‘มายากลไม่มีวันตาย’ 69 ปีของชีวิต ‘ฟิลิป’ เฉลิมสวรรค์ ไพบูลย์พันธ์

‘มายากลไม่มีวันตาย’
69 ปีของชีวิต
‘ฟิลิป’ เฉลิมสวรรค์ ไพบูลย์พันธ์

เฉลิมสวรรค์ ไพบูลย์พันธ์

ไม่ใช่ชื่อคุ้นหู แต่หากกล่าวถึง ‘ฟิลิป’ ภาพของหนุ่มมาดดีลีลาโดดเด่นขณะสับไพ่ เนรมิตมายากลชวนอัศจรรย์ใจ ย่อมกระจ่างชัดในความทรงจำ ตั้งแต่ชาวเบบี้บูมเมอร์ เจนเอ็กซ์ และวาย ซึ่งไม่ว่าใครต่อใครต้องเคยชมการแสดง ‘ฟิลิปมายากล’ ผ่านหน้าจอโทรทัศน์รายการฮิต

ในช่วงพีค คว้ารายเดือนเฉียดแสนต่อคืนเมื่อนับสิบปีก่อนหน้า

Advertisement

กลายเป็นภาพจำและสัญลักษณ์ของนักมายากลไทย

วันนี้ แม้ห่างหายไปจากหน้าจอ แต่ยังโลดแล่นในแอพพ์สุดปังอย่างติ๊กต็อก ไม่มีตกเทรนด์ที่เน้นการเต้นคัฟเวอร์เพลงลูกทุ่ง

นอกจากนี้ ยังถ่ายทอดเคล็ดวิชามายากล ณ ‘โรงเรียนสอนวิทยากลฟิลิป’ ซึ่งก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2538 ได้รับการรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ

Advertisement

ย้อนกลับไปเมื่อหลายทศวรรษก่อน เส้นทางชีวิตของ ฟิลิป ฉายแววกล้าคิด กล้าแสดงออกมาตั้งแต่เยาว์วัย จนยายตั้งฉายาว่า พ่อเด็กนักประดิษฐ์ นักพูด นักวาด ค้นฟ้าควานหาเส้นทางจากพัทลุง มาเรียนจนจบประกาศนียบัตรทางการศึกษา (ปก.ศ.) ต้น จากวิทยาลัยครูนครปฐมในขณะนั้น ก่อนได้ทำงานในห้องแล็บ (ห้องทดลอง) เล็กๆ แห่งหนึ่งด้วยความรู้ทางเคมี แต่สุดท้ายขอเอาดีทางลีลาศด้วยใจรัก กระทั่งประกอบอาชีพเป็นครูสอนลีลาศ แล้วมุ่งหน้าเล่นแร่แปรธาตุทางการแสดงอย่าง ‘มายากล’ โดยได้รับทุนไปฝึกซ้อมถึงญี่ปุ่นด้วยความหวังที่ว่า

‘ฉันต้องเป็นมือ 1 ของประเทศไทยให้ได้’

เกือบครึ่งศตวรรษ ฟิลิป พิสูจน์แล้วถึงความเป็นตัวจริงของวงการ ผ่านงานการแสดง งานละคร งานโฆษณามาแล้วนับไม่ถ้วน

ในวัย 69 ปี ยังดูหนุ่มกว่าอายุจริงหลายขวบปี พร้อมขับเคลื่อนวงการนักมายากลไทยไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง ทั้งการมอบทุน ผลักดันนักมายากลรุ่นใหม่สู่สากล

เชื่อว่าหลายคนคิดถึงความสุข สนุกสนานในยุคอนาล็อกที่มีฟิลิปเป็นส่วนสำคัญในประวัติศาสตร์ความบันเทิงไทย

⦁จบครู อยู่ห้องแล็บ หลงเสน่ห์ลีลาศ แล้วมาเดินบนเส้นทางมายากลได้อย่างไร?

