bloggang.com mainmenu search
{afp}
ประวัติ taylor swift

ประวัติ taylor swift


เทย์เลอร์ สวิฟท์ หรือ เทย์เลอร์ อลิสัน สวิฟท์ ( Taylor Swift ,Taylor Alison Swift ) นักร้อง นักแสดง นักแต่งเพลงสาวแนวคันทรี่-ป๊อป ชาวอเมริกัน เธอได้ฝากผลงานชั้นเยี่ยมไว้มากมาย จนเป็นที่ตรึงตาตรึงใจผู้ที่ได้ลิ้มรสมนต์เสน่ห์เสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ ของเธอ

-----ในปี 2006 เธอได้ปล่อยซิงเกิ้ลแรก "Tim McGraw" และ ได้วางแผงอัลบั้มแรกซึ่งมีชื่ออัลบัมเป็นชื่อของเธอเอง อัลบั้มนี้สามารถติดชาร์ทบิลบอร์ด 200 สูงสุดในอันดับที่ 5 และอัลบั้มที่สองของเธอ “Fearless” ออกวางแผงในเดือนพฤศจิกายน ปี 2008 ติดชาร์ท อันดับ 1 ในบิลบอร์ด 200 ติดต่อกันถึง 11 สัปดาห์ทีเดียว ทำให้เทย์เลอร์ได้รับฉายาว่า ศิลปินแห่งปี หรือ Artist of the Year จาก Billboard Magazine ในปี 2009 ซึ่งต่อมาอัลบั้ม ”Fearless” ของเธอยังได้รับรางวัล “อัลบั้มแห่งปี 2010” ในงานประกาศรางวัลแกรมมี่อวอร์ด (Grammy Award for Album of the Year in 2010)
-----ในปี 2008 อัลบั้ม Taylor Swift ได้ทำยอดขายทะลุ 4,000,000 แผ่น ทำให้เทย์เลอร์กลายเป็นศิลปินที่ทำยอดขายดีที่สุดในอเมริกา ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้เธอได้คว้ารางวัล Superstar of Tomorrow จาก Young Hollywood Awards ทำให้ขณะนี้เธอได้กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการฮอลลีวูดไปเสียแล้ว

กำเนิดเจ้าหญิงแห่งวงการคันทรี่ (1989-2004)

-----เทย์เลอร์ เกิดที่เมืองไวโอมิสซิง รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ.1989 บิดาของเธอ สก็อต ทำอาชีพนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนมารดา แอนเดรียนั้นเป็นแม่บ้าน นอกจากนี้เธอยังมีน้องชายอีกคนชื่อ ออสติน สวิฟท์
-----สมัยเรียนเกรด 4 เทย์เลอร์ส่งกลอนความยาว 3 หน้ากระดาษชื่อ "Monster In My Closet" เข้าประกวดในการแข่งขันการแต่งกลอนระดับชาติ แน่นอนเธอได้รับรางวัลชนะเลิศมาครอง ต่อมาเธอเริ่มเขียนเพลงครั้งแรกเมื่ออายุ 10 ขวบ เพื่อใช้ในการเข้าประกวดร้องคาราโอเกะระดับท้องถิ่นที่จัดขึ้นในงานเทศกาล ต่างๆ
-----เทย์เลอร์เริ่มต้นการเล่นกีตาร์โดยเรียน รู้จากช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ ผู้ที่บอกวิธีการเล่นกีตาร์เพียง 3 คอร์ดให้เธอ เมื่อเธอเรียนรู้ 3 คอร์ดนั้น เธอจึงเริ่มเขียนเพลงเพลงแรก ชื่อเพลง "Lucky You" เธอเขียนเพลงอย่างสม่ำเสมอและได้เขียนเกี่ยวกับเพื่อนๆที่โรงเรียนของเธอที่ ชอบว่าเธอเพียงเพราะเธอหลงรักเพลงคันทรีเข้าอย่างจัง ผู้ที่มีแรงผลักดันต่อเทย์เลอร์ให้เธอชอบดนตรีมากที่สุด คือ Shania Twain นักร้องแนวคันทรี่-ป๊อบ และอีกหลากหลายท่าน อาทิเช่น LeAnn Rimes, Tina Turner, Dolly Parton และท้ายสุด คุณยายของนั่นเอง คุณยายของเธอเป็นนักร้องโอเปราผู้เชี่ยวชาญ
-----เมื่ออายุ 11 ขวบ เทย์เลอร์เดินทางไปยังแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเพลงคันทรี่ก็ว่าได้ เธอได้เสนอเดโมเทปต่อค่ายเพลงต่างๆโดยหวังว่าได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงสัก แห่งที่นั่น แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
-----ภายหลังที่เธอเดิน ทางกลับมายังเพนซิลเวเนีย เธอได้ถูกเชื้อเชิญไปร้องเพลงที่การแข่งขันเทนนิสยูเอสโอเพน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เมื่ออายุ 12 ขวบเธอเริ่มการเขียนเพลงและเล่นกีต้าร์ไปด้วย จากนั้นเธอเริ่มเดินทางไปยังแนชวิลล์อย่างสม่ำเสมอและยังได้เขียนเพลงกับนัก แต่งเพลงในท้องถิ่นอีกด้วย เมื่อเธอย่างเข้า 14 ปีครอบครัวเธอจึงตัดสินใจย้ายที่อยู่ไปยังย่านชานเมืองแนชวิลล์ เมื่อเธออายุ15 ปี เธอได้รับข้อเสนอจากค่าย RCA Records แต่เธอกลับปฏิเสธไป เพราะทางค่ายยนั้นไม่ยอมให้อัดเพลงของตัวเธอเอง

