รีวิวจากลูกค้า ( Review ) แบ่งปันภาพสวย ๆ ในช่วงเวลาแห่งความสุข #โดนใจ

ส่วนลด สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ เมืองพัทยา
ส่วนลด สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ เมืองพัทยา
ส่วนลด สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ เมืองเชียงใหม่
ส่วนลด ล่องเรือเจ้าพระยา พร้อมดินเนอร์แบบบุฟเฟต์
ส่วนลด โรงแรม & รีสอร์ท ทั่วประเทศไทย
Hot Promotions of the monthly
 

 ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

 
 

.... น่าน ....   

แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง    

น่าน..... ดินแดนในอ้อมกอดของขุนเขาด้านตะวันออกของภาคเหนือ อุดมด้วยธรรมชาติผืนป่า สายน้ำ ทะเลหมอก

หล่อหลอมรวมกับวิถีวัฒนธรรม ของผู้คนชาวไทยลื้อ ทำให้เสน่ห์ของน่านไม่ได้มีเพียงธรรมชาติอันพิสุทธิ์

แต่ยังมีศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ที่แฝงด้วยแรงศรัทธาในพุทธศาสนา และ ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

 
 

เมืองน่าน

เริ่มก่อร่างสร้างเมืองมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ในชื่อเมืองปัว สมัยต่อมาได้กลายมาเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรล้านนา ต่อมาสมัยอยุธยา เมืองน่านทำศึกหนักกับพม่าและอยุธยาบ่อยครั้งจนพ่ายแพ้ ทำให้เมืองร้างผู้คนยาวนานหลายสิบปี จนเข้ายุคกรุงรัตนโกสินทร์ จึงเริ่มมีการสร้างบ้านบูรณะเมืองขึ้นมาใหม่ ช่วงยุคลัทธิพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย น่านกลายที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์ในภาคเหนือ จนกลายเป็นพื้นที่สีชมพูที่เกิดการสู้รบปราบปรามอย่างรุนแรง

ปัจจุบันเมืองน่านยังคงดำเนินวิถีชีวิตอย่างสงบสุขและเรียบง่าย ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพิงเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลัก โดยมีแม่น้ำน่านซึ่งนับว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเมืองไหลหลั่งจากเทือกเขาหลวงพระบางและเทือกเขาผีปันน้ำ จนไปรวมกับแม่น้ำปิง วัง ยม เป็นแม่น้ำเจ้าพระยา เส้นเลือดหลักของประเทศ

 
 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปแผนที่ น่าน

ที่พัก              

จังหวัดน่านมีโรงแรมขนาดกลาง รีสอร์ต และเกสต์เฮาส์ จำนวนมาก ราคาห้องพักเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันบาท

ขึ้นอยู่กับประเภทของห้องพักและที่ตั้ง

นอกจากนี้ น่านยังมีอุทยานแห่งชาติหลายแห่งที่มีบริการบ้านพัก จุดกางเต็นท์ และเต็นท์ให้เช่าในราคาย่อมเยา สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบและต้องการใกล้ชิดธรรมชาติเป็นพิเศษ รวมทั้งผู้ที่นิยมการพักผ่อนในบรรยากาศแบบแค้มปิ้งด้วย เช่น อุทยานแห่งชาติภูคา อุทยานแห่งชาติแม่จริม ฯลฯ

สถานที่ท่องเที่ยว     

จังหวัดน่านมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายรูปแบบ ทั้งวัดวาอาราม โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น วัดพระธาตุแช่แห้ง วัดพระธาตุช้างค้ำ วัดภูมินทร์ อุทยานแห่งชาติภูคา เป็นต้น

 

กิจกรรมท่องเที่ยว     

จังหวัดน่านมีกิจกรรมท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการผจญภัยท้าทาย ให้เลือกทำมากมาย เช่น ล่องแก่งกิจกรรมผจญภัยกลางสายน้ำเชี่ยวในลำน้ำว้า เดินป่าพิชิตยอดดอยภูคา ดูนก ฯลฯ

 

ทิปส์ท่องเที่ยว   

ช่วงเวลาที่สามารถชมความงดงามของดอกชมพูภูคา ดอกไม้ใกล้สูญพันธุ์ชนิดหนึ่งของโลก ที่มักออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งทั้งต้น คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ของทุกปี

ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการล่องแก่งในลำน้ำว้า คือช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนพฤศจิกายน นักท่องเที่ยวควรเตรียมความพร้อมในเรื่องสภาพร่างกาย ทักษะในการล่องแก่ง และอุปกรณ์ให้เรียบร้อยก่อนทำกิจกรรม

เมืองน่านมีประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงาม การเที่ยวชมวัดวาอารามและสถานที่สำคัญต่างๆ นักท่องเที่ยวควรแต่งกายสุภาพ ไม่ควรสวมกางเกงขาสั้นหรือเสื้อกล้าม เพราะเป็นการไม่ให้เกียรติสถานที่

ถึงแม้จะเป็นเมืองเล็ก แต่น่านก็มีเสน่ห์เรื่องอาหารการกินอยู่ไม่ใช่น้อย มีอาหารพื้นเมืองชาวเหนือให้ได้ลองชิมกัน โดยเฉพาะข้าวหลามสูตรเมืองน่าน ที่ไม่ใส่กะทิ มีทั้งข้าวเหนียวขาวและข้าวเหนียวดำ บางสูตรใส่ถั่วดำ เผือก และสังขยาลงไปด้วย สามารถซื้อได้บริเวณตลาดในตัวเมืองและหน้าวัดภูมินทร์

เมืองน่านมีสินค้าหัตถกรรมขึ้นชื่อ ได้แก่ ผ้าทอมือที่มีสีสันสวยงามและลวดลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ซิ่นตีนจก ซิ่นก่าน โดยเฉพาะผ้าซิ่นลายน้ำไหล นับว่าเป็นสินค้าของฝากที่ล้ำค่ายิ่ง

 

การเดินทาง

โดยรถประจำทาง

มีรถประจำทางปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-น่าน ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว

ทั้งรถโดยสารแบบธรรมดาและปรับอากาศ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9-10 ชั่วโมง

โดยรถไฟ

จากกรุงเทพฯ ไม่มีเส้นทางรถไฟไปถึงจังหวัดน่านโดยตรง นักท่องเที่ยวต้องเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพง ไปลงที่สถานีเด่นชัย จังหวัดแพร่ แล้วจึงต่อรถโดยสารประจำทางไปที่จังหวัดน่าน ระยะทางประมาณ 142 กิโลเมตร ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร.1690 www.railway.co.th

โดยเครื่องบิน

บริษัท โซล่าร์แอร์ ให้บริการเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-น่าน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที 

 

 
                                                           
 

.... สถานที่ท่องเที่ยว .... 

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน (พิพิธภัณฑ์)

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว   

อาคารแบบยุโรปสีขาวที่ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมท้องถิ่นเมืองน่านหลังนี้ คือสถานที่บรรจุสมบัติล้ำค่าอันเป็นมรดกตกทอดของน่านจากอดีตสู่ปัจจุบัน เดิมทีที่นี่คือ “หอคำ” อันเป็นที่ประทับและว่าราชการของพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน โดยสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2475 และใช้เป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัดแห่งแรกของจังหวัดน่าน ต่อมาในปี พ.ศ. 2517 ได้รับการปรับปรุงอีกครั้งให้เป็นสถานที่ตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน โดยภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ แบ่งออกเป็นสองชั้น พื้นที่ชั้นล่างเป็นที่จัดแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผ่าต่างๆ ในจังหวัดน่าน รวมทั้งเทศกาลงานประเพณีที่สำคัญของจังหวัด เช่น การสืบชะตา การแข่งเรือ ส่วนชั้นบนนั้น จัดแสดงโบราณวัตถุสมัยต่างๆ ที่พบในจังหวัดน่าน ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงยุคเจ้าผู้ครองนครน่าน โดยมีวัตถุโบราณที่น่าดูน่าชมอย่างยิ่ง ได้แก่

·       งาช้างดำ วัตถุมงคลคู่บ้านคู่เมืองน่าน เป็นงาช้างข้างซ้าย ยาว 94 เซนติเมตร วัดโดยรอบส่วนที่ใหญ่สุดได้ 47 เซนติเมตร มีน้ำหนัก 18 กิโลกรัม ได้มาในสมัยพระยาการเมืองเจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 5

 
 

