ฤดูฝน…อาจทำให้รู้สึกเฉอะแฉะ เปียก ไปไหนมาไหนก็ลำบาก

แต่…ห้วงเวลานี้แหละที่จะได้เห็นทุ่งนาสีเขียวกว้างไกลสุดตา น้ําตกทุกแห่งมีสายน้ําฉ่ำเย็น และป่าที่ทิ้งใบจำศีลตลอดฤดูแล้งกลับฟื้นคืนแตกใบใหม่เขียวชอุ่มอีกครั้ง

ท่ามกลางขุนเขาสลับซับซ้อนของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในอำเภอเล็ก ๆ อย่าง “แม่ลาน้อย” ในวันที่เม็ดฝนพร่างพราย ผืนนาที่ลดหลั่นไปตามไหล่เขาเต็มไปด้วยต้นข้าวสีเขียวอ่อนที่กำลังเติบโต เป็นภาพที่ใครหลายคนยินดีที่จะเดินทางผ่านถนนหลายร้อยโค้งเพื่อไปให้ถึง โดยมีหนึ่งในจุดหมายอยู่ที่ “นาขั้นบันไดบ้านดง” ในเขตตำบลห้วยห้อม ชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตร ไม่ไกลจากตัวอำเภอแม่ลาน้อย ที่ยังคงมีความเป็นธรรมชาติ บริสุทธิ์ และอบอุ่นไปด้วยวิถีชีวิตอันงดงาม

ทุก ๆ ปี ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม จะเป็นฤดูทำนาข้าว นอกจากความสวยงามของนาขั้นบันไดที่เป็นหนึ่งในหมุดหมายหลักแล้ว ภายในพื้นที่ของบ้านดงยังเป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย โดยมีแปลงผักปลอดสารพิษที่ปลูกสับเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดทั้งปีให้เข้าชมได้ด้วย ไม่เพียงเท่านั้นตลอดสองข้างทางยังมีทิวทัศน์ของผืนป่าให้ได้ชม โดยจุดชมวิวที่สวยที่สุดจะอยู่ที่ทางลงไปยังหมู่บ้านบ้านดงและโครงการหลวงแม่ลาน้อย ริมถนนบนเชิงเขาที่สามารถมองเห็นนาข้าวขั้นบันไดได้แบบชัดเจนเต็มตา

Aerial Photograph of Paddy at Mae La Noi, Mae Hong Son

อีกหมู่บ้านที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อยก็คือ “บ้านห้วยห้อม” หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขา มีนาขั้นบันได มีต้นหมากเป็นทิวแถว มีเสาวรส มีกาแฟพันธุ์อาราบิก้ารสเข้ม และมีการเลี้ยงแกะ จึงทำให้มีผ้าทอจากขนแกะ เพิ่มเติมนอกเหนือจากผ้าทอจากฝ้ายธรรมชาติซึ่งเป็นวิถีดั้งเดิมของชาวปกาเกอะญอที่นี่ เพราะมีอาชีพหลากหลายที่สร้างรายได้เพียงพอให้ดำรงชีพ ชาวบ้านจึงไม่ค่อยออกไปหางานทำที่อื่น มีวิถีชีวิตอันเรียบง่ายดังเดิม

ว่ากันว่า กาแฟห้วยห้อม นั้นสร้างชื่อเสียงให้กับบ้านห้วยห้อมมาช้านาน ถือเป็นผลิตภัณฑ์โอทอประดับห้าดาว ด้วยความหอมและรสชาติที่เข้มข้นของกาแฟพันธุ์อาราบิก้าที่ปลูกแบบปลอดสารเคมีใด ๆ การหาโอกาสมาชิมกาแฟสดใหม่จากไร่เมื่อมาเยือนถึงถิ่นจึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้มาเยือนไม่ควรพลาด นอกเหนือจากการเดินเที่ยวไร่กาแฟ ช่วยเก็บเมล็ดกาแฟ แล้วไปแอบส่องขั้นตอนการผลิตแบบครบวงจร ที่เริ่มต้นตั้งแต่การเพาะกล้า ดูแล เก็บผลผลิต ตาก คั่ว บด จนบรรจุในหีบห่อที่ออกแบบอย่างสวยงามมีเอกลักษณ์

