่างตลอดทาง

ทางเดินชมหินงอกหินย้อยจะผ่านโถงเล็กโถงน้อยที่คนไปตั้งชื่อให้ตามลักษณะหินมีทั้งหมด 5 ห้อง ได้แก่ ห้องหนุมาน ห้องจระเข้ ห้องดนตรี ห้องค้างคาว มีค้างคาวอาศัยอยู่นับพันตัว และห้องม่านบรรทมมีขนาดใหญ่ที่สุด จากปากถ้ำถึงห้องสุดท้ายมีความยาวประมาณ 500 ม. ซึ่งสามารถเดินไปได้ง่ายๆ บนทางเดินที่เป็นลักษณะวันเวย์คือเข้าทางไหนออกทางนั้น และตรงทางเข้ามีพระพุทธรูปประดิษฐานให้คนได้สักการะก่อนเข้าและออก

กาญจนบุรีเที่ยวได้ทุกฤดู แต่หน้าฝนป่าจะเขียวสดที่สุด น้ำตกมีน้ำมากที่สุด แก่งมีน้ำไหลแรง ซึ่งเป็นช่วงที่ธรรมชาติสวยงามที่สุดในรอบปี นักท่องเที่ยวจึงพลาดไม่ได้ที่จะมาท้าทายสายน้ำชุ่มฉ่ำของเมืองกาญจน์ เมื่อธรรมชาติเชื้อเชิญแล้วก็ยากที่จะปฏิเสธ