ยุโรปกำลังเผชิญกับอุณหภูมิที่ร้อนที่สุดของฤดูร้อนปี 2023 จากปรากฏการคลื่นความร้อน ที่กำลังปกคลุมได้แผ่ขยายไปทางตอนใต้ของทวีป รูปแบบสภาพอากาศดังกล่าวทำให้เกิดสภาพอากาศที่แห้งและคงที่ โดยเชื่อกันว่ายุโรปกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนสูงสุด ในบางพื้นที่ของกรีซ ภาคตะวันออกของสเปน ซาร์ดิเนีย ซิซิลี และพื้นที่ทางตอนใต้ของอิตาลี โดยมีอุณหภูมิสูงกว่า 45°C ในช่วงต้นสัปดาห์นี้
อากาศร้อนที่กำลังเกิดขึ้นในยุโรป เกิดจากความกดอากาศสูงที่เข้าปกคลุมชั้นบรรยากาศเหนือพื้นที่ยุโรปตอนใต้ ซึ่งนอกจากทำให้เกิดความกดอากาศสูงและอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นแล้ว ยังมีผลทำให้มีเมฆปกคลุมน้อยลง ทำให้รังสีจากดวงอาทิตย์ส่องถึงพื้นได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผิวโลกร้อนขึ้นอย่างมาก และความร้อนจากพื้นดินจะสะท้อนกลับสู่ชั้นบรรยากาศ ประกอบกับช่วงกลางวันที่มีระยะเวลายาวนาน และกลางคืนที่สั้นลงในช่วงฤดูร้อนของยุโรป ทำให้เกิดเอฟเฟกต์ที่เป็นปัจจัยให้ความร้อนยิ่งเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด
ขณะที่ กำลังลมขนาดใหญ่ ที่พัดพาลมร้อน เช่น จากแอฟริกาตอนเหนือเข้าสู่ยุโรป ก็อาจเป็นอีกนึงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดความร้อนได้เช่นกัน แต่จากคลื่นความร้อนในปัจจุบัน ดูเหมือนปัจจัยนี้ จะถูกให้มีความสำคัญน้อยลง
นอกจากนั้นแล้ว อิทธิพลจากคลื่นความร้อนในมหาสมุทรแอตแลนติก ที่รายงานโดย Copernicus Climate Change Service เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นว่าในช่วงเดือนมิถุนายนและเดือนกรกฏาคม มหาสมุทรแอตแลนติกมีอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นกว่าค่าเฉลี่ย โดยเฉพาะในบริเวณอเมริกาเหนือและยุโรป และแม้ความผิดปกติของอุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลทางตะวันออกของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือได้ลดลงแล้วหลังทำจุดสูงสุดในเดือนมิถุนายน แต่คลื่นความร้อนในทะเลจะยังคงมีต่อไปในบางส่วนของภูมิภาค
และหากคลื่นความร้อนที่ปกคลุมนี้ ไม่หยุดชะงัก หรือการไหลเวียนของบรรยากาศไม่มีการเปลี่ยนแปลง เป็นไปได้ว่า ยุโรปอาจจะต้องเผชิญกับความร้อนไปอีกหลายช่วงในฤดูร้อนนี้
ความร้อนนอกจากจะส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทั้งอุณหภูมิ ความชื้น ความเร็วลม และปัจจัยอื่นๆ นั่น มีผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์ด้วย โดยก่อให้เกิดความเครียด
สำหรับฤดูร้อนปี 2023 จนถึงวันที่ 15 กรกฎาคม แสดงให้เห็นว่าชาวยุโรปในพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนใต้ ได้เผชิญกับความเครียดจากความร้อนที่รุนแรงมากนี้ มานานกว่า 10 วันแล้ว ในขณะที่ในบางสวนในพื้นที่ทางตอนใต้ของสเปน อาจจะต้องประสบกับความเครียดจากความร้อนที่รุนแรงมาก และนานกว่า 30 วัน ซึ่งจากข้อมูลในหน้าร้อนปีที่ผ่านมา สเปนเผชิญกับความเครียดจากความร้อนรุนแรงมากเป็นเวลา 50-60 วัน และในพื้นที่เล็กๆ บางพื้นที่ตัวเลขอาจยาวนานถึง 70 วัน ตลอดฤดูร้อน
และทั่วยุโรป มีแนวโน้มที่จะมีจำนวนวันในฤดูร้อนเพิ่มขึ้น ซึ่งความเครียดจากความร้อนสูงสุด จะอยู่ในระดับ “แรง” และ “แรงมาก” และในยุโรปตอนใต้ มีจำนวนวันที่ “ความเครียดจากความร้อนสูง” เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยในฤดูร้อนปี 2022 มีจำนวนวันที่ “ความเครียดจากความร้อนสูงมาก” สุดสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 1950
ในระยะยาว เมื่อสภาพอากาศอุ่นขึ้น ยุโรปจะมีจำนวนวันในฤดูร้อนที่เพิ่มขึ้น พร้อมๆ กับที่ ความเครียดจากความร้อนที่รุนแรงมาก ซึ่ง “ความเครียดจากความร้อนสูง” ที่เพิ่มมากขึ้นนี้ ส่งผลกระทบต่อผู้คน และทำให้กว่า 60,000 คนในยุโรป ต้องเสียชีวิตจากคลื่นความร้อนจัดที่เกิดขึ้นในฤดูร้อนปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ลักษณะสภาพอากาศดังกล่าว ยังส่งผลต่อโอกาสในการเกิดไฟป่าได้เช่นกัน ดังที่เคยเกิดอัคคีภัยไฟป่าช่วงหน้าร้อนปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ไฟป่าขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในประวัติการณ์ของยุโรป และได้เผาไหม้พื้นที่ในหลายประเทศทั่วยุโรป ไปกว่า 9000,000 เฮกตาร์
ที่มา: https://climate.copernicus.eu/