ผู้ว่าฯ อยุธยา นำทุกภาคส่วน ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 310 รูป เสริมสิริมงคลแก่ชีวิตต้อนรับศักราชใหม่ 2566 ณ หน้าวิหารพระมงคลบพิตร

เช้าวันที่ 1 มกราคม 2566 ณ บริเวณหน้าวิหารพระมงคลบพิตร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานฯ นำผู้บริหารระดับสูง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดและภริยา นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราขการข้าราชการ และพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ จำนวน 310 รูป เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ประจำปี 2566 โดยมี พระญาณไตรโลก รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมกับนิมนต์เกจิอาจารย์ชื่อดังจากวัดต่างๆ มาประพรมน้ำมนต์ เพื่อเสริมสิริมงคลกับผู้มาร่วมอีกด้วย

โดยนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยนั้น ทางจังหวัดฯ ร่วมกับมูลนิธิพระมงคลบพิตร สภาวัฒนธรรมจังหวัดฯ และเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ได้จัดให้มีการทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ถวายแด่พระสงฆ์และสามเณรตามประเพณีวีถีไทย เช่นเดียวกับวัดอื่นๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกกว่า 500 แห่ง เช่น วัดพนัญเชิงวรวิหาร วัดเสนาสนาราม ฯลฯ เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นปีใหม่ ในโอกาสเดียวกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำหัวหน้าส่วนราชการและพุทธศาสนิกชน ร่วมลงนามถวายพระพรเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ขอให้ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพระพลานามัยแข็งแรงโดยเร็ววัน อีกด้วย (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน เนื่องในวันสมเด็จพระเจ้าตากสิน ที่ศูนย์การทหารม้าสระบุรี

ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ศูนย์การทหารม้าจังหวัดสระบุรี พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยมีนายพลวรรธน์ เทียนชัยมงคล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พล.ต.จิรวัฒน์ นาคะรัตน์ ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า ข้าราชการศาล ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ พร้อมด้วยองค์กร สมาคม ชมรมต่างๆ ร่วมพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณและแสดงความจงรักภักดีของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทย

เนื่องด้วยวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี ถือเป็นวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องจากตรงกับวันเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระองค์ ในวันนี้ ชาวไทยจะนำพวงมาลัยไปถวายสักการะที่พระบรมราชนุสาวรีย์ของพระองค์ท่าน เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณและแสดงความจงรักภักดีของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทย

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี) มีพระนามเดิมว่า สิน เป็นบุตรของนายไหฮองกับนางนกเอี้ยง เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2272 รับราชการอยู่ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ได้รับความดีความชอบจึงได้เลื่อนยศขึ้นเป็นพระยาวชิรปราการ เจ้าเมืองตาก ราษฎรจึงขนานนามพระองค์ว่า พระเจ้าตากสิน พระราชกรณียกิจที่สำคัญ คือ การกู้เอกราช เมื่อปี พ.ศ. 2309 พม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา ในสมัยพระเจ้าเอกทัศ และได้เสียกรุงแก่พม่าเป็นครั้งที่ 2 ใน พ.ศ. 2310 เหตุการณ์ในกรุงศรีอยุธยาขณะนั้น เกิดความระส่ำระสาย ทหารพม่าได้ล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้ พระยาตากเห็นว่าคงสู้พม่าไม่ได้แล้ว จึงนำทหารจำนวนหนึ่งตีฝ่าวงล้อมพม่าออกมา และได้รวบรวมกำลังอยู่ที่เมืองจันทบุรี แล้วยกทัพกลับไปตีพม่าที่กรุงศรีอยุธยา ทัพของพระยาตากสามารถตีพม่าจนแตกพ่ายไป พระยาตากสามารถรวบรวมผู้คนกอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมาจากพม่าได้ภายในเวลา 7 เดือน

หลังจากได้กอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนจากพม่าได้แล้ว พระองค์ทรงเห็นว่าทางกรุงศรีอยุธยาถูกพม่าเผาผลาญเสียหายมากและยากที่จะฟื้นฟูให้เจริญเหมือนเดิมได้ พระองค์จึงย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่กรุงธนบุรี แล้วทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงพระนามว่า พระบรมราชาธิราชที่ 4 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2310 ครองกรุงธนบุรีอยู่ 15 ปี นับว่าเป็นกษัตริย์พระองค์เดียวที่ปกครองกรุงธนบุรี นอกจากจะทรงกู้เอกราชและทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวงแล้ว พระองค์ยังได้ขยายอาณาเขตโดยตีเวียงจันทน์ได้และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานไว้ที่เมืองหลวง ทรงทำนุบำรุงศาสนาและทรงส่งเสริมให้คนแต่งหนังสือต่าง ๆ ขึ้น เพราะหนังสือตำราอันมีค่าถูกพม่าเผาไปเกือบหมด ทรงเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขของราษฎรเป็นอย่างดีแม้ว่าจะต้องทำสงครามกับพม่าตลอดเวลาก็ตามด้วย คณะรัฐมนตรีจึงประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่พระองค์ทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ เป็น “วันสมเด็จพระเจ้าตากสิน” และถวายพระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” เพื่อยกย่องพระองค์เป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของชาติไทย ผู้กอบกู้เอกราชให้ชาติไทย (วิรัตน์ เดชะวราฤทธิ์ / สระบุรี)

ผู้ว่าฯ อุทัยธานี นำส่วนราชการ ประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตร ในวันขึ้นปีใหม่

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 1 มกราคม 2566 ที่บริเวณวงเวียนห้าแยกวิทยุ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วย นายอลงกต วรกี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการและประชาชน ร่วมประกอบพิธีสงฆ์ รับศีล รับพร รับการประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร โดยมีพระสงฆ์ สามเณร จากวัดในจังหวัดอุทัยธานีออกรับบิณฑบาต ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประเพณีที่ชาวจังหวัดอุทัยธานี นิยมเสริมสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัวเมื่อก้าวเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่

ในโอกาสนี้ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้กล่าวอวยพรปีใหม่ให้กับประชาชนที่มาทำบุญตักบาตร และขอให้ประชาชนที่เดินทางสัญจรไปมา มีสติ สมาธิ ปัญญา ไม่ประมาท ปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทาง และขอให้ชาวอุทัยธานี มีความสุขในเทศกาลปีใหม่ 2566 (ชนม์สวัสดิ์ ทองโพธิ์งาม / อุทัยธานี)

รมว.วัฒนธรรม ตรวจความพร้อมก่อนเปิด “อาคารเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา”

วันที่ 29 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อาคารเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ มอบหมายให้นายประทีป การมิตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ให้การต้อนรับ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในโอกาสเดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามการเตรียมความพร้อมเปิดให้บริการอาคารเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ซึ่งพร้อมเปิดให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2565 นี้เป็นต้นไป โดยมี นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ อาคารเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จะเปิดให้เข้าชมฟรี ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2566 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ อีกด้วย

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า อาคารเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ในปีพุทธศักราช 2557 กรมศิลปากรมีนโยบายปรับปรุงและพัฒนา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา โดยการจัดสร้างอาคารหลังใหม่ สำหรับจัดแสดงโบราณวัตถุประเภทเครื่องทองอยุธยา ที่ค้นพบในแหล่งโบราณคดีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้อยู่ในรูปแบบที่น่าสนใจ ทันสมัย และได้มาตรฐานตามหลักพิพิธภัณฑสถานสากล เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของพิพิธภัณฑ์ในฐานะแหล่งเรียนรู้ทางมรดกศิลปวัฒนธรรมแก่สถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษา รวมทั้งเป็นการสร้างภาพจำและความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ในฐานะพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ โบราณคดีที่ยิ่งใหญ่ในอดีตของไทย

อาคารเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พุทธศักราช 2560 ลักษณะเป็นอาคารไทยประยุกต์ 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 3,275 ตารางเมตร แบ่งเนื้อหาการจัดแสดง ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 จัดแสดงเครื่องทองจากวัดราชบูรณะ ประเภทเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องสูง เครื่องราชูปโภคและเครื่องถนิมพิมพาภรณ์ ส่วนที่ 2 จัดแสดงเครื่องทองจากวัดราชบูรณะ ประเภทเครื่องพุทธบูชา เครื่องอุทิศ และพระบรมสารีริกธาตุ รวมถึงกรุจำลองวัดราชบูรณะ ส่วนที่ 3 จัดแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับคติการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุที่พบในโบราณสถานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ พระปรางค์วัดพระราม พระปรางค์วัดมหาธาตุ เจดีย์วัดพระศรีสรรเพชญ์ และเจดีย์ศรีสุริโยทัย จำนวนโบราณวัตถุที่จัดแสดงภายในอาคารเครื่องทอง มีจำนวนทั้งสิ้น 2,244 รายการ โบราณวัตถุชิ้นเด่น อาทิ พระแสงขรรค์ชัยศรี พระคชาธารจำลอง จุลมงกุฎ พระสุวรรณมาลา(ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

สดุดีวีรกรรม “พระเจ้าตาก” ฝ่าวงล้อมจากวัดพิชัยสงครามกลับมากู้กรุงศรีฯ

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 มกราคม 2566 ที่วัดพิชัยสงคราม ตำบลกะมัง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายธนิก ปริญานุภาพ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในพิธีทักษิณานุปทานอุทิศถวายแด่ดวงพระวิญญาณพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันประชุมพล ตั้งสัตยาธิษฐานต่อพระประธาน พระพุทธพิชัยนิมิตร หรือหลวงพ่อใหญ่ในอุโบสถวัดพิชัยสงคราม กรุงศรีอยุธยา โดยมีพระญาณไตรโลก รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมพระภิกษุสงฆ์จำนวน 10 รูป ร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ โดยภายในงานมีนายมนตรี รักษาดี ส.จ.พระนครศรีอยุธยา นายบุญเลิศ เรืองทิม ผู้ดำเนินรายการไชยานุภาพทางสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่อง MVTV และอาจารย์บุญเชิด ศิริยศ เป็นผู้ดำเนินการในพิธี มี พ.อ.อ.สุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา และผู้ที่มีความศรัทธาในสมเด็จพระเจ้าตาก มาร่วมจำนวนมาก

หลังเสร็จพิธีสงฆ์ในมีพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นายธนิก นำตัวแทนองค์การร่วมวางพานพุ่ม และการรำถวายจากนางรำจิตอาสาและรำบูชาศาสตราวุธ โดยพระปลัดตรีพรหมเจ้าอาวาสวัดพิชัยสงคราม ได้มอบเหรียญพระเจ้าตากสินมหาราช ให้กับผู้มาร่วมงานด้วย

นายบุญเลิศ ผู้ซึ่งเป็นผู้ผลักดันการสร้างสำนึกให้กับประชาชนคนรุ่นหลัง ด้วยการสร้างปืนใหญ่ และศาสตราวุธ เครื่องแต่งกายโบราณ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา กล่าวว่า เรื่องราวของพระเจ้าตากมีเรื่องราวหลากหลาย แล้วแต่ใครจะหยิบมานำเสนอ แต่อยากให้คนไม่ลืมคือสถานที่วัดพิชัย เพราะพระเจ้าตากสินมหาราชมีกำลัง 500 คน ได้เข้าไปตั้งสัตย์อธิษฐานในการรวบรวมคนออกไปแล้วกลับมากู้บ้านเมืองใน 7 เดือนจนสำเร็จ ความผูกพันกับวัดพิชัย เป็นที่มั่นสุดท้าย 24 ค่ายรอบกรุงศรีอยุธยา ได้ตี 7 ค่ายของอยุธยาแตกทั้งหมด เหลืออยู่ค่ายวัดพิชัยค่ายเดียว ที่พระเจ้าตากสินได้รวมผู้กล้าออกไปจากกรุงศรีอยุธยาวันที่ 3 มกราคม จากนั้นไปรวมกันที่บ้านพรานนกวันที่ 4 มกราคม ในส่วนของตน ได้มีการสร้างปืนใหญ่รางเกวียน เป็นปืนใหญ่ที่สร้างเท่าขนาดจริง จะไปไว้ที่วัดพรานนก 12 กระบอก และจะสร้างที่วัดพิชัยสงคราม 2 กระบอก เป็นกระบอกรางเกวียน และมหาพระแสงปืนใหญ่ 8 ศอก 12 นิ้ว หน้าวัด ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

นายมนตรี กล่าวว่า ที่บ้านพรานนก เป็นเหตุการณ์ที่พระเจ้าตากสินมหาราช ได้เดินทางออกจากวัดพิชัยสงครามไปรวบรวมพลที่นั่น ได้ต่อสู้กับข้าศึกได้ ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สร้างอนุสรณ์สถานขึ้น และจัดให้มีพิธีบวงสรวงขึ้นทุกวันที่ 4 มกราคมทุกปี และมีงานเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้กับคนรุ่นหลังต่อไป

อาจารย์บุญเชิด ผู้ผลักดันให้เกิดกิจกรรมรำลึกพระเจ้าตากสินมหาราช เปิดเผยว่า วัดพิชัยสงครามเป็นวัดที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ภายในวัดมีจุดชมวิวริมน้ำป่าสัก มองเห็นฝั่งเกาะเมือง จะมีพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประทับนั่งริมแม่น้ำ พระพักตร์มองข้ามไปยังเกาะเมืองพระนคร เสมือนพระองค์ท่านเฝ้าห่วงใยดูแลประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งยังมีรูปหล่อภายในวัดให้สักการบูชา ในอนาคตอาจจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองให้กับพระองค์ท่านทุกปีด้วย (สัมฤทธิ์ เจียมเจริญพรกุล / อยุธยา)

พระนครศรีอยุธยา จัดประชุมเตรียมความพร้อมโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป

วันที่ 29 ธันวาคม 2565 ณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร อำเภอพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประธานการประชุมเตรียมความพร้อมโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยมี คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมพร้อมคณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำโดย พระธรรมรัตนมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร

โดย นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เปิดเผยว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดประชุมเตรียมการจัดโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา กระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นการถวายพระพรชัยมงคล ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพลานามัยแข็งแรงโดยเร็ววัน พร้อมแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ทั้งนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอเชิญชวนบุคลากรทั้งภาครัฐภาคเอกชนและภาคประชาชนในจังหวัด จำนวน 99 คน สมัครเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเป็นเวลา 15 วัน ในส่วนของข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว ของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐและพนักงานรัฐวิสาหกิจ สามารถเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา โดยไม่ถือเป็นวันลา เสมือนเป็นการปฏิบัติราชการและได้รับเงินเดือนตามปกติ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 โดยกำหนดดำเนินการพิธีปลงผมนาค ในวันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 เวลา 13.00 น. และพิธีบรรพชาอุปสมบทในวันที่ 14 มกราคม 2566 เวลา 07.00 น. ผู้มีจิตศรัทธาสามารถส่งรายชื่อเข้าร่วมโครงการได้ที่ทำการปกครองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายในวันที่ 6 มกราคม 2566 (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

พ่อเมืองให้กำลังใจเจ้าหน้าที่จุดตรวจ

นายอำพล อังคภาภรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมให้ขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ จุดตรวจและจุดบริการประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ณ บริเวณริมถนนสี่แยกไฟแดงท่าหลวง อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี โดยมีนายเดชวุฒิ นิลแย้ม นายอำเภอท่าหลวง ตำรวจ ผู้บริหาร อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปพร. กู้ภัย ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้สัญจรไปมา ซึ่งเส้นทางดังกล่าว มีการจราจรหนาแน่น เนื่องจากเป็นเส้นทางสัญจรไปยังจังหวัดนครราชสีมา

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้ขอความร่วมมือและเน้นย้ำให้มีด่านครอบครัว ด่านหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อป้องปรามและประชาสัมพันธ์ เมาไม่ขับ รวมทั้งให้สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อป้องกันและลดการสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุ (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

วิหารแดง จัดมหกรรมอาหารเป็นยา

นางอรนุช คูวิจิตรสุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลวิหารแดง จังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า กองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลวิหารแดง ได้จัดโครงการมหกรรมอาหารเป็นยา เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความรู้ในการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีความรู้ความเข้าใจในการรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัย และเหมาะสมกับวัย โดยมี นางสาวฐานิตา บุญเชิด แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ นางสาวปนัดดา จรัสรัตนโชติ แพทย์แผนไทยประยุกต์ จากโรงพยาบาลอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยนางผลินี เรืองกิตติกุล หัวหน้าแผนกแพทย์แผนไทย นางสาวทัศน์พัสกร จันทรัตน์ แพทย์แผนไทย โรงพยาบาลองครักษ์ จังหวัดนครนายก มาร่วมเป็นวิทยากร โดยอบรมที่ ศูนย์สุขภาพและการเรียนรู้ เทศบาลตำบลวิหารแดง (สมชาติ มานะยิ่งเมต / สระบุรี)

เปิดศูนย์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ 2566

ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ หน้าอาคาร รศ.130 หรืออาคารศาลากลางจังหวัดสิงห์บุรีหลังเดิม นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 และงานวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ประจำปี 2565 ตามที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัย ลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และพัฒนาไปสู่วัฒนธรรมความปลอดภัยแก่ประชาชนในชาติ และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหน่วยงาน องค์กรเครือข่ายในการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 ซึ่งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้กำหนดแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 ภายใต้ชื่อว่า “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ”

ในงานมีการแสดงนิทรรศการเครื่องมือในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยภาค 6 จังหวัดชัยนาท เครื่องมือช่วยเหลือผู้ได้รับอุบัติเหตุจากมูลนิธิกู้ภัยจังหวัดสิงห์บุรี และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจังหวัดสิงห์บุรี โดยในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ได้อ่านสารของนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แสดงถึงความห่วงใยประชาชนในการขับขี่รถ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ และเทศกาลอื่นๆ ที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ก่อนที่จะทำการปล่อยขบวนรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ซึ่งประกอบด้วยรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ รถพยาบาล และรถของมูลนิธิกู้ภัย วิ่งไปตามชุมชนและหมู่บ้านในจังหวัดสิงห์บุรี (อำนาจ สุขเย็น / สิงห์บุรี)

นายกเล็กตาคลี เปิดจุดตรวจ ป้องกัน ลดอุบัติเหตุ

นางเพลินพิศ ศรีภพ นายกเทศมนตรีเมืองตาคลี กล่าวว่า ในฐานะผู้อำนวยการท้องถิ่น รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิด จุดตรวจและบริการป้องกันและลดอุบัติเหตุในท้องถนน ในช่วงวันหยุดยาวหรือในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2566 ของเทศบาลเมืองตาคลี

นายอำนวยชัย กีรกมลชัย รองนายกเทศมนตรี ได้กล่าวรายงาน การตั้งจุดตรวจ เป็นการอำนวยความสะดวกด้านจราจร ที่มีปริมาณรถที่สัญจรบนท้องเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะประชาชน ที่เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือนักท่องเที่ยว ที่เดินทางไปสถานที่ต่างๆ และเป็นน่าชื่นชมอย่างมากคือ องค์กรที่สำคัญมาทร่วมกิจกรรมมากมาย เช่น รองนายกเทศมนตรีชวลิต ศิริรัตโนทัย รองนายกเทศมนตรี นายบรรเลง ลิ้มมาลีนันท์ และข้าราชการทหารกองบิน 4 ตาคลี สถานีตำรวจภูธรตาคลี อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ในสังกัดเทศบาลเมืองตาคลี จิตอาสาประชารัฐ มูนิธิการกุศลตาคลี และกู้ชีพ ร่วมกิจกรรมรณรงค์ การใช้รถใช้ถนน ขับขี่ปลอดภัย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในนามของผู้บริหารเทศบาลเมืองตาคลี ขอขอบคุณองค์กรต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วนั้น และผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน ที่ท่านได้เสียสละเวลาและอุทิศตนบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม มาปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ในครั้งนี้ และควรยกย่องเป็นอย่างยิ่ง ณ บริเวณเต็นท์ชั่วคราว ริมถนนพหลโยธิน ข้างบริษัท ส.ใหญ่ยนต์ ทางเข้าอำเภอตาคลี (กิตติ์ธเนศ พัวพรพงษ์ / นครสวรรค์)

รองผู้ว่าฯ ร่วม ศปถ.อยุธยา ประชุมติดตามการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566

วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ที่ ห้องประชุมมหาธาตุ ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ นายกกชัย ฉายรัศมีกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 โดยมี นายกฤษณ์ แก้วทองหลาง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด พร้อมด้วย คณะกรรมการและผู้แทนอำเภอทุกอำเภอ มูลนิธิฯ สมาคมฯ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Conference) โดยวันนี้ได้เชิญผู้อำนวยการแขวงทางหลวงอ่างทอง เข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อปรับกลยุทธ์ เป็นวันที่สอง

โดยที่ประชุมสรุปรายงานผลการปฏิบัติงานและสถิติการเกิดอุบัติเหตุของวันที่ 30 ธันวาคม 2565 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดอุบัติเหตุ จำนวน 9 ครั้ง ยอดสะสม 2 วัน เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด 19 ครั้ง ซึ่งใน 2 วันที่ผ่านมา ได้มีการเรียกตรวจยานพาหนะตามมาตรการ “10รสขม” สะสม 8,939 ครั้ง พบผู้กระทำผิดกฎหมายและส่งดำเนินคดีแล้ว 1,568 ราย ส่วนใหญ่เป็นกรณี ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่พกใบขับขี่ ขับขี่ด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนด และเมาสุรา ตามลำดับ

นายกกชัย ฉายรัศมีกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขอให้ทุกหน่วยยังคงเน้นย้ำประชาสัมพันธ์ การรณรงค์ เมาไม่ขับ โทษของการเมาแล้วขับหลังถูกจับกุม สร้างการตระหนักรู้ในด่านตรวจต่าง ๆ เรื่องอุบัติเหตุให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน ถึงอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงมารยาทในการขับขี่ เพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงของการเดินทางกลับจากภูมิลำเนาหรือเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวของประชาชนในช่วงวันหยุดยาว คาดว่าในวันที่ 1 มกราคม จะมีผู้ใช้รถใช้ถนนปริมาณรถหนาแน่น มีโอกาสที่เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จึงจำเป็นที่จะต้องมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดทั้งสายหลักและโดยเฉพาะสายรอง ที่มีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

โดยเฉพาะวันนี้ ซึ่งเป็นวันนี้ (31 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันส่งท้ายสิ้นปี มีหลายพื้นที่จัดกิจกรรม Countdown กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และงานเลี้ยงสังสรรค์ ซึ่งจะมีการเดินทางในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนจำนวนมาก จึงขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง พิจารณาเฝ้าระวังจุดไหนที่มีความเสี่ยง หาวิธีและมาตรการที่จะทำให้ผู้ที่สัญจรในช่วงเวลาดังกล่าว มีความปลอดภัยและระมัดระวังมากยิ่งขึ้น (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

ตระหนักรู้ มุ่งสู่ 4 สะอาด ปราศจากทุจริต

นายสงกรานต์ ชุติธนธีระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคเหนือ) จังหวัดลพบุรี เป็นประธานเปิดการบรรยายพิเศษ “ตระหนักรู้ มุ่งสู่ 4 สะอาด ปราศจากทุจริต” ซึ่งมี นางนันทวัณณ์ หอมทรัพย์ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดลพบุรี เป็นวิทยากรในการบรรยายให้ความรู้ด้านการป้องกันและแนวทางการมีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริต โดยการบรรยายดังกล่าว มีนายจรูญศักดิ์ นาคคล้าม ผอ.ฝ่ายปฏิบัติการและบำรุงรักษา นายธรรมนูญ สุวรรณพฤกษ์ ผอ.ฝ่ายบัญชีและพลังงานไฟฟ้า พร้อมคณะผู้บริหาร ผจก.กฟภ.ในสังกัด เข้าร่วมรับฟัง ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคาร 1 สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคเหนือ) จังหวัดลพบุรี กว่า 100 คน ตลอดจนมีการถ่ายทอดผ่านระบบออนไลน์อีกด้วย (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

อยุธยา จัดประชุมคณะกรมการและหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล

วันนี้ 28 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ นายประทีป การมิตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานการประชุมคณะกรมการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ครั้งที่ 12/2565 โดยมี นายไพรัตน์ เพชรยวน นายธีรศักดิ์ โฉมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมเต็มรูปแบบ ณ ห้องประชุมอโยธยา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยก่อนเริ่มการประชุม ประธานได้มอบเกียรติบัตรพ่อตัวอย่างระดับจังหวัด ประจำปี 2565 และเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับผู้อุทิศตนและร่วมขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมของท้องถิ่นและของชาติ จากนั้น นายธีรศักดิ์ โฉมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และหัวหน้าส่วนราชการ ได้แนะนำตัวในโอกาสที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ รวม 5 ท่าน

หลังจากนั้น ได้เริ่มการประชุมโดยที่ประชุมฯ ได้รับทราบรายงานและติดตามการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นต้น รวมทั้งประชาสัมพันธ์งานสำคัญของจังหวัด อาทิ เชิญชวนสวดมนต์ข้ามปีเสริมสิริมงคลทั่วไทย ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับศักราชใหม่ 2566 และปฏิทินการจัดงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก วันที่ 20-29 มกราคม 2566 รวมทั้งขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า ทั้งภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป เพื่อถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยดี มหาวัชรราชธิดา เป็นเวลา 15 วัน ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ ที่ทำการปกครองจังหวัดฯ โทร. 06-3904-1482 ภายในวันที่ 4 มกราคม 2566 (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เชิญสิ่งของพระราชทาน ไปมอบให้ผู้ประสบอัคคีภัย

วันที่ 27 ธันวาคม 2565 ณ บ้านเลขที่ 62/4 หมู่ที่ 1 ตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเชิญสิ่งของพระราชทาน มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปมอบให้แก่ ครอบครัวนางอารีย์ จรพันธ์ เจ้าของบ้านเลขที่ 62/1 หมู่ที่ 1 ตำบลนครหลวง ซึ่งได้รับความเสียหายบางส่วน และ นางสาวสุดใจ ภู่บุบผา เจ้าของบ้านเลขที่ 62/4 หมู่ที่ 1 ตำบลนครหลวง ซึ่งได้รับความเสียหายทั้งหลัง ที่ประสบอัคคีภัยเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 เวลา 01.30 น. สาเหตุของเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร จำนวน 2 หลังคาเรือน มีผู้ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 6 ราย ซึ่งการได้รับสิ่งของพระราชทาน ยังความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์พระบรมราชูปถัมภก แห่งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นล้นพ้น

โอกาสนี้ หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาทิ เหล่ากาชาด ชมรมแม่บ้านมหาดไทย องค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ข้าราชการ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อำเภอนครหลวง ได้มอบเงินและสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยด้วย (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

เหมืองแร่เพื่อชุมชน

ที่บ้านแอมเพอริช สโตน เลขที่ 444 (ริมถนนสายสระบุรี-หล่มสัก) หมู่ 4 ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี นายอธิปพัฒน์ อริยพิทักษ์เดชา และครอบครัว ร่วมกันประกอบพิธีสงฆ์ทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิด ประธานผู้บริหาร บจก.แอมเพอริช สโตน และฉลองรางวัลพระราชทาน เสาเสมาธรรมจักร พร้อมแจกข้าวสารจำนวน 5,000 ถุง คนละ 1 ถุง ถุงละ 5 กก. ตามโครงการกิจกรรม “เหมืองแร่เพื่อชุมชน” แก่พี่น้องประชาชนในตำบลหน้าพระลาน และใกล้เคียง โดยได้รับความเมตตาจาก พระสุนทรธรรมภาณ เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี ธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดพระพุทธแสงธรรม (ประธานสงฆ์) และ พระวิสิฐคณาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี (มหานิกาย) เจ้าอาวาสวัดมงคลชัยพัฒนา พระอารามหลวง และพระสังฆาธิการ จำนวน 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ฉันภัตตาหารเพล

ในโอกาสนี้ได้รับเกียรติจากนายนิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เดินทางมาเป็นประธานแจกข้าวสาร พล.อ.นิธิ จึงเจริญ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พ.อ.เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รอง ผอ.กอรมน สระบุรี พร้อมด้วย นายสุวรรณ นางสมศรี ศิระวัฒนานนท์ (เหมืองแร่ศิลาชัยเจริญ) หัวหน้าส่วนราชการ แขกผู้มีเกียรติ ร่วมกันแจกข้าวสาร โดยมีประชาชนในพื้นที่ตำบลหน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ, อ.พระพุทธบาท, อ.บ้านหมอ และใกล้เคียง พาบุตร-หลาน, ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส จำนวน 5,000 คน เดินทางมารอรับบัตรคิวรอรับแจกข้าวสารตั้งแต่เช้าตรู่ ซึ่งในงานเดียวกันนี้ บริษัทแอมเพอริช สโตน จำกัด โดยนายอธิปพัฒน์ ได้สนับสนุนอุปกรณ์ทางการศึกษา โทรทัศน์ ขนาด 75 นิ้ว พร้อมชุดขาตั้ง จำนวน 2 ชุด ให้แก่ กศน. อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และ กศน. ตำบลหน้าพระลาน ด้วย

ด้าน นายนิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กล่าวด้วยว่า ขอแสดงความชื่นชมกับ คุณอธิปพัฒน์ อริยพิทักษ์เดชา และครอบครัว ที่จัดกิจกรรม “เหมืองแร่เพื่อชุมชน” ขึ้น ในฐานะที่ตนมีหน้าที่กำกับดูแลงานเกี่ยวกับเหมืองแร่โดยตรง ตนต้องการเห็นผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบต่อการดำเนินธุรกิจ ที่การดูแลพื้นที่โดยรอบเหมือง ให้การช่วยเหลือประชาชนและสนับสนุนกิจกรรมด้านต่างๆ ของสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา วัฒนธรรม รวมถึงงานของจิตอาสาต่างๆ อย่างทั่วถึงด้วยดีตลอดมา ซึ่งเรียกได้ว่า ผู้ประกอบการอยู่ได้ พี่น้องประชาชนโดยรอบก็อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข (วิรัตน์ เดชะวราฤทธิ์ / สระบุรี)