ใจไม่เคยมีความคิดในหัวว่าจะมาเข้าวงการมายากลเลยด้วยซ้ำ สมัยเด็กๆ ก็ได้แต่ดูเฉยๆ แต่ความฝันแท้จริงแล้วอยากเป็นนักเต้นลีลาศ เป็นหนุ่มพัทลุงเดินทางเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เป็นช่วงที่เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ได้ทำงานบริษัทเล็กๆ อยู่ในห้องแล็บ ดันไปเจอหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เขียนรับสมัครคุณครูสอนเต้นลีลาศ โดยไม่ต้องมีประสบการณ์ก็ได้ ผมก็เลยไปสมัครเมื่อเขาสอนให้ เราก็มีหน้าที่สอนให้คนอื่นต่อเพื่อตอบแทนเขา ช่วงเวลานั้นใฝ่ฝันว่าอยากเปิดโรงเรียนสอนเต้นลีลาศ ชีวิตช่วงนั้นทุกอย่างคือลีลาศไปหมด

ในช่วงยุค 2516 เป็นช่วงที่การเต้นลีลาศกำลังเข้ามา ก็ได้รู้จักกับรุ่นพี่คนหนึ่งชื่อ พี่มาลี เขาส่งผมประกวดตามงานต่างๆ ก็มีแนวทางที่จะเติบโต เต้นไปเต้นมาได้ไปนั่งดูหนังเรื่องรถไฟปีศาจ ฆาตกรรมกันทั้งเรื่องบนรถไฟ ฉากหนึ่งมีนักมายากลออกมาเล่น จังหวะนั้นเขาเสกไพ่ด้วยมือเปล่า ผมทึ่งมาก มันเป็นการแสดงที่ดีนะ แต่ไม่มีเสน่ห์ ไม่มีบุคลิกภาพ แต่พลิ้วมาก ช็อกเลย มีคนทำแบบนี้ได้ด้วย พอเดินออกจากโรงหนังวันนั้น ก็พูดกับตัวเองว่า ผมจะเป็นนักมายากลที่มีชื่อเสียงของเมืองไทยให้ได้ มันทั้งบ้า ทั้งคลั่ง อยากจะเป็นให้ได้ นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นความคิดที่จะเข้ามาในวงการมายากล

รุ่งเช้าที่ปากน้ำ ผมบอกกับพี่มาลีว่า ผมไม่เอาแล้วนะ ลีลาศ พี่มาลีตกใจมาก ผมอธิบายให้แกเข้าใจว่าอยากเสกไพ่ได้ แล้วโชคชะตาก็พาไปในสิ่งที่เราชอบ ไปเจอการแสดงมายากลตามห้าง ในตอนนั้นมีบูธมายากลอยู่ทั่วทุกแห่งหน เขามีบูธขายของด้วย เล่นไม่พอ เขาก็สอนเราด้วย ผมเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ไม่กล้าจะไปคุยกับเขาเลยต้องให้คนออกไปหมดก่อนแล้วถามว่า มายากลแบบนี้เล่นอย่างไรครับ มีเด็กคนหนึ่งสอนผมทุกอย่าง พอกลับมาที่บ้าน ก็ตกใจ อ้าว! เราก็ทำได้เหมือนกันนี้หว่า

ผมฝึกเรื่อยมา จนปี 2525 ได้แข่งขันมายากล คว้าที่ 1 มาได้ เราตั้งชื่อตัวเองว่า ฟิลิป หมายถึงแสงสว่าง มาจากภาพยนตร์เรื่อง เจ้าชายอัศวิน ตัวละครชื่อฟิลิป ก็เลยตั้งชื่อ ฟิลิปตามเขา ก็มีอาจารย์ท่านหนึ่งมาสอนผม ชื่อว่า อาจารย์ชาลี ประจงกิจกุล อยู่ชมรมสยามเมจิกคลับ มีการจัดประกวดก็ต้องฝึกฝน ทั้งเสกนก กลไพ่ ใจเรามันก็ฟุ้งซ่านเหลือเกินว่า อยากที่จะเป็นมือ 1 ของประเทศไทย ซุ่มซ้อม 2 ปี จนมีแวว เขาพาไปแข่งถึงประเทศญี่ปุ่น ชิงแชมป์โลกในปี 2528 แต่ไม่ได้รางวัลกลับมา

⦁คิดว่าตอนนั้นทำไมพลาดรางวัล ทั้งที่ซุ่มซ้อมเป็นปีๆ

เราสู้เขาไม่ได้ มายากลที่เราเล่นคือการลอกเลียนแบบเขามา เราก็ไม่รู้เรื่อง คะแนนตัดสินเขาตัดสินที่ความคิดริเริ่ม แต่เราไม่มี ตอนนั้นสหรัฐได้ที่ 1 เขาต้องการความเป็นออริจินัลของตัวเอง เราเก่ง เรามีทักษะ แต่เราไม่มีสิ่งที่เป็นตัวตน

