‘ชาดา’ ชูอันซีน บ้านวังทอง ล่องเรือชมสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เตรียมแผนสร้างสกายวอล์คท่องเที่ยวอุทัยฯ 

‘ชาดา’ ชูอันซีนบ้านวังทอง ร่องเรือชมสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เตรียมแผนสร้างสกายวอล์ค เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดอุทัยธานีสู่ของประเทศในอนาคต

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่ จังหวัดอุทัยธานี หลังจากที่ได้มีการเปิดแหล่งท่องเที่ยวชีวภาพแห่งใหม่ ในสโลแกน เที่ยวชมวิถีชีวิต ล่องเรือใกล้ชิดธรรมชาติ ชมสัตว์ป่าทับเสลา กินปลาเผาห้วยระบำ เลิศล้ำมรดกโลกห้วยขาแข้ง โดยสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่นี้มีชื่อว่า แหล่งท่องเที่ยวบ้านวังทอง อยู่ในพื้นที่ หมู่ 6 ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี

หลังชาวบ้านได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ ป่าไม้ ชลประทาน และ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ผสานพลังปลุกการรักษ์ผืนป่าสู่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ สร้างชุมชนบ้านวังทองให้เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนที่สวยงาม ชมทิวเขาป่าห้วยขาแข้ง กับแหล่งกักเก็บน้ำเขื่อนระบำ ที่มีความกว้างมากกว่า 11,200 ไร่ ได้พักผ่อนหย่อนใจ แบบธรรมชาติ นอนพักกางเต็นท์ และทานอาหารริมอ่างเก็บน้ำ และได้ร่องเรือชมธรรมชาติและสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้เปิดมุมมองเห็นความเป็นอยู่ของสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะได้เห็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในรอบเขต อย่าง ช้าง กวาง วัวแดง เสือ เป็นต้น นำไปสู่การร่วมกันอนุรักษ์ สัตว์ป่า และป่าไม้ และยังสามารถ สร้างจุดเปลี่ยนแปลง ของการอยู่ร่วมกันระหว่าง คนกับป่าไม้และสัตว์ป่าอย่างยั่งยืน เกิดการพึ่งพาอาศัยกัน ลดการรุกป่าและล่าสัตว์ป่า ได้เป็นอย่างมาก

โดย นายสมคิด มาท้วม นายก อบต.ระบำ กล่าวว่า หลังจากที่ตำบลของเราได้มีการเปิดแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ขึ้น และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวมากขึ้น ก็ทำให้วิถีชีวิตของคนชุมชนที่นี่เปลี่ยนแปลง ขึ้นมาก จากแต่ก่อนที่เคยมีการล่าสัตว์ ตัดไม้ หลังได้มีการจัดการท่องเที่ยว เชิง นิเวศน์ ขึ้นก็ทำให้ชาวบ้านมีอาชีพมีรายได้จากตรงนี้ขึ้นมาแทน ทำให้เกิดการอยู่ร่วมกันระหว่างคน สัตว์ป่า และป่าไม้ได้เป็นอย่างดี และจะมีการพัฒนาโครงการนี้ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อให้เกิดความยั่งยืนทั้งคุณภาพชีวิต คน สัตว์ป่า และป่าไม้ ซึ่งคาดว่าช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับ ปีใหม่ นี้จะมีนักท่องเที่ยว เดินทางมาจำนวนมาก นายก อบต.ระบำ กล่าว

ด้าน นางนุชรี วงษ์ทองศรี หนึ่งในชาวบ้านที่มาตั้งร้านขายของในแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ เล่าว่า หลังจากที่มีการออกข่าวไปแล้วก็มีนักท่องเที่ยว เดินทางมาเยอะมาก จึงทำให้ตอนนี้ชาวบ้านที่นี่พอมีรายได้กันเพิ่มขึ้น จากแต่ก่อนที่เราอยู่บ้านกันเฉยๆ พอมีสถานที่ท่องเที่ยวตรงนี้ขึ้นมา ก็ทำให้เรามีรายได้กันมากขึ้น เพราะปกติแล้วชาวบ้านที่นี่จะประกอบอาชีพหาปลาและรับจ้างทั่วไป และทำไร่กันเป็นหลัก ทำให้พอเวลายามว่างจากที่อยู่กันเฉยๆก็ไม่มาขายของกัน ทำให้ตอนนี้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่ม หมู่บ้านมีการพัฒนาที่ดีขึ้น ซึ่งหากนักท่องเที่ยว มาเที่ยวที่นี่นอกจากจะได้กินปลาสดๆ จากเขื่อนระบำแล้วนั้น ยังจะได้ร่องเรือชมสัตว์ห้วยขาแข้ง อีกด้วย

