bloggang.com mainmenu search
สถานที่ท่องเที่ยว : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน เชียงแสน เชียงราย, เชียงราย Thailand
พิกัด GPS : 20° 16' 25.15" N 100° 4' 45.01" E

ดูแผนที่เพิ่มเติม
 








ที่พัก  สถานที่ท่องเที่ยว  และร้านอาหารในซีรี่ย์นี้จะเป็น  ที่พัก  สถานที่ท่องเที่ยว  และร้านอาหาร  จากทริปเชียงรายเมื่อเดือนที่แล้วนะครับ  จริงๆแล้วร้านอาหารจากทริปเขาใหญ่ยังไม่หมดนะครับ  แล้วยังต่อด้วยทริปหัวหินอีก  แต่ที่เอาทริปเชียงรายมาคั่นก็เพราะว่าช่วงนี้เป็นหน้าหนาว  (น้อย)  คนนิยมขึ้นเหนือกันมาก  เลยเอาที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารมาโพสซะก่อน  เผื่อว่าจะเป็นแนวทางให้คนที่จะวางแผนไปเที่ยวเชียงรายไม่มากก็น้อยครับ
 

 
 
มีเรื่องมาเล่าก่อนที่จะพาไปเที่ยวกันครับ  สำหรับทริปเชียงรายตัวเจ้าของบล็อกเฉยๆมากๆ  โดนเลื่อนมาจากพิษโควิทระลอกแรกต้องยกเลิกตั๋วเครื่องบิน  คืนห้องโรงแรม  คืนรถเช่า  เจ้าของบล็อกก็นิ่งๆ  เฉยๆ  คิดว่าคุณชายคงเข็ดไม่อยากไปแล้ว  พอช่วงปลดล็อกสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ปลายๆปีที่แล้วคุณชายก็เอาทริปเชียงรายมาเสนออีก  ดูท่าแล้วคุณชายอยากไปมากก็เลยตามใจ
 
 

 
ถ้าถามถึงสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงรายที่เจ้าของบล็อกอยากไปมากที่สุดก็เห็นจะเป็น  “เมืองเก่าเชียงแสน”  ที่อำเภอเชียงแสน  (จากการดูสารคดีท่องเที่ยว  สารคดีประวัติศาสตร์  และอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ศิลปะ)  เพราะเป็นเมืองโบราณที่ยังมีชีวิตอยู่เหมือนสุโขทัยและอยุธยา  แต่จะมีสเน่ห์มากกว่านิดหน่อยตรงที่ตัวเมืองในปัจจุบันสร้างทับอยู่โบราณสถานต่างๆมากมาย 
 
 


ระหว่างที่นั่งค้นข้อมูลวัดโบราณในเมืองเก่าเชียงแสนก็ได้ไปเจอวิทยานิพนธ์ของมหาวิทยาลัยศิลปากรเรื่องเกี่ยวกับวัดโบราณในเมืองเชียงแสนพร้อมแผนที่วัดก็เลยคิดว่าจะใช้เวลาหนึ่งวันในเมืองเก่าเชียงแสนเพื่อไปเที่ยว  ถ่ายรูปวัดเก่าๆ  เลยทำแผนการเดินทางเที่ยว  +  ถ่ายรูป  วัดเก่าในเมืองเก่าเชียงแสน
 
 


แต่แล้วแผนการเดินทางก็มีเหตุฉุกเฉินไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้  เพราะมาเกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ล้มแล้วไถลมาชนกันชนหน้ารถแถวๆประตูเมืองเชียงแสนครับ  โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรเลย  กันชนหน้ารถถลอกไปนิดเดียวเองครับ  แต่ต้องเสียเวลารอตัวแทนประกันรถที่อยู่ในอำเภอเมืองขับรถมา  50  -  60  กิโลเมตร  ที่อำเภอเชียงแสน  เสียเวลาไปหลายครับ  พอเสร็จเรื่องประกันก็รู้สึกเซ็งๆครับเลยยกเลิกการถ่ายรูปวัดเก่าๆในเมืองเชียงแสน  เหลือแต่เพียงเดินทางเที่ยววัดที่สำคัญๆในเชียงแสนเท่านั้นครับ


 
 
พอดีที่จุดเกิดอุบัติเหตุอยู่ใกล้ๆพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสนครับ  ระหว่างนั่งรอตัวแทนประกันเจ้าของบล็อกเลยเดินไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสนเป็นการฆ่าเวลา
 


 
 

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน  อำเภอเชียงแสน
 
 





พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน   ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน  ใกล้ประตูป่าสักและวัดเจดีย์หลวงครับ
 

 

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน ก่อตั้งขึ้นในปี พุทธศักราช 2500 เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำแหล่งโบราณคดีเมืองเชียงแสน ทำหน้าที่ในการเก็บรักษาและจัดแสดง โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่ได้จากการสำรวจ ขุดแต่งและบูรณะโบราณสถานในเขตเมืองโบราณเชียงแสน ตลอดจนพื้นที่อื่น ๆ ในเขตจังหวัดเชียงราย สู่สาธารณชน โดยเป็นหน่วยงานในกำกับของกรมศิลปากร

 
 
อาคารจัดแสดงของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสนเป็นอาคารชั้นเดียว  ห้องจัดแสดงเป็นห้องต่อๆกันสามารถเดินวนได้รอบ  การจัดแสดงมุ่งเน้นการนำเสนอหลักฐานและข้อมูลที่เกี่ยวกับการตั้งหลักแหล่งของชุมชน ตั้งแต่สมัยประวัติศาสตร์เรื่อยมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์  ความเป็นอยู่  พื้นที่การจัดแสดงช่วงหลัง นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองเชียงแสนและใกล้เคียง








 
 
หลังจากที่คัดกรองลงทะเบียนและซื้อบัตรสำหรับเข้าชมเสร็จ  ก็เข้ามาอยู่ในห้องจัดแสดงกลาง  ห้องนี้จัดแสดง
ลักษณะภูมิศาสตร์ของอำเภอเชียงแสน  ประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงแสน 










 
 


เครื่องทองโบราณทีมีลักษณะคล้ายกับเครื่องทองของพม่าในรัชกาลพระเจ้ามินดง  ซึ่งพบในป่าใกล้กับโรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงแสน  ประกอบไปด้วย  กำไล  แหวน  ปิ่นปักผม  ลานหู  (ต่างหู)  และส่วนของทับทรวงแบบพม่า  เครื่องทองที่พบเหล่านี้สันณิฐานว่าเป็นของใช้ของชนชั้นสูงที่เข้ามาปกครองเชียงแสนก่อนที่จะกลับมาเป็นดินแดนของไทยอีกครั้ง





 
 




กลางห้องจัดแสดง
พระพุทธรูปศิลปะล้านนา  3  องค์  ที่มีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 16-23 ที่มีความงดงามและแสดงถึงเทคโนโลยีการหล่อโลหะของช่างในสมัยโบราณ เช่น พระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ จะใช้วิธีหล่อแยกส่วน แล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกัน ก่อนทำการตกแต่งด้วยกรรมวิธีลงรักปิดทองจารึกที่มีเนื้อหากล่าวถึงการอุทิศถวายที่ดิน คน เงิน ทอง ให้วัดเก็บเกี่ยวผลประโยชน์และใช้แรงงาน เพื่อเป็นพุทธบูชาและสืบพระพุทธศาสนาที่มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 21-22 จารึกด้วยอักษรล้านนา






 
 
 
 


 
และก่อนที่จะเดินเข้าสู่ห้องต่อไปจะมีส่วนจัดแสดงโบราณวัตถุซึ่งเป็นพระพุทธรูปและปูนปั้นประดับ
เจดีย์วัดป่าสักที่เป็นโบราณสถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงของอำเภอเชียงแสน  เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่าเมืองเชียงแสนได้รับอิทธิพลรูปแบบทางศิลปกรรมจากอาณาจักรพุกาม อาณาจักรสุโขทัย แคว้นหริภุญไชย หรือจีน มาปรับปรุงจนเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง  ซึ่งเจ้าของบล็อกจะพาไปชมแบบเต็มๆตาในบล็อกหน้าครับ











 
 






ห้องจัดแสดงห้องต่อไปเป็น
ห้องจารึก  จัดแสดงจารึกต่างๆทั้งที่พบในอำเภอเชียงแสนเองและอำเภออื่นๆในจังหวัดเชียงราย  จารึกส่วนใหญ่จารึกด้วย  “อักษรฝักขาม”  หรือ  “อักษรธรรมล้านนา”  ซึ่งเป็นตัวอักษรโบราณที่ใช้กันอย่างทั่วไปในดินแดนล้านนา






 
 
 


ส่วนจัดแสดงถัดมาจัดแสดงเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผาเมืองเชียงแสน 
เครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลง  บริเวณบ้านป่าล้าน  บ้านทุ่งม่าน  ตำบลหัวฝาย  อำเภอเวียงป่าเป้า  จังหวัดเชียงราย
 