ในความพ่ายแพ้ คนจัดงานชาวญี่ปุ่นเรียกผมเข้าไปคุย ถามผมว่าอายุเท่าไหร่ ผมบอก 27 ปี เขาถามว่าสนใจไหมที่จะเรียนมายากลที่นี่ เขาจะสนับสนุน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหาร เพราะเขาชื่นชอบศักยภาพผมบนเวที เขามองว่าเด็กคนนี้ยังขาดอะไรหลายๆ อย่าง 2 เดือนต่อมา ผมตัดสินใจไปอยู่ญี่ปุ่นทันที เป็นความโชคดีอย่างมาก

พอการฝึกกว่า 6 เดือนจบลง ผู้ให้ทุนชาวญี่ปุ่นพูดกับผมว่า ฟิลิป คุณกลับไปเป็นผู้นำที่เมืองไทยนะ พอเขาพูดคำนี้ออกมา ผมก็งง เรายังไม่มีความเป็นผู้นำอะไรเลย ผมขอบคุณเขามาก เป็นการฝึกมายากลที่ไม่ต้องตอบแทนอะไรเขาเลย พอกลับมาเมืองไทยก็เริ่มทำมาหากินในปี 2528 กลับมาก็ยังไม่รอด เพราะเราหลงตัวเองว่าเป็นเด็กนอก เหลิงในฝีมือ เป็นการเล่นมายากลที่ไม่มีคนเข้าใจ หากินอย่างรุ่นพี่ๆ ไม่ได้ แต่หากผมไปเป็นแบบเขาก็ไม่ใช่สไตล์ของผมอีก

•แล้วสไตล์ของฟิลิปตอนนั้นคือแบบไหน?

สไตล์ผมต้อง แอ๊ก หล่อ เท่ แถมยังมีมาดนักแสดงลีลาศติดตัวมาอีกด้วย ก็โดนลูกค้าว่าบ้าง เล่นดี แต่ดูไม่รู้เรื่อง ในความพยายามของผมก็ไม่ยอมแพ้ ใจมันยังรัก ถึงเงินมันจะน้อยแต่ก็มีความสุข

พอละคร เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ เข้ามาฉายในไทย เพลงประกอบตอนนั้นดังมากชื่อว่า ‘??? – Frances Yip’ ก็เลยนำเพลงมาเล่นควบคู่กับการแสดงมายากล แค่มีเพลงเข้ามา คนดูกลับดูการแสดงรู้เรื่องมากยิ่งขึ้น มันเข้ากับจังหวะ ทั้งการแต่งตัวเป็นเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ด้วย ต่อมาได้พบ ลิซ่า ไปรพิศ ก็ปังขึ้นมาเลย เขาไม่ได้มีความสามารถในการเล่นมายากลอย่างเดียว แต่ยังร้องเพลงได้ด้วย ก็กลายเป็นวาไรตี้โชว์ ไปเลย

จากรับงานละ 800 บาท สู่การอัพราคาขึ้นมา 1,200 บาท ได้ทันที คืนหนึ่งเล่นประมาณ 3 ที่ 15-30 นาที

คาเฟ่ นับว่าเป็นมหาวิทยาลัยของผมเลยก็ว่าได้ เรียนรู้ทุกอย่าง เราต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงาน รู้จังหวะการยิงมุขมากขึ้น เริ่มหัดพูดมากขึ้น รู้ว่าจังหวะไหนคนจะต้องหัวเราะ จนราคาอัพขึ้นไปถึง 2,500 บาท จนชื่อเสียงโด่งดังขึ้นได้ออกรายการทีวี ผมก็เริ่มมองหาออร์แกไนซ์ พาตัวเองไปเสนองานโชว์ ก็ได้ไปโชว์ตามบริษัทใหญ่ๆ เป็นจำนวนมาก จนถึงวันที่ค่าแสดงพุ่งไปถึง 65,000 บาท รุ่งขนาดที่ว่า 10 ปี คิวยาวไม่ขาดเลย

นอกจากนี้ ผมเคยสอนมายากลให้ เบิร์ด ธงไชย ในเพลงฝากเอาไว้ ในยุคนั้นนักร้องที่มีชื่อเสียง มักเล่นมายากลออกคอนเสิร์ตค่อนข้างเยอะมาก เป็นที่นิยมในหมู่นักร้อง นักแสดง

•รับงานชุกขนาดนั้น เคยมีเหตุการณ์ผิดพลาดระหว่างเล่นบ้างไหม?

