bloggang.com mainmenu search

เอื้องสายน้ำผึ้งไทย Den. primulinum กับ
เอื้องสายล่องแล่ง Den. aphyllum (Roxb.) Ficher
ต่างกันอย่างไร
ขอบคุณของแต่งบล็อกจากอินเทอร์เน็ต

เอนทรี่นี้อยู่ใน
หมวดบ้านและสวน
The Best of Piano Love Songs | Greatest Hits Full Album

credit: YouTube & Uploader
Love songs 2015


เอื้องสายน้ำผึ้งไทย
ชื่อวิทยาศาสตร์: Dendrobium primulinum
มีลักษณะโดยทั่วไปคือมีกลีบดอกมีขนาดเล็กสีม่วงอ่อนไปจนถึงเข้ม และที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือ มีปากที่บานขนาดใหญ่ บริเวณปากมีเส้นสีม่วงขีดอยู่ หากมองผิวเผินจะมีลักษณะคล้ายกับเส้นเลือดฝอย บริเวณ ปากของ สายน้ำผึ้งไทย ไม่มีสี เอื้องสายน้ำผึ้งไทยมีกลิ่นหอมอ่อนๆ

ฤดูกาลให้ดอกคือ ระหว่างช่วงเดือน กุมภาพันธุ์ - เมษายน โดย เอื้องสายน้ำผึ้ง จะเริ่มทยอยทิ้งใบในช่วงปลายหนาว ระหว่างพฤศจิกายน - มกราคม และจะพักตัวโดยเหลือเพียงลำลูกกล้วยไปนาน เมื่อเริ่มเข้าฤดูร้อนราว ๆ ต้นเดือนกุมภาพันธุ์ หากสังเกตที่ลำลูกกล้วยก็จะพบว่ามีตุ่มดอกมากมายเกิดขึ้นเรียงราย ตามข้อลำลูกกล้วย

ปัจจัยการทิ้งใบของเอื้องสายน้ำผึ้ง คืออากาศที่แห้งจัดในช่วงฤดูหนาว แต่หากรดน้ำเป็นประจำทุกวัน เอื้องสายน้ำผึ้งจะชลอการทิ้งใบลงซึ่งก็เป็นผลดีที่ว่า เอื้องสายน้ำผึ้งยังสามารถใช้ใบปรุงอาหารเก็บสะสมได้มากขึ้น และมีผลต่อการให้ดอกในฤดูร้อนที่จะถึง ได้น้ำมากก็มักให้ดอกน้อย

เอื้องสายน้ำผึ้งชอบแสงประมาณ 60-70% เครื่องปลูกไม่ควรอุ้มน้ำจนเกินไป การปลูกลงในกระเช้าควรมีเครื่องปลูกเป็นวัสดุเพิ่มความชื้น 30% และที่เหลือเป็นถ่านหรือเศษไม้ แปะติดกับขอนไม้รองกาบมะพร้าวก็ได้

ขอบคุณความเห็นบางส่วนจาก orchidtropical.com

ส่งภาพประกอบเข้ามาดูกันนะคะ


































เอื้องสายล่องแล่ง
ชื่อวิทยาศาสตร์: Dendrobium aphyllum (Roxb.) Ficher
เอื้องสายไม้/เอื้องงวงช้าง
วงศ์: Orchidaceae
ประเภท: กล้วยไม้อิงอาศัย
ลำต้น: ผอมยาว ยาวได้ถึง 100 เซนติเมตร ส่วนปลายเรียว เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-1 เซนติเมตร
ใบ: รูปไข่แกมรี ขนาด 5.7×2-2.5 เซนติเมตร ปลายแหลมมน แผ่นใบบางและร่วงก่อนออกดอก
ดอก: เกิดตามข้อ ข้อละ 1-4 ดอก กลีบสีม่วงอ่อน กลีบปากขนาดใหญ่ ขอบด้านโคนกระดกห่อขึ้น ปลายบานเป็นทรงกลม ขอบจักเป็นริ้ว สีเหลืองอ่อน โคนกลีบมีเส้นสีม่วงจำนวนมาก ขนาดดอก 3-4 เซนติเมตร ออกดอกเดือนมีนาคม – เมษายน
วัสดุปลูก: ไม่ต้องใช้วัสดุปลูก เพียงหาขอน กิ่งไม้ หรือใช้แผ่นไม้หนาๆ ให้ต้นยึดเกาะ
น้ำ: ปานกลาง
แสงแดด: รำไร หรือได้รับแสงในช่วงเช้า
ขยายพันธุ์: แยกต้นอ่อนที่เกิดตามข้อลำต้น หรือเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกประดับสวน โดยให้เลื้อยเกาะกับต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้ได้บรรยากาศแบบสวนป่าเมืองร้อน ปลูกเลี้ยงง่ายให้ดอกได้ดีในทุกภาคของประเทศ