Advertisement

ด้าน นายบุญชิด พันแตง อายุ 36 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่รับหน้าที่ร่องเรือพานักท่องเที่ยว ชมธรรมชาติ และสัตว์ ป่า เล่าว่า หากจะล่องเรือ ชมสัตว์ป่าที่นี่จะเน้นเป็นช่วงเช้าตั้งแต่ เวลาประมาณ 6 โมงเช้า – 8 โมงเช้า และจะยังได้ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ร่องเรือหาปลาแบบพื้นบ้าน และในช่วงเย็นประมาณ 4-6 โมงเย็น จะเป็นช่วงที่จะได้เห็นสัตว์ป่าได้มาก อย่างเมื่อวานนี้นักท่องเที่ยว ก็จะได้เห็น วัวแดง ช้าง เก้ง กวาง และเนื้อทราย ทำให้ตอนนี้ชาวบ้านในหมู่บ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีเม็ดเงินหมุนเวียน ในชุมชนตำบลมากขึ้น

ด้าน นายชาดา ไทย เศรษฐ์ ส.ส.จ.อุทัยธานี หนึ่งในผู้มีส่วนริเริ่มผลักดัน การท่องเที่ยวเชิง นิเวศน์ บ้านวังทอง กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการสร้างแหล่งท่องเที่ยว ชีวภาพ บ้านวังทองและการล่องเรือชมธรรมชาติและสัตว์ป่าห้วยขาแข้งนี้ เกิดจากที่ต้องการให้คนที่เฝ้าป่าแห่งนี้มีรายได้จากป่า โดยที่ไม่ไปรบกวนป่า โดยหลังทาง UNPD หรือ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ได้มีการให้มหาวิทยาลัยเกษตรเข้ามาศึกษา ตนเองก็ได้เข้ามาช่วยดำเนินการ โดยหลักสำคัญก็คือในส่วนของอนุรักษ์พันธุ์พืชสัตว์ป่าจังหวัด อุทัยธานี ได้มีศูนย์เพาะเลี้ยงอยู่บริเวณนี้แล้ว และได้มีการปล่อยสัตว์ป่าออกมาเยอะ จึงเล็งเห็นว่าควรมีการส่งเสริมให้มีการจัดการท่องเที่ยวในระบบ โดยเอาพี่น้องชาวตำบลระบำ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ให้มีรายได้จากตรงนี้

และที่สำคัญก็คือ ส่งเสริมให้เกิดการรักและหวงแหนป่า เพื่อให้เกิดการอยู่ร่วมกันระหว่างป่ากับคนที่อยู่กับป่า ให้เกิดการรักษาธรรมชาติ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ดูแลสัตว์ป่า ซึ่งก่อนหน้านี้ บริเวณโดยรอบจะมีชาวบ้านนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาเลี้ยงในเขตป่าอนุรักษ์ ทำให้สัตว์เลี้ยง พัวพัน กับสัตว์ป่า จึงได้มีการอพยพ วัว ควาย ของชาวบ้านที่เอาไปเลี้ยงและเข้าไปอาศัยอยู่ออกมาทั้งหมด โดยมีการขอความร่วมมือพูดคุยทำความเข้าใจ กับพี่น้องชาวบ้านในพื้นที่ถึงเรื่องดังกล่าว จนสุดท้ายชาวบ้านก็ได้ยอมนำ ควาย วัว ม้า หมู สัตว์เลี้ยงต่างๆ ที่เคยเลี้ยงไว้ในป่าออกมาทั้งหมด เพื่อไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสัตว์ป่าได้อีก และเรื่องโรคระบาดก็จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องและทางอนุรักษ์พันธุ์พืชและสัตว์ป่า มาปล่อยไว้ในบริเวณนี้