ในการเล่นมายากลมีเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิดเยอะมาก ภาพยนตร์สามารถถ่ายเป็นเทกๆ ได้ แต่การแสดงมายากลต้องม้วนเดียวจบ และแสดงสดเท่านั้น เมื่อมีอะไรผิดพลาดก็ต้องแก้ไขกันหน้างานเลย บ้างครั้งต้องยอมผิดแบบดื้อๆ อย่างการใช้มีดดาบสวิตช์เสีย ไม่สามารถเปลี่ยนดาบได้ หากแทงนักแสดงคอขาด ก็ต้องจบการแสดง

ในการแสดงของผมสิ่งที่มัดใจคนดูคือ การพูดกันปากต่อปากถึงการแสดงซึ่งผมต้องเล่นให้ทันเทรนด์ของบ้านเมือง เพลงไหนดังในตอนนั้นก็ต้องรีบหยิบนำมาเล่น ละครเรื่องไหนดังก็ต้องหยิบมาแต่งกายตามตัวละครนั้นๆ แบทแมนมา ฟิลิปก็ต้องเป็นแบทแมน ผมชอบคิดต่าง หากเรามีความต่าง เราจะมีจุดขายแน่นอน สิ่งหนึ่งที่ผมกระทำเวลาที่ได้ไปแสดงมายากลยังต่างประเทศนั่นคือ การแต่งกายชุดไทยใส่ชฎา เผยแพร่เอกลักษณ์ความเป็นไทยให้ประชาชนต่างบ้านต่างเมืองให้ได้รู้ถึงความเป็นไทย

•รู้ว่าตัวเองมีชื่อเสียงตอนไหน?

จริงๆ ผมไม่รู้ว่าผมดัง จนกระทั่งวันหนึ่งไปเที่ยวสวนสัตว์ดุสิต แล้วไฟมันดับ มีคนตะโกนว่า นี่เสียงฟิลิปใช่ไหมหลังจากนั้นมาก็รู้เลยเรามีชื่อเสียงแล้ว เวลาไปไหนคนก็ทักทาย มันเป็นเหมือนกำไรชีวิต เด็กสมัยใหม่ก็จะรู้จักผมจาก สพฐ. การเป็นกรรมการตัดสินการแข่งขันมายากลนักเรียน

•โรงเรียนสอนวิทยากลฟิลิปที่ห้วยขวาง ปั้นใครมาแล้วบ้าง?

เราสอนมาหลายรุ่นมาก ผมมั่นใจว่า นักมายากลในบ้านเราเกิดจากบ้านฟิลิปหลายคณะ จุดประกายให้เกิดนักแสดงมายากลรุ่นใหม่ๆ เด็กที่ผมปั้นมาก็จะมีทั้ง สำลีมายากล นางฟ้ามายากล ให้เขาได้เล่นมายากลกันเองเลย เป้าหมายของการปั้นเด็ก ต้องการสร้างความแปลกกับวงการมายากล และเป็นตัวขายของงานมายากล สามารถเล่นกับผมก็ได้ หรือให้ผมเล่นกับเด็กๆ รุ่นก่อนๆ ก็ได้

•ทราบว่ามีการตอบแทนสังคมด้วยการตั้งกองทุนด้วย?

ผมเป็นนักมายากลที่ช่วยเหลือนักมายากลด้วยกันโดยจัดตั้งกองทุนนักมายากลเอาไว้ 100,000 บาท นักมายากลคนไหนไม่สบาย ก็จะให้เงินเพื่อรักษาจำนวน 5,000 บาทไปเลย เป็นน้ำใจที่ผมมอบให้นักมายากลด้วยกัน นอกจากนี้ ผมจะจัดแสดงกิจกรรมมายากลให้กับมูลนิธิต่างๆ ให้เด็กชมทุกปี มีทั้งเด็กที่เป็นมะเร็ง ป่วยด้วยโรคต่างๆ การเอ็นเตอร์เทนน้องๆ เหล่านั้นเป็นสิ่งที่ผมตั้งหมายไว้กับชีวิต และทำกิจกรรมเช่นนั้นมานานแล้ว

•ปัจจุบันคนเสพความบันเทิงผ่านช่องทางออนไลน์มากมาย เสน่ห์ของการแสดงสด โดยเฉพาะมายากลอยู่ตรงไหน อะไรที่ไม่สามารถหามาทดแทนได้?

