ห่างหายจากการเขียนบล็อกใหม่ ไปพักใหญ่ๆ เพราะหน้าที่การงานค่อนข้างรัดตัว วันนี้พอจะมีเวลาว่างอยู่บ้าง ผมก็เลยขอกลับมา up บล็อกทริปเที่ยวฤดูหนาวให้จบเสียที หลังจากที่ดองไว้นานตั้งแต่หน้าหนาวจนตอนนี้เกือบจะหมดหน้าร้อนอยู่แล้ว ช่วงสุดท้ายของการเดินทางในครั้งนั้น เราแวะไปเที่ยวจังหวัดเชียงราย โดยมีจุดหมายอยู่ที่ "ดอยแม่สลอง" และ "สิงห์ปาร์ค" .....


          แม้ว่าผมจะเคยไปเที่ยวเชียงรายมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยได้แวะไปเที่ยว "ดอยแม่สลอง" เลยสักครั้ง เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งในเชียงรายอยู่ห่างกันค่อนข้างมาก เที่ยวไปเที่ยวมา เวลาหมดก็เลยเที่ยวได้ไม่ครบเสียที ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสแวะดอยแม่สลอง แต่ก็น่าเสียดายที่มีเวลาจำกัด เลยไม่ได้แวะพักค้างคืนที่นั่น ได้แค่เพียงชะโงกทัวร์แบบวันเดียวกลับเท่านั้นเอง .....




+++ "ดอยแม่สลอง" สถานที่ท่องเที่ยวปิดท้ายทริปฤดูหนาวของผมในช่วงหยุดเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา +++




+++ มาถึงดอยแม่สลองทั้งที ต้องไม่พลาดแวะชิมชาอู่หลงร้อนๆ ซึ่งเป็นชาชื่อดังของที่นี่ +++


          ถ้าพูดถึง "ดอยแม่สลอง" ส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงไร่ชา และอาหารยูนนานต้นตำรับจีนฮ่อกันใช่ไหมครับ ผมเองก็เช่นกัน ไปคราวนี้เราเลยได้แวะไปชมไร่ชาขั้นบันได ที่ "ไร่ชา 101" ซึ่งทอดตัวอยู่บนไหล่เขายาวสุดลูกหูลูกตา ได้แวะชิมชาร้อนๆ ช่วยสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายในวันที่อากาศหนาว แล้วตามรอยเพื่อนบล็อกไปลองชิมอาหารจีนยูนนานกันที่ร้าน "อิ่มโภชนา (เจ้าเก่า)" บนดอยแม่สลองกันด้วย .....


          "ไร่ชา 101" ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เป็นไร่ชาขนาดใหญ่ที่สุดบนดอยแม่สลอง และยังเป็นแห่งแรกสุดด้วย ชาที่ไร่ 101 จะปลูกอยู่ 3 ชนิด คือ อู่หลงก้านอ่อน อู่หลงเบอร์ 12 และชาสี่ฤดู แต่จะปลูกอู่หลงก้านอ่อนมากที่สุด เนื่องจากเป็นชาที่ได้รับการตอบรับและมีสรรพคุณที่ดี "ชาอู่หลง" ของที่นี่ถือเป็นชาชั้นเลิศที่ได้รับรางวัลการันตีมาแล้ว จากการประกวดสุดยอดชาโลกบนดอยแม่สลองเมื่อปี 2547 ใครที่ได้ไปเที่ยวบนดอยแม่สลอง ก็น่าจะหาโอกาสแวะไปลองชิมกันดูนะครับ .....




+++ ไร่ชา 101 ที่เราแวะเที่ยว นับเป็นไร่ชาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนดอยแม่สลอง +++




+++ ภาพทิวทัศน์ไร่ชาขั้นบันไดของที่นี่ เป็นมุมมหาชนที่หลายๆ คนคงจะเห็นกันจนคุ้นตา +++




+++ ต้นชาจะปลูกลดหลั่นกันไปตามไหล่เขา ในลักษณะเป็นขั้นบันได ดูสวยแปลกตาดี +++




+++ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปถ่ายภาพในแปลงปลูกชาได้ แต่ห้ามเด็ดยอดชานะครับ +++




+++ ชาที่ไร่ 101 จะปลูกอยู่ 3 ชนิด คือ อู่หลงก้านอ่อน อู่หลงเบอร์ 12 และชาสี่ฤดู +++




+++ นอกจากใบชาสีเขียวสดแล้ว บนต้นชายังมีดอกชาสีขาวอมเหลืองให้ชมกันด้วย +++




+++ ส่วนภาพนี้ เป็นภาพดอกบีโกเนียสีสวยที่ปลูกไว้ใกล้ๆ ไร่ชา +++




+++ ชิมชากันแล้ว ถ้าใครถูกใจก็สามารถซื้อกลับไปชงดื่มเองที่บ้านได้นะครับ +++


          กว่าเราจะออกจากไร่ชา 101 เวลาก็ล่วงไปบ่ายโมงกว่าๆ แล้ว ท้องเริ่มร้องเตือนว่าเลยเวลาอาหารกลางวันไปนานแล้ว มาเที่ยวบนดอยแม่สลองทั้งที ก็ต้องแวะไปลองชิม "อาหารจีนยูนนาน" กันล่ะนะครับ เพราะที่นี่เป็นชุมชนชาวจีนฮ่อซึ่งอพยพมาอยู่เมืองไทยเมื่อนานมาแล้ว และก็ได้สืบทอดฝีมือทำอาหารจีนต่อๆ กันมาหลายรุ่น .....


          ร้านที่เราเลือกฝากท้องด้วย เป็นร้านชื่อดังบนดอยแม่สลอง ชื่อร้าน "อิ่มโภชนา (เจ้าเก่า)" ซึ่งเพื่อนบล็อกของเราหลายคนก็เคยแวะไปชิมมาแล้ว ล่าสุดก็เห็นจากบล็อกคุณหนึ่ง AdrenalineRush หากใครจะมาร้านนี้อาจต้องศึกษาเส้นทางให้ดีหน่อย เพราะตัวร้านไม่ได้อยู่ในตลาด แต่จะอยู่เลยมาทางลานวัฒนธรรม (ในตลาดจะมีอีกร้านที่ชื่อคล้ายๆ กัน หลายคนอาจจะสับสนได้) .....




+++ บ่ายวันนั้น เราแวะฝากท้องกันที่ร้าน "อิ่มโภชนา (เจ้าเก่า)" ร้านดังบนดอยแม่สลอง +++




+++ ร้านนี้จะขายอาหารจีนยูนนานเป็นหลัก มีเมนูไม่มากชนิดนัก น่าจะไม่ต่างจากร้านอื่นเท่าไหร่ +++




+++ มาถึงดอยแม่สลองทั้งที ก็ต้องแวะมาลองชิมอาหารจีนแบบนี้แหละนะครับ +++




+++ เมนูแรกของเรา "ไก่ดำตุ๋นยาจีน" รสชาติกลางๆ ได้กลิ่นเครื่องเทศขึ้นจมูก เหมาะสำหรับช่วงอากาศหนาวๆ ดีเหมือนกัน +++




+++ เมนูนี้ใครมาก็ต้องสั่ง "ขาหมูหมั่นโถว" จานนี้อร่อยดีครับ +++




+++ จานนี้ลองชิมเพราะหาทานที่อื่นได้ยาก "ยำใบชา" ใส่ทูน่า รสเปรี้ยวโดดไปหน่อย และใบชาแก่ไปด้วยครับ +++




+++ จานสุดท้าย "เห็ดหอมผัดซีอิ้ว" บีบมะนาวใส่แล้วรสออกเค็มๆ เปรี้ยวๆ แปลกดี +++


          หลังอิ่มท้องจากอาหารกลางวันกันแล้ว ยังพอมีเวลาเหลือ เราเลือกแวะไปเที่ยวกันต่อที่ "สิงห์ปาร์ค" หรือชื่อเดิมว่า "ไร่บุญรอด" ซึ่งเป็นไร่ของบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตเบียร์สิงห์, ลีโอ ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร บนพื้นที่นับพันไร่ ในบรรยากาศโอบล้อมด้วยภูเขาและธรรมชาติ ซึ่งเพิ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี่เอง .....