 
เครื่องปั้นดินเผาเชียงแสนจะต่างกับเครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลงครับตรงที่เครื่องปั้นดินเผาเชียงแสนจะเป็นเครื่องปั้นดินเผาแบบไม่เคลือบ  เนื้อแกร่ง  นิยมผลิตเป็นคนโท  กระปุก  และคนที  ในขณะที่เครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลงจะเป็นแบบเคลือบ  มีน้ำหนักเบา  เนื้อละเอียด  และบางกว่าเครื่องปั้นดินเผาจากแหล่งอื่นๆ  ส่วนใหญ่จะมีสีขาว  เหลืองนวล  และสีเทา  นิยมผลิตเป็น  จาน  ชาม  แจกัน  โถ  ผางประทีป  บางทีก็พบตัวตุ๊กตา  หรือตัวหมากรุกบ้าง   เอกลักษณ์เฉพาะตังของเครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลงคือ  นิยมเขียนลายดอกไม้และกลีบดอกไม้  ซึ่งเรียกว่า  “ลายกา”  ลายช่อดอกไม้  ลายสัตว์  และลายพรรณพฤกษา  






 
 
 






เครื่องเขิน  (Laccquerwears)  ทำจากไม้ไผ่สานหรือไม้ที่มีน้ำหนักเบาให้มีรูปร่างตามการใช้งาน  แล้วทำไปทารักและชาด  หรืออาจจะทำลวดลายแล้วประดับด้วยทองคำเปลวหรือแผ่นเงินเปลว


 
คำว่า  “เครื่องเขิน”  สันณิษฐานว่าเรียกตามคนไท  “เขิน”  ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณแม่น้ำเขินในเชียงตุง  แล้วถูกกวาดต้อนลงมาอยู่ที่เชียงใหม่ในสมัยพระเจ้ากาวิลละมาตั้งบ้านเรือนอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเชียงใหม่บริเวณบ้านวัวลาย  บ้านนันทราม  ตำบลหายยา  ในปัจจุบัน  ชาวไทเขินได้นำความรู้ในการทำเครื่องเขินเข้ามาเผยแพร่ในเชียงใหม่











 
ส่วนการจัดแสดงต่อๆมาจะเป็น
วิถีชิวิตของคนในอำเภอเชียงแสนและอำเภออื่นๆในจังหวัดเชียงรายนะครับ
 
 

เคยได้ดูรายการ  “ตามตำนานกับเผ่าทอง”  ของอาจารย้เผ่าทอง  ทองเจือ  อาจารย์อธิบายเอาไว้ว่าที่บ้านของคนในล้านนามีลักษณะของฝาผนังล่างแคบกว่าฝาผนังบนจนมีลักษณะด้านบนผายออกก็เพราะในสมัยที่พม่าเข้ามาปกครองดินแดนล้านนา  พม่าได้บังคับให้คนล้านนาปลูกบ้านที่มีลักษณะแบบเดียวกันทั้งหมด  เพราะการที่ตัวบ้านมีลักษณะผายออกทางด้านบนแบบนี้เหมือน  “โลงศพ”  คนที่อาศัยอยู่ในบ้านที่มีลักษณะเหมือนโลงศพแบบนี้  “ขึด”  หรือไม่เป็นมงคล  เป็นการตัดไม้ข่มนามไม่ให้คนล้านนากระด้างกระเดื่อง






 


 
ที่เหนือประตูบ้านแบบล้านนาจะมีแผ่นไม้สลักติดอยู่  เรียกว่า  “หำยนต์”  ป้องกันสิ่งที่ไม่ดีเข้ามาในบ้าน





 
 


 
และบนหน้าจั่วของบ้านแบบล้านนาจะมีไม้ไขว้กันติดอยู่เรียกว่า 
“กาแล”  อันนี้เจ้าของบล็อกคาดเอาเองว่าน่าจะป้องกันนกเกาะที่หน้าจั่วบ้าน  คนล้านนาถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี  จึงคิดทำกาแลมาติดไว้






 
 
ผู้คนที่มาอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงรายก็มีหลายเชื้อชาติครับแต่เอามาให้ชม  2-3  กลุ่มชาติพันธุ์ที่เราเห็นรูปแบบการแต่งกายบ่อยๆ
 

 

