ชะอมเป็นไม้พุ่ม ที่ปลูกตามบ้าน ลักษณะคล้ายกับใบส้มป่อยหรือใบกระถิน เป็นพืชผักสมุนไพร ทีมีประโยชน์ คนส่วนใหญ่มักไม่รู้ ถึงสรรพคุณสำหรับยอดอ่อนใบอ่อนที่จะช่วยลดความร้อน ของร่างกาย เป็นไม้ที่ออกยอดได้ตลอดทั้งปี นิยมนำยอดอ่อนมาประกอบอาหารหรือรับประทานสด เนื่องจาก ยอดอ่อนมีความกรอบหวาน แต่มักมีกลิ่นฉุนแรงคล้ายกับพืชตระกูลถั่วทั่วไป แต่กลิ่นนี้ มีประโยชน์ในการเพิ่มความน่ารับประทานของอาหารได้หากปรุงผสมกับวัตถุดิบชนิดอื่น เช่น ใส่แกงหน่อไม้ หรือ แกงเลียง เป็นต้น รวมถึงกลิ่นฉุนยังช่วยดับกลิ่นคาวได้เป็นอย่างดี
การนำชะอมมาปรุงอาหารคือ เราอาจจะนำมารับประทานเป็นผักจิ้ม โดยการนำไปลวก หรือนึ่งให้สุกหรือเราอาจจะใช้ยอดอ่อน ใบอ่อนเด็ดเป็นชิ้นสั้น ๆ แล้วนำมาชุบกับไข่ทอด เพื่อรับประทาน ร่วมกับน้ำพริกกะปิ โดยส่วนใหญ่ชาวเหนือนิยมนำชะอมสดมารับประทานร่วมกับ ส้มตำมะม่วง ตำส้มโอ และนิยมนำไปปรุงเป็นแกง ชาวอีสานมักนำไปแกงรวมกับปลา ไก่ เนื้อ กบ เขียด ต้มเป็นอ่อมหรือ แกงลาว แกงแค และอาหารอื่นๆอีกมากมาย
สารอาหารของชะอม
ยอดชะอม 100 กรัม ที่สามารถให้พลังงานกับสุขภาพ 57 กิโลแคลอรี่ ซึ่งจะประกอบด้วยเส้นใย 5.7 กรัม แคลแซียม 58 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 80 มิลลิกรัม เหล็ก 4.1 มิลลิกรัม วิตามินเอ 10066 IU วิตามินบีหนึ่ง 0.05 มิลลิกรัมวิตามินบีสอง 0.25 มิลลิกรัม ในอาซิน 1.5 มิลลิกรัม วิตามินซี 58 มิลลิกรัม ซึ่งสารอาหารที่มีอยู่ในยอดผักชะอม
สรรพคุณของชะอม
ใบอ่อนของชะอม ที่เรานำมาประกอบอาหารนั้น มีสรรพคุณที่ช่วยลดความร้อน ภายในร่างกาย รากช่วยในการแก้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยในการขับลมในลำไส้ ช่วยแก้ลิ้นอักเสบเป็นผื่นแดง มีวิตามินเอสูง ชะอมเป็นสารช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ
***ข้อควรระวัง***
1.สำหรับคุณแม่ลูกอ่อนไม่ควรรับประทาน เพราะจะทำให้น้ำนมแห้งได้
2.คนที่ป่วยเป็นโรคเกาต์ ไม่ควรรับประทานเพราะในชะอมมีสารที่เรียกว่า พิวรีน (Purine) ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการข้ออักเสบ
3.การรับประทานชะอม ในช่วงหน้าฝน จะมีรสเปรี้ยว กลิ่นฉุน หากรับประทานเข้าไปอาจทำให้ปวดท้อง
อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจกันด้วยนะคะ www.facebook.com/ข้าวหงษ์ทอง ใส่ใจสร้างสรรค์ข้าวคุณภาพ