วัดพญาวัด

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว   

วัดเก่าแก่ที่มีความน่าสนใจซุกซ่อนอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นองค์พระเจดีย์ศิลาแลงที่สร้างในสมัยพระนางจามเทวี ดูคล้ายเจดีย์กู่กุดของลำพูน โดยเป็นทรงซุ้มสี่เหลี่ยมซ้อนกัน 5 ชั้น แต่ละชั้นประดิษฐานพระพุทธรูปยืนที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะสุโขทัย ต่อมาได้รับการบูรณะอีกครั้งในสมัยพระเจ้าติโลกราช โดยได้สร้างยอดซุ้มก่ออิฐวงโค้งขึ้นอันเป็นศิลปะแบบเชียงใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงการเข้ามามีอิทธิพลเหนืออาณาจักรน่าน ส่วนในพระอุโบสถนั้นเป็นที่ประดิษฐาน “พระเจ้าฝนแสนห่า” หรือ “พระเจ้าสายฝน” ที่ชาวเมืองน่านอัญเชิญมาในคราวที่ต้องการทำพิธีแห่ขอฝน  รวมทั้งธรรมาสน์แกะสลักฝีมือช่างสกุลน่านที่มีความเก่าแก่ที่สุดที่เคยค้นพบ โดยสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยเจ้าอัตถวรปัญโญในช่วงครึ่งแรกของพุทธศตวรรษที่ 24

 
 

วัดพระธาตุเขาน้อย

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

ลองขึ้นมาชมวิวเมืองน่านสักครั้งจากยอดดอยเขาน้อยในวันที่สายหมอกขาวลอยอ้อยอิ่งเหนือเมือง คุณจะพบกับความงามของดินแดนที่สวยราวภาพวาดจนยากจะถอนสายตาจากนั้นเดินไปสักการะ “พระพุทธรูปมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน” พระพุทธรูปปางประทานพรบนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร ที่ยืนอย่างสง่างาม โดยบนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท พระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 สำหรับตัวพระธาตุนั้นมีความเก่าแก่ยิ่งนักซึ่งสร้างขึ้นในสมัยเจ้าปู่แข็ง พ.ศ.2030 โดยเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์ศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยพระเจ้าสุริยพงศ์ผริตเดชฯ ระหว่างปี พ.ศ. 2449-2454 โดยช่างชาวพม่าพร้อมกับบูรณะวิหารที่สร้างขึ้นในสมัยเดียวกันด้วย

 
 

หอศิลป์ริมน่าน (อาร์ตแกลเลอรี)

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว    

วันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักหอศิลป์ริมน่าน หอศิลป์บนพื้นที่กว่า 13 ไร่อันเกิดจากความมุ่งมั่นของคุณวินัย ปราบริปู ศิลปินชาวน่าน ที่ต้องการสร้างสรรค์บ้านเกิดของตัวเองให้เป็นเมืองแห่งศิลปะอย่างแท้จริง หอศิลป์แห่งนี้ประกอบด้วย อาคารหอศิลป์ สตูดิโอ และบ้านพักรับรอง โดยเก็บรวบรวมงานศิลปะจากมันสมองของศิลปินไทยร่วมสมัยที่มีผลงานการสร้างสรรค์และมีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป อีกทั้งยังมีการแสดงผลงานจิตรกรรมและประติมากรรมของคุณวินัยเกือบ 200 ชิ้น ในรูปแบบกึ่งนิทรรศการถาวรให้คุณได้ชมเกือบตลอดปี

เปิดให้เข้าชมเวลา 10.00-17.30 น. ทุกวันพุธ-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์

 
 

วัดมิ่งเมือง

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว    

ลายปูนปั้นผนังด้านนอกของพระอุโบสถอันเป็นฝีมือตระกูลช่างเชียงแสนนั้น คือ ความวิจิตรที่ต้องมายลสักครั้งในวัดมิ่งเมืองแห่งนี้ ครั้นก้าวเข้าสู่ภายในอุโบสถคุณจะพบภาพจิตรกรรมฝาผนังสะท้อนวิถีชีวิตชาวเมืองน่านเขียนขึ้นจากฝีมือช่างท้องถิ่นยุคปัจจุบัน ขณะเดียวกันเสาหลักเมืองซึ่งอยู่ในศาลาจตุรมุขด้านหน้าพระอุโบสถก็ควรค่าแก่การมาสักการะสักครั้ง โดยเสาหลักเมืองนี้สูงประมาณ 3 เมตร ฐานประดับด้วยไม้แกะลวดลายลงรักปิดทอง ยอดเสาแกะสลักเป็นรูปพรหมพักตร์มีชื่อ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา

 
 