เข้าสู่วงการบันเทิง (2004-2006)


-----ต่อ มาเทย์เลอร์ได้มีโอกาสไปแสดงยังสถานที่พบปะของนักเขียนเพลงใน The Bluebird Café ซึ่งสก็อต เบอเชตตา ให้ความสนใจในเพลงของเธอและชักชวนให้เธอเซ็นสัญญากับบิ๊กแมกชีนเรคคอร์ดส ต้นสังกัดในปัจจุบัน
-----เธอปล่อยซิงเกิ้ลแรก ซึ่งซิงเกิ้ลแรกของเธอ คือ "Tim McGraw" เมื่อกลางปี 2006 ที่ขึ้นชาร์ทสูงสุดอันดับ 6 ในชาร์ทบิลบอร์ดคันทรีชาร์ท ทำยอดขายไปเบาะๆ 500,000 แผ่น

เริ่มต้นอัลบัมแรกในชีวิต (2006-2008)

-----ต่อ มาได้ออกอัลบั้มแรกโดยใช้ชื่อของตัวเองเมื่อ 24 เดือนตุลาคม ค.ศ. 2006 ซึ่งเธอทั้งเขียนเพลงเองและได้ร่วมเขียนเพลงกับนักเขียนเพลงมากมาย โดยอัลบั้มแรกได้ขึ้นไปถึงอันดับ 19 บนชาร์ท Billboard 200 และยังยอดขายกว่า 39,000 แผ่น ในระหว่างสัปดาห์แรกของการวางแผง จากนั้นอัลบั้มของเธอก็ได้พุ่งไปถึงอันดับ 1 ในชาร์ท Top Country Albums และติดอันดับ 5 ใน Billboard 200 ซึ่งขึ้นเป็นอันดับ 1 ในชาร์ท Top Country Albums เป็นเวลาติดต่อถึง 8 สัปดาห์ โดยมีซิงเกิ้ลฮิต 5 ซิงเกิ้ลที่ติดชาร์ทใน Billboard Hot Country Songs ส่วนซิงเกิ้ลที่ 2 กับเพลง Teardrops on My Guitar นั้นทำยอดขายไป 1,000,000 แผ่น และติดชาร์ตบิลบอร์ดคันทรี่ที่อันดับ 2 และ Hot100 อันดับที่ 13 ซิงเกิ้ลที่ 3 กับเพลง Our Song ทำยอดขายไปอีก 1,000,000 แผ่นอีกครั้ง แถมติดชาร์ตบิลบอร์ดคันทรี่ที่อันดับ 1 นานถึง 6 สัปดาห์ และ Hot100 อันดับที่ 16 ซิงเกิ้ลที่ 4 กับเพลง Picture to Burn ทำยอดขายไปอีก 500,000 แผ่น และติดชาร์ตบิลบอร์ดคันทรี่ที่อันดับ 3 และ Hot100 อันดับที่ 28 ซิงเกิ้ลที่ 5 ปิดอัลบั้ม กับเพลง Should've Said No ทำยอดขายไปอีก 500,000 แผ่น และติดชาร์ตบิลบอร์ดคันทรี่ที่อันดับ 1 และ Hot100 อันดับที่ 33 จนกระทั่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2008 ซึ่งทำให้เทย์เลอร์มีคะแนนเกินกว่า 200 ล้านคะแนนบน MySpace และ MySpace ของเธอนั้นปัจจุบันติดอันดับ MySpace ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในสาขาเพลง นอกจากนี้ เทย์เลอร์ยังถูกค้นหาชื่อมากที่สุดบน MySpace ในปี 2008
-----เดือนมิถุนายน 2008 ในงาน CMA Music Festival held ที่แนชวิลล์ เทย์เลอร์ได้ทำการแจกลายเซ็นให้กับบรรดาแฟนคลับนานถึง 8 ชั่วโมงติดต่อกัน นับเป็นการนั่งแจกลายเซ็นที่นานที่สุดนับแต่สมัยที่ การ์ธ บรูกส์ ทำการแจกลายเซ็น เมื่อปี 1996
-----ต่อมาในช่วงฤดูร้อน ปี 2008 เทย์เลอร์ได้ปล่อย EP Album (Extended Play Album) ชื่อ Beautiful Eyes สัปดาห์แรกที่วางแผง มียอดขายถึง 45,000 แผ่น จนกระทั่งขึ้นเป็นอันดับ 2 ใน Billboard Hot Country Songs และอันดับ 9 บน Billboard 200 ในขณะที่อัลบัม Taylor Swift อยู่ที่อันดับ 2 ในขณะนั้นด้วย


แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการ (2008-ปัจจุบัน)


-----อัลบั้ม ล่าสุดของเธอ “Fearless” เริ่มวางแผงในอเมริกา เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2008 ไม่นานจึงได้ขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน Billboard 200 ซึ่งทำยอดขาย 529,304 แผ่น ในสัปดาห์แรกที่วางขาย อัลบั้มนี้เธอลงมือแต่งเพลงเองทุกเพลง และมีส่วนร่วมในการการโปรดิวส์ด้วย นักวิจารณ์ต่างยกย่องอัลบั้มนี้ว่า เป็นอัลบั้มเพลงป๊อบที่ดีที่สุดในปี 2008 เปิดอัลบั้มล่าสุดกับเพลง Change ติดชาร์ตบิลบอร์ดคันทรี่ที่อันดับ 57 ชาร์ต และ Hot100 อันดับที่ 10 ซึ่งเพลงใช้ประกอบโอลิมปิกล่าสุดนี้ด้วย ส่วนซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้มนี้ คือ “Love story” ก็ทำยอดดาวน์โหลดไป 4,000,000 ครั้ง และติดชาร์ตบิลบอร์ดคันทรี่ที่อันดับ 1 ชาร์ต และ Hot100 อันดับที่ 4 ซิงเกิ้ลที่ 2 White Horse ทำยอดดาวน์โหลดไป 1,000,000 ครั้ง ติดชาร์ตบิลบอร์ดคันทรี่ที่อันดับ 2 ชาร์ต และ Hot100 อันดับที่ 13 ซิงเกิ้ลที่ 3 You Belong with Me ทำยอดดาวน์โหลดไป 2,167,000 ครั้ง ติดชาร์ตบิลบอร์ดคันทรี่ที่อันดับ 1 ชาร์ต และ Hot100 อันดับที่ 2 และ Hot100 Airplay ที่อันดับ 1 สวิฟต์กลายเป็นนักร้องคันทรีคนแรกที่ติดอันดับ 1 ในชาร์ท Hot100 Airplay ซิงเกิ้ลที่ 4 Fifteen ติดชาร์ตบิลบอร์ดคันทรี่ที่อันดับ 7 ชาร์ต Hot100 อันดับที่ 23 และซิงเกิ้ลนี้โรลลิ่งสโตนให้อันดับที่ 46 ซิงเกิ้ลที่ดีที่สุดในปี 2008 และปล่อยอื่นๆ ตามมาไม่ว่าจะเป็นเพลง Fearless ทำยอดดาวน์โหลดไป 500,000 ครั้ง ติดอันดับ Hot100 ที่อันดับ 9 ซึ่งตัดเป็นซิงเกิ้ลที่ 5, You're Not Sorry ติดอันดับ Hot100 ที่อันดับ 11 ด้วยความแรงของอัลบั้มชุดนี้เทย์เลอร์ได้ออกปกใหม่เป็นแบบแพตินั่ม ซึ่งเพิ่มเพลงใหม่อีก 6 เพลง ก็สามารถติดชาร์ตในทั้งหมด 6 เพลง ไม่ว่าเป็นเพลง Jump Then Fall ในอับดับที่ 10 และเพลงที่ถูกเอาไปใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Valentine's Day ที่เธอร่วมแสดงอีกด้วย, เพลง Untouchable ในอับดับที่ 19, เพลง The Other Side of the Door ในอับดับที่ 22, เพลง Super Star ในอับดับที่ 27, เพลง Come in with the Rain ในอับดับที่ 30 และเพลง Forever & Always (Piano Version) ในอับดับที่ 34 ล่าสุดอัลบั้มชุด Fearless ทำยอดขายในอเมริกาไป 5,366,566 แผ่น และทั่วโลก 6,626,500 แผ่น
-----ซึ่งภายหลังการเปิด ตัวอัลบั้มได้ไม่นานเธอได้ปล่อยเพลง Crazier เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Hannah Montana: The Movie เทย์เลอร์ สวิฟท์ นับเป็นศิลปินผู้มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัลอัลบั้ม แห่งปี และเธอยังได้รับรางวัลจากสถาบัน Crystal Milestone สำหรับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในวงการเพลงคันทรี่ของเธอ ทางสถาบันยังกล่าวชมสำหรับการประสบความสำเร็จในอาชีพ ตลอดจนการทำยอดขายอัลบั้มที่มียอดขายสูงกว่าศิลปินท่านอื่นๆในปี 2008 ส่วนเพลง “Love story” ของเธอนั้นทางสถาบันได้กล่าวว่าเป็นส่วนช่วยสำคัญในการจูงใจผู้ฟังให้หันมา ฟังเพลงคันทรี่มากขึ้น และเพลง “Love story” ยังได้ส่งผลให้เธอได้รับรางวัล 2 รางวัลจากการประกาศผลรางวัล CMT Music Awards. นั่นคือรางวัลมิวสิควิดีโอแห่งปีและมิวสิควิดีโอหญิงยอดเยี่ยดแห่งปี นอกเหนือจากนี้เทย์เลอร์ยังเคยทำประวัติศาสตร์มีเพลงติดชาร์ท Top 40 singles ใน Billboard Hot 100 มากที่สุดถึง 22 เพลง จากสถิติสูงสุดที่บียอนเซ่ โนวส์ เคยทำไว้ถึง 19เพลง
-----วันที่ 11 พฤศจิกายน 2009 เธอยังได้รับรางวัล 5 รางวัลจาก CMA Awards ได้แก่ รางวัลอัลบั้มแห่งปี, มิวสิควิดีโอแห่งปีจากเพลง Love story, ศิลปินหญิงแนวเพลงคันทรีที่ชื่นชอบที่สุดแห่งปี, ศิลปินผู้ประสบความสำเร็จระดับนานาชาติแห่งปี, ผู้แสดงยอดเยี่ยมแห่งปี ทั้งนี้เธอยังได้รับรางวัล 5 รางวัลจาก American Music Awards ซึ่งก็ได้แก่ รางวัลศิลปินแห่งปี, อัลบั้มแห่งปี, ศิลปินป๊อบ/ร็อกแห่งปี, ศิลปินคันทรี่หญิงแห่งปี, ศิลปินร่วมสมัยแห่งปี และวันที่ 2 ธันวาคม 2009 เธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงใน Grammy Award ถึง 9 รางวัล และได้รางวัล 4รางวัลจากงานนี้ อันได้แก่ อัลบั้มแห่งปี, อัลบั้มแนวเพลงคันทรี่ที่ดีที่สุดแห่งปี, เพลงคันทรี่ที่ดีที่สุดแห่งปีจากเพลง White Horse และรางวัลการแสดงยอดเยี่ยมจากเพลง White Horse เช่นกัน
-----จากการที่เธอได้ รางวัลมากมายจากหลากหลายสถาบัน และรางวัล Superstar of Tomorrow จากงานประกาศรางวัล Young Hollywood Awards ก็สามารถเป็นเครื่องการันตีว่าในอนาคตจะไม่มีใครในวงการฮอลลีวูดที่ไม่ รู้จักชื่อเธอคนนี้แน่นอน
By tswift thai
THX SO MUCH FOR Data and THX Member For Visit