Advertisement

เนื่องจากข้างบนนั้น เรามีการป้องกันไฟป่าไว้อย่างดี จึงทำให้เกิดการขาดห่วงโซ่อาหาร ทำให้สัตว์ที่กินหญ้าก็ไม่มีหญ้า ก็ต้องลงมาข้างล่าง พอลงมาข้างล่างแล้วสัตว์ประเภทอื่นก็จะตามลงมาด้วย จึงมองว่า ในเมื่อมีสัตว์ลงมาแล้วต้องไม่ไปรบกวนชาวบ้าน เราก็จะกันบริเวณนี้และปลูกหญ้าให้สัตว์ในเบื้องต้น เพื่อให้ตรงนี้มีทั้งแหล่งท่องเที่ยว และศูนย์เผยแพร่ความรู้ในอนาคตต่อไป คนอุทัยธานีที่เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ต้องมาเรียนรู้ห้วยขาแข้ง ว่าความสำคัญของห้วยขาแข้งคืออะไร ในการร่วมกันอนุรักษ์มรดกโลก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนอุทัยธานี

โดยหลังจากทำสถานที่ตรงนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ก็จะมีการต่อยอดในอนาคตในการทำสกายวอล์คเดินดูสัตว์ป่า ซึ่งตรงส่วนนี้จะค่อยๆดำเนินการไป โดยจะมีศูนย์เรียนรู้คอยให้เด็กๆได้มีความรู้ว่า ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร ที่จะไม่ให้กระทบสิ่งแวดล้อมมาก รวมไปถึงการเผยแพร่ห้วยขาแข้ง ซึ่งเป็นป่าที่พวกเราภาคภูมิใจ ซึ่งจะเป็นในลักษณะที่ให้ชาวบ้านนั้นมีส่วนบริหารจัดการ โดยมี ส่วนราชการเป็นพี่เลี้ยง ซึ่งก็มีทั้งกรมชลประทานให้พื้นที่ ทางอนุรักษ์ฯก็ให้ความร่วมมือ โดยที่เราก็จะผ่านกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยที่ให้ชุมชนนั้นจัดการเรื่องการท่องเที่ยว

ซึ่งคิดว่าหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ ก็จะเป็นอีกไฮไลท์หนึ่ง ที่ว่าถ้ามาเมืองไทยต้องมาที่นี่ ซึ่งเราก็จะพยายามค่อยๆทำไป ซึ่งก็ต้องใช้ระยะเวลาอยู่พอสมควร โดยจะพยายามทำให้โครงการครั้งนี้สำเร็จได้โดยไว เพื่อที่จะทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดอุทัยธานีและของประเทศไทยต่อไปในอนาคต

ส่วนไฮไลท์อย่างการล่องเรือชมสัตว์ป่านั้น หากมาในช่วงเช้า นักท่องเที่ยวจะได้เห็นสัตว์ป่าแน่นอน และต่อไปก็จะมีสัตว์ป่าเพิ่มมากขึ้น และที่นี่เราก็จะมีลานกางเต็นท์ ลานรถบ้าน และมีบ้านต้นไม้ ซึ่งจะอยู่ตรงจุดเขตป้องกันไฟป่า ซึ่งตอนนี้เรากำลังเริ่มทำการปลูกอยู่ ส่วนบ้านต้นไม้นั้นตอนนี้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อนักท่องเที่ยวมาก็จะมีที่พักและอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นไฮไลท์ไม่แพ้กับการชมสัตว์ป่านั่นก็คือ ในช่วงเวลาเย็นที่พระอาทิตย์ตกดินที่นี่ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นเลยว่าบรรยากาศทิวเขาที่สวยงามมาก อาจจะเรียกได้ว่าเหนือกว่าประเทศบางประเทศที่มีการโปรโมทกัน มั่นใจว่าทิวเขาของเรานั้นมีความสวยงามไม่แพ้ใคร ไม่ว่าจะเป็นจุดบริเวณบ้านต้นไม้ และบริเวณริมอ่างบ้านวังทอง พระอาทิตย์ยามเย็นและยามเช้าที่นี่มีความสวยงามมาก และนอกจากจะได้ชมความสวยงามแล้วนักท่องเที่ยวก็ยังจะได้รับความรู้ เรื่องสัตว์ป่า มีความรู้เรื่องการดำรงตน ในแบบการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจะต้องทำอย่างไร นายชาดาฯ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image