fbpx
logo

Camp One Outdoor

close

สินค้า

บริการลูกค้า

บทความทั้งหมด

JAKE LAH TH OWNER EXCLUSIVE CLUB

หน้าแรก / 5 ที่เที่ยวไทยไปแคมป์ปิ้งนอนดูดาวส่องทางช้างเผือก

5 ที่เที่ยวไทยไปแคมป์ปิ้งนอนดูดาวส่องทางช้างเผือก

21 ก.ค. 2023

5 ที่เที่ยวไทยไปแคมป์ปิ้งนอนดูดาวส่องทางช้างเผือก

เมื่อเราอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เวลาไปแคมป์ปิ้ง กิจกรรมอีกอย่างนึงก็คือ การได้นั่งมองดูดวงดาวที่เต็มท้องฟ้า มันทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจมากๆครับ ในบทความนี้ Camponeoutdoot จะมาแนะนำสถานที่ดูดาวสวยๆและไปล่าทางช้างเผือกกันครับ ไปเริ่มกันเล้ยยย
อยากล่าทางช้างเผือก ต้องไปช่วงไหนไม่พลาด
หลายคนที่เริ่มต้นถ่ายดาวเป็นแล้วก็อยากจะหาอะไรถ่ายให้มันดูสวยๆบนท้องฟ้ามากกว่าแค่ดาวระยิบระยับ แน่นอนว่าทางช้างเผือกเป็นหนึ่งในวัตถุบนท้องฟ้าขนาดใหญ่ที่สามารถเห็นได้อย่างง่ายดายในสถานที่มืดๆ และนับเป็นวัตถุอวกาศที่สามารถถ่ายรูปแล้วไปอวดเพื่อนได้ง่ายมากที่สุด แม้ว่าทางช้างเผือกจะเป็นวัตถุอวกาศที่ถ่ายได้ง่ายที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่ออกไปล่าดาวแล้วจะเห็นกันได้ตลอดนะครับ เพราะทางช้างเผือกในเมืองไทยส่วนใหญ่จะขึ้นตลอดทั้งคืนได้แค่ในช่วงหน้าฝนเท่านั้นนะครับ แน่นอนว่าช่วงหน้าฝนส่วนใหญ่ท้องฟ้าจะมีเมฆปกคลุมเกือบตลอดเวลา หรือบางทีท้องฟ้าเปิดก็เจอแสงจันทร์รบกวนอีก ทำให้หลายคนเลือกที่จะไปดูดาวกันช่วงหน้าหนาวแทน แล้วประเด็นคือหน้าหนาวของไทยส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีทางช้างเผือกนะครับ มันจะมีแค่หางช้างบางๆเท่านั้น

มิถุนายน – สิงหาคม
เป็นช่วงที่ทางช้างเผือกปรากฏได้ตลอดทั้งคืน เรียกได้ว่าเป็นช่วงมาราธอนของการล่าช้างเลยทีเดียว ในช่วงนี้มีช้างทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะขนานกับท้องฟ้า แบบคันธนู แบบตั้งฉาก หรือแบบเฉียงตก ก็สามารถเก็บได้หมดทุกรูปแบบในหนึ่งคืน สำหรับคนนอนไม่ดึกจะได้แบบขนานกับคันธนู แต่ถ้าใครนอนดึกๆหรือไม่นอน ก็จะได้แบบตั้งฉากกับเฉียงตก ใครไปล่าช้างตอนนี้แนะนำให้นอนกลางวันเก็บแรงไว้ถ่ายช้างตอนกลางคืนจะดีที่สุด แต่ช่วงนี้เสียอย่างเดียวคือเป็นช่วงฤดูฝนของไทย จำเป็นต้องวางแผนติดตามพยากรณ์อากาศให้ดี ในช่วงที่มรสุมเข้าอาจเจอเมฆปิดได้ตลอดทั้งคืน ซึ่งต่อให้ฝนไม่ตกก็มีเมฆชั้นสูงปกคลุมได้อยู่ดี จะล่าช้างช่วงนี้ถ้าไม่ดูพยากรณ์อากาศก็ต้องพึ่งดวงล้วนๆ

 

เราจะมาแนะนำ 5 สถานที่ ที่ไปแล้วจะได้เจอทางช้างเผือกแน่นอนครับ ถ้าอากาศดีนะ

ภูสอยดาว – จ.อุตรดิตถ์
ภูสอยดาว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม และยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร สำหรับไฮไลท์ที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยวให้มาเยือนที่นี้ได้อย่างต่อเนื่องคงหนีไม่พ้น น้ำตกภูสอยดาว ที่มีความสูง 5 ชั้น และการได้เที่ยวชมทุ่งดอกไม้สีม่วงที่มีชื่อว่า “ดอกหงอนนาค” และไม้ดอกไม้ประดับนานาพรรณที่ขึ้นกระจัดกระจ่ายเพิ่มสีสันสวยงามตลอดบนเนื้อที่กว้างกว่า 1,000 ไร่ สำหรับจุดที่สูงสุดของภูสอยดาว สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,102 เมตรเลยทีเดียว สภาพอากาศที่นี่จึงเย็นสบายตลอดปี ฤดูกาลท่องเที่ยวจะเริ่มตั้งแต่เดือนส.ค. – ม.ค. โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดที่ 13 องศาเซลเซียส