          "ไร่บุญรอด" ตั้งอยู่ริมถนน 1211 หรือถนนสายเด่นห้า-ดงมะดะ ห่างจากตัวเมืองเชียงรายไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2554 และต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็นสิงห์ปาร์ค ภายในไร่บุญรอดปลูกพืชและทำการเกษตรหลายชนิด เช่น ไร่ชาอู่หลง, พุทราไต้หวัน, สตอร์เบอร์รี่, มัลเบอร์รี่, ยางพารา, ฟักทองยักษ์, ผักผลไม้เมืองหนาว, ข้าวบาร์เลต์, ฟาร์มปศุสัตว์ เลี้ยงวัวนม ฯลฯ .....




+++ ชาวเขาในชุดเต็มยศ บริเวณลานหน้าหอพระสยามเทวาธิราชจำลอง ทางลงจากดอยแม่สลอง +++




+++ รูปปั้นสิงห์สีทอง สัญลักษณ์ของ "สิงห์ปาร์ค" หรือไร่บุญรอด ซึ่งเราแวะเที่ยวก่อนเดินทางกลับที่พัก +++




+++ ที่นี่เป็นไร่ของบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตเบียร์สิงห์, ลีโอ +++




+++ กังหันลมสีสดใส เป็นจุดถ่ายภาพสวยๆ ใกล้เนินสิงห์ ด้านหน้าสิงห์ปาร์ค +++




+++ ดอกไม้เมืองหนาว ปลูกอยู่ทั่วบริเวณรอบๆ เนินสิงห์ +++




+++ ใกล้ๆ กัน มีทุ่งดอกไม้สวยๆ ที่ปลูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม +++




+++ ดื้อเล็กขอถ่ายภาพกับดอกไม้สวยๆ บ้าง +++




+++ ด้านหลังดื้อเล็ก เป็นสวนตุงหลากสี +++


          การเข้าชม "สิงห์ปาร์ค" นักท่องเที่ยวจะต้องจอดรถที่ลานจอดรถด้านหน้า แล้วลงทะเบียนเข้าชมที่โต๊ะข้างร้านกาแฟใกล้เนินสิงห์ และรอนั่งรถนำเที่ยวของทางไร่เท่านั้น ไม่สามารถขับรถเข้าไปได้เอง รถนำเที่ยวของสิงห์ปาร์คจะออกทุก 30-60 นาที ในแต่ละรอบจะรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 24 คนเท่านั้น ใช้เวลาเที่ยวชมรอบละประมาณ 1 – 1 ชั่วโมง 30 นาที .....


          น่าเสียดายที่เราไปเที่ยวในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ กว่าจะลงจากดอยแม่สลองไปถึง "สิงห์ปาร์ค" ก็เกือบสี่โมงเย็น ลองแวะไปดูที่จุดลงทะเบียนเข้าชม ปรากฎว่ารถนำเที่ยวเต็มหมดทุกรอบแล้ว เพราะในวันนั้นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเยอะมาก เราจึงพลาดโอกาสเข้าชมไร่ไปอย่างน่าเสียดาย สุดท้ายเลยได้แค่แวะถ่ายภาพกันที่เนินสิงห์ด้านหน้า และทุ่งดอกไม้รอบๆ บริเวณเท่านั้นเอง แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว ก็ต้องแวะช้อปปิ้งซื้อของฝากกันที่ร้านขายของที่ระลึกกันก่อน แล้วจึงค่อยเดินทางกลับที่พักที่เชียงใหม่ .....