วนอุทยานถ้ำผาตูบ

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว   

วนอุทยานถ้ำผาตูบ  ตั้งอยู่ที่บ้านผาตูบ ตำบลผาสิงห์ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 528 ไร่  มีสถานที่น่าสนใจ ดังนี้

เส้นทางศึกษาธรรมชาติ  มีพรรณไม้ที่ควรศึกษาและหาดูได้ยาก เช่น ต้นจันทน์ผาและเอื้องผึ้งซึ่งจะผลิดอกประมาณปลายฤดูฝน มีทางเดินศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทาง คือ เส้นทางเดินเท้าถึงถ้ำบ่อน้ำทิพย์ เส้นทางจากหน้าที่ทำการฯ ถึงจุดชมวิว และเส้นทางเดินรอบที่ทำการฯ

ถ้ำพระ เป็นถ้ำใหญ่ ลานพื้นกว้าง เนื้อที่ราว ๕๐ ตารางวา มีปล่องเพดานด้านหนึ่งซึ่งปล่อยให้ลมพัดเข้ามา และให้แสงสว่าง มีหินงอกหินย้อยงดงาม ห่างจากที่ทำการประมาณ ๒๐๐ เมตร

ถ้ำบ่อน้ำทิพย์ ภายในถ้ำเป็นห้องโถงกว้างประมาณ ๓๐ ตารางวา มีปล่องเพดานให้แสงสว่างลอดเข้ามาได้ มีหินย้อยรอบผนังถ้ำด้านหนึ่ง มีซอกเว้าลึกเป็นโพรงมีแอ่งน้ำรูปไข่ น้ำขังตลอดปี ถือเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นสัญลักษณ์ของถ้ำนี้ ทางขึ้นถ้ำบ่อน้ำทิพย์ต้องปีนตามหน้าผาหิน อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ ๑,๒๐๐ เมตร หน้าฝนมีน้ำในถ้ำ ทำให้เข้าไม่ได้

ถ้ำขอน เป็นถ้ำที่มีรูปลักษณะยาวคล้ายกับท่อนซุง ด้านในมีหินงอกหินย้อยงดงาม และด้านหน้าบริเวณปากทางขึ้นถ้ำมีหน้าผาเหมาะสำหรับพักผ่อน และมองเห็นทิวทัศน์บริเวณหนองน่าน

ถ้ำเจดีย์แก้ว เป็นถ้ำขนาดเล็ก ด้านหน้าของถ้ำจะมีหินรูปร่างคล้ายเจดีย์ตั้งอยู่

จุดชมวิว ตั้งอยู่บนป่าซางติดกับเขาบ่อน้ำทิพย์ ทางด้านทิศใต้สามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบ ๆ และมองเห็นอำเภอเมืองน่านได้ถนัด อยู่ห่างจากที่ทำการวนอุทยานฯ ประมาณ ๑ กิโลเมตร ใช้เวลาเดินไป-กลับ ประมาณ ๒ ชั่วโมง

ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๕ (เหนือ) ราษฎรชาวบ้านผาตูบจัดงานประเพณีปิดทองพระเขาถ้ำพระ เรียกงานนี้ว่า “งานถ้ำผาตูบ” ตอนเช้ามีการทำบุญตักบาตร กลางวันมีดนตรี และการแสดงของนักเรียนโรงเรียนบ้านผาตูบ มีการจัดงานขึ้นที่ถ้ำผาตูบเป็นประจำทุกปี

 
 

ล่องแก่งน้ำว้าเมืองน่าน 

“ ลำน้ำว้า ” หรือ “ แม่น้ำว้า ”

ไหลลงมาสู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ บรรจบกับแม่น้ำน่านที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ผ่านพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อุทยานแห่งชาติแม่จริม กิจกรรมล่องแก่งลำน้ำว้าเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวทางธรรมชาติและผจญภัยที่นำนักท่องเที่ยว สัมผัสภูมิประเทศ ธรรมชาติ ธารน้ำ ป่าเขา สัตว์ป่าอย่างแท้จริง พร้อมความสนุกสนานตื่นเต้นท้าทาย โดยใช้เรือยางเป็นพาหนะในการเดินทาง โดยมีผู้คุมเรือที่เรียกว่า “นายหัว” และ “นายท้าย” เป็นผู้นำทาง และพานักท่องเที่ยวล่องแก่งผ่านเกาะแก่งน้อยใหญ่ต่างๆ มากมายหลายร้อยแก่ง  โดยแบ่งออกเป็น ล่องแก่งน้ำว้าตอนบน ล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง และล่องแก่งน้ำว้าตอนล่าง