ดอยอินทนนท์ – เชียงใหม่
ไปเชียงใหม่แล้วอยากจะสัมผัสกับความหนาวสั่นสุดขั้วหัวใจ ต้องไปพิชิตยอดดอยอินทนนท์ ยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศไทย ที่เมื่อได้ขึ้นไปแล้วรู้สึกคุ้ม เพราะภายในบริเวณสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันกว้างไกลของขุนเขาสลับซับซ้อน โดยเฉพาะยามเช้าจะมีทะเลหมอกปกคลุมเหนือหุบเขาน่าชมมาก จากจุดชมทิวทัศน์สามารถมองเห็นพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริสูงเด่นอยู่คู่กัน หลังจากที่อิ่มเอมกับบรรยากาศของดอยอินทนนท์เสร็จแล้ว ระหว่างทางสามารถแวะช็อปปิ้งซื้อของฝาก ผัก ผลไม้สดๆ ที่ตลาดม้งบ้านขุนกลาง หรือจะแวะเที่ยวน้ำตกที่มีอยู่มากมาย อาทิ น้ำตกศิริภูมิ, น้ำตกวชิรธาร, น้ำตกแม่กลาง, และที่ไม่ควรพลาดคือ น้ำตกแม่ยะ น้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสวยที่สุดในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

ปางอุ๋ง – แม่ฮ่องสอน
มาเที่ยวปายแล้วไม่แวะมาปางอุ๋ง คงเหมือนมาไม่ถึงปายอย่างสมบูรณ์ เพราะที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย รอให้บรรดาตากล้องและนางแบบทั้งหลาย มาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก โดยเฉพาะไฮไลท์คือ ทะเลสาบในช่วงหน้าหนาวที่จะมีสายหมอกลอยอ้อยอิ่งยามเช้า หรือใครอยากสัมผัสบรรยากาศปางอุ๋งแบบเข้าถึง จะนอนพักในเกสต์เฮาส์ริมทะเลสาบ หรือกางเต็นท์แคมป์ปิ้งใต้ทิวต้นสนสักคืนก็กำลังดี ใกล้ๆ กันยังมีหมู่บ้านรวมไทยให้ศึกษาวิถีชาวไทยภูเขาที่มีเสน่ห์แบบดั้งเดิมอีกด้วย

ดอยผาตั้ง – เชียงราย
ณ จุดยอดเนิน 103 บนดอยผาตั้งที่ความสูง 1,653 เมตร คุณจะได้เห็นภูมิประเทศที่งดงามของประเทศเพื่อนบ้านแบบ 360 องศา ซึ่งเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปกางเต็นท์ค้างคืน เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น ท่ามกลางหมอกหนา ลัดเลาะไปตามแม่น้ำโขงที่คดเคี้ยวเข้าไปในหุบเขาฝั่งลาว อีกทั้งยังมีดอกพญาเสือโคร่งบานสะพรั่ง ยิ่งในช่วงหน้าหนาวอุณหภูิมอากาศหนาวจะลดระดับเหลือเลขตัวเดียวให้คุณได้หนาวสั่นแน่นอน ที่นี่จึงกลายเป็นจุดกางเต็นท์และชมวิวที่ได้รับความนิยมของหมู่นักท่องเที่ยวแนววธรรมชาติเสมอมา

ดอยหลวงเชียงดาว – จ.เชียงใหม่
ดอยหลวงเชียงดาว เป็นอีกหนึ่งภูเขาหินปูน มีความสูงห่างจากระดับน้ำทะเลถึง 2,225 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศไทย อยู่ภายใต้การดูแลของเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเชียงดาว ซึ่งจะเปิดให้ท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ถึง 31 มี.ค. ของทุกปี โดยอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดจะอยู่ที่ -7 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ดอยหลวงเชียงดาวจะเป็นภูเขาที่ไม่มีแหล่งเก็บน้ำและแหล่งกำเนิดน้ำตามธรรมชาติ แต่ที่นี่กลับไม่แห้งแล้งแถมยังมีไม้ดอกไม้ประดับสวยๆ ให้คุณได้ชมเช่น ค้อเชียงดาว สิงโตเชียงดาว สิงโตขนตาขาว สิงโตตาแดง สิงโตเล็บเหยี่ยว นอกจากนั้นยังมีพรรณไม้ที่โดดเด่นที่สวยงามและมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวอยู่อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นเทียนนกแก้ว ที่ดอกจะมีรูปร่างเหมือนนกแก้ว ซึ่งมีที่นี่เพียงที่เดียวเท่านั้น

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ5สถานที่ที่เราแนะนำกันไป รับรองว่าถ้าไปในวันที่อากาศดีๆจะได้เห็นทางช้างเผือกแน่นอนเลยครับ
www.camponeoutdoor.com ยังมีบทความ อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง อุปกรณ์เดินป่า ดีๆอีกมากมาย สามารถซื้อออนไลน์ได้แล้ววันนี้ หรือ walk in เข้าไปหน้าร้านได้ที่ Campone สาขาหนองแขม และ สาขาราชพฤกษ์ ได้ครับ

 

บทความน่าสนใจอื่น ๆ

test

ช้อปง่าย

ซื้อของได้ตลอด 24 ชม.

test

จัดส่งทั่วไทย

ใกล้ไกลแค่ไหนก็จัดส่ง

test

จ่ายง่าย สะดวก

ช่องทางชำระเงินหลากหลาย

test

บริการช่วยเหลือ

09:00 - 21:00 ทุกวัน