จันทร์กระจ่างเทศกาลมงคล

 เช่น "เทศกาลไหว้พระจันทร์" ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามจันทรคติ หรือ "เทศกาลเดือนแปด" ตรงกับเดือนกันยายนของไทยเรา เป็นเทศกาลที่มีความสำคัญเทศกาลหนึ่งของชาวจีน เป็นวันซึ่งอยู่ในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงพอดี จึงอาจจะเรียกได้ว่า เทศกาล "จงชิว" ตามอักษรจีน จง แปลว่า กลาง ส่วน ชิว แปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง จงชิว จึงแปลว่า กลางฤดูใบไม้ร่วง

      ความน่าสนใจของเทศกาลนี้ ว่ากันว่ามีตำนานเล่าขานมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว ในสมัยก่อนฮ่องเต้จัดให้มีการบรรเลงดนตรี พิธีเซ่นไหว้ดวงจันทร์ในคืนขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 เพื่ออธิษฐานให้บ้านเมืองอุดมสมบูรณ์ ประชาราษฎร์อยู่เย็นเป็นสุข ต่อมาพิธีดังกล่าวได้แพร่ไปสู่ประชาชนในท้องถิ่น และแพร่หลายไปทั่วประเทศ จนกลายเป็นประเพณีของชาวจีนสืบต่อมาจวบจนทุกวันนี้ นอกจากจะมีพิธีเซ่นไหว้พระจันทร์แล้ว ยังมีการรับประทานขนมไหว้พระจันทร์และการชมความงามของดวงจันทร์ซึ่งมีคำกล่าวว่า...

 ...ดวงจันทร์ในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงมีความงดงามมาก ท้องฟ้าก็ปลอดโปร่งไร้เมฆฝน อากาศสดชื่นเหมาะสำหรับการชมจันทร์ ส่วนฤดูหนาว อากาศหนาวเย็น ฤดูร้อนท้องฟ้ามีเมฆมากทำให้บดบังความงามของดวงจันทร์ ฤดูใบไม้ผลิ เกิดลมพัดแรงซึ่งไม่เหมาะ ที่จะออกมานั่งชมจันทร์นอกบ้านนั่นเอง ...

 ส่วนเหตุที่ทำขนมใส่ไส้มีลักษณะกลมๆ นั้น เชื่อกันว่าความกลมของขนม หมายถึงการได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาของคนภายในครอบครัว อีกทั้งยังเชื่อว่า ดวงจันทร์ซึ่งมีลักษณะกลมนั้นเป็นสิ่งที่ดีเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงาม และเป็นสื่อกลางของการคิดถึงซึ่งกันและกัน เมื่อสมาชิกในครอบครัวไม่สามารถหวนกลับมาได้ ก็แหงนมองดวงจันทร์ส่งความรู้สึกที่ดี ส่งความคิดถึงไปสู่ครอบครัวและคนที่รัก ดังนั้นชาวจีนส่วนใหญ่มักจะชื่นชอบค่ำคืนที่ดวงจันทร์เต็มดวงอันหมายถึง การกลับสู่ครอบครัว แต่ก็มีบางคนที่ชื่นชอบดวงจันทร์เป็นเสี้ยว เพื่อจะได้มีวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงให้ชื่นชม

 ที่แน่ๆ เทศกาลอันเป็นมงคลอย่างนี้ ยังหวานลิ้นนักชิมนักแล ว่าแล้วออกไปสำรวจแหล่งจับจ่ายซื้อหาขนมไหว้พระจันทร์เจ้าอร่อยที่ขนกันมาให้ลองลิ้มชิมรสสารพัดแบบ เริ่มที่ รร.แอมบาสซาเดอร์ สุขุมวิท 11 ร่วมสืบสานประเพณีจีนโบราณ ตลอดช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์เพียงปีละครั้ง กับ “ขนมไหว้พระจันทร์...บัวหิมะ” ตำรับดั้งเดิมจากฮ่องกง ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเนื้อแป้งบางเนียนนุ่ม หอมกรุ่นละมุนละไม ผสานรสชาติที่กลมกล่อมลงตัวของไส้ เขาการันตีว่าผลิตเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 30 ปีเลยทีเดียว ซึ่งเชฟฮ่องกง เหล่า ชิ หว่อง แนะนำเป็น บัวหิมะลูกพรุน, บัวหิมะขิง และ ขนมไหว้พระจันทร์ ทุเรียน-งาดำ ต้องลอง !!