 
 

นั่งสามล้อ รถรางชมเมืองน่าน

ผ่อเมืองน่าน สัมผัสกับวิถีชีวิตและชุมชนชาวน่านอย่างใกล้ชิด ซึมซับวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของเมืองน่านที่ใช้รถสามล้อ ซึ่งเป็นรถโดยสารสาธารณะท้องถิ่นที่คงอยู่คู่เมืองน่านตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นพาหนะที่จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับความงดงามของศิลปวัฒนธรรม กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมือง เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตเมื่อไปเยือนเมืองน่าน พร้อมกับได้ซึมซับบรรยากาศของเวียงเก่าที่คงมนต์เสน่ห์แห่งวิถีชุมชนที่แฝงไว้ด้วยความสงบเรียบง่ายแต่มากมายด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรของชาวเมืองน่าน

 
 

นั่งรถราง ชมเมืองเก่าน่าน เทศบาลเมืองน่าน มีบริการรถรางขนาด 24 ที่นั่ง พร้อมวิทยากรบรรยายและนำชมสถานที่ท่องเที่ยวรอบเมืองน่าน โดยเฉพาะโบราณสถานที่สำคัญ ๆ บ้านเรือน วิถีชีวิตชุมชนโบราณและภูมิทัศน์ที่สวยงาม

โดยบริการรถรางรอบปกติ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.30 น.

วันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 10.30 น. และ 16.30 น. รอบละ 1.30 ชั่วโมง

ติดต่อสอบถามและจองล่วงหน้าที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน ถนนผากอง (ข้างวัดภูมินทร์)

โทร. 0 5457 1169,0 5475 0247 หรือ www.nanvisit.com

 
 

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน (อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า)

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

จากสภาพพื้นที่เขาหัวโล้นได้ถูกพลิกฟื้นไปสู่พื้นที่สีเขียวที่มีความสำคัญยิ่งของจังหวัดน่าน โดยครอบคลุมอำเภอนาน้อยและอำเภอนาหมื่น ทั้งนี้ พื้นที่ 285,826 ไร่ นั้น ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าไม้ชนิดต่าง ๆ คือ ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าสนเขา ป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ส่วนสัตว์ที่พบ ได้แก่ สัตว์จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ นก ปลา แมลงชนิดต่าง ๆ และในช่วงหน้าหนาว อีกทั้งเมื่อถึงฤดูกาลที่สภาพอากาศเหมาะสมเช่นฤดูหนาว คุณอาจได้เห็นดอกนางพญาเสือโคร่งผลิช่อดอกสีชมพูแพร่กระจายให้ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก

เดินทางอย่างไร

โดยรถยนต์

มี 2 เส้นทาง คือ เส้นทางแรก ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 (ถนนยนตรกิจโกศล) เป็นเส้นทางจากตัวจังหวัดแพร่ไปจังหวัดน่าน จากจังหวัดแพร่ ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ถึงหมู่บ้านห้วยแก๊ต ตำบลไผ่โทน อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลวง 1216 ระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร ถึงที่ทำการชั่วคราวอุทยานแห่งชาติขุนสถาน เส้นทางที่สอง จากจังหวัดน่าน ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ถึงอำเภอเวียงสา เลี้ยวขวาไปตามถนนเจ้าฟ้า ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1026 สายอำเภอเวียงสา - อำเภอนาน้อย ระยะทางจากอำเภอเวียงสาถึงอำเภอนาน้อย ประมาณ 35 กิโลเมตร และจากอำเภอนาน้อยเลี้ยวขวา ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1216 ระยะทางประมาณ 31 กิโลเมตร ถึงที่ทำการชั่วคราวอุทยานแห่งชาติขุนสถาน

 
 

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา (อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า) 

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

 

น่าทึ่งมากที่อุทยานแห่งชาติแห่งนี้เคยคว้ารางวัลยอดเยี่ยม รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 7 ประจำปี 2551 ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติภาคเหนือ โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 1,065,000 ไร่ หรือ ประมาณ 1,704 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 8 อำเภอในจังหวัดน่าน คือ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอท่าวังผา อำเภอปัว อำเภอเชียงกลาง อำเภอทุ่งช้าง อำเภอบ่อเกลือ อำเภอสันติสุข และอำเภอแม่จริม

สภาพทั่วไป

ป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ประกอบด้วยป่า 6 ประเภท ได้แก่ ป่าดงดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าสนธรรมชาติ และทุ่งหญ้า เป็นแหล่งของพันธุ์ไม้หายากใกล้สูญพันธุ์ และพรรณไม้เฉพาะถิ่น เทือกเขาดอยภูคาประกอบด้วยแนวภูเขาสูงสลับซับซ้อน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของปลายเทือกเขาหิมาลัย โดยมียอดภูคาเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดน่าน สูงถึง 1,980 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ดอยภูคายังเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำน่าน ลำน้ำปัว และลำน้ำว้า

จากทะเลสู่ทิวเขา

มีข้อสันนิษฐานหนึ่ง ระบุว่า บริเวณอุทยานฯ แห่งนี้ เดิมเคยเป็นทะเลมาก่อน ก่อนจะเกิดการเคลื่อนตัวของแผ่นดินสองผืนใต้ทะเลเข้าหากัน ทำให้แผ่นดินโก่งตัวขึ้น น้ำทะเลใต้ดินระเหยไป เหลือเพียงสินแร่เกลือดังที่พบในอำเภอบ่อเกลือ นอกจากนี้หลักฐานอีกชิ้นที่ยืนยันข้อสมมติฐานนี้ได้ดี คือ การค้นพบสุสานหอยทะเลอายุประมาณ 200 ล้านปี บนดอยภูแวที่บ้านค้างฮ่อ ตำบลสะกาด อำเภอปัว ซึ่งมีลักษณะเป็นหอยแครงสองฝา ทั้งนี้ ดร.จงพันธ์ จงลักษณ์มณี นักธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี ได้สรุปว่า เป็นซากหอยที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า พาลีโอคาร์ดิต้า สปีชี่ (Paleocardita Species) อายุ 195-205 ล้านปี จัดอยู่ในยุคไทรแอสซิก (Triassic) ตอนปลาย

ที่สุดแห่งดอยภูคา

·       ต้นชมพูภูคา (Bretschneidera sinensis Hemsl.) พืชหายากในประเทศไทยจะพบเพียงแห่งเดียวที่ป่าอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่สูงถึง 25 เมตร ออกดอกเดือนมกราคมถึงต้นมีนาคมเท่านั้น

·       ต้นเต่าร้างยักษ์ มักขึ้นในเขตป่าดิบและพรรณไม้เฉพาะถิ่นของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีลักษณะเป็นปาล์มลำต้นเดียว สูงประมาณ 40 เมตร

·       ก่วมภูคา จัดเป็นพืชหายาก มีลักษณะเป็นไม้ต้นผลัดใบ สูง 15-25 เมตร ใบอ่อนสีแดงเว้าเป็น 5 แฉก ใบแก่สีเขียว 3 แฉก เป็นพืชวงศ์เดียวกับเมเปิ้ลใบห้าแฉก และกระโถนพระฤาษี 

·       นกมุ่นรกตาแดง นกพญาไฟใหญ่ และนกพงใหญ่พันธุ์อินเดีย เป็นนกเฉพาะถิ่นที่หายากมาก หากสามารถพบได้ที่นี่

 
 

สถานที่ท่องเที่ยว

·       ชมพูภูคา เพราะที่นี่คือบ้านหลังสุดท้ายของต้นชมพูภูคา พันธุ์ไม้หิมาลัย ที่หาดูชมได้ยากยิ่งในโลกนี้ โดย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 ดร.ธวัชชัย สันติสุข ผู้เชี่ยวชาญพฤกษศาสตร์ป่าไม้ กรมป่าไม้ (ในขณะนั้น) ได้สำรวจพบเป็นครั้งแรกในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา และทุกปีในเดือนกุมภาพันธ์ ดอกชมพูภูคาจะผลิดอกตามปลายกิ่งเป็นช่อสีชมพูยาว 30-35 เซนติเมตร เมื่อบานเต็มที่จะมี ช่อดอกเป็นพุ่มสวยงาม ทั้งนี้ ชมพูภูคาเป็นพันธุ์ไม้ที่เคยมีการสำรวจพบตามหุบเขาแถบมณฑลยูนนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีนและทางเหนือของเวียดนาม จากนั้นก็ไม่มีรายงานการค้นพบพืชชนิดนี้อีกเลย พื้นที่ป่าดิบเขาดอยภูคาจึงอาจเป็นแหล่งกำเนิดสุดท้ายของชมพูภูคา ซึ่งเป็นไม้หายากใกล้สูญพันธุ์ ชนิดหนึ่งของโลกก็เป็นได้ จุดชมต้นชมพูภูคาที่เข้าถึงง่ายที่สุด อยู่ริมถนนห่างจากที่ทำการไป 5 กิโลเมตร และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติจัดไว้ 2 เส้นทาง ได้แก่

o   เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอกชมพูภูคา มีทั้งเส้นรอบใหญ่ ระยะทาง 4  กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชั่วโมง และเส้นทางรอบเล็กระยะทาง 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1.30 ชั่วโมง ซึ่งจะพบพันธุ์ไม้ที่หายากและพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่น สมุนไพร เป็นต้น

o   เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าดึกดำบรรพ์ (ดอยดงหญ้าหวาย) ระยะทาง 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 5 ชั่วโมง จัดเป็นแหล่งดูนกที่คุณจะพบ นกไต่ไม้สีสวย ซึ่งพบได้เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีนกชนิดต่างๆ และผีเสื้อนานาพันธุ์ให้ได้ชม

·       ยอดดอยภูแว  ยอดดอยที่มีความสูง 1,837 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เมื่อขึ้นไปบนนั้น จะพบทุ่งหญ้าบนดอย ลานหิน และหน้าผาสูงชัน และมีพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นที่หายาก เช่น ค้อ กุหลาบพันปี โดยในช่วงฤดูหนาวจะมีความสวยงามมาก

o   การเดินทางโดยทางรถยนต์ : จากที่ทำการอุทยานฯ ไปถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติภูคาที่ 9 (บ้านด่าน) ระยะทางประมาณ 63 กิโลเมตร และเดินทางเท้าขึ้นยอดดอยภูแวประมาณ 6 กิโลเมตร (มีลูกหาบไว้บริการ)

·       น้ำตกศิลาเพชร อยู่ที่บ้านป่าตอง ตำบลศิลาเพชร เป็นน้ำตกลงมาจากหน้าผาหลายชั้นลดหลั่นกันไป โดยไม่ว่าจะลงเล่นน้ำหรือชื่นชมผีเสื้อนานาชนิด ก็เต็มไปด้วยความรื่นรมย์ไม่แพ้กัน

o   การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 1080  สายน่าน-ปัว ก่อนถึงอำเภอปัว ตรงหลักกิโลเมตรที่ 41-42 มีทางแยกขวามือเข้าทางหลวงหมายเลข 1170 ไปประมาณ 10 กิโลเมตร เดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 10 เมตร

·       ถ้ำผาแดง เป็นถ้ำที่มีความยาวมากที่สุดในอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ภายในยังน่าตื่นตาด้วยด้วยหินงอกหินย้อย สายน้ำตก และลำธารขนาดใหญ่ ในอดีตถ้ำแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่หลบภัยของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่นี่จึงเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์เสี้ยวหนึ่งของเมืองไทยที่น่าสนใจมิใช่น้อย นอกจากการได้เรียนรู้ระบบนิเวศของถ้ำแล้ว คุณจะได้ชมร่องรอยที่พัก เตียงนอนทหาร เตียงนอนคนไข้ที่บางหลังอยู่ในสภาพใช้ได้ หลุมสำหรับซ่อนอาวุธ และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ราวกับเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมเลยทีเดียว

การเดินทาง ต้องเดินเท้าประมาณ 3 ชั่วโมง ลัดเลาะเนินเขา ซึ่งจะได้ชมความสวยงามของธรรมชาติ พันธุ์ไม้ และสัตว์ป่าต่าง ๆ บ้านม้งที่อาศัยอยู่อย่างธรรมชาติกลางหุบเขา

·       ถ้ำผาฆ้อง ตื่นตากับหินงอกหินย้อยมากมายภายในถ้ำแห่งอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ที่มีความสำคัญมากต่อระบบนิเวศ ภายในมีคูหาถ้ำจำนวนมากที่มีความต่อเนื่องถึงกัน แต่ละคูหาก็ละลานตาไปด้วยหินงอกหินย้อยรูปลักษณ์ต่างๆ ดูแปลกตา สวยงาม อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูฝน ถ้ำผาฆ้องจะมีสายน้ำไหลผ่านเข้าไปภายในถ้ำ จึงทำให้ไม่สามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ และการเดินทางชมถ้ำต้องเตรียมไฟฉายและอุปกรณ์ต่างๆ ไปเอง ควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ล่วงหน้าทุกครั้ง

·       น้ำตกต้นตอง เป็นน้ำตกหินปูนขนาดกลาง มี 3 ชั้น สูงประมาณ 60 เมตร ความน่าสนใจอยู่ที่บนโตรกผามีพืชชุ่มน้ำมากมาย เช่น ตะไคร่น้ำ เฟิร์น เป็นต้น

การเดินทาง ที่นี่อยู่ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงแยกบ้านเต๋ย ขับรถไปอีกประมาณ 800 เมตร เดินต่ออีกประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นทางเดินลาดชัน

·       น้ำตกภูฟ้า เมื่อเทือกเขาน้อยใหญ่ที่ทอดตัวสลับซับซ้อน กลายเป็นผืนป่าอันไพศาล ในอุทยานแห่งชาติดอยภูคา และเมื่อมีป่าก็ต้องมีน้ำ และสายน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของอุทยานฯ แห่งนี้ ก็คือน้ำตกภูฟ้านั่นเอง โดยมีความสูงประมาณ  140 เมตร มีทั้งหมด 12 ชั้น หากต้องการเยี่ยมชมต้องใช้เวลาเดินป่าไป-กลับถึง 3 วัน 2 คืน เพราะตัวน้ำตกอยู่กลางป่าลึกใกล้ชายแดนลาว และที่สำคัญต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางด้วยทุกครั้ง

·       น้ำตกตาดหลวง  อยู่ห่างจากบ้านทุ่งเฮ้า อำเภอปัว ประมาณ 1 กิโลเมตร  มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำตกสวยงาม เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำ และเป็นแหล่งอนุรักษ์ปลาพลวงอีกด้วย

·       ล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง เป็นเส้นทางล่องแก่งที่อยู่ในระดับ 3-5 ซึ่งมีแก่งท้าทายมากถึง 20 กว่าแก่ง นับเป็นสุดยอดของความตื่นเต้นที่สุดในการล่องแก่งของเมืองไทยเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นล่องแก่ง เนื่องจากค่อนข้างอาศัยทักษะและความชำนาญค่อนข้างมาก

 
  #ขอบคุณข้อมูลและภาพทั้งหมดจาก เว็ปไซด์ ททท.   
 

#เที่ยวกับAKสนุก,ประหยัด,คุ้มค่า,สะดวก,จริงใจ 

#ทำเรื่องเที่ยวให้เป็นเรื่องง่าย ใครก็เที่ยวได้เที่ยวกับเราสิคะAK 

#AK  

 
                                
 

 

โครงการพิเศษสำหรับสมาชิก

eae 04

     
 akm    AK HOTELS card RED OK
 A K Hotels Exclusive Club     AK Hotels Privilege Club

 eae 04

     
  logo akmtravel  
       
       

travel

logo A K Reward Point

สะสมคะแนน

A K Reward Point

ยิ่งใช้ ยิ่งได้ ยิ่งคุ้ม ครบทุกไลฟ์สไตล์

ของการพักผ่อน รับคะแนนสะสม

เมื่อใช้จ่ายผ่าน เอ เค

......................................

Travel
รายการของรางวัลแลก
คะแนนสะสมในหมวด ท่องเที่ยว

......................................

Voucher
รายการของรางวัลแลก
คะแนนสะสมในหมวด บัตรกำนัล

003
แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว กรุงเทพมหานครฯ
แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว เชียงราย
แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว เชียงใหม่
ส่วนลด สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ
ส่วนลด บริการรถเช่า
ส่วนลด ล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระเจ้า
ส่วนลด สนามกอล์ฟ
ส่วนลด สปา
ส่วนลด บริการสำรองตั๋วเครืองบิน

เลขที่ใบอนุญาต

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า Trustmarkthai
ttt 2

Special

A K Hotels Exclusive Club
A K Hotels Privilege Club
AK Reward Point
Review Up Point

จำนวนผู้เข้าชม

24167286
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
18371
20408
18371
23968868
458389
796299
24167286

Your IP: 3.136.234.163
thAsia/BangkokSun, 19 May 2024 21:01:52 +0700vAsia/BangkokSun, 19 May 2024 21:01:52 +0700 ICT0105Asia/Bangkok: %2024-%05-%19 %21:%May:%th

++ Hot !! Promotion ++

Duo Special

logologo akmtravel

HpvHex