ขอบคุณ สำนักพิมพ์บ้านและสวน















สรุปว่า ดูอย่างจขบ.ที่ไม่มีความรู้เรื่องกล้วยไม้สักเท่าไร ก็ต้องบอกว่า เรามีกล้วยไม้พวกนี้อยู่ด้วยกันมากว่าสิบปี แต่คิดว่าคืออย่างเดียวกัน เรียกพวกเธอว่า เอื้องสายล่องแล่ง จนเมื่อไม่กี่อาทิตย์นี้ ไปยืนคุยกับคนขายกล้วยไม้ที่ตลาดนัดเจเจ ถึงได้ฉุกใจคิดว่า เราน่าจะมีสองอย่าง เพราะสังเกตมาบ้างว่า บางต้นสายเรียวยาวมาก บางต้นสายสั้นอ้วนกลม จึงมาได้ความตอนนี้ว่า สายล่องแล่งนั้นสายยาวกว่าสายน้ำผึ้ง

ส่วนดอกนั้นต่างกันอย่างเห็นได้ชัดว่า สายล่องแล่งมีกลีบ 5 กลีบ 3 กลีบเรียวแคบและ 2 กลีบกว้างกว่า ปากของสายล่องแล่งม้วนกลมกว่าสายน้ำผึ้งซึ่งบานออกมากกว่า

ฝากภาพดอกทั้งสองชนิดไว้เปรียบเทียบกันด้วย จำดอกได้ก็จำชื่อได้ถูกต้องแน่นอนค่ะ น่าจะรู้ไว้ถ้าเลี้ยงทั้งสองต้น เพราะเค้าจะบานในช่วงเวลาเดียวกัน



(ซ้าย) เอื้องสายน้ำผึ้ง ... (ขวา) เอื้องสายล่องแล่ง

สำหรับกลิ่นนั้นคงต้องพิสูจน์ใหม่ปีหน้า จะบอกว่าไม่เคยได้กลิ่นก็บอกไม่ได้ ถ้ามีคงเคยได้กลิ่น แต่ไม่รู้ว่าเป็นกลิ่นของต้นใดต้นหนึ่งหรือทั้งสองต้นนี้เพราะที่บ้านป่ามีกลิ่นดอกไม้อวลอยู่ทั้งปี ไม่สามารถแยกแยะได้ว่ากลิ่นไหนเป็นของต้นไหน อย่างอาทิตย์ที่แล้ว เรามีดอกไม้ให้กลิ่นอยู่มากเช่น คัดเค้า พุดสามสี จำปีแขก นางแย้ม เขี้ยวกระแต มะลิ กระดังงาไทย ลำดวน ชมนาด บลา..บลา... เดี๋ยวจะว่าโม้เกินเหตอ่ะจ้าาาา

จบแล้วสำหรับเอนทรี่นี้ ต่อไปคงจะทำบล็อกเปรียบเทียบดอกไม้ไม่ได้แล้ว เอนทรี่นี้เขียนเสียนานมาก ผิดๆถูกๆจนเบื่อ จำผิดจำถูกน่ะแหละ ความจำไม่ค่อยทำงานแล้วค่ะ

แล้วพบกันใหม่นะคะ ขอให้มีความร่มเย็นเป็นสุขเสมอค่ะ

ป.ล. เอนทรี่นี้พยายามรีบทำเพราะช่วงนี้จะกลับบ้านป่านาน อาจไม่สะดวกทำบล็อกใหม่ จะได้เขียนตามโจทย์ตะพาบหรือไม่ก็ยังลูกผีลูกคนอยู่เลย แต่แม้จะไม่ได้อัพหรือตามคอมเม้นท์ได้อีก ก็จะยังโหวตได้ค่ะ







Create Date :07 เมษายน 2560 Last Update :7 เมษายน 2560 20:05:24 น. Counter : 7737 Pageviews. Comments :58