ผลงานเพลง
อัลบั้ม - Fearless (2008)
Fearless
Fifteen
Love Story
Hey Stephen
White Horse
You Belong with Me
Breathe
Tell Me Why
You're Not Sorry
The Way I Loved You
Forever & Always
The Best Day
Change
Our Song
Teardrops on My Guitar
Should've Said No

อัลบั้ม - Beautiful Eyes (2008)
Beautiful Eyes
Should've Said No (Alternate Version)
Teardrops on My Guitar
Picture to Burn (Radio Edit)
I'm Only Me when I'm with You
I Heart ?

อัลบั้ม - Sounds of the Season: The Taylor Swift Holiday Collection (2007)
Last Christmas
Christmases when You Were Mine
Santa Baby
Silent Night
Christmas Must Be Something More
White Christmas

อัลบั้ม - Taylor Swift (2006)
Tim McGraw
Picture to Burn
Teardrops on My Guitar
A Place in This World
Cold As You
The Outside
Tied Together with a Smile
Stay Beautiful
Should've Said No
Mary's Song (Oh My My My)
Our Song
I'm Only Me when I'm with You
Invisible
A Perfectly Good Heart

Create Date :28 มกราคม 2554 Last Update :28 มกราคม 2554 17:51:53 น. Counter : Pageviews. Comments :1