สวัสดีค่ะ



หลังจากรีวิววัดงามๆ ของน่านมาแล้ว 2 วัด ได้แก่


1. วัดพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน พระธาตุประจำปีเถาะ (คลิกเพื่ออ่าน)


2. วัดภูมินทร์ เรื่องเล่าบนจิตรกรรมฝาผนัง (คลิกเพื่ออ่าน)








วันนี้จะมาต่อกันที่วัดมิ่งเมืองนะคะ





















ก่อนอื่นเลย สิงห์หน้าวัดมิ่งเมืองนี่..งามมากค่ะ ช้อบ ชอบ
























พอเข้าไปในวัดปุ๊บ ก็เกิดอาการผิดหวังเล็กน้อย เพราะมีงานอยู่ค่ะ (บาปจริงๆ ตรู)

คือ..เราไปวัดนี้เพราะประทับใจในภาพที่นิตยสารทริปส์เค้าเอาลงอย่างนี้น่ะค่ะ



















แต่พอตอนเราไป แล้่วมีงาน ก็เลยกลายเป็นภาพแบบนี้แทนง่ะ























ที่กะว่าจะเก็บภาพเต็มๆ ก็เลยได้มาอย่างนี้ค่ะ แหะๆ (อาคารด้านหน้านี่เป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองของน่านนะคะ)




















อ่านประวัติการสร้างเสาหลักเมืองนะคะ



























ภาพวาดปูนปั้นของศาลา (เรียกถูกมั้ยนี่?) ที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองค่ะ งามละเอียดยิบกันเลยทีเดียว






















เสาหลักเมืองของจ.น่านค่ะ























เพดานและหัวเสาภายในของศาลาค่ะ(ที่จริงต้องเรียกมณฑปมากกว่าหรือเปล่านี่) งามเชียว























มีุมุมหนึ่งเป็นรูปครุฑยุดนาคแล้วก็ถืองาช้างดำ ของขึ้นชื่ออีกอย่างของน่านด้วยค่ะ





















ลายปูนปั้นอื่นๆ ภายในมณฑปค่ะ





















นอกจากนั้นที่ด้านหนึ่งที่เป็นรูปกระต่าย มีดวงฤกษ์เสาหลักเมืองน่านด้วยค่ะ

ซูมดวงฤกษ์เสาหลักเมืองน่านมาให้ดูค่ะ (คิดว่าเนื่องจากเพราะทำถวายในหลวง ถึงได้เป็นรูปกระต่ายขนาบข้างน่ะค่ะ)
























ซึ่งตรงทางขึ้น-ลงของมณฑปก็มีรูปปั้นเทวดาบ้าง ครุฑบ้าง อะไรบ้างประดับอยู่ด้วยนะคะ
























จากนั้นก็ไปที่อุโบสถค่ะ (มีใบเสมาเหมือนกัน) ทั้งหน้าบัน ทั้งเสา งามได้อีก คนเมืองปูนปั้นอย่างเรานี่ชมเพลินเลยค่ะ























กระทั่งนาคอะค่ะ..ก็ปั้นซ้า..งามมมมมมเชียว นาคที่นี่มีตัวมกรคายให้เห็นด้วยนะคะ






















ซุ้มเหนือประตูทางเข้าค่ะ มีเทวดากับยักษ์อยู่



















รูปนี้ ทั้งแฟนทั้งเราแปลกใจทั้งคู่ค่ะ เพราะยักษ์อยู่เหนือเทวดา แถมเหมือนยักษ์เหยียบเทวดาอยู่ด้วยแหละค่ะ (แต่มีผู้รู้อีกเว็บบอกว่า มาจากทศชาติชาดกเรื่องสุวรรณสามน่ะค่ะ ถ้าท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมก็แลกเปลี่ยน+บอกเล่ากันได้นะคะ)





















เหล่านี้น่าจะเป็นสัตว์หิมพานต์หรือเปล่าหนอ





















ส่วนนี่ก็ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับพุทธประวัติหรือไม่อย่างไร





















ต่อไปมาดูเรื่องการสอนเรื่องการทำกรรมกันบ้างนะคะ

เอ..ดื่มเหล้านี่ ปกติต้องโดนกรอกด้วยน้ำจากระทะทองแดงไม่ใช่เหรอ? แต่โดนอีกาปากเหล็กจิกด้วยเหรอคะ?





















ส่วนนี่ ไม่รู้จริงๆ ค่ะว่าเป็นกรรมแบบไหนง่ะ เสพสิ่งเสพติดเหรอคะ?





















ตอนนี้น่าจะเป็นตอนที่พวกพราหมณ์มาขอช้างเผือกจากพระเวชสันดรนะคะ ถ้าจำไม่ผิดนะ




















เช่นกันค่ะ วันนั้นที่วัดมีงาน เราก็เลยเข้าไปด้านในไม่ได้ ได้แต่ขออนุญาตแล้วก็ถ่ายรูปมาให้ดูกันนะคะ























ส่วนนี่ก็..ค่ะ เป็นชู้ ปีนต้นงิ้วสิครับท่าน





















เอารูปมายืนยันว่า อาคารหลังนี้คืออุโบสถค่ะ (ใบเสมา) พร้อมประวัติด้วย






















พอเดินออกมาด้านนอก อาคารหลังนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นศาลาอะไรนะคะ รู้แต่ว่าเป็นศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ด้วยค่ะ






















ที่ยอดจั่วมี..ไม่แน่ใจว่าครุฑมั้ยนะคะ ถืองาช้างดำด้วยค่ะ





















ย้อนกลับไปถ่ายตัวอุโบสถที่งดงามค่ะ หน้าจั่วก็งามเช่นกัน น่าจะเป็นสัตว์หิมพานต์อีกแหละค่ะ แทนที่จะเป็นช่อฟ้าธรรมดาทั่วไป

ที่หน้าบันชั้นสองเป็นรูปพระพิฆเนศด้วยค่ะ























นอกจากนั้น ตรงกลางของมณฑปที่ประดิษฐานเสาหลักเมือง ก็ทำเป็นรูปเหมือนกับตัวเสาหลักเมืองด้วยค่ะ





















ส่วนที่บูชาวัตถุมงคลจะเป็นศาลาด้านติดประตูวัดค่ะ
















ซึ่งที่หน้าบันของอาคารหลังนี้ก็เป็นพระพิฆเนศเช่นกันค่ะ























ปิดท้ายรีวิวนี้ด้วยเสาไฟในตัวเมืองน่านค่ะ วานคนน่านตอบหน่อยว่า ใช่รูปหงส์หรือเปล่านะคะ
(ที่อีกเว็บ มีคนมาบอกว่าเป็นรูปเรือมังกร ซึ่งที่น่านจะมีประเพณีแข่งเรือมังกรที่มีชื่อเสียงอยู่น่ะค่ะ)






















สรุปนะคะ เป็นวัดที่สวยงามมีเอกลักษณ์น่าไปชมทั้งสามวัดค่ะ

ที่จริงแล้วน่านยังมีวัดสวยๆ อีก แต่ด้วยเวลาจำกัด เราจึงไม่สามารถไปได้อีกค่ะ

เพราะฉะนั้น ถ้าใครชอบการเที่ยวแนวนี้ ควรมีเวลาเที่ยววัดในตัวเมืองน่านอย่างน้อย 1 วันเต็มๆ นะคะ
















ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านรีวิวนะคะ

583180/4503/412