bloggang.com mainmenu search


ทริปนี้เป็นทริปปีใหม่หยุดยาว 4 วัน 30-2 ม.ค.61
ไฮไลท์หลักของทริปนี้ คือ ไปกางเต็นท์ในคืนเคาดาวน์ที่

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สว.1 (ท่าตาฝั่ง)
อุทยานแห่งชาติสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน

เลือกเส้นทางนี้เพราะต้องการเลี่ยงนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่
คิดว่าที่ "ท่าตาฝั่ง" คงจะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าใดนัก
ถนนหนทางเข้าไปลำบากเอาการอยู่

บ้านเราปักหมุดไว้ที่ 3 อำเภอ (3 คืน 4 วัน)
ได้แก่ อ.แม่สะเรียง อ.สบเมย และ อ.แม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
จุดหมายแรก คือ อ.แม่สะเรียง พักที่ โรงแรมริเวอร์เฮ้าส์


วันที่สอง 

ออกจากโรงแรมแวะตลาดสดแม่สะเรียงเตรียมเสบียงสำหรับแคมป์ปิ้ง
แวะไหว้พระขอพรให้เดินทางปลอดภัยที่ วัดจอมทอง หนึ่งในวัดพระธาตุสี่จอมของ อ.แม่สะเรียง
แล้วทำเวลามุ่งตรงจุดหมายที่สอง คือ บ้านแม่สาบแลบ อ.สบเมย

การเดินทางไปสู่ "ท่าตาฝั่ง" นั้น ไปได้ 2 เส้นทาง
เส้นทางแรก.. ไปทางอุทยานแห่งชาติสาละวิน ระยะทางจะใกล้กว่าเส้นทางที่สอง
แต่เป็นถนนลูกรังค่อนข้างลำบาก ต้องรถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น

บ้านเราเลือก เส้นทางที่สอง.. เส้นบ้านแม่สาบแลบ
เนื่องจากทริปนี้ มีเพื่อนขับรถเก๋งมาจากกรุงเทพร่วมแจมด้วย

จาก อ.แม่สะเรียง ไปยัง บ้านแม่สามแลบ ประมาณ 50 กว่ากิโลเมตร
เป็นถนนดำแต่ถนนชำรุดหลายแห่ง และมีดินสไลด์ปิดเส้นทางไปหนึ่งเลน
หลายจุด
เนื่องจากก่อนหน้านี้ฝนตกหนัก ถนนคดเคี้ยวและค่อนข้างแคบ

ถึงบ้านแม่สามแลบ จะมีทางแยกไป จุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-พม่า
เพื่อให้เพื่อนจอดรถข้ามคืนไว้ที่นี่ แล้วเดินทางโดยทางเรือเข้าไปยังท่าตาฝั่งอีกประมาณ 40 นาที

โดยหัวหน้าทริปอาสาขับรถขนของจากจุดผ่อนปรนเข้าไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานท่าตาฝั่ง
แล้วให้ที่เหลือนั่งเรือ เพื่อความสะดวกในแคมป์ปิ้งทริปนี้

ปะ.. ไปชมความงามของหาดทรายและบรรยากาศที่เงียบสงบ
ที่ "ท่าตาฝั่ง" ริมแม่น้ำสาละวิน กันเลยค่า



เพียงเวลาไม่นานไม่ถึง 2 ชั่วโมงจาก อ.แม่สะเรียง
เราก็มาถึง บ้านแม่สามแลบ เป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยง แล้วจะมีทางแยกขวามือ
ไปยังจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-พม่า

จากเส้นทางหลัก แยกเข้าไปยังจุดผ่อนปรนนั้น ทางค่อนข้างแคบมาก
รถแทบจะเดินได้เลนเดียว ถ้ามีรถสวนทางก็ต้องถอยยาว
หาจุดขับรถสวนกันเองเลยค่ะ






พอมาถึงก็ให้เพื่อนหาที่จอดรถทิ้งค้างคืนไว้ที่นี่ ฝากเจ้าหน้าที่ที่ดูแลจุดผ่อนปรนดูแลรถให้
แล้วก็จัดการมื้อเที่ยง เป็นข้าวผัดที่ซื้อใส่กล่องมาจากตัวเมืองแม่สะเรียง
ก่อนจะย้ายของใช้ส่วนตัวของเพื่อนมาไว้ที่รถอีกคันเป็นรถปาเจโร่

หัวหน้าทริปอาสาขับรถขนของเข้าไปที่ท่าตาฝั่ง
เสียสละให้ทุกคนได้นั่งเรือชมแม่น้ำสาละวิน ชมโขดหินสวยตลอดเส้นทาง

