# ชื่อวิทยาศาสตร์ : Friesodielsia desmoides (Craib) Steenis
# ชื่อพื้นเมืองอื่นๆ : บุหงาแต่งงาน, บุหงาเซิง, ส่าเหล้า, เครือติดต่อ, สายหยุด, สาวสะดุ้ง
# ชื่อวงศ์ : ANNONACEAE


บรรยากาศเปียกๆ สายฝนกระหน่ำแบบนี้ บรรดาไม้วงศ์กระดังงาก็พากันเบ่งบาน ผมได้พาชมไว้วงศ์นี้ในบ้านมาหลายตัวแล้วนะครับ ช่วงนี้มากันบ่อยหน่อย อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ เพราะยังมามีอีกหลายตัว แฮะๆ



ไม้หอมไทยโบราณที่จะแนะนำวันนี้คือ บุหงาแต่งงาน หรือ บุหงาเซิง เห็นดอกก็ทราบเลยนะครับ ว่าเป็นไม้กลุ่มกระดังงา บุหงาแต่งงานเป็นไม้พุ่มรอเลื้อย เหมือนๆเพื่อนเค้าอีกหลายตัว อย่างสายหยุด นมแมว การเวก พวกนี้ถ้าปลูกกลางแดดจัดๆก็จะเป็นไม้พุ่มไม้ยืนต้น แต่ถ้าปลูกในที่แดดรำไร กิ่งก้านก็จะอ่อนลีบ จะเอาแต่เลื้อยท่าเดียว



บุหงาแต่งงานให้ดอกเก่งครับ ออกดอกทั้งปี แต่ให้ดอกมากที่สุดช่วงหน้าฝน ดอกมีกลิ่นหอมรุนแรง ก็กลิ่นประเภทเอสเทอร์แบบเดียวกับไม้วงศ์นี้อื่นๆ คือ คล้ายๆกล้วยหอม บุหงาแต่งงานส่งกลิ่นหอมตั้งแต่ช่วงบ่าย และหอมมากในช่วงพลบค่ำ หากเก็บดอกไว้ในที่อับอากาศ จะมีกลิ่นหอมรุนแรงมาก ยิ่งถ้าปลูกไว้ต้นใหญ่ๆละก็ หอมจนเวียนหัวเลยครับ



บุหงาแต่งงานปลูกง่าย ทนทานต่อภูมิอากาศ ร้อนรุนแรงก็ได้ น้ำมาก น้ำน้อยสบายมาก แดดก็ได้ ร่มก็ได้ แต่หากแดดแรงมากๆดอกจะเล็กลง และมีอาการใบใหม้บ้าง แต่ไม่ถึงกับตายครับ ถึกมากพอควร แต่สภาพที่ชอบจริงๆคือแดด 40% ความชื้นในดินสูง แต่ดินต้องมีการระบายน้ำดี



ขยายพันธุ์โดยเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง การเพาะเมล็ดควรเลือกผลที่แก่เป็นสีแดง ใช้เวลาเพาะเมล็ดหนึ่งเดือน ก็เริ่มงอก ในช่วงแรกต้นกล้าเจริญเติบโตช้ามาก ต้องบำรุงรักษาเป็นเวลาสามปีจึงออกดอก



ตำราบางเล่มจะอธิบายว่าถ้าปลายกลีบบานออกข้างเล็กน้อยจะเรียกบุหงาเซิง แต่ถ้าปลายกลีบบิดเป็นทรงกังหันลม จะเรียกบุหงาแต่งงาน แต่ตอนนี้จะเรียกรวมๆกันเป็นไม้ชนิดเดียวกันหมดนะครับ เพราะไม้เพาะเมล็ดมีการกลายสูง ไม่ได้ถือเป็นคนละชนิดพันธุ์แต่อย่างใด



เป็นไงบ้างครับ ถ้าที่บ้านสะสมไม้ไทย ลองเพิ่มไม้หอมชนิดนี้ไว้ในคอลเลคชั่นอีกสักต้นนะครับ รับรองว่าไม่ผิดหวัง ดอกดก หอมแรง เลี้ยงง่ายมากครับ






Sarang Ah Nae Ge O Gi man Haie