 ด้าน รร.ดุสิตธานี กรุงเทพฯ ไม่ยอมน้อยหน้านำขนมไหว้พระจันทร์หลากหลายรสชาติมาประชัน ไม่ว่าจะเป็น ไส้ทุเรียน ไส้โหง้วยิ้ง ไส้ลูกบัว ไส้ถั่ว ย้ายไปริมแม่น้ำเจ้าพระยา รร.แมนดาริน โอเรียนเต็ล ยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่าปีนี้ มีของขวัญให้เพื่อนฝูงคนสนิทและสมาชิกในครอบครัวแน่นอน เตรียมขนมไหว้พระจันทร์หลากไส้ไว้ให้ได้เลือกสรร อาทิ ไส้งาดำ ไส้ทุเรียนกับไข่เค็ม ลูกบัวจีนขาวกับไข่เค็ม และ ไส้คัสตาร์ด

 ฟากบ้านใกล้เรือนเคียง อย่าง รร.แชงกรี-ลา จัดเทศกาลไหว้พระจันทร์แชงพาเลซอันเลื่องชื่อ มีขนมไหว้พระจันทร์แปลกใหม่ไม่มีใครเหมือนอย่างไส้ครีมรังนก เปลือกหิมะ สูตรพิเศษที่ผสมผสานความนุ่มละมุนของเนื้อครีมกับรังนกแท้อย่างลงตัว และไส้มะตูม ทำจากมะตูมเชื่อมคุณภาพดี 

 ส่วนเจ้านี้ใครจะคิดว่าร้านกาแฟชื่อก้องโลก อย่าง "สตาร์บัคส์" จะนึกสนุกกับเขาด้วย ลงทุนคิดสูตรขนมไหว้พระจันทร์พิเศษสไตล์สตาร์บัคส์ อย่างไส้กาแฟสตาร์บัคส์ เอสเพรสโซ โรสท์ หอมกรุ่นสไตล์สตาร์บั๊คส์เขาละ รับประทานคู่กาแฟเพิ่มรสชาติแปลกดีเหมือนกัน และที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของขนมไหว้พระจันทร์ยุค 2009 คือ "ขนมไหว้พระจันทร์ไส้ไอศกรีม" ที่ "บูโอโน่ เจลาโต้" สยามพารากอน แป้งนุ่มๆ อย่างโมจิสอดไส้ไอศกรีมหวานเย็นอิตาเลียน ทั้งทุเรียนไข่แดง ถั่ว ชาเขียว และเผือก อยากรู้ว่ารสชาติจะผิดแผกจากที่เคยกินหรือไม่ ต้องลองเองแล้วละ

 ยังมีขนมไหว้พระจันทร์เจ้าอร่อย ที่มีไส้ให้เลือกกว่า 20 ไส้ที่ "ภัตตาคารแชงกรี-ลา" เจ้าของสูตรต้นตำรับเปลือกบาง เนื้อนุ่ม เจ้าแรกในเยาวราช หรือที่แปลกใจเล็กน้อยก็ยักษ์ขายตรง "แอมเวย์" ขอร่วมสืบสานเทศกาลสำคัญนี้ด้วยขนมไหว้พระจันทร์ จากยูเอฟเอ็ม มีให้เลือก 2 แบบ ไส้ทุเรียนหมอนทอง และไส้ทุเรียนหมอนทองไข่เดี่ยว บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษสวยหรูสีทองและทองแดง

 แม้จะผ่านมาเป็นพันปี ถึงวันนี้ธรรมเนียมการมอบขนมไห้วพระจันทร์ ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีการฉลองจนเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลกไปแล้ว...