เส้นทางรถยนต์จากจุดนี้ เข้าไปยังหน่วยพิทักษ์ท่าตาฝั่งนั้น
เป็นทางลูกรัง ประมาณ 18 กิโลเมตร ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อและมอเตอร์ไซค์วิบากเท่านั้น
และต้องขับรถด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ 






เราเช่าเรือเหมาลำไว้ ราคา 1,800 บาท มีเสื้อชูชีพให้พร้อม
ราคานี้ เป็นราคาที่ให้เค้าค้างคืนกับเราที่หน่วยพิทักษ์ฯ ท่าตาฝั่ง รอรับเรากลับอีกวันหนึ่งเลย

ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการนอนของคนขับเรือ
เค้าเตรียมของเค้าไว้เรียบร้อย และก็นอนที่เรือที่จอดไว้ด้านล่างเลย

ถ้าหากไป-กลับแบบไม่ค้างคืน คิดราคาเหมาลำ 1,300 บาท
ถ้าให้เขาค้างคืนรอรับเรากลับเพิ่มอีก 500 บาท
เป็นเรือขนาดกลาง นั่งได้ 10 คน

ก่อนหน้านี้ ได้ยินมาว่าราคาเหมาเรือถูกกว่านี้
แต่บ้านเราไม่ซีเรียส เพราะเป็นช่วงเทศกาลหยุดปีใหม่ เพิ่มนิดหน่อย
แลกกับธรรมชาติที่สวยงาม แปลกตา เราก็โอเค..






จากจุดขึ้นเรืองตรงนี้ เราสามารถเช่าเรือลองไปเที่ยว อ.สบเมย ได้อีกหนึ่งเส้นทาง 
โดยล่องตามน้ำสาละวิน ใช้ระยะเวลาและระยะทางเท่ากันกับไปท่าตาฝั่ง และเรทเช่าเรือเดียวกัน
แต่เส้นทางนี้พี่คนขับเรือบอกว่ามีน้ำวนเยอะ คนขับเรือต้องระมัดระวังให้ดีค่ะ

แต่วันนี้ เราตั้งใจไปแคมป์ปิ้งเคาดาวน์ที่ หน่วยพิทักษ์ฯ ท่าตาฝั่งแล้ว
คราวหน้า ไว้ค่อยมาล่องแม่น้ำสาละวินไป อ.สบเมยกันเนอะ
พี่คนขับเรือบอกว่าถ้าไปสบเมย สามารถพาขึ้นฝั่งไปเที่ยวฝั่งพม่าได้อีกนะเออ ..ใครสนใจมั้ง















ผู้โดยสารพร้อม เรือพร้อม ตากล้อง(จำเป็น)พร้อม
ก็แยกย้ายกันเลย ไปเจอกันที่จุดนัดพบ คือ จุดกางเต็นท์ที่หน่วยพิทักษ์ฯ ท่าตาฝั่ง

จากจุดนี้ไป ใช้เวลาล่องทวนน้ำสาละวิน ประมาณ 40 นาที ถึงจุดหมาย
ถ้าล่องลงมาตามน้ำ(ขากลับ) ใช้เวลาเพียง 30 นาที






ตลอดเวลาที่นั่งเรือ โขดหินสวยตามสองข้างริมสายน้ำสลับกับหาดทรายขาวเป็นหย่อม ๆ
ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาฝากค่ะ เพราะตื่นเต้นและห่วงเจ้าลูกชาย 2 คน

เพื่อนเจ้าถิ่นแม่สะเรียงบอกว่า แม่น้ำสาละวินเห็นบนผิวน้ำนิ่ง ๆ แบบนี้
ด้านล่างน้ำไหลเชี่ยวกรากมาก อย่าประมาท อันตราย

เอาละสิ.. อิแม่มันว่ายน้ำไม่เป็น ส่วนลูกว่ายเป็นแต่ตัวเล็กอยู่
ส่วนพ่อมันอาสาขับรถขนของไปเจอกันด้านในนู๊น
ก็เลยแต่นั่งกอดลูก ภาวนาไปสุดทาง 555



ถึงแล้วค่ะ.. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สว.1 ท่าตาฝั่ง
อุทยานแห่งชาติสาละวิน  ที่ซุกตัวอยู่ในทิวไม้บนดอยลิบ ๆ เบื้องหน้า
จุดหมายและไฮไลท์หลักของทริปนี้

จากจุดจอดเรือ เราต้องแบกเป้ตะกายเนินทรายขึ้นไปเอง
เดินย่ำทรายไปอีกหน่อย จะเจอบันใดทางขึ้นไปยังหน่วยพิทักษ์ฯ ที่เจ้าหน้าที่ทำไว้

