กฟผ.ศึกษาปิดเหมืองถ่านหินลิกไนต์แม่เมาะ ลำปาง เหตุปริมาณสำรองถ่านหินเหลือใช้ได้แค่ 30 ปี

กฟผ.ศึกษาปิดเหมืองถ่านหินลิกไนต์แม่เมาะ ลำปาง เหตุปริมาณสำรองถ่านหินเหลือใช้ได้แค่ 30 ปี

นายธวัชชัย จักรไพศาล รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เหมืองแม่เมาะที่จังหวัดลำปาง จะมีปริมาณสำรองถ่านหินลิกไนต์เพื่อผลิตไฟฟ้าลดลงเหลือราว 30 ปี ดังนั้น กฟผ.จึงอยู่ระหว่างการศึกษาเตรียมปิดเหมือง โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชุมชนให้น้อยที่สุด เพราะปัจจุบันชุมชนในพื้นที่มีการพึ่งพาเหมืองนี้จำนวนมากและเป็นแรงงานสำคัญ หากไม่มีเหมืองแล้วจะดำเนินการอย่างไร โดยเบื้องต้น กฟผ.อาจดูแลชุมชนในด้านการส่งเสริมอาชีพ อาทิ ส่งเสริมการทำการเกษตร รวมทั้งต้องหาแนวทางเพื่อปรับสภาพพื้นที่ให้เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ อาทิ การปลูกป่า ขณะเดียวกัน กฟผ.จะนำแนวคิดของนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนก่อน ที่ต้องการผลักดันแม่เมาะเป็นสมาร์ทซิตี้มาพิจารณาประกอบด้วย โดยเน้นสร้างความยั่งยืนและคงวิถีชีวิตให้กับชุมชนเเม่เมาะมากที่สุด

นายธวัชชัยกล่าวว่า ส่วนการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ขณะนี้ในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ หรือพีดีพี 2018 ได้กำหนดให้เดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าทดแทน หรือ MMRP2 ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 650 เมกะวัตต์ เพื่อทดแทนเครื่องที่ 8-9 ที่กำลังจะปลดระวางในปี 2563 ล่าสุดยังอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน คาดว่า MMPR2 จะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ ได้ประมาณปี 2569 และมีอายุการใช้งานถึง 25 ปี หรือจะปลดระวางในปี 2594 สอดรับการศึกษาว่าปริมาณสำรองถ่านหินที่เเม่เมาะจะหมดในปีนั้นเช่นกัน

สำหรับโรงไฟฟ้าแม่เมาะมีโรงไฟฟ้าทั้งหมด 13 หน่วย ปัจจุบันยังมีกำลังการผลิตรวม 2,400 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าแม่เมาะนับเป็นโรงไฟฟ้าหลักขนาดใหญ่ของภาคเหนือ หากไม่มีการวางแผนเตรียมความพร้อม ในอนาคตโรงไฟฟ้าแม่เมาะไม่ได้ทำหน้าที่ส่งไฟฟ้าแล้ว อาจทำให้ภาคเหนือต้องรับไฟฟ้าจากภาคอื่นทดแทน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image