ไท - ยวน  (ที่เขียนคำว่า  “ไท”  แบบไม่มี  “ย”  เพราะว่าจะหมายความถึงผู้คนที่มีเชื้อสายที่ใช้ภาษาในตระกูล  “ไต”  หรือ  “ไท”  ครับ  ถ้าเขียน  “ไทย”  จะหมายถึงคนไทยในประเทศไทยเท่านั้น)


 
ไท – ยวน  ถือเป็นคนกลุ่มใหญ่ในดินแดนทางภาคเหนือของประเทศไทย  ผู้หญิงนิยมนุ่งผ้าซิ่น  ในผ้าซิ่นแต่ละผืนมีส่วนประกอบคือ  หัวซิ่น  -  เป็นส่วนที่ใช้พันมัดกับตัว  นิยมใช้ผ้าขาวมาเย็บต่อกับตัวซิ่น  (เพราะส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ใช้งานมากที่สุด  จะสัมผัสกับเหงื่อไคล  สามารถที่จะเปลี่ยนผ้าผืนใหม่ได้เมื่อผืนเก่าชำรุด) 


 
ส่วนกลางซิ่นเรียกว่า  “ตัวซิ่น”  นิยมทอลวดลายขวาง  เรียกว่า  “ซิ่นตา”  หรือ  “ซิ่นก่าน”

 
 
ส่วนปลายสุดของผ้าซิ่นเรียกว่า  “ตีนซิ่น”   (ส่วนปลายผ้าซิ่น)  นิยมทอด้วยเทคนิคการ  “จก”  หรือ  การสอดเส้นด้ายย้อมสีเป็นลวดลายต่างๆ  การทอตีนซิ่นจะทอให้มีขนาดแคบๆ  แล้วนำไปเย็บต่อกับตัวซิ่น  ถ้าเป็นผ้าซิ่นที่ใช้ในชีวิตประจำวันจะนิยมต่อตีนซิ่นด้วยผ้าพื้นสีแดงหรือสีดำ  เพราะตีนซิ่นเป็นส่วนที่อยู่ใกล้พื้นที่สุด  ในชีวิตประจำวันต้องการความคล่องตัวในการทำงานตีนซิ่นก็ไม่จำเป็นต้องสวยงาม    ต่อเมื่อเวลามีงานจึงนำตีนซิ่นที่ทอลวดลายสวยงามมาเย็บต่อ 









 

ไทลื้อ  เป็นอีกกลุ่มชาติพันธุ์ที่เราเห็นรูปแบบการแต่งกายมากเป็นอันดับต้นๆ  ผู้หญิงชาวไทลื้อนิยมใส่เสื่อ  “ปั๊ด”  ลักษณะเป็นเสื้อแขนกระบอกยาว  รัดรูป  เอวลอย  มีสาบเฉียง  ผูกติดกันด้วยด้าย  สาบเสื้อและแขนนิยมใช้ผ้าแพรหลายสีมาตกแต่งเป็นริ้วต่อๆกัน  ส่วนผ้าซิ่นที่นิยมลวดลายจะอยู่ที่ตัวซิ่น  ตีนซิ่นเป็นผ้าพื้น  (ตรงข้ามกับการแต่งกายของหญิงชาวไท – ยวน)
 





 
 







 
ไทเขิน  คนไทเขินอาศัยอยู่ในเขตเชียงตุง  ลักษณะภูมิอากาศค่อนข้างหนาวเย็น  เพราะฉะนั้นผู้หญิงนิยมสวมเสื้อคล้ายเสื้อปั๊ดของหญิงชาวไทลื้อ  เคียนหัว  จุดเด่นของการแต่งกายของหญิงชาวไทเขินคือนิยมต่อส่วนล่างของผ้าซิ่นด้วยแพรสีเขียว







 
 




 
บล็อกเที่ยวทั่วๆไทยบล็อกหน้าจะเริ่มพาเที่ยววัดโบราณในอำเภอเชียงแสนกันนะครับ








 
 
 



 

อีกช่องทางหนึ่งในการติดตาม  “ทนายอ้วนพาเที่ยว”
 



Chubby Lawyer Tour  -  ทนายอ้วนพาเที่ยว
 

 
 https://www.facebook.com/ChubbyLawyerTour/
 
 


Chubby Lawyer Tour ………………….. เที่ยวไป ............. ตามใจฉัน










 
137136135
Create Date :15 กุมภาพันธ์ 2564 Last Update :15 กุมภาพันธ์ 2564 10:23:03 น. Counter : 1570 Pageviews. Comments :30