'โบตั๋น' เป็นต้นไม้ที่อยู่เคียงคู่กับจีนมายาวนาน สมัยราชวงศ์ถังซึ่งถือว่าเป็นยุครุ่งเรืองของงานศิลปะ จะมีภาพของดอกโบตั๋นจำนวนมาก ชาวจีนส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าโบตั๋นสื่อถึงความมั่งคั่งร่ำรวยและความสุข โบตั๋นจึงมีคุณค่าทั้งในแง่เป็นไม้ประดับ คุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และมีมูลค่าในเชิงพาณิชย์ด้วย
เมืองเหอเซ๋อ ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงของโบตั๋น และเป็นแหล่งปลูกโบตั๋นที่ใหญ่ที่สุดของโลก ผลิตต้นกล้าโบตั๋นได้ปีละกว่า 10 ล้านต้น จึงเกิดอุตสาหกรรมแปรรูปโบตั๋น เพื่อให้เป็นพืชเศรษฐกิจของจีนส่งออกไปกว่า 30 ประเทศ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ก่อเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รากของต้นโบตั๋นสามารถนำไปทำยา เมล็ดนำไปสกัดเป็นน้ำมันเช่นเดียวกับกลีบดอก
บางบริษัทสามารถแปลงโบตั๋นได้มากกว่า 200 ผลิตภัณฑ์ รวมถึงเป็นอาหาร ของใช้ประจำวัน ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณ และงานด้านวัฒนธรรมและการสร้างสรรค์
น้ำมันจากเมล็ดโบตั๋นเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลัก เพราะมีกรด "ลิโนเลอิก" (Linolenic)ที่จำเป็นต่อร่างกายของมนุษย์ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์สารนี้ได้จึงจำเป็นต้องได้จากอาหาร และส่วนใหญ่ร่างกายจะขาดสารชนิดนี้ เมล็ดโบตั๋นซึ่งอุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร จึงเป็นที่นิยมของผู้บริโภค
ปีที่แล้วอุตสาหกรรมโบตั๋นของเมืองเหอเซ๋อ มีมูลค่ากว่า 51,000 ล้านบาท และช่วยสร้างงานกว่า 5 หมื่นคน ทั้งในรูปของงานเครื่องเคลือบ งานศิลปะ และเสื้อผ้าเป็นต้น