ดีที่หัวหน้าทริปอาสาขับรถโฟร์วิลขนของแคมปิ้งฝ่าทางลำบากเข้ามาให้
ไม่อย่างนั้นก็คงแบกของลงเรือขึ้นไปยังที่พักอานเลย แค่เดินตัวปลิวอย่างเหนื่อยหอบแฮ่ก














ขึ้นมาถึงที่ทำการของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก็บอกจุดประสงค์เรื่องกางเต็นท์
เราได้จองที่พักไว้ไว้ เป็นเต็นท์ 3 หลังพร้อมอุปกรณ์เรื่องนอน
ค่าใช้จ่ายค่าเต็นท์และอุปกรณ์ หลังละ 300 บาท/คืน/หลัง
มีเจ้าหน้าที่กางให้เสร็จสรรพ

มองลงไปด้านล่าง ก็จะเห็นเรือที่มาส่งเราจอดอยู่
พี่คนขับเรือจะกินนอนที่เรือ รอรับเรากลับสาย ๆ ในวันถัดไป
หากมีน้ำใจก็แบ่งปันเสบียงให้พี่เขาบ้างก็จะดียิ่งค่ะ






หน่วยพิทักษ์ฯ ท่าตาฝั่ง มีบ้านพักให้นักท่องเที่ยวด้วยนะคะ
แต่เพื่อนเจ้าถิ่นแม่สะเรียงติดต่อให้แล้วบอกว่าเต็ม แต่ที่เราไปถึง นทท.หร๋อมแหร๋มมากค่ะ

แต่เอาเถอะ.. กางเต็นท์ได้บรรยากาศกว่าเป็นไหน ๆ ว่ามั้ย

เต็นท์กว้างนอน 2-3 คนได้สบาย ๆ ไม่เหม็นอับ ชุดที่นอนเป็นของอุทยาน
เท่าที่เคยไปพักที่พักของอุทยาน จะใช้ชุดที่นอนสีและแบบเดียวกัน

ห้องน้ำห้องท่าก็แสนสบาย มีหลายห้อง ค่อนข้างสะอาดทีเดียว
เมื่อเทียบกับห้องน้ำอุทยานแห่งชาติที่อื่น ที่นี่นับว่าดีหนักหนาแล้วในช่วงเทศกาลแบบนี้
เจ้าหน้าที่เปิดไฟให้ทั้งคืน เป็นไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแผงโซล่าเซลล์



เจ้าหน้าที่กางเต็นท์ให้สักพัก คนขับรถบรรทุกของเราก็มาถึง
ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถเกือบชั่วโมง คนนั่งเรือมาถึงก่อน

ถ่ายรูปทางวิบากมาให้ตั้งสองรูป!!
บอกถ่ายมาให้ได้แค่นี้ นอกนั้นต้องใช้สมาธิในการขับรถ ก็.. ยังดีเนอะ^^






จัดการเรื่องที่หลับที่นอนเสร็จสรรพ ก็ได้เวลาชิลกันแล้วค่ะ
ก่อนจะพาไปเดินที่หาดทรายขาวสวย

มาทำความรู้จัก  อุทยานแห่งชาติสาละวิน กันสักนิด
ไหน ๆ ก็บุกบั่นมาถึงเที่ยวถึงนี่ละ

อุทยานแห่งชาติสาละวิน มีพื้นที่ครอบคลุมสองอำเภอ คือ อ.สบเมย กับ อ.แม่สะเรียง
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงสลับกับที่ราบริมฝั่งน้ำ เป็นป่าตามแนวชายแดนซึ่งมีแม่น้ำสาละวิน
กั้นพรมแดนระหว่างไทยกับพม่า  เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 78 ของประเทศไทย

มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมดถึง 720 กว่าตารางกิโลเมตร
ส่วนใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง มีสภาพป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์
มีหน่วยงานในพื้นที่ หรือที่เรียกว่าหน่วยพิทักษ์ถึง 4 หน่วย

ได้แก่ ท่าตาฝั่ง / ห้วยหวาย / ห้วยบง / แม่สามแลบ และ ศาลา
และทริปนี้ เราเลือกไปกางเต็นท์นอนที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สว.1 ท่าตาฝั่ง นั่นเอง

ที่หน่วยพิทักษ์ฯ ท่าตาฝั่งนี้ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีคลื่นสัญญาณมือถือทุกค่าย
แต่มีไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแผงโซลาเซลล์  และไม่มีร้านค้าอำนวยความสะดวก 
ดังนั้น นทท.จะต้องนำของกินโดยเฉพาะน้ำดื่มเข้ามาเอง

เอาละ.. ที่นี่เราก็ไปเดินเล่นยