แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ 

(เดินทางระหว่าง 11-13 ธันวาคม 2561)

By: รณยุทธ์  จิตรดอน

         แพร่ อดีตศูนย์กลางการค้าไม้สักในภาคเหนือ ส่งผลให้มีการสร้างอาคารที่ได้กลายเป็นมรดกทาง สถาปัตยกรรมที่ประณีต สวยงามและมีเอกลักษณ์ ตั้งอยู่บริเวณย่านเมืองเก่าแพร่ อาทิ บ้านคุ้มวงศ์บุรีเรือน ปั้นหยาประยุกต์ศิลปะล้านนาผสมยุโรป

  คุ้มเจ้าหลวง คุ้มเจ้าเมืองแพร่ในอดีต และยังเคยเป็นที่ประทับแรมของในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จเยี่ยมราษฎรที่จังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 15-17 มีนาคม พ.ศ.2501 ด้วย

ทั้งยังมีวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองแพร่ คือ วัดหลวง ภายในวัดมี พิพิธภัณฑ์วัดหลวง ที่ จัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ ด้วย

นอกจากนี้ยังมีวัดที่สวยงามให้ชมอีกหลายแห่ง อาทิ วัดพงษ์สุนันท์ ภายในวัดมีพระนอนองค์ใหญ่ เจดีย์วิหารแก้วองค์พระธาตุเจดีย์ 108 ยอด งดงามน่าชม

      วัดจอมสวรรค์ ที่ท าด้วยไม้สักทั้งหลัง ประดับประดาด้วยลวดลายฉลุวิจิตรบรรจง

     เสื้อม่อฮ่อม เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองแพร่ โดยมีหมู่บ้านท่องเที่ยวโอทอปเชิงหัตถกรรมที่ บ้านทุ่งโฮ้ง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเสื้อม่อฮ่อมที่มีชื่อเสียงของประเทศที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษที่อพยพมาจากเมืองพวน ประเทศลาว ชมสาธิตวิธีการท าและเลือกซื้อเสื้อม่อฮ่อม

วนอุทยานแพะเมืองผี ปรากฏการณ์ธรรมชาติทางธรณีวิทยาที่สภาพภูมิประเทศซึ่งเป็นดินและหินทราย ถูกกัดเซาะตามธรรมชาติกลายเป็นเสาดินรูปร่างลักษณะต่างๆ สวยงาม แปลกตา 

และที่ขาดไม่ได้คือ วัดพระธาตุช่อแฮ โดยมีค ากล่าวเปรียบว่า หากมาจังหวัดแพร่แล้วไม่ได้มานมัสการ พระธาตุช่อแฮ ก็เหมือนยังมาไม่ถึง 

จากเมืองแพร่มุ่งหน้าลงไปทางทิศใต้ เพื่อไปยังจังหวัดอุตรดิตถ์ ระหว่างทางแวะชมและสักการะสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ภายใน วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีร

         อุตรดิตถ์ เมืองแห่งพระแท่นศิลาอาสน์ และเป็นบ้านพระยาพิชัยดาบหัก ขุนศึกคู่บารมีของสมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช เมื่อมาถึงจังหวัดอุตรดิตถ์ ต้องไปสักการะ พระแท่นศิลาอาสน์เป็นอันดับแรก มีต านานเล่าว่าสมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปป์นี้ ได้เสด็จและจะได้เสด็จมาประทับนั่งบนพระแท่นแห่งนี้เพื่อเจริญ ภาวนา จึงเชื่อกันว่ามีมาช้านานแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่พระเจ้าบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยาจะเสด็จไปบูชา ตัวพระแท่นเป็นศิลาแลง มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ฐานประดับด้วยลายกลีบบัวโดยรอบ มีพระ มณฑปศิลปะเชียงแสนครอบ

        จากนั้นจึงย้อนกลับไปไหว้อนุสาวรีย์พระยาพิชัยฯ และไปเยี่ยมชม เมืองลับแล และ พิพิธภัณฑ์เมืองลับ แล แวะซื้อผลไม้และสินค้าพื้นเมือง ก่อนไป เขื่อนสิริกิติ์ โดยแวะชมทิวทัศน์อันงดงามของอ่างเก็บน้ าเขื่อนสิริกิติ์ที่ กั้นล าน้ าน่าน ที่ อุทยานแห่งชาติล้าน้้าน่าน ก่อน 

         เมืองลับแล ในสมัยก่อนมีภูมิประเทศเป็นป่าเขาสลับซับซ้อน ท าให้พลัดหลงได้ง่าย จึงได้ชื่อว่าเมืองลับแล ขณะเดียวกันก็มีต านานพื้นบ้านว่าเป็นเมืองลี้ลับที่ถูกซ่อนเร้น ปัจจุบันลับแลเป็นอ าเภอเล็กๆ ในจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นแหล่งทอผ้าตีนจก แหล่งปลูกผลไม้ที่มีชื่อเสียง คือ ลางสาด และทุเรียนหลิน-หลง ซึ่งเป็นทุเรียนพื้นเมือง ปลูก บนภูเขา โดยตั้งชื่อตามชื่อผู้ปลูก คือ นายหลงและนางหลิน

       อุทยานแห่งชาติล้าน้้าน่าน มีพื้นที่ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นอ่างเก็บน้ำซึ่งเกิดจากการสร้าง เขื่อนสิริกิติ์กั้นลำน้ำน่าน และส่วนที่เป็นผืนป่าที่อยู่โดยรอบอ่างเก็บน้ำ จนเกิดเป็นทิวทัศน์อันสวยงามจนได้รับการขนานนามว่า "ทะเลสาบสุริยันต์จันทรา" ซึ่งสามารถชมทั้งพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และพระจันทร์ขึ้นในยามค่ำดูแสงกระทบกับน้ำงดงามมาก

          เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สามารถเดินชมทัศนียภาพบนสันเขื่อนและชมวิว อ่างเก็บน้ำ สัมผัสวิถีชีวิตของชาวประมงที่อาศัยอยู่ตามแพในอ่างเก็บน้ำ ชมไม้ดอกที่ปลูกอยู่โดยรอบตลอดจนภูมิทัศน์ที่จัดไว้อย่างสวยงาม

           ชบนเทือกเขาอีกด้าน เหนือเขื่อนขึ้นไป เป็นที่ตั้งของอุทยาน 2 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน และ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดน่าน การเดินทางจากเขื่อนไป สามารถใช้ได้ 2 เส้นทาง คือ ขับขึ้นเขาไปตามทางหลวงหมายเลข 1339 แล้วข้ามแม่น้ำน่านโดยแพขนานยนต์ไปยังหมู่บ้านประมงปากนายหรือหากไม่ต้องการข้ามแพ ก็สามารถขับอ้อมเขาไปทางอ าเภอน้ าปาดตามทางหลวงหมายเลข 117 จนถึงทางแยกไปจุดผ่าน แดนถาวรภูดู่ (ข้ามไปยังเมืองไชยะบุลีของลาว) จึงเลี้ยวซ้ายขึ้นเขา โดยเส้นทางขึ้นเขานี้จะชันและคดเคี้ยวกว่า เส้นทางแรก 

          อุทยานแห่งชาติศรีน่าน และ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันมีทิวทัศน์สวยงามและเป็นสถานที่ชมซากุระเมืองไทยหรือดอกนางพญาเสือโคร่งในฤดูหนาว อุทยานฯ ทั้ง 2 แห่ง มีพื้นที่ให้กางเต็นท์พักค้างเป็นจำนวนมาก โดยที่อุทยานแห่งชาติขุนสถาน มีบ้านพักกรมอุทยานฯ ไว้คอยบริการ ด้วย 3 หลัง

เมื่อเดินทางถึงตัวเมืองน่าน เข้านมัสการ พระบรมธาตุแช่แห้ง ปูชนียสถานสำคัญแห่งหนึ่งในเมืองน่าน

       สัมผัสวิถีชีวิตและชุมชนชาวน่าน นั่งรถรางชมเมือง สักการะสิ่งศักดิ์คู่บ้านคู่เมือง วัดพระธาตุช้างค้้า ชมจิตรกรรมฝาผนังภาพ “ปู่ม่านย่าม่าน” ที่เลื่องลือ ณ วัดภูมินทร์ วัดเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี ที่มีชื่อเสียง ที่สุดของเมืองน่าน ย่ำค่ำช้อปชิมชมตลาดข่วงเมืองน่าน ชมดนตรี ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ซื้อสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึก อาหารพื้นบ้าน 

           เดินทางไปอำเภอบ่อเกลือ และอำเภอปัว ซึ่งมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นต้นแบบการพัฒนาและถ่ายทอดความรู้สู่ ชาวบ้านในพื้นที่ ขณะเดียวกันยังสามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ วิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่น สำหรับนักท่องเที่ยวด้วย

บ่อเกลือสินเธาว์บนภูเขา แห่งเดียวในโลก ชมการทำเกลือแบบดั้งเดิมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กลับไปเป็น ที่ระลึก

      ชมดอกชมพูภูคาพันธุ์ไม้หายากที่ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา แห่งเดียวในประเทศไทย ศึกษาธรรมชาติบน เส้นทางชมดอกชมพูภูคา ดูนกที่จะพบทั้งนกและผีเสื้อนานาพันธุ์ให้ชมด้วย

       วัดภูเก็ต วัดที่มีชื่อชวนสงสัยถึงที่มาของชื่อวัด ซึ่งความจริงแล้วชื่อวัดนี้ตั้งตามสถานที่ตั้ง คือ วัดอยู่บน เนินเขาซึ่งทางเหนือเรียกว่า ‘ภู’ ตั้งอยู่ที่บ้านเก็ต และด้วยเหตุที่วัดตั้งอยู่บนเนินเขา จึงมีทัศนียภาพที่สวยงามทางด้านหน้าพระอุโบสถมีลานชมวิวทุ่งนาเขียวขจีที่มีดอยภูคาเป็นฉากหลัง

        สัมผัสวิถีชีวิตและเลือกซื้อผ้าทอพื้นเมืองจากฝีมือชาวบ้านที่ วัดหนองบัว วัดไทลื้อเก่าแก่ของหมู่บ้าน หนองบัว ภายในบริเวณวัดมีการ เล่นดนตรีพื้นเมือง จัดแสดง บ้านจ้าลองไทลื้อ พร้อมอุปกรณ์เครื่องใช้สาธิต การทอผ้า และร้านจำหน่ายผ้าทอพื้นเมืองและของที่ระลึกด้วย 

        ชมการทอผ้าและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ผ้าทอลายน้้าไหล ผ้าทอพื้นเมืองที่สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ของไท ลื้อ ที่ หมู่บ้านไทลื้อหนองบัว แหล่งทอผ้าที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดน่าน