bloggang.com mainmenu search
เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเราตื่นกันแต่เช้าหน่อย
เพื่อมารับวันใหม่และปีใหม่ 2010 ด้วยความสดชื่น
@ Nan Valley Hotel & Resort





เช้านี้อากาศเย็นสบายเชียว ค่อยสมกับที่เดินทางไกลแล้วมาเจออากาศดีดีอย่างนี้ซะหน่อย





ทางรีสอร์ทเค้าเตรียมของสดแห้งไว้คอยบริการแขกผู้มาพักเพื่อให้ใส่บาตรด้วยค่ะ





ระหว่างรอพระสงฆ์มารับบิณฑบาตรที่รีสอร์ท





ดอกไม้ชูช่อออกดอกแข่งกัน สวยงามมากมาย...





หลังจากนั้นก็รับพรจากพระสงฆ์ ก่อนจะไปหม่ำๆอาหารเช้ากันค่า





อากาศหนาว.หนาวอย่างนี้ ได้ข้าวต้มร้อนๆสักถ้วย





ขนมปังทาแยมกับเครื่องดื่มอุ่นๆสักหน่อย แค่นี้ก้ออิ่มอร่อยแล้วนะคะ





แล้วก็ได้เวลาออกทัวร์ไหว้พระประจำวันกันเลย
โดยเริ่มกันที่ วัดหนองแดง ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน





สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2330 โดยชาวไทลื้อร่วมกับไทพวน
ซึ่งกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานในปี 2524





ถือเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทลื้อที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน
และเป็นวิหารไม้รุ่นสุดท้ายที่คงรูปทรงเดิมที่ยังหลงเหลือร่องรอยของช่างโบราณรุ่นเก่าอยู่





วิหารนี้จึงนับว่าเป็นสิ่งที่ควรอนุรักษ์ไว้สืบไป...





ขณะที่เข้ามาชม ได้เจอเค้ากำลังทำพิธีสืบชะตากันอยู่ด้วย ดูขลังดีจัง





หลังจากนั้นก้อไป วัดปรางค์ อ.ปัว จ.น่าน
ที่นี่เค้าว่ากันว่าเป็นหนึ่งใน unseen Thailand ด้วย
แล้วเดี๊ยวค่อยเฉลยนะคะว่า unseen เรื่องอะไร





ไปไหว้องค์พระประธานในโบสถ์กันก่อนค่ะ





unseenก็เนื่องมาจาก ต้นดิกเดียม นี่ล่ะค่ะ
โดยใบไม้จะไหวสั่นทุกครั้ง ที่ถูกคนสัมผัส
นี่เป็นภาพขณะที่ท่านเจ้าอาวาสกำลังลูบให้ดู
อืมม์..เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ใบไม้ไหวสั่นไปทั้งต้นจริงด้วย





เริ่มจะเย็นแล้ว ไปวัดที่สามกันต่อเลยค่ะที่
วัดหนองบัว ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน
ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของหมู่บ้าน
สันนิษฐานว่าวัดไทลื้อแห่งนี้สร้างราว พ.ศ. 2405 (ตรงกับสมัยร.4)





ภาพจิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์เล่าเรื่องหนึ่งในปัญญาสชาดก ซึ่งเป็นพระชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้า
นับว่ามีคุณค่าทางศิลปะและความสมบูรณ์ของภาพใกล้เคียงกับภาพจิตรกรรมฝาผนังของวัดภูมินทร์ในเมืองน่าน





ฟ้าเริ่มจะมืดแล้วววว ต้องรีบทำเวลาไปวัดสุดท้ายของวันกันเลยค่ะที่
วัดพระธาตุแช่แห้ง ต.ม่วงตี๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน





องค์พระธาตุตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ย ๆ เป็นสีทองสุกปลั่ง สามารถมองเห็นได้แต่ไกล





ตามพงศาวดารเมืองน่านกล่าวว่าพญาการเมือง
โปรดเกล้าให้สร้างขึ้น มีอายุกว่า 600 ปีมาแล้ว





เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจากเมืองสุโขทัย
ระหว่างปี พ.ศ.1891-1901





วิหารหลวง อยู่ทางด้านทิศใต้ขององค์พระธาตุเป็นวิหารขนาดใหญ่ 6 ห้อง





หากดูจากภายนอกจะมองเห็นเป็นอาคารขนาดใหญ่
มีประตูเข้าทางด้านหน้าและด้านข้าง





องค์พระประธานในวิหารหลวง





วิหารพระนอน อยู่ทางด้านหน้านอกกำแพงแก้วขององค์พระธาตุ
วิหารก่อสร้างตามแนวยาวขององค์พระ มีประตูทางเข้าด้านหลังคือทิศใต้





เจดีย์วัดพระธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน
บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ตามประวัติสร้างเมื่อ พ.ศ. 1896 อายุราว 600 ปีเศษ





หลังจากที่ไหว้พระกันมาทั้งวัน ก็ได้เวลาเติมพลังเหมื๊อนเดิม อิอิ
ตอนแรกตั้งใจไปทานกันที่เฮือนเจ้านาง ซึ่งตกแต่งร้านได้สวยงามดี
แต่เราไม่ได้จองมา ไม่น่าเชื่อว่าโต๊ะจะเต็ม เลยระเห็จไปที่ร้านข้างๆค่ะ
ร้านบ้านสวนริมน่าน ซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำน่านเหมือนกัน





มีโคมไฟประดับประดาตกแต่งร้านอยู่ทั่วไป ยิ่งดึกยิ่งมืดตึ๊ด.ตื๋อ..
ถ่ายภาพอาหารมานิดหน่อยนะคะ เพราะเวลาถ่ายต้องยิงแฟลช เกรงใจผู้ร่วมโต๊ะอ่ะค่ะ





ร้านนี้อาหารอร่อยดีนะคะ เสียแต่ว่าอาหารออกช้าที่สุด
ในบรรดาร้านอาหารในน่านที่เราไปทานกันมาเลย
หมูป่าผัดเผ็ด แซ่บหลาย





ปลาทับทิมทอดกรอบ ทานกับน้ำยำก็รสชาติดี





ยำปลาดุกฟูก็โอนะ





ส่วนจานนี้แปลกดี ไก่เส้นผัดเม็ดมะม่วง รสออกหวานๆ บางคนชอบ แต่ยุ้ยไม่ค่อย





ปิดท้ายค่ำคืนนี้ด้วยการลอยโคมริมลำน้ำน่านอีกเช่นเคย




แล้วครั้งหน้าไปไหว้ศาลหลักเมืองจ.น่าน
เก็บตกสองวัดสุดท้ายที่จังหวัดแพร่
หม่ำๆมื้อเย็นกันที่เรือนต้นฝ้าย
๑๑ เข้าพักกันที่รีสอร์ทสวยราคาน่าคบกันต่อนะค้า ๑๑
Create Date :26 มกราคม 2553 Last Update :26 มกราคม 2553 8:32:12 น. Counter : Pageviews. Comments :90