พิพิธภัณฑ์มีชีวิตขุนยวม

“แม่ฮ่องสอน” เป็นเมืองท่องเที่ยวเหนือสุดของไทยที่มีวัดวาอารามสวยงามหลายแห่ง แต่ละวัดล้วนโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทใหญ่ บ้างก็เป็นสไตล์วัดพม่า เนื่องจากอยู่ติดชายแดนประเทศเมียนมา หลายแห่งมีประวัติความเป็นมาน่าสนใจ มีอายุหลายร้อยปี ฉะนั้นในโปรแกรมทัวร์เมืองแห่งสายหมอก จึงมักมีวัดวาอารามรวมอยู่ด้วย

เมื่อเร็วๆ นี้ “น.ส.วิภารัตน์ ดีอ่อง” ผอ.สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงาน “พิพิธภัณฑ์มีชีวิตขุนยวมสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ที่วัดคำใน ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน มีนายสืบพงษ์ นิ่มพูลสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการ จ.แม่ฮ่องสอน เข้าร่วม พร้อมด้วยผู้นำชุมชนท้องถิ่นใน อ.ขุนยวม เครือข่ายนักวิจัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

น.ส.วิภารัตน์ให้ข้อมูลว่า วช.สนับสนุนโครงการวิจัยการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์มีชีวิตขุนยวมสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนแก่นายสรายุธ รูปิน แห่งคณะวิจิตรศิลป์ มช. หัวหน้าโครงการวิจัย และคณะ ศึกษาวิจัยเรื่องขุนยวมพิพิธภัณฑ์มีชีวิต องค์ความรู้ครอบคลุม ทั้งประวัติชุมชน ภูมิทัศน์วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ศิลปกรรม งานหัตถกรรม ศิลปะพื้นบ้าน ประเพณี พิธีกรรม

รวมถึงการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของของกลุ่มชาติพันธุ์ใน อ.ขุนยวม เพื่อบุกเบิกแนวทางส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรม วิถีการดำเนินชีวิต และเศรษฐกิจชุมชน บนฐานแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของประเทศไทย

สำหรับวัดคำใน เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปไม้ไผ่สานลงรักปิดทองอายุกว่า 100 ปี ทรงไทยใหญ่-พม่า มีไม้แกะสลักเป็นรูปเทวดาที่แสดงออกที่หน้าตาท่าทางเหมือนมีชีวิต ธรรมาสโบราณที่ประดับด้วยพลอยพม่าและพระพุทธรูปไม้แกะสลักอื่นๆ จำนวนมาก รวมทั้งศาลาการเปรียญทรงไทยใหญ่ที่สวยสดงดงาม เจดีย์สีทองอร่ามทรงไตใหญ่-พม่า วัดแห่งนี้มีการฟื้นฟูประเพณีฮอลีก (เทศน์มหาชาติ) ในเดือนกันยายนของทุกปี

ส่วนวัดม่วยต่อ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2432 ด้วยสถาปัตยกรรมไทใหญ่ โดยเจ้านางเมียะ เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนสมัยนั้น ถ้าไปวัดนี้ต้องไปชมพระประธานในอุโบสถ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองเหลือง นำมาจากประเทศเมียนมา ในปี พ.ศ.2466 พระประธานในศาลาการเปรียญ เป็นพระพุทธรูปเนื้อสัมฤทธิ์ ศิลปะแบบพม่า

พระพุทธรูปสิงห์ 1 สิงห์ 3 ประดิษฐานอยู่หน้าพระประธานในศาลาการเปรียญ งาช้างแกะสลักเป็นพระพุทธรูป 2 คู่ แท่นพระแบบปราสาทยอดแหลม เจดีย์และระฆังแบบกระดิ่งรูปใหญ่ พระเจดีย์ทรงเครื่องแบบมอญ ล้อมรอบด้วยพระเจดีย์บริวาร ยอดประดับด้วยฉัตรโลหะ แขวนกระดิ่งโดยรอบและจอง

นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์เครื่องมือเครื่องใช้โบราณในอดีตของคนไต มีแผงพระพุทธรูปบูชาสไตล์ไทใหญ่พม่าที่ประดับด้วยไฟสวยงาม พระพุทธรูปไม้จำนวนมากในตู้ ศาลาไม้เล็กๆ ที่มีวัวเทียมเกวียนสะท้อนวิถีชีวิตของอดีตของการขนส่งของคนภูเขาชาวไตเมืองยวม

อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ ต้นขนุนอายุกว่าร้อยปี ที่เติบโตมาพร้อมกับการสร้างวัด และต้นบุนนาก อายุกว่า 100 ปี

อีกทั้งบริเวณหน้าศาลา มีนักเรียนมัธยมเมืองปายมา เป็นมัคคุเทศก์น้อย อันเป็นส่วนหนึ่งของการบูรณาการ โดยนำคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนในการรักษาและรู้คุณค่าโบราณวัตถุอันล้ำค่า พร้อมกันนั้น ยังเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ให้กับท้องถิ่นอีกด้วย

นับเป็น 2 วัดในโครงการพิพิธภัณฑ์มีชีวิตขุนยวมสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนขุนยวมไม่ควรพลาด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน