ประเพณีนมัสการ และสรงน้ำพระธาตุดอยตุงจัดขึ้นเป็นประจำในทุกปี ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 หรือเดือน 6 เพื่อเป็นการสืบสาน รักษา และอนุรักษ์เผยแผ่ ส่งเสริมวัฒนธรรม ประเพณีของเหล่าพุทธศาสนิกชนให้มีความมั่นคงและยั่งยืน อีกทั้งเป็นทุนทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น เพราะพระธาตุดอยตุง ถือว่าเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองเชียงราย
ในปีนี้ 2567 ได้ใช้ชื่อว่า"2006 ปีสืบมา หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง"งานจัดในวันที่ 23-24มีนาคม2567 นี้ ภายในงานยังมีการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรม และการสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น พิธีตักน้ำทิพย์ พิธีเจริญพระพุทธมนต์ อบรมสมโภช เทศน์สวดเบิก ณ วิหารวัดน้อยดอยตุง และในช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 มีพิธีเดินจาริกแสวงบุญธรรมยาตราของพุทธศาสนิกชน จะร่วมเดินจาริกจากอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดศาลาเชิงดอย ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย ไปตามเส้นทางเดินเท้าสายเดิม ขึ้นไปยังวัดพระธาตุดอยตุง รวมระยะทาง 9 กม. เพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุกระดูกไหปลาร้า (พระรากขวัญเปื้องข้าย) ของพระสัมมาพระพุทธเจ้า ส่วนช่วงบ่ายเป็นพิธีตักน้ำทิพย์สรงพระธาตุดอยตุง เพื่อนำน้ำทิพย์เข้าร่วมพิธีสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ซึ่งอาณาบริเวณโดยรอบพระธาตุดอยตุงเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน ปรากฏบ่อน้ำศักดิ์สิทธิอายุนับพันกว่าปี ส่วนในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2567 ในช่วงเช้าเป็นพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เริ่มในเวลาประมาณ 05.00 น. ณ บริเวณวัดน้อยดอยตุง ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย โดยมีพระสงฆ์และสามเณร จำนวน 50 รูป ออกรับบิณฑบาตรับข้าวสารอาหารแห้ง จากนั้นต่อด้วยพิธีบวงสรวงพระธาตุดอยตุง เริ่มในเวลาประมาณ 07.00 น. ณ บริเวณพระธาตุดอยตุง พร้อมขบวนเครื่องสักการะพระธาตุดอยตุง และพิธีสืบชะตาหลวงล้านนา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมงาน โดยมีพระสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ลืบชะตาหลวงล้านนา และพิธีสุดท้ายเป็นพิธีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ถือเป็นหัวใจสำคัญของการจัดงาน เป็นการนำเครื่องสักการะซึ่งผู้เข้าร่วมงานพุทธศาสนิกชน ได้เข้าร่วมขบวนมาถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุเจ้าดอยตุง เป็นสิริมงคลต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงพระราชทานสิ่งของเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในครั้งนี้อีกด้วย
สถานที่จัดงาน วัดพระธาตุดอยตุง ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
ตามตำนาน ประเพณี“ หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง ” ตำนานเกี่ยวกับพระธาตุดอยตุงปรากฏอยู่ในตำนานพื้นเมืองของล้านนาเป็นความเชื่อปรัมปราของจารีตการสืบทอดประวัติความเป็นมาแห่งดินแดนที่แสดงให้เห็นถึงการเสื่อมสลายและความรุ่งโรจน์ของอาณาจักรชุมชนในบริเวณอันกว้างใหญ่ของลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำกกและแม่น้ำสายที่เกี่ยวเนื่องกับอิทธิพลของพุทธศาสนาที่แพร่ขยายเข้าสู่ดินแดนบริเวณนี้ปฐมธาตุเจดีย์แห่งล้านนาที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1454 โดยพระเจ้าอุชุตราชแห่งนครโยนกนาคพันธุ์ นั่นคือ พระมหาชินธาตุเจ้าบนดอยตุง ด้วยความเชื่อที่ว่าภายใต้พระมหาสถูปทั้งสององค์ของพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุงเป็นที่ประดิษฐานพระรากขวัญเบื้องซ้ายและพระบรมสารีริกธาตุส่วนอื่น ๆครั้งเมื่อพระพุทธเจ้านิพพานพระมหากัสสปนำพระธาตุรากขวัญเบื้องซ้ายและพระธาตุอื่น ๆ มาไว้ พระธาตุได้ชำแรกลึกลงไปในหิน พระมหากัสสปได้ทำตุง คันหนึ่งใหญ่ยาวมาก ว่ากันว่า ร่มเงาของตุงนั้นทาบไปถึงเมืองโยนก(เชียงแสน)ซึ่งขณะนั้นมีกษัตริย์ปกครองบ้านเมืองอยู่แล้ว เป็นวงศ์ของสิงหนวติ
ครั้นสมัยพญามังรายนราช แห่งราชวงศ์สิงหนติ มหาวชิรโพธิเถระได้นำพระบรมสารีริกธาตุมาถวาย 50 องค์ พญามังรายจึงให้สร้างพระเจดีย์อีกองค์ใกล้กับเจดีย์องค์เดิม นับจากนั้นเป็นต้นมาพระธาตุดอยตุงจึงได้มีเจดีย์สององค์มาจนถึงทุกวันนี้
อนึ่งเนื่องจากปู่เจ้าลาวจก และพญามังราย (ชื่อคลายกันกับพญามังรายนราช แต่คนละพระองค์) ต้นวงศ์กษัตริย์เชียงราย – เชียงใหม่ ต่างประสูติในปีกุญ(ช้าง) พระธาตุดอยตุงจึงถือเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีกุญ
พ.ศ.2470 ครูบาศรีวิชัยได้ทำการบูรณะองค์พระธาตุในแบบล้านนา กล่าวคือเป็นเจดีย์ก่ออิฐสอปูน ทรงระฆัง 8 เหลี่ยม ตั้งบนฐานปัทม์(บัว) 8 เหลี่ยม ประดับลูกแก้วอกไก่ 1 ชิ้น ฐานล่างสี่เหลี่ยมจตุรัสลด 3 ชั้น องค์ระฆังและบัลลังก์ 8 เหลี่ยมรองรับปล้องไฉน มีปลียอดประกอบฉัตร 5 ชั้น
ในวันขึ้น 13 – 14 – 15 ค่ำ เดือน 4 (เดือน 6 เหนือเป็ง) เป็นประจำทุกปีจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม ศรัทธาประชาชนทั้งหลายทั้งภายในประเทศและฝั่งพม่าท่าขี้เหล็ก จนถึงเชียงตุงพม่าตลอดจนถึงพุทธศาสนิกชนทั้งในเขตฝั่งลาวขึ้นไปก็ขึ้นไปนมัสการกราบไหว้บูชาพระธาตุ
ขอขอบคุณข้อมูล
รูปภาพประกอบบทความ
https://thesunsight.com/watphatratdoitung/
ข้อมูลเนื้อหา
์เพจสำนักข่าว NBT north
เพจนครเมืองเขียงราย
เว็บไซต์ ธรรมะไทย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย 053-150169
ททท.สำนักงานเชียงราย-พะเยา 053-744674-5