อีกสินค้าเด่นของบ้านห้วยห้อมคือ ผลิตภัณฑ์จากขนแกะ หลังจากที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ เยี่ยมเยือนประชาชนที่บ้านห้วยห้อม มีพระราชดำริส่งเสริมให้ชาวบ้านมีอาชีพเสริมคือ “การทำผ้าทอขนแกะ” ได้พระราชทานความช่วยเหลือด้านการปรับปรุงพันธุ์ โดยทรงโปรดฯ ให้เจ้าหน้าที่นำพันธุ์แกะจากต่างประเทศมาทำการผสมพันธุ์กับแกะพื้นเมือง จนได้แกะลูกพันธุ์ตัดขนที่เลี้ยงกันอยู่ในปัจจุบัน

การเลี้ยงแกะที่นี่เป็นการเลี้ยงด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านแบบง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนเหมือนฟาร์มใหญ่ ขณะที่การทอไม่ใช้การทอแบบกี่กระตุก แต่ใช้กี่เอวโบราณดั้งเดิมของชาวปกาเกอะญอ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งยังเน้นความเป็นเอกลักษณ์ตามลายดั้งเดิมที่เคยทำมา เช่น ลายข้าวโพด ลายดอกเข็ม มีเพิ่มเติมลายใหม่บ้าง เช่น ลายเจดีย์ และลายดอกบัวตอง ซึ่งแสดงถึงเอกลักษณ์ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ไม่ใช่เพียงแค่เสื้อแบบปกาเกอะญอหรือผ้านุ่งแบบเดิม แต่ยังมีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย อาทิ ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ย่าม ผ้าตัดเสื้อ ผ้าคลุมโต๊ะ ฯลฯ

หากมาเยือนห้วยห้อมแล้วนึกอยากสัมผัสวิถีชีวิตชาวปกาเกอะญอให้มากขึ้นกว่าเดิม ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามและอากาศเย็นตลอดปี สามารถเข้าพักโฮมสเตย์ได้ด้วย โดยปัจจุบันมีบ้านพักแบบโฮมสเตย์ 5 หลัง และกำลังจะขยายเพิ่มในอนาคต

นอกจากปกาเกอะญอแล้วในเขตแม่ลาน้อยยังมี ลัวะหรือ ละว้า อีกชนเผ่าอาศัยอยู่ โดย บ้านละอูบเป็นชุมชนชาติพันธุ์ละว้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ชาวละว้ามีวิถีวัฒนธรรมต่างไปจากชาวไทยภูเขาเผ่าอื่น ๆ ทั้งการสร้างที่อยู่อาศัย การแต่งกาย ประเพณี พิธีกรรม แต่เดิมนั้นจะนับถือผี เชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ มีการจัดพิธีเลี้ยงผี แต่ความเชื่อต่าง ๆ เริ่มลดน้อยหลังเมื่อความเจริญย่างกรายเข้ามา ทว่าการดำรงชีวิตด้วยวิถีเรียบง่ายแบบเดิมนั้นยังคงอยู่

ชื่อหมู่บ้านละอูบนั้นเป็นชื่อที่ได้มาหลังจากเจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจหมู่บ้านแล้วลืมหรือทิ้งอูบเอาไว้ โดยคำว่า “ละ” ภาษาเหนือหมายถึง ทิ้งไว้ จึงกลายเป็นชื่อเรียกนับแต่นั้น แต่ความจริงที่นี่เคยมีชื่อว่า “โมซัมเบียง” หมายถึง ภูเขาโมซัมเบียง

ชุมชนบ้านละอูบได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้เป็นชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี มีที่พักแบบโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวพักและเรียนรู้วิถีชีวิตชาวละว้า มีกิจกรรมท่องเที่ยวในหมู่บ้าน เช่น ชิมอาหารพื้นบ้านแบบละว้า เรียนรู้วิถีวัฒนธรรมประเพณีของชาวละว้า เช่น พิธีเลี้ยงผี ชมการผลิตงานหัตถกรรมจากกลุ่มทำเครื่องเงินละว้า กลุ่มผ้าทอละว้า กลุ่มกาแฟบ้านละอูบ ซึ่งล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีความโดดเด่น โดยเฉพาะผ้าทอละว้า เพราะเครื่องแต่งกายของชาวละว้าที่แตกต่างไปจากชนเผ่าอื่น ๆ รวมทั้งลูกปัดขนาดเล็กสีสดที่ร้อยห้อยคอซึ่งจะเพิ่มจำนวนตามอายุที่เพิ่มขึ้น และตุ้มหูเงินเจาะรูหูขนาดใหญ่ที่หญิงสูงวัยมักสวมใส่ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นแหล่งผลิตเครื่องเงินที่ดีที่สุดในแม่ฮ่องสอนอีกด้วย

สำหรับเส้นทางสู่บ้านละอูบนั้นมีความสูงชันและคดเคี้ยวพอสมควร ตามแนวไหล่เขา สามารถมองเห็นวิวทุ่งนาขั้นบันไดและภูเขาสูงใหญ่สลับซับซ้อนสองข้างทางตลอดเส้นทาง ถือเป็นอีกหนึ่งถนนสวยที่สะกดใจผู้มาเยือนตั้งแต่เริ่มแรกของการเดินทาง

ใครที่หลงเสน่ห์ทุ่งนาสีเขียวสดแล้วนึกอยากไปนอนสัมผัสแบบใกล้ชิด แนะนำให้ไปที่ “เฮินไต รีสอร์ท” ชื่อที่แปลว่า เรือนของชาวไต หรือชาวไทใหญ่ ที่ใช้ชื่อนี้เพราะเจ้าของมีเชื้อสายชาวไทใหญ่ เรือนไม้ที่กระจายตัวอยู่รอบพื้นที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางทุ่งนา จึงสร้างตามแบบของชาวไทใหญ่ผสมผสานกับความเป็นล้านนา หลังคามุงด้วยใบตองตึง และตั้งชื่อแต่ละหลังไว้ต่างกัน โดยมีสะพานไม้ขนาดพอเหมาะเชื่อมพื้นที่ไว้ด้วยกัน

แม้จะเป็นที่พักที่ให้ความรู้สึกแบบเรือนไทใหญ่ดั้งเดิม แต่บอกเลยว่าสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบไม่น้อยหน้าโรงแรม โดยแต่ละหลังจะมีลูกเล่นต่างกันตามแบบบ้าน แต่รับรองว่าทุกหลังมองเห็นทุ่งนาเขียวขจีแน่นอนเพียงแต่จะเห็นจากมุมที่ต่างกันเท่านั้น ไฮไลต์เด็ดห้ามพลาดนอกจากเมนูหมููกระทะท่ามกลางอากาศชื้นเย็นกลางทุ่งนาแล้ว ก็คือระเบียงดาวที่เปิดมุมมองให้ชมดาวพราวเต็มฟ้าได้แบบ 360 องศา อยากรู้ว่าคืนนี้มีดาวกี่ล้านดวงก็แค่แหงนมองขึ้นไปบนฟ้า เฮินไต รีสอร์ท อยู่ไม่ไกลจากตัวอำเภอแม่ลาน้อย

แม่ลาน้อยยังคงความเป็นธรรมชาติ วิถีชีวิตชุมชนยังคงดำเนินไปแบบดั้งเดิม นอกจากวิถีชีวิตชนเผ่าแล้ว ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่น อาทิ จุดชมวิวดอยขุมคำ ถ้ําแก้วโกมล ถ้ําที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งของไทย และเป็นหนึ่งใน 3 ถ้ําของโลกที่มีผลึกแร่แคลไซต์ด้วย สอบถามเส้นทางท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร. 0-5361-2982 หรือติดตามเฟซบุ๊กแฟนเพจ : TAT Maehongson

เสียงเพลงในสายฝน

ออกเดินทางตามหาเสียงเพลงในสายฝน เดือนกันยายน 2565”

ที่เฮินไต รีสอร์ท​ แม่ลาน้อย​ จ.แม่ฮ่องสอน

– เสาร์ที่​ 3​ กันยายน​ พบกับ​ เรืองฤทธิ์ บุญรอด

– เสาร์ที่​ 10​ กันยายน​ พบกับ​ เต้ i’m jogging

– เสาร์ที่​ 17​ กันยายน​ พบกับ​ วรินทร์

บัตรเข้างานพร้อมที่พัก อาหารเช้า 1 มื้อ อาหารเย็น 1 มื้อ และพาชมทะเลหมอกตอนเช้า ท่านละ​ 1,500 บาท

*** ใช้สิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เหลือเพียง ท่านละ 900 บาท ***

ทักจองผ่านอินบ็อกซ์เพจ​ “เฮินไต​ รีสอร์ท” หรือโทร. 08-6915-3555