การแสดงมายากลแบบสดๆ ทั้งได้อรรถรสหลากหลายอย่าง กลิ่นอายของความสนุกบนเวที ความสุขที่มันได้เห็นกับตา ในบ้างครั้งบนแพลตฟอร์มออนไลน์เขาก็ตัดต่อให้คุณได้เห็นบ้าง ความเป็นจริงก็อาจจะไม่ใช่อย่างนั้นเลย กลบ้างอย่างสามารถที่จะดูได้หน้าเวทีเพียงอย่างเดียว เราต้องแยกแยะให้ดี ความสุข ความอิ่มเอมจะแตกต่างกัน

•เดี๋ยวนี้มีคลิปเผยเบื้องหลังมายากลมากมาย คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความนิยมของศาสตร์นี้ลดลงไหม?

การเปิดเผยเทคนิคมายากลมีผลกระทบต่อวงการ ซึ่งส่วนใหญ่ทำโดยคนที่ไม่ใช่นักมายากลจริงๆ ซึ่งก็ว่าเขาไม่ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละบุคคล บางครั้งเวลาผมไปแสดงตามโรงแรมต่างๆ ก็ถูกแซวว่า รู้หมดแล้ว วิธีการเปลี่ยนไพ่ เปลี่ยนเสื้อ คนก็ไม่สนุกกับเราแล้ว

ผมไม่อยากให้ผู้ชมจับผิดนักแสดง หรือคาดการณ์ว่าสิ่งที่ผู้แสดงทำมันเกิดขึ้นอย่างไร เดี๋ยวฟิลิปต้องเสกอย่างนู้น เดี๋ยวฟิลิปต้องเสกอย่างนี้ กว่านักแสดงจะขึ้นแสดง เขาฝึกมาอย่างหนัก อยากให้ปรบมือเป็นกำลังใจน้อยๆ ทุกคน ถึงแม้ว่าคุณจะรู้แล้วก็ตาม

•ช่วงที่งานมายากลเริ่มน้อยลง มีการปรับตัวอย่างไรบ้าง?

ช่วงปี 2535-2545 เป็นช่วงที่การแสดงมากที่สุด พองานน้อยลงก็เริ่มผลัดเปลี่ยนเป็นมาเป็นการให้เช่าอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือแสดงมายากล และการสอนมายากล นอกจากนี้ ก็มีโอกาสไปแสดงละครบ้าง อย่างเรื่ององค์บาก 2 ในความคิดความฝัน ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ไปเล่นละครด้วยซ้ำ ในคราวที่ดูละคร องค์บาก 1 ยังนั่งดู และขำกันอยู่เลย จนมีทีมงานติดต่อมาก็ดีใจมาก ตอนแรกคิดในใจว่ามาหลอกหรือเปล่า เขาส่งบทมาให้ดู รับบทเป็นอาจารย์ของจาพนม ก็ได้ไปถ่ายทำจริงๆ

ตอนนี้ เมื่อมีงานติดต่อมา ก็ไปแสดง ถ้าวันไหนไม่มีงานแสดง ผมก็มีความสุขในมุมของผม ในชีวิตประจำวันทุกวันนี้ทุกเช้าผมจะออกไปข้างนอก เพื่อไปถ่ายทำคัฟเวอร์เอ็มวีเพลงลูกทุ่งให้เป็นสีสันของชีวิตในยามเช้า ออกไปเสาชิงช้าบ้าง สะพานพุทธบ้าง ชอบทำอะไรที่ไม่ซ้ำใคร มีไอเดียใหม่ๆ ถ่ายเอง ตัดต่อเอง กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่ผมชอบคือการโยนโบว์ลิ่ง ก็มีเทคนิคการโยนแบบลูกเคิร์ฟ เป็นสิ่งที่ผมมีความสุขในชีวิตของผม (หัวเราะ)

•นอกจากอารมณ์ดีมีงานอดิเรกแล้ว ดูแลตัวเองอย่างไรให้หนุ่มเกินวัยขนาดนี้?

ผมเป็นคนรักสุขภาพ ชอบทำอาหารรับประทานเอง เมนูที่ชอบคือ ผัดผัก ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา แม้สถานที่ทำงานผมแทบจะเป็นพื้นที่มึนเมาทั้งนั้นเลย สภาพจิตใจก็เป็นส่วนสำคัญ ผมเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยจิตใจที่ดี ผมสามารถละลายพฤติกรรมกับคนที่เดินผ่านได้ และกระทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เป็นคนเฟรนลี่ ไม่เอาเปรียบใคร สมัยก่อนยายก็ชอบให้ผมลุกขึ้นมาใส่บาตรเป็นประจำในตอนเช้า เราเติบโตมาจากการให้และซึมซาบมาจนถึงทุกวันนี้

ผมเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยสำอาง ชื่นชอบในการแต่งกาย มีคลาสในการแต่งตัวที่ไม่เหมือนใครตั้งแต่เด็ก การได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก ก็จะไม่มีความเครียด ผมถือว่าตัวเองโชคดี ที่ค้นพบว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร มีความฝันและได้ทำตามความฝันได้สำเร็จ

•มองอนาคตมายากลไทยอย่างไร เด็กเจนใหม่สนใจมายากลน้อยลง?

มายากลยังเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งทางด้านการแสดงที่สามารถยังเดินต่อไปได้อีกไกล และไม่มีทางตัน ในวงการมายากลก็จะมีทั้งนักคิดนักประดิษฐ์ต่างๆ ที่จะคอยประดิษฐ์อุปกรณ์ออกมาขายนักมายากลอยู่เรื่อยๆ ตลอดทั้งปี ถึงแม้ว่าจะมีคนออกมาเฉลยกลต่างๆ นักประดิษฐ์เหล่านี้มีหน้าที่คิดเครื่องมือเล่นกลใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอ เพราะฉะนั้น มายากลไม่มีวันตาย วงการมายากลในประเทศไทยจากการเป็นชมรม ก็กลายเป็นสมาคมมายากลแห่งประเทศไทย สิ่งนี้เป็นความเติบโตของมายากลบ้านเรา

สิ่งที่ผมต้องการในตอนนี้ คือต้องดันเด็กรุ่นใหม่ๆ ที่มีความสนใจด้านมายากล มีความฝักใฝ่มุมานะ เพียรพยายาม ผมพร้อมที่จะผลักดัน เกื้อกูลและเกื้อหนุนทุกเมื่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมเคยได้รับมาก่อนจากการได้รับทุนของชาวญี่ปุ่น จึงพร้อมส่งต่อให้กับเด็กรุ่นใหม่ๆ เสมอ ไม่มีความอิจฉาริษยาว่าจะดังกว่าหรือไม่

•คำถามสุดท้าย รัฐบาลจะมีส่วนช่วยผลักดันวงการมายากลไทยอย่างไรได้บ้าง?

ผมเชื่อว่ามายากลเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่อยู่ในตัวมานานมากแล้ว เพราะการแสดงเช่นนี้ ได้ถูกจ้างจัดแสดงไปยังต่างประเทศมากมาย ออแกไนซ์ในหลายๆ ประเทศรู้จักการแสดงมายากลของฟิลิป ที่มาจากประเทศไทย เป็นสิ่งหนึ่งที่ชี้ให้ชัดว่า มายากลไม่มีวันหายไป และยังสร้างรายได้ให้กับนักแสดงอย่างมาก

หากมีการจัดงานเกี่ยวกับการประกวดมายากล ถ้าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลโดยตรง ผมเชื่อว่าจะมีส่วนผลักดันให้เกิดกิจกรรมทางมายากลเพิ่มมากขึ้น และเป็นการจุดประกายให้วงการมายากลพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น สร้างรายได้ทั้งนักประดิษฐ์ และนักแสดงมายากล

มายากลจะไม่มีวันตาย

ชญานินทร์ ภูษาทอง เรื่อง
ยิ่งยศ เอกมานะชัย ภาพ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image