หมามุ่ยทำพิษ เร่งสอบคนร้องนายกฯ ถูกหลอกให้ปลูก ชาวสวนกลับลำไม่ได้โดนหลอก

(18 ม.ค.59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายสุนทรลำงาม เกษตรกรใน ต.คำโพน อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ พร้อมญาติๆอีก 2 คน ได้เข้าร้องทุกข์กับสื่อหลังจากกรณีที่นายอุทัย ปลาทอง ประธานบริษัทบ้านไร่เกษตรสร้างสรรค์ ออร์นิค ชักชวนให้เข้าเป็นสมาชิกร่วมลงทุนปลูกหมามุ่ย โดยเรียกเก็บค่าแรกค่า 4,9000 บาท พร้อมทั้งสัญญาว่าจะรับซื้อผลผลิตที่ใน กก.ละ 2,000 บาท ซึ่ง 1 ไร่ จะได้แต่ละ 1 ตัน เป็นจำนวนเงิน 150,000 บาทตามข่าวสื่อต่างๆที่นำเสนอไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 8.00 น. ที่ผ่านมา นายประกาศ สุขกุล นายอำเภอปทุมราชวงศา ได้รับคำสั่งจาก นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ และ พล.ต.ต. พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผบก.ตร.ภ.จว อำนาจเจริญ มอบหมายให้ พ.ต.อ. อรรคชัย สังควณิช รอง ผบก.รักษาการ ผกก.สภ.ปทุมราชวงศา เดินทางยังบ้านนายสุนทรและเกษตรกรอีก 2 คน จากนั้นได้นำตัวเกษตรกรผู้ปลูกหมามุ่ยทั้ง 3 คน มาให้ พ.ต.ต.เอกพล นาพิมาย พนักงานสอบสวนสอบปากคำถึงรายละเอียดเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

ด้านเกษตรทั้ง 3 คนที่ประกอบด้วย 1.นายคำมี ลำงาม เป็นพี่ชายคนโต 2.นายสุนทร ลำงาม คนรอง และ 3. นายสุภี ลำงาม ทั้ง 3 เป็นญาติพี่น้องกัน และให้การว่าเมื่อช่วงเช้าได้รับโทรศัพท์จากนายอุทัย ปลาทอง ประธานบริษัทฯ ยอมรับซื้อเมล็ดหมามุ่ย กก.ละ 200 บาทตามที่เคยตกลงไว้ และทางบริษัทจะนำเครื่องมาสีให้แต่ขณะนี้ให้ทางเกษตรกรกะเทาะเมล็ดเอง อย่างไรก็ตาม พวกตนได้เก็บเกี่ยวไปบางส่วนแล้วคงได้ไม่เกิน 25 ก.ก.ไม่ถึงตันตามที่ประธานบริษัทรับปาก

201601181035383-20021028190208

Advertisement

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าพวกตนไม่ได้ถูกหลอก ที่บอกว่ากิโลกรัมละ2,000 บาทนั้นไม่ตรงกับความจริง ตนพูดเพียงว่าหากขายได้มากกว่ากิโลกรัมละ 200 บาทก็จะดีมากเพราะพวกตนขาดทุนมากไม่ได้ค่าปุ๋ย ค่าทำนั่งร้านให้หมามุ่ยเกาะด้วยช้ำไปเพราะใช้ทุนมากพูดง่ายๆว่าหากขายได้กิโลกรัมละ 200 บาทพวกตนขาดทุน จะให้ได้ทุนพอไปได้พวกตนต้องขายได้ในราคา 500บาทถึง 1,000 บามพวกตนจึงจะอยู่รอด

ด้าน พ.ต.อ. เอกพล กล่าวยอมรับว่า เรื่องที่เป็นข่าวได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ระดับชาติ จึงได้สั่งการมาตามลำดับชั้น แต่จากการสอบสวนเกษตรกรทั้ง 3 แล้ว ประธานบริษัทยังไม่เข้าข่ายหลอกลวงเนื่องจากเขายังรับปากว่าจะรับซื้อให้ ส่วนเกษตรกรเชื่อว่าจะได้เมล็ดไร่ละ 1 ตันก็เป็นความรู้สึกของเกษตรกรเอง หากเมื่อเกษตรกรนำเมล็ดไปจำหน่ายประธานบริษัทบ่ายเบี่ยงหรือไม่รับซื้อจึงจะเข้าข่ายความผิดหลวกลวงประชาชน ที่จริงเกษตรกรต้องการให้ราคาหมามุ่ยสูงขึ้นสัก 500-1,000 บาทจึงจะอยู่รอด เพราะต้องใช้ทุนสูงทำนั่งร้านให้เครือหมาหมุ่ยไต่จึงจะออกลูกเยอะ ต้องใช้ไม้ไผ่หลายร้อยหลายพันลำมาทำเป็นร้านให้เครือหมามุ่ยไต่เพื่อออกลูกดกนั้นเอง ล่าสุด จากการออกตรวจซึ่งเบื้องต้นพบว่า มีเกษตรกรที่ลงทุนปลูกหมาหมุ่ยอยู่หลายอำเภอ ทั้งใน อ.ปทุมราชวงศา อ.พนา จ.อำนาจเจริญ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี รวมแล้วคงมีหลายไร่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image