+++ นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมภายในสิงห์ปาร์ค ต้องแวะไปลงทะเบียนที่ร้านกาแฟด้านหน้าปาร์คตามภาพ +++




+++ ภายในบริเวณสิงห์ปาร์ค มีจุดท่องเที่ยวทางเกษตรให้ชมกันถึง ึ7 จุด +++




+++ น่าเสียดายช่วงที่เราไป รถนำเที่ยวเต็มหมดทุกรอบ เลยได้แค่แวะซื้อของฝากที่ร้านขายของที่ระลึก +++




+++ น้ำผลไม้พร้อมดื่มหลากหลายชนิด ในขวดสวยงาม ผลิตภัณฑ์จากสิงห์ปาร์ค +++




+++ ใครจะซื้อไปฝากคนรู้จัก จัดใส่ถุงผ้าสีสวยแบบนี้ก็ดูดีนะครับ +++




+++ ผลิตภัณฑ์ชาชนิดต่างๆ ที่ปลูกในไร่ +++




+++ ชาอู่หลงใน package สูญญากาศ +++




+++ กล่องชาหลากสีสัน ดูจากภาพบนกล่องน่าจะมีใบชาหลายกลิ่นให้เลือกซื้อ +++




+++ น้ำเสาวรสขวดใหญ่ สีสวยน่าดื่ม +++




+++ มีต้นสตรอว์เบอรี่ขายด้วยครับ กำลังออกลูกเล็กๆ อยู่พอดีเลย +++




+++ ภายในร้านไม่ได้มีแต่สินค้าเกษตรอย่างเดียว หมวกและเสื้อที่ระลึกก็มีขายด้วย +++


          ในวันสุดท้ายของทริปนี้ ซึ่งเป็นวันเดินทางกลับ เราออกจากบ้านพักที่เชียงใหม่ช่วงสายๆ มาถึงจังหวัดตากตอนเที่ยงเศษๆ เห็นร้านกาแฟข้างทางร้านหนึ่ง มีรูปปั้นตัวการ์ตูนหน้าคล้ายมนุษย์หินฟลิ้นต์สโตนตั้งโดดเด่นสะดุดตาอยู่ด้านหน้าร้าน เลยเลี้ยวรถแวะเข้าไปทานอาหารกลางวันกันซะหน่อย เด็กๆ จะได้ถ่ายภาพกับรูปปั้นตัวการ์ตูนด้วย ร้านกาแฟแห่งนี้ชื่อร้าน "ภูเอก วิลเลจ คอฟฟี่ @บ้านตาก" ตั้งอยู่ด้านหน้ารีสอร์ทชื่อเดียวกัน ตัวอาคารค่อนข้างใหม่ น่าจะเพิ่งเปิดไม่นานนัก รสชาติอาหารพอใช้ได้ครับ .....




+++ วันเดินทางกลับ เราแวะทานอาหารกลางวันกันแถวๆ จังหวัดตาก +++




+++ "ภูเอก วิลเลจ คอฟฟี่ @บ้านตาก" ร้านยังดูใหม่เอี่ยม น่าจะเพิ่งเปิดไม่นานนัก +++




+++ รูปปั้นตัวการ์ตูนจากเรื่อง "มนุษย์หินฟลิ้นต์สโตน" สีสดสะดุดตา ถูกใจเด็กๆ +++




+++ สองเด็กดื้อ ถ่ายภาพด้านหน้าร้านกาแฟ +++




+++ ดูหน้าตารูปปั้นชัดๆ แล้ว ไม่เหมือนในการ์ตูนเท่าไหร่เนอะ +++


          จบทริปฤดูหนาว ที่เขียนบล็อกลากยาวมาจนจะหมดหน้าร้อนกันเสียที สำหรับช่วงนี้ผมอาจจะไม่ค่อยได้เข้ามา up บล็อกใหม่ๆ สักเท่าไหร่ เพราะดูท่าทางแล้วงานจะยังคงยุ่งอยู่อีกเป็นเดือน แต่ผมก็ยังแวะเข้ามาชมบล็อกของเพื่อนบล็อกอยู่แทบทุกวันนะครับ ถ้าใครผ่านมาก็ยังแวะเข้ามาทักทายกันได้ตามปกติ หากปลีกเวลาได้ รับรองว่าจะรีบกลับมาเขียนบล็อกใหม่ทันที เพราะยังมีทริปตกค้างรอเขียนรีวิวอยู่อีกหลายแห่ง สำหรับบล็อกเอนทรี่นี้คงต้องขอจบเพียงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีครับ .....



+++ ลากันไปด้วยภาพจากไร่ชา 101 ก็แล้วกันนะครับ สวัสดีครับ +++