ผมอยากรู้จริงๆ ว่าใครเป็นผู้บัญญัติชื่อเรียกกล้วยไม้ในสกุล Cymbidium บางตัวนี้ว่า “กะเรกะร่อน” ถ้าเปิดพจนานุกรมก็ไม่น่าจะพบความหมายของคำๆ นี้ แต่ถ้าให้วิเคราะห์ความหมายตามระดับสติปัญญาและความรู้สึกของผม คำว่า “กะเรกะร่อน” ผมจะนึกถึงคำว่า เร่ร่อน กะแดะ เรี่ยราด ประมาณนี้ครับ

ชื่อเรียกกล้วยไม้กะเรกะร่อนนั้นหมายถึงกล้วยไม้ในสกุล Cymbidium หลายชนิด เช่นกะเรกะร่อนธรรมดา กะเรกะร่อนนิล กะเรกะร่อนสองสี และยังมีพระเอกของเราที่เห็นในภาพนั่นคือ “กะเรกะร่อนปากเป็ด Cymbidium finlaysonianum” กล้วยไม้ชนิดนี้พบทางภาคใต้ของไทย ตั้งแต่ จ.ชุมพรเรื่อยไปยันมาเลเซียโน่นเลยครับ หากลอง click ไปอ่านกลุ่ม blog ถอดความเรื่อง “ดูกล้วยไม้ป่าริมทางที่มาเลเซีย” ผู้เขียนเขาบรรยายไว้ว่ากล้วยไม้ชนิดนี้เป็นกล้วยไม้สามัญที่พบเห็นได้ง่ายๆ ในประเทศมาเลเซียเช่นกัน ลักษณะของกะเรกะร่อนปากเป็ดมีดอกขนาดใหญ่กว่ากะเรกะร่อนธรรมดา กลีบดอกหนาและเป็นมัน สามารถให้ดอกย่อยได้ถึง 30-40 ดอกต่อช่อ และส่วนสำคัญคือสีสันบริเวณปากที่จะมีสีแดงขาวและเหลืองเข้ม ขนาดของปากใหญ่กว่ากะเรกะร่อนปกติและกะเรกะร่อนสองสีอย่างเห็นได้ชัด หากไม่เห็นดอกดูที่ใบก็อาจพอแยกออกได้เพราะกะเรกะร่อนปากเป็ดจะมีใบหนา สีเข้ม และใหญ่กว่า

เราสามารถปลูกกะเรกะร่อนปากเป็ดได้หลายแบบ หากใช้เครื่องปลูกควรเป็นแบบโปร่ง เช่นใช้กระถางดินเผาทรงสูงแบบมีรูเยอะๆ เครื่องปลูกใช้เป็นอิฐมอญทุบก้อนโตๆ หรืออาจใช้ถ่านหุงข้าวก็ได้ แต่น่าจะดีกว่าถ้าปลูกบนต้นไม้โดยไม่ต้องใช้เครื่องปลูกเลย เมื่อมันเริ่มตั้งตัวได้จะสังเกตเห็นรากเดินยุ่บยั่บไปหมด กะเรกะร่อนชนิดนี้ชอบอากาศร้อนชื้น แต่ทนแล้งได้ดี ถ้าแห้งหรือเย็นเกินไปอาจจะออกดอกยากสักหน่อยจ้า




* กะเรกะร่อนปากเป็ดที่ปลูกประดับหน้าบ้านในจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ตอนบน