การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เชิญร่วมเที่ยวงานท้องถิ่นเมืองเหนือ หมู่บ้านวัฒนธรรมบ้านดอนหลวง





การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนเที่ยวงาน แต่งสีอวดลายผ้าฝ้ายดอนหลวง
เทศบาลตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน
และชาวตำบลแม่แรงขอเชิญ ร่วมสืบสานตำนานแห่งผ้าฝ้ายทอมือ ศิลปะแห่งภูมิปัญญาชาวยองพื้นบ้าน
ขอเชิญเที่ยวงาน แต่งสี อวดลาย ผ้าฝ้ายดอนหลวง ครั้งที่ ๑๑
ระหว่างวันที่ ๕ - ๙ เมษายน ๒๕๕๖ ณ บ้านดอนหลวง
ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน




การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ ขอเชิญชวนทุกท่านสัมผัส มนต์เสน่ห์ผ้าฝ้าย และวิถีชีวิตชุมชนชาวยองบ้านดอนหลวง อำเภอป่าซาง ภายในงาน “แต่งสี อวดลาย ผ้าฝ้ายดอนหลวง” ครั้งที่ ๑๑ ระหว่างวันที่ ๕ - ๙ เมษายน ๒๕๕๖ ณ บ้านดอนหลวง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐-๒๓.๐๐ น. ภายในงานพบกับการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผ้าฝ้ายทอมือ การแสดง แสง สี เสียง สุดอลังการ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านชาวยอง การบรรเลงดนตรีพื้นเมือง การตีกลองสะบัดไชย โฟล์คซองคำเมือง การฟ้อนเล็บ ฟ้อนยอง ลิ้มชิมรสอาหารเหนือแบบขันโตกตำรับชาวยอง ชมการแสดงจากนักเรียนโรงเรียนต่าง ๆ ในอำเภอป่าซาง สอบถามข้อมูลท่องเที่ยว และการเดินทางได้ที่ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ เปิดให้บริการทุกวันระหว่างเวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. โทร. ๐ ๕๓๒๔ ๘๖๐๔, ๐ ๕๓๒๔ ๘๖๐๗ หรือ TAT Call Center โทร. ๑๖๗๒ เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐-๒๐.๐๐ น. หรือกองสวัสดิการสังคม เทศบาลตำบลแม่แรง โทร. ๐ ๕๓๕๕ ๖๗๓๒ ต่อ ๑๔


Lamphun Province Administrative Organization and Mae Raeng Sub-District Administrative Organization jointly organize the 9th Don Luang Cotton Fair 2013 from 5th-9th April2013, about 09.00-23.00 Hrs. at Don Luang Village, Mae Raeng Sub-District, Pha Sang District, Lumphun Province. The opening ceremony starts at 17.00 Hrs. on 1st April, 2013 by the fabulous light, color and sound performance, traditional performances. Don Luang village has been known as the biggest handmade weaving cotton creation of Thailand, where cotton made products are ordered to sell all over Thailand and to export in many countries. Whoever loves cotton products should not miss this Fair. For further information please contact TAT Chiang Mai at Tel. 66 (0) 5324 8604, 66 (0) 5324 8607 daily from 08.30-16.30 Hrs. or at TAT Call Center Tel. 1672 from 08.00-20.00 Hrs. or contact Mae Raeng Sub-District Administrative Organization at Tel. 66 (0) 5355 6732 ext. 14 from Monday to Friday during 08.30-16.30 Hrs.







//www.cm77.org







//lh6.ggpht.com







//www.cm77.org






//lh3.ggpht.com






“อำเภอป่าซาง” มีหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเรื่องผ้าฝ้ายทอมือ เป็นแหล่งกำเนิดผ้าฝ้ายทอมืออันเลื่องชื่อของลำพูนมาแต่โบราณกาล ตามตำนานกล่าวว่า ยุคเก็บผักใส่ซ้า (ตะกร้า) เก็บข้าใส่เมือง ได้มีผู้คนอพยพมาจากเมืองยอง ประเทศพม่า มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในเขตอำเภอป่าซาง และมีการทอผ้าฝ้ายใช้เป็นเครื่องนุ่งห่มในชีวิตประจำวัน ต่อมาได้มีการขยายครอบครัวกลายเป็นชุมชนใหญ่ และยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมแบบดั้งเดิมเก่าแก่ไว้ โดยเฉพาะความโดดเด่นทางศิลปหัตถกรรมการทอผ้าฝ้ายที่ได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษมานานนับ ๒๐๐ ปี ปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบ สีสัน และลวดลายให้มีความทันสมัย กลายเป็นสินค้าหัตถกรรมจากผ้าฝ้าย อาทิเช่น เสื้อผ้า ปลอกหมอน ผ้าม่าน ผ้าปูโต๊ะ มีการผลิตออกจำหน่ายเป็นสินค้าที่ระลึกไปยังแหล่งต่าง ๆ มากมายทั้งใน และต่างประเทศ นับเป็นแหล่งผลิตผ้าฝ้ายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย



//www.phrabat.com







//www.chiangmainews.co.th






จุดเด่นผ้าฝ้ายบ้านดอนหลวง จะทอมือแบบโบราณ เน้นลาย 4 และ 6 ตะกอ ช่วยให้เนื้อผ้านุ่มและเหนียว อีกทั้ง ชาวบ้านได้พัฒนารูปแบบให้หลากหลาย ทั้งเป็นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ กระเป๋า ปลอกหมอน ผ้าคลุมเตียง ฯลฯ มีช่องทางตลาด โดยเปิดขายปลีกหน้าบ้านตัวเอง กับขายส่ง ผ่านพ่อค้าคนกลางที่จะเข้ามารับซื้อสินค้าถึงหมู่บ้าน รายได้ชาวบ้านจะแตกต่างกันไป ตามสัดส่วนการผลิต ตั้งแต่ 3,000 บาท จนไปถึงเดือนละหลักแสน
อย่างไรก็ตาม ด้วยช่องทางตลาดส่วนใหญ่ ขายส่งผ่านพ่อค้าคนกลาง นำไปขายต่อตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ คนทั่วไปจึงไม่รู้จักบ้านดอนหลวงมากนัก ทำให้ยอดปลีกขายหน้าร้านในชุมชนน้อยมาก บางวันขายไม่ได้สักบาท ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ชาวบ้าน และส่วนราชการท้องถิ่น ร่วมกันพัฒนาให้ชุมชนกลายเป็นหมู่บ้านโอทอป สำหรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ดึงลูกค้าภายนอกเข้ามาซื้อสินค้าถึงแหล่งผลิต ช่วยเสริมตลาดภายใน ควบคู่กับการขายส่ง
นายภราดา คำดี นายกเทศมนตรีตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง ลำพูน กล่าวว่า “บ้านดอนหลวง” ต.แม่แรง อ.ป่าซาง เป็นแหล่งผลิตผ้าฝ้ายทอมือใหญ่ที่สุดของประเทศ น้อยคนจะรู้ว่า สินค้าผ้าฝ้ายที่วางขายตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นที่เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา กทม. ฯลฯ ส่วนใหญ่จะรับจากชุมชนแห่งนี้ทั้งสิ้น
ด้วยความร่วมแรงร่วมใจประสานงานเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐและเอกชนร่วมกันส่งเสริมงานผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่นให้เกิดอย่างเป็นรูปธรรม ผลักดันให้ชุมชนกลายเป็นหมู่บ้านโอท็อป แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Home Stay) จากคณะกรรมการอำนวยการ OTOP แห่งชาติ (กอ.นตผ.) คัดเลือกหมู่บ้านดอนหลวง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นหมู่บ้าน OTOP ดีเด่นระดับประเทศ ที่ชาวบ้านดำรงชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง มีผ้าฝ้ายทอมือ ผลิตภัณฑ์ดีเด่นประจำตำบล ไว้รองรับนักท่องเที่ยวด้วย



//lh6.ggpht.com







//lh5.ggpht.com







//lh3.ggpht.com/







//www.cm77.org







//lh5.ggpht.com







https://lh5.googleusercontent.com







//www.magnoliathailand.com







//lh6.ggpht.com


เสน่ห์โอทอป ‘บ้านดอนหลวง’ ที่สุดเมืองผ้าฝ้ายของดี จ.ลำพูน
Written by ผู้จัดการรายวัน

หากจะเดินทางไปเที่ยวภาคเหนือ คนส่วนใหญ่มักมุ่งตรงไปเชียงใหม่ ทำให้จังหวัดที่อยู่ติดกันอย่าง "ลำพูน" ไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนัก ทั้งที่จริง ดินแดนแห่งนี้ มีเสน่ห์น่าสนใจหลายประการ โดยเฉพาะ "บ้านดอนหลวง" ต.แม่แรง อ.ป่าซาง เป็นแหล่งผ้าฝ้ายทอมือใหญ่ที่สุดของประเทศ รวมถึงเป็นชุมชนที่งดงามทั้งธรรมชาติ และวัฒนธรรม

ความรู้สึกแรกเมื่อสัมผัสเข้าบ้านดอนหลวง อดแปลกใจไม่ได้กับความสวยงามของบ้านเรือนในชุมชนแทบทุกหลังมีลักษณะบ้านทรงโบราณ ผสมผสานกับการตกแต่งสมัยใหม่ บรรยากาศเรียบสะอาด แทบจะไม่พบขยะสักชิ้นตกตามเส้นทางเดิน และเมื่อเดินต่อเข้าไป สองข้างทางขนาบด้วยร้านขายผ้าฝ้ายทอมือเรียงรายต่อๆ กัน มีทั้งร้านหรูและเล็ก สลับกับวิถีชีวิตชาวบ้าน กำลังทอผ้าฝ้ายด้วยกี่โบราณอยู่ภายในครัวเรือน หากมีโอกาสเข้ามาซื้อถึงที่นี่จะได้ของราคาถูกกว่าครึ่งจากท้องตลาดทั่วไป ตัวอย่างเช่น ผ้าคลุมเตียงผืนใหญ่ ขายแค่ 85 บาท แต่เมื่อพ่อค้าคนกลางมารับซื้อไปขาย ราคาจะถูกบวกอีกหลายเท่าตัว

บ้านดอนหลวงเป็นแหล่งผลิตผ้าฝ้ายทอมือใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ชาวบ้านในชุมชนกว่า 250 หลังคาเรือน จำนวนประมาณ 800 คน จะประกอบอาชีพเกษตรกรรม คู่กับทอผ้าฝ้ายเป็นหลัก น้อยคนจะรู้ว่า สินค้าผ้าฝ้ายที่วางขายตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นที่เชียงใหม่ ภูเก็ตพัทยา กทม. ฯลฯ ส่วนใหญ่จะรับจากชุมชนแห่งนี้ทั้งสิ้น

ที่มาของการเป็นแหล่งผ้าฝ้ายทอมือรายใหญ่ของประเทศ ต้องย้อนกลับไปกว่า 200 ปีที่แล้ว เดิมชาวบ้านดอนหลวงเป็นหมู่บ้านชาวยอง ซึ่งถูกกวาดต้อนจากเมืองยอง ประเทศพม่า โดยชาวยองมีวัฒนธรรมการทอผ้าสืบทอดกันรุ่นต่อรุ่น เพื่อใช้ในชีวิตประจำวันภายในครอบครัว ต่อมาเริ่มมีคนภายนอกมาสั่งซื้อ จนพัฒนาเป็นหมู่บ้านหัตถกรรมผลิตและขายผ้าฝ้ายให้คนภายนอกเรื่อยมาถึงปัจจุบัน

"คุณบุญเมือง คำปัน" เจ้าของร้าน "บุญเมืองผ้าฝ้าย" หนึ่งในคนท้องถิ่น ยึดอาชีพมานี้มายาวนาน เล่าว่า จุดเด่นผ้าฝ้ายบ้านดอนหลวง จะทอมือแบบโบราณ เน้นลาย 4 และ 6 ตะกอ ช่วยให้เนื้อผ้านุ่มและ เหนียว อีกทั้ง ชาวบ้านได้พัฒนารูปแบบให้หลายหลาย ทำเป็นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ กระเป๋า ปลอกหมอน ผ้าคลุมเตียง ฯลฯ มีช่องทางตลาด โดยเปิดขายปลีกหน้าบ้านตัวเอง กับขายส่งผ่านพ่อค้าคนกลางที่จะเข้ามารับซื้อสินค้าถึงหมู่บ้าน รายได้ชาวบ้านจะแตกต่างกันไป ตามสัดส่วนการผลิต ตั้งแต่ 3,000 บาท จนไปถึงเดือนละหลักแสน










































อย่างไรก็ตาม ด้วยช่องทางตลาดส่วนใหญ่ ขายส่งผ่านพ่อค้าคนกลาง นำไปขายต่อตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ คนทั่วไปจึงไม่รู้จักบ้านดอนหลวงมากนัก ทำให้ยอดปลีกขายหน้าร้านในชุมชนน้อยมาก บางวันขายไม่ได้สักบาท ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ชาวบ้าน และส่วนราชการท้องถิ่น ร่วมกันพัฒนาให้ชุมชนกลายเป็นหมู่บ้านโอทอป สำหรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ดึงลูกค้าภายนอกเข้ามาซื้อ สินค้าถึงแหล่งผลิต ช่วยเสริมตลาดภายใน ควบคู่กับการขายส่ง

การท่องเที่ยวบ้านดอนหลวงเป็นรูปแบบโฮมสเตย์ คิดค่าบริการคืนละ 250 บาท/ คน มีบ้านพัก เตรียมไว้ประมาณ 20 หลัง รองรับนักท่องเที่ยวได้กว่า 200-300 คน กิจกรรมที่เตรียมไว้รอรับ เน้นให้ สัมผัสวิถีชีวิตการเป็นที่สุดของแหล่งผลิตผ้าฝ้ายทอมือ ผู้มาเยือนสามารถลงมือทอผ้าด้วยคัวเอง นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น ปั้นจักรยานไปกราบไหว้ วัดดอนหลวง วัดประจำท้องถิ่น และพาไปชิมอาหารพื้นเมือง เสิร์ฟด้วยขันโตก เป็นต้น

หรือถ้ามาเป็นหมู่คณะ ทางชาวบ้านจะนัดกันแต่งกายด้วยผ้าฝ้าย และเตรียมกิจกรรมชุดใหญ่รอรับ เช่น การผูกข้อมือทำพิธีเรียกขวัญ การตีกลองหลวง การฟ้อนเล็บ และยิ่งมาช่วงสิ้นปีถึงต้นปี ถือเป็นเวลาเหมาะสมอย่างยิ่ง อุณหภูมิจะลดต่ำเหลือประมาณ 10 องศา ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับผู้มาเยือนอย่างดี

นอกจากนั้น กิจกรรมกระตุ้นตลาดอีกด้าน คือ งาน "แต่งสีอวดลาย ผ้าฝ้ายดอนหลวง" ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นประจำ โดยปีนี้ เป็นครั้งที่ 5 มีขึ้นระหว่างวันที่ 6 ถึง 10 เมษายน 2550 ภายในงานชาวบ้านจะเนรมิตชุมชนเป็นบรรยากาศล้านนา ทุกบ้านจะออกร้านขายผ้าฝ้ายในราคาถูกกว่าท้องตลาดกว่าครึ่ง รวมถึง มีกิจกรรมการแสดงต่างๆ ตั้งแต่เช้ายันค่ำ โดยงานนี้ ถือเป็นโอกาสทำเงินของชาวบ้าน ซึ่งจะทอผ้า เตรียมเก็บไว้ตลอดทั้งปี เตรียมขายในงานนี้โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม "บุญเมือง" สะท้อนปัญหาของหัตถกรรมชุมชนประเภทนี้ว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่เน้นทำตามคำสั่งซื้อลูกค้า น้อยรายจะมีแบรนด์เป็นของตัวเอง อีกทั้ง คนรุ่นใหม่ไม่สนใจสานต่อภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ช่างทอส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้แก่เฒ่า ส่วนคนรุ่นใหม่เลือกไปทำงานในตัวเองแทน หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อีกประมาณ 20 ปี อาจไม่เหมือนช่างทอผ้าฝ้ายอยู่เลย
//www.ttisfashionbiz.com







บุญเมืองผ้าฝ้ายหนึ่งในผู้บุกเบิก และสู่รุ่นต่อมา...
การดัดแปลงสู่การใช้สอย เปลนอนผ้าฝ้ายเมืองเหนือ ไลฟ์สไตล์แต่งบ้านยุคใหม่











เปลนอน ของใช้เป็นภูมิปัญญาดังเดิมที่แม้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน การใช้เปลนอนก็อยู่คู่คนไทยทุกยุคทุกสมัย จะมีการปรับรูปแบบไปบ้าง ก็เพียงรูปร่างลักษณะของเปลให้เหมาะสมกับบ้านในยุคสมัยปัจจุบัน และสำหรับเปลนอนผ้าฝ้าย ผลงานการออกแบบและดีไซน์ โดย นางสาวดารณี ถายะพิงค์ เจ้าของร้านบุญเมืองผ้าฝ้าย ทายาทรุ่นที่ 2 ที่มารับมรดกสืบทอดโรงทอผ้าฝ้ายต่อจากผู้เป็นมารดา




และการเข้ามารับหน้าที่ในการดูแลกิจการต่อจากครอบครัวในครั้งนี้ เป็นจุดเปลี่ยนของฝ้ายบุญเมือง ทั้งรูปแบบและดีไซน์ เพราะได้มีการปรับรูปแบบให้ดูทันสมัย และดึงข้อดีของเส้นใยผ้าฝ้ายที่มีความนุ่มและฟู มาใช้เป็นเทคนิคการทอรูปแบบใหม่ให้เส้นใยฟูขึ้นมา เกิดเทคเจอร์ของเส้นใยฝ้ายที่ดูนุ่ม สร้างจุดขายที่แตกต่างจากงานผ้าฝ้ายทั่วไป ล่าสุด “ดารณี” ได้นำรูปแบบของงานทอที่โชว์เส้นใยฝ้ายที่ฟูนุ่มออกมาใช้กับงานดีไซน์ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ อย่างเปลนอน เฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้านที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ชื่นชอบการแต่งบ้านแนวโมเดิร์น







คุณดารณี เล่าว่า บุญเมืองผ้าฝ้าย เป็นธุรกิจของครอบครัว ที่ทำมานานกว่า 30 ปี โดยมีแม่บุญเมืองเป็นผู้บุกเบิกก่อตั้งกิจการโรงทอผ้าฝ้ายขึ้นมา เริ่มจากธุรกิจคครอบครัวเล็กๆ ทอผ้าคลุมเตียง พรมเช็ดเท้า พรมปูพื้น และมีสินค้าที่หลากหลายมากขึ้นตามความต้องการของลูกค้า อาทิ ผ้าพันคอ ผ้าปูโต๊ะ ผ้าม่าน ปลอกหมอน ฯลฯ หรือแล้วแต่ว่าลูกค้าต้องการอะไร เราสามารถทอให้ได้ทั้งหมด








ส่วนเปลนอนเป็นชิ้นงานใหม่ล่าสุด ที่ทำออกมาเพราะเล็งเห็นว่าปัจจุบันเปลนอนกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มของคนแต่งบ้านในสไตล์โมเดิร์น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งแนวคิดและเป็นที่มาของเปลนอนในครั้งนี้ ก็มาจากขนปุยและนุ่มของฝ้าย ทำให้นึกถึงรังนก การออกแบบเปลจึงได้คอนเซ็ปต์ของรังนก

โดยกลุ่มลูกค้าของเปลนอนผ้าฝ้าย เน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจด้านรีสอร์ต หรือ โรงแรม ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และลูกค้าในต่างประเทศ ซึ่งราคาของเปลนอนไม่รวมโครงเหล็ก อยู่ที่ผืนละ 1,200 บาท ราคาของเปลจะไม่สูงมาก แต่จะแพงอยู่ที่โครงเหล็ก ซึ่งมีราคาสูงเพราะต้องสั่งทำพิเศษไม่สามารถควบคุมราคาได้ ในช่วงต้นนี้ ยังไม่ได้ทำโครงเหล็กขาย จะขายเฉพาะเปลนอน







สำหรับฝ้ายที่นำมาใช้ แต่เดิมเป็นเส้นใยฝ้ายที่สามารถหาได้ในพื้นที่ จังหวัดลำพูน จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อมาได้มีการนำเส้นใยฝ้ายที่เรียกว่า เลยอง เป็นฝ้ายใยสังเคราะห์เข้ามาใช้ร่วมด้วย เพราะเลยอง เป็นเส้นใยฝ้ายสังเคราะห์ที่มีความมันเงา ช่วยให้ชิ้นงานออกมามีความมันและเงา ต่างจากฝ้ายธรรมชาติที่จะมีสีด้านๆ แต่ผ้าฝ้ายเลยองจะมีราคาสูงกว่าฝ้ายตามธรรมชาติ ปัจจุบันลูกค้าจะชื่นชอบชิ้นงานที่ทำจากฝ้ายเลยองมากกว่าเส้นใยฝ้ายธรรมชาติ จุดเด่นของผ้าเลยองมีสีให้เลือกทุกเฉดสี

การทอผ้าฝ้ายในแบบใหม่ที่เป็นขนปุย ทางบุญเมืองผ้าฝ้ายทอมาได้ระยะหนึ่ง ซึ่งการทอในลักษณะดังกล่าวได้ไอเดียมาจากนิตยสารต่างประเทศ และนำกลับมาทดลองทำดูบ้าง พอทำออกขายปรากฎว่าลูกค้าให้การตอบรับดีมาก เริ่มจากการทำพรมปูพื้น หมอน พรมเช็ดเท้า ซึ่งงานทอผ้าฝ้ายแบบขนปุย ราคาจะสูงกว่า การทอผ้าฝ้ายแบบธรรมดามาก เช่น พรมเช็ดเท้า ทอแบบธรรมดา ราคา 70 บาท ถึง 130 บาท แต่เมื่อทอแบบขนปุย ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 180 บาท ถึง 250 บาท ส่วนพรมปูพื้นขนาด 1x1.5 เมตร ราคาเดิมผืนละ 950 บาท พอเป็นการทอแบบขนปุย ราคาเพิ่มเป็น 1,500 บาท






อย่างไรก็ตามแม้ว่า ผ้าฝ้ายที่ทอแบบขนปุยจะเป็นที่ต้องการของตลาด แต่ในส่วนผู้ทอผ้าฝ้ายขายก็ไม่นิยมทอในลักษณะดังกล่าว เนื่องจากเป็นการทอที่ยุ่งยาก และเสียเวลามาก ที่สำคัญเปลืองเส้นใยมากกว่าการทอปกติ ชาวบ้านจึงเลือกทอแบบเดิมเพราะได้ปริมาณมากกว่า ประกอบกับชาวบ้านจะไม่ค่อยดีไซน์รูปแบบใหม่ ต่างจากเราซึ่งจะมีดีไซน์ใหม่ออกมาให้ลูกค้าได้เลือกตลอดเวลา จึงสามารถมัดใจลูกค้าให้เป็นลูกค้าประจำกันตลอด

ปัจจุบันสัดส่วนการขายของเราจะเป็นลักษณะของการขายส่ง โดยมีพ่อค้าคนกลางมารับสินค้าไปจำหน่าย ในสัดส่วน 60% ถึง 70% และขายปลีกเพียง 30% ถึง 40% ร้านที่รับไปจำหน่ายประจำมีที่สวนจตุจักร และตามศูนย์การค้า ส่วนขายปลีกจะมีโชว์รูม อยู่ที่หน้าบ้าน ที่อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ได้กลุ่มนักท่องเที่ยว แวะเวียนเข้ามาเลือกซื้อสินค้าที่บ้าน เพราะแบรนด์ “บุญเมืองผ้าฝ้าย” ที่สั่งสมมานานกว่า 30 ปี ช่วยต่อยอดธุรกิจให้ทายาทสามารถขยายตลาดได้ง่ายขึ้น
สนใจโทร. 053-520-517 หรือ //www.boonmuang.com







//lh6.ggpht.com






//lh5.ggpht.com







//lh3.ggpht.com









//www.cm77.org





//www.cm77.org





//www.cm77.org





//www.cm77.org










อำเภอป่าซางถือเป็นแหล่งผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายทอมือที่ส่งออกผลิตภัณฑ์สินค้าให้ กับร้านค้าใหญ่ๆ ในจังหวัดลำพูน และจังหวัดเชียงใหม่ ผ้าฝ้ายทอมืออำเภอป่าซางมีแหล่งผลิตใหญ่อยู่ที่บ้านหนองเงือก และบ้านดอนหลวง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ++++

จุดเด่นผ้าฝ้ายบ้านดอนหลวง จะทอมือแบบโบราณ เน้นลาย 4 และ 6 ตะกอ ช่วยให้เนื้อผ้านุ่มและเหนียว อีกทั้ง ชาวบ้านได้พัฒนารูปแบบให้หลากหลาย ทั้งเป็นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ กระเป๋า ปลอกหมอน ผ้าคลุมเตียง ฯลฯ มีช่องทางตลาด โดยเปิดขายปลีกหน้าบ้านตัวเอง กับขายส่ง ผ่านพ่อค้าคนกลางที่จะเข้ามารับซื้อสินค้าถึงหมู่บ้าน รายได้ชาวบ้านจะแตกต่างกันไป ตามสัดส่วนการผลิต ตั้งแต่ 3,000 บาท จนไปถึงเดือนละหลักแสน

อย่างไรก็ตาม ด้วยช่องทางตลาดส่วนใหญ่ ขายส่งผ่านพ่อค้าคนกลาง นำไปขายต่อตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ คนทั่วไปจึงไม่รู้จักบ้านดอนหลวงมากนัก ทำให้ยอดปลีกขายหน้าร้านในชุมชนน้อยมาก บางวันขายไม่ได้สักบาท ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ชาวบ้าน และส่วนราชการท้องถิ่น ร่วมกันพัฒนาให้ชุมชนกลายเป็นหมู่บ้านโอทอป สำหรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ดึงลูกค้าภายนอกเข้ามาซื้อสินค้าถึงแหล่งผลิต ช่วยเสริมตลาดภายใน ควบคู่กับการขายส่ง

นายภราดา คำดี นายกเทศมนตรีตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง ลำพูน++ กล่าวว่า “บ้านดอนหลวง” ต.แม่แรง อ.ป่าซาง เป็นแหล่งผลิตผ้าฝ้ายทอมือใหญ่ที่สุดของประเทศ น้อยคนจะรู้ว่า สินค้าผ้าฝ้ายที่วางขายตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นที่เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา กทม. ฯลฯ ส่วนใหญ่จะรับจากชุมชนแห่งนี้ทั้งสิ้น++

ด้วยความร่วมแรงร่วมใจประสานงานเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐและเอกชนร่วมกันส่ง เสริมงานผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่นให้เกิดอย่างเป็นรูปธรรม ผลักดันให้ชุมชนกลายเป็นหมู่บ้านโอท็อป แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Home Stay) จากคณะกรรมการอำนวยการ OTOP แห่งชาติ (กอ.นตผ.) คัดเลือกหมู่บ้านดอนหลวง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นหมู่บ้าน OTOP ดีเด่นระดับประเทศ ที่ชาวบ้านดำรงชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง มีผ้าฝ้ายทอมือ ผลิตภัณฑ์ดีเด่นประจำตำบล ไว้รองรับนักท่องเที่ยวด้วย
ที่มา //kaewpanya.rmutl.ac.th








//lh3.ggpht.com









ประวัติการจัดตั้ง
บ้านดอนหลวงมีการผลิตผ้าทอมาช้านาน ตั้งแต่ปู่ย่าตายาย ซึ่งจากเดิมจะเป็นการผลิตในเวลาว่างหลังจากทำนา แต่ต่อมาจากการที่อำเภอป่าซางกลายเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในการทอผ้า มีโรงงานทอผ้าและร้านจำหน่ายผ้าทอหลายแห่ง ชาวบ้านได้เข้าไปทำงานเป็นลูกจ้างทอผ้าที่โรงงานเหล่านั้น และชาวบ้านบางคนก็ประกอบกิจการทอผ้า เพื่อส่งจำหน่ายตามร้านค้าในอำเภอป่าซาง ทำให้ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 เข้ามาสนับสนุนให้มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ทอผ้าในบ้านดอนหลวงขึ้น ในปี พ.ศ. 2535 เพื่อให้เกิดการรวมตัวกันผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ โดยได้ทำการอบรมเพิ่มทักษะด้านต่างๆ ในการทอผ้าให้กับสมาชิก มีสมาชิกแรกเริ่มจำนวน 50 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2542 บ้านดอนหลวงได้รับเลือกให้เป็นหมู่บ้านอุตสาหกรรม ประเภทผ้าฝ้ายทอมือ และในปี พ.ศ. 2543 กลุ่มฯ ได้เข้าร่วมชมรมรมเครือข่ายผ้าฝ้ายทอมือ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน โดยมีหมู่บ้านเข้าร่วม อีก 6 หมู่บ้าน ได้แก่ กลุ่มทอผ้าฝ้ายบ้านหนองเงือก กลุ่มทอผ้าฝ้ายบ้านสันกอดู่ กลุ่มทอผ้าฝ้ายบ้านหนองหอย กลุ่มทอผ้าฝ้ายบ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียวและกลุ่มทอผ้าฝ้ายบ้านร่องช่าง และได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ โดยคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด จากนั้นจึงจดทะเบียนอย่างเป็นทางการกับสำนักงานพัฒนาชุมชน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2544
ที่มา //www.mcc.cmu.ac.th







บ้านดอนหลวงเป็นแหล่งผลิตผ้าฝ้ายทอมือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งนับว่าเป็นดินแดนที่มีเอกลักษณ์และความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย มีทั้งความงดงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรม คนในชุมชนส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพเกษตรกรรม ควบคู่กับการทอผ้า ซึ่งความโดดเด่นของผ้าทอบ้านดอนหลวง อยู่ที่การทอมือแบบโบราณ เน้นลาย 4 และ 6 ตะกอ เนื้อผ้านุ่มและเหนียว อีกทั้ง ชาวบ้านได้พัฒนารูปแบบให้หลากหลาย ตามความต้องการของตลาด ตัดเย็บเป็นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ กระเป๋า ปลอกหมอน ผ้าคลุมเตียง และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยเพราะฝีมือการทอผ้าฝ้ายของชาวดอนหลวงมีคุณภาพดี ราคาเหมาะสม จึงได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นแกนนำหลักเครือข่ายกลุ่มทอผ้าของจังหวัดลำพูน โดยช่องทางตลาด ชาวบ้านในแต่ละครัวเรือนจะเปิดขายปลีกหน้าบ้านตัวเอง ขายส่งโดยผ่านพ่อค้าคนกลางที่จะเข้ามารับซื้อในหมู่บ้าน

การท่องเที่ยวในชุมชนบ้านดอนหลวงเป็นแบบโฮมสเตย์ คิดค่าบริการคืนละ 250/คน มีบ้านพักรองรับนักท่องเที่ยวประมาณ 20 หลัง โดยกิจกรรมต่างๆ จะเน้นถึงวิถีชีวิตของแหล่งผลิตผ้าฝ้ายทอมือ ซึ่งผู้ที่มาเยือนจะสามารถลงมือทอผ้าด้วยตัวเอง เพื่อให้สัมผัสถึงวิถีชีวิตจริงของคนในชุมชน รวมไปถึงการกราบไหว้วัดดอนหลวง วัดประจำท้องถิ่น และพาไปชิมอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับขันโตก หากมาเป็นหมู่คณะ คนในหมู่บ้านจะพร้อมใจกันแต่งตัวด้วยผ้าฝ้าย และเตรียมกิจกรรมต่างๆ มาคอยต้อนรับ เช่น การผูกข้อมือทำพิธีเรียกขวัญ การตีกลองหลวง การฟ้อนเล็บ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีงานประจำปีที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก คือ งาน “แต่งสีอวดลาย ผ้าฝ้ายดอนหลวง” ครั้งที่ ๙ ซึ่งปีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ ๑-๕ เมษายน ๒๕๕๔ ภายในงานจะพบกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมคนยอง โดยจะมีการออกร้านขายผ้าฝ้ายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดกว่าครึ่ง รวมทั้งมีกิจกรรมการแสดงพื้นเมืองต่างๆ ซึงหากใครได้มาเที่ยวในงานนี้นอกจากจะได้ของดีราคาถูกแล้ว ยังได้มาสัมผัสถึงวิถีชีวิตแบบล้านนาจริงๆ ซึ่งนับวันจะหาดูได้น้อยแล้ว
//www.maerang.go.th









ชมบรรยาการงาน “แต่งสี อวดลาย ผ้าฝ้ายดอนหลวง ครั้งที่ 7” รายการสาระดีลานนา



















เที่ยวเมืองไทยในหนึ่งนาที - ฝ้ายงามที่บ้านดอนหลวงป่าซาง








เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษกิจไทยคึกคัก เที่ยวไทยไม่ตกยุค
หมู่บ้านหัตกรรมหมูบ้านดอนหลวง อ ป่าซาง จ ลำพูน















Create Date : 29 มีนาคม 2556
Last Update : 29 มีนาคม 2556 19:06:21 น. 0 comments
Counter : 7117 Pageviews.

Sweety-around-the-world
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 226 คน [?]





.


.
.
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
29 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Sweety-around-the-world's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.