วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
เลขที่ ๔๙๙  หมู่ที่ ๘  ตำบลนาทราย   อำเภอลี้   จังหวัดลำพูน   ๕๑๑๑๐
Rear009.gif (3341 bytes)  หลวงปู่กับวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม | บุญฤทธิ์แห่งเมตตาธรรมหลวงปู่  | ประวัติชีวิตและผลงานโดยสังเขป | อาลัยโพธิญาณแห่งล้านนา |
   | พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย    |    เลขที่บัญชีธนาคารวัด  | 

พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย

อารามหนองวัวเฒ่า หมู่ที่ ๙ บ้านหนองปู (ห้วยต้ม) ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน

ความเป็นมาในการก่อสร้าง หลวงปู่อธิษฐาน แปลนพระมหาธาต คำไหว้พระมหาธาตุเจดีย์ พระพุทธรูป และ รูปเหมือนพระเถราจารย์ บัวยอดฉัตรทองคำ อานิสงส์การสร้างเจดีย์

มโนปณิธานของหลวงปู่jadee2.jpg (20819 bytes)

         การที่หลวงปู่ปรารภให้สร้างพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย เพื่อเป็นพุทธเจดีย์พระเจ้า ๕ พระองค์ในประเทศไทยนั้น ก็ย่อมเป็นการบอกมโนปณิธานของหลวงปู่เป็นนัยว่า

        ๑. เพื่อเป็นสักขีพยานว่า หลวงปู่และลูกหลานรวมทั้งผู้ที่ร่วมสร้างพระมหาเจดีย์นี้ ได้เกิดมาร่วมบำเพ็ญบารมีในพระศาสนาของสมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันในภัทรกัปนี้เที่ยงแท้ดีหลี

        แม้นหากลูกหลานของหลวงปู่ตลอดจนผู้ที่ได้ร่วมสร้างพระมหาเจดีย์แห่งนี้ ยังไปไม่ถึงฝั่งคือพระนิพพานฉันใด ก็ขอให้ได้เกิดมาบำเพ็ยบารมีเพื่อเข้าสู่ฝั่งคือ พระนิพพาน ในพระศาสนาของสมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย์ สัมมาสัมพุทธเจ้าโน้นเถิด ดังเช่นที่ สมเด็จพระสมณโคดมพุทธเจ้าตรัสว่า

        "ดูก่อน พระสารีบุตรผู้เจริญ ชนทั้งหมดไม่ได้เห็นรูปกายของเรา ถ้าเขาได้พบพระศาสนาของเรา ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา แล้วไซร้ ด้วยผลแห่งกรรมนั้น เขาจักอุบัติในสำนักพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า อริยเมตไตรย์แล"

        ๒. เพื่อเป็นการอารธนาพระบรมธาตุของสมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า มาบรรจุในองค์พระมหาเจดีย์ที่สร้างไว้แล้วนี้ ซึ่งหลวงปู่พร้อมทั้งลูกหลานและผู้มีจิตศรัทธาได้สร้างไว้ในพระศาสนาขององค์สมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า และเมื่อใดที่สิ้นพระศาสนาของพระองค์แล้ว ขอองค์พระศรีอริยเมตไตรย์พุทธเจ้าทรงพระเมตตารับทราบบุรพเจตนาที่ได้สร้างพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัยนี้ขึ้นมา ก็เพื่อรอบการมาตรัสรู้ของพระองค์ เช่นเดียวกับพระมหาเจดีย์ชเวดากอง และหากวันนั้นมาถึงขอพระองค์ทรงพระเมตตาให้พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัยนี้ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุของพระองค์เที่ยงแท้ ดีหลีแด่เทอญ

       ในภัทรกัปของเรานี้ มีพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็นอักษรแทนพระองค์ดังนี้ คือ พระ "กักกุสันโธ" อักษร นะ, พระ "โกนาคม" อักษร โม, พระ "กัสสปะ" อักษร พุท, พระ "โคตมะ" องค์ปัจจุบัน อักษร ธา, พระ "อริยเมตไตรย์" ในอนาคต อักษร ยะ (นิยมเรียกกันว่าคาถา "พระเจ้า ๕ พระองค์" คือ นะ โม พุท ธา ยะ) จากหนังสือ พระเจดีย์ชเวดากอง โดย พ. สุวรรณ หน้า ๕๖

ปณิฐานของคนไทยที่มีต่อพระศรีอริยเมตไตรย์

        ความปรากฎในจารึกฐานปราสาทโลหะ (ช.ร. ๙) พ.ศ. ๒๒๗๐ ว่า

            "เมื่อใดพระอริยเมตไตรย์เจ้าลงมาตรัสสัพพัญญุตัญญาณเป็นพระในโลกนี้ หื้อผู้ข้าทั้งหลายแม่ลูกเป็นพุทธุปัฏฐาก แล้วหื้อข้าได้ออกบวชเถิงอรหันตาภิกขุณี แม้นลูกข้าทั้ง ๒ ก็ขอหื้อได้เถิงอรหันตาชู่คนในสำนักพระอริยเมตไตรย์เที่ยงแท้ดีหลี

        เมื่อใดพระอริยเมตไตรย์เจ้านิพพานไปแล้ว หื้อผู้ข้าทั้งหลายแม่ลูกได้สรีระสงสการ แล้วเอาธาตุพระอริยเมตไตรย์เจ้าไปบรรจุ ไว้ในเจติยภัพภหื้อเป็นที่ไหว้สาแก่คนและเทวดา .... "

(จารึกล้านนา ภาค ๑ เล่ม ๑, ๒๕๓๔:๒๓-๒๔)

หลวงปู่ได้พูดถึงศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันว่า

        "พระพุทธเจ้าโคดมของเรา ยังไม่หมดอายุ ๕,๐๐๐ ปี จบเมื่อไรพระธาตุของพระพุทธองค์จะมาชุมนุมกันรวมเป็นองค์พระพุทธเจ้าเหมือนเดิมจะอยู่ในเมืองไทยนี่ ๗ วัน เทศน์ครบ ๗ วัน คนหรือเทพที่อยู่ทางนี้ ใครได้ฟังเทศน์จะได้ถึงอรหันต์จะได้นิพพาน จากนี้ก็จะเสด็จไปเมืองกุสินาราไปอยู่ที่นั่นอีก ๗ วัน คนหรือเทพที่ได้บำเพ็ญไว้แล้วจะมาฟังเทศน์จะได้ถึงอรหันต์ ดับปัญจขันธ์ทั้งห้า เข้าพระนิพพานพร้อมพระพุทธเจ้า แพล็บหายไปหมด เข้าพระนิพพานรวมหมด ถ้าไม่ขยันก็ไม่ได้ ถ้าคลาดจากนี่ไปก็รอพระศรีอาริย์มาโปรดข้างหน้า"

        ดังนั้น ถ้าเราปราถนาเป็นสาวกขององค์ใดองค์หนึ่งแล้ว ต่อไปข้างหน้าพบองค์อื่นก็ปรารถนาขอเป็นสาวกอีกเช่นนี้ แสดงว่าจิตใจไม่แน่นอนทำให้ไปนิพพานได้ยาก ถ้าปรารถนาจะติดตามพระสมณโคดมก็ให้ตั้งมั่นไปยังทำทัน ทุกอย่างอยู่ที่ความปรารถนา (จากหนังสือพระชัยวงศานุสติ)

พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย : พุทธเจดีย์ของภัทรกัปแห่งแรกในประเทศไทย

lungpoo_prathat.jpg (45813 bytes)

         จากพระมหาเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการมาตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระโคตมะ (โคดม) พุทธเจ้า จนมาถึงพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่า   ที่เป็นเครื่องแสดงว่า พระโคตมะพุทธเจ้า เมื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ได้ประทาน พระเกศาธาตุมาบรรจุรวมกับบริขารของพระพุทธเจ้าที่ล่วงมาแล้ว ๓ พระองค์   และรอการมาบรรจุพระบรมธาตุของพระศรีอริยเมตไตรย์เป็นองค์ที่ ๕ แห่งภัทรกัป จึงมีความสำคัญเหมือนพุทธเจดีย์พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ แห่งแรกของโลก (ชเวดากอง แปลว่า เจดีย์ทองเมืองตะเกิง)

                และด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย ในประเทศไทย โดยความคิดริเริ่มของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา อันจะเป็นพุทธเจดีย์ของภัทรกัปแห่งแรกในประเทศไทย และเป็นแห่งที่ ๒ ของโลก

     "อยากจะบอกให้ทุกคนทราบเหลือเกินว่า หลวงปู่มีความเมตตากรุณาต่อเราเพียงไร ที่ได้ริเริ่มให้มีการสร้างพระมหาเจดีย์ศรีเวียงชัย เพื่อเป็นพุทธเจดีย์พระเจ้า ๕ พระองค์แห่งแรกในประเทศไทย หลังจากที่เฝ้ารอมาตลอดชีวิตจนกระทั่งละสังขาร หลวงปู่ปรารถว่า หลวงปู่อธิษฐานสร้างพระเจดีย์นี้เพราะหากหลวงปู่ไม่คิดสร้างไว้ แต่คนอื่นจะคิดสร้างไม่ได้ จึงเป็นการบ่งบอกเป็นนัยว่าไม่ใช่คิดจะสร้างก็สร้าง แต่หลวงปู่ใช้อธิษฐานบารมีต่อพระพุทธองค์ว่า หากลูกหลานในประเทศไทย จะมีโอกาสได้อุปัฎฐากกราบไหว้พุทธเจดีย์พระเจ้า ๕ องค์ ดังเช่นที่บังเกิดขึ้นแล้วในประเทศพม่าคือ พระมหาเจดีย์ชเวดางกอง ก็ขอให้ได้พระบรมธาตุของพระองค์ (พระโคดมพุทธเจ้า) เพื่อมาบรรจุในพระเจดีย์ที่อธิษฐานขอสร้าง" (ผู้เขียน)

หลวงปู่อธิษฐานขอพระบรมธาตุของพระโคตมะพุทะเจ้าก่อนที่จะสร้างพระเจดีย์

loungpoo_6.jpg (124311 bytes)      ก่อนที่หลวงปู่จะปรารภให้มีการสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัยขึ้นมา หลวงปู่ได้อธิษฐานขออารธนาพระบรมธาตุของพระโคตมะพุทธเจ้า เพื่อมาประดิษฐานในพระมหาเจดีย์ที่คิดจะสร้างในประเทศไทย และด้วยเจตนารมย์อันบริสุทธิ์และมโนปณิธานที่ตั้งไว้ชอบแล้ว จึงทำให้คำอธิษฐานของหลวงปู่สัมฤทธิ์ผลเป็นที่น่าอัศจรรย์ คือ

       ครั้งแรก (วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์  ๒๕๓๘) หลวงปู่ได้พระบรมธาตุลักษณะกลมใสองค์ใหญ่จำนวน ๑ องค์   และพรรณสีเขียวมรกตเหมือนเพชรที่เจียรไนแล้วจำนวน ๑ องค์ รวมเป็น ๒ องค์ หลวงปู่บอกว่าเป็นน้ำหล่อเลี้ยงพระหฤทัย

       ครั้งที่สอง  (วันที่   ๑๙  มีนาคม  ๒๕๓๘)   ได้พระบรมธาตุส่วนกลางกะโหลกพระเศียร จำนวน ๑๒ องค์

      รวมกันแล้วหลวงปู่ได้พระบรมธาตุเป็นจำนวนถึง ๑๔ องค์ด้วยกัน หลวงปู่บอกว่า ควรจริงอยากได้พระเกศาธาตุเช่นเดียวกับที่บรรจุในพระมหาเจดีย์ชเวดากอง แต่ได้พระธาตุส่วนนี้ก็สำคัญเท่ากัน
(จากบันทึกของคุณแน่งน้อย ธีระชาติ   ในหนังสือพระชัยวงศานุสสติ   ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๔๓   หน้า ๓๐๔-๓๐๕)

     เมื่อหลวงปู่ได้พระบรมธาตุตามที่ได้อธิษฐานแล้ว จึงได้เริ่มลงมือก่อสร้างพระมหาเจดีย์ ในวันวิสาขบูชาที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๓๘

    และนี่ก็คือ ปฐมเหตุจริง ๆ ที่หลวงปู่ได้สร้างพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัยนี้ขึ้นมา เพื่อให้เป็นพุทธเจดีย์ของพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ อันจะเป็นเจดีย์แห่งภัทรกัป ให้ลูกหลานคนไทยได้กราบไหว้ เป็นแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นแห่งที่ ๒ ของโลก (หลังจากที่เคยทรงประทานให้ไปบรรจุไว้ที่พระมหาเจดีย์ชเวดากองเป็นแห่งแรก)

พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ... สิ่งมงคลสักการะอันสูงสุด แทนองค์พระศาสดา และพระอรหันตเจ้า ที่จะนำไปบรรจุเพิ่มเติมไว้ในพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย เพื่อให้มนุษย์และเทวดาทั้งหลายได้สักการะบูชา

prathat1.jpg (27528 bytes)

หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนาได้อธิษฐานจิตอารธนาพระบรมสารีริกธาตุจากสถานที่ต่าง ๆ ที่ท่านได้ไปจาริกแสวงธรรม ที่สำคัญ คือประเทศอินเดีย ศรีลังกา พม่า จีน เป็นต้น มาบรรจุไว้ในพระมหาเจดีย์ นอกเหนือจากสิ่งมงคลสักการะอันศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ เช่นพระพุทธรูป เป็นต้น

นอกจากนี้ หลวงปู่ก็ได้นำบริขารของพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์ที่ล่วงมาแล้ว มาบรรจุไว้ในพระมหาเจดีย์อีกด้วย ดังนี้
       ๑. ไม้เท้าของพระพุทธเจ้ากกุสันโธ
       ๒. เครื่องกรองน้ำ และคณโฑน้ำจากชเวดากอง แทนธัมกรกของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ
       ๓. ผ้าห่มองค์พระมหาเจดีย์ชเวดากอง แทนผ้าจีวรของพระพุทธเจ้ากัสสปะ

       "คนที่ไม่มีโอกาสไปกราบไหว้ถึงที่พระมหาเจดีย์ชเวดากอง แต่ได้มากราบไหว้ที่พระเจดีย์นี้ (พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย) ก็มีอานิสงส์มากเช่นกัน"

หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา

อปุญญัสสะ กุโต สิวัง

คนไม่มีบุญไม่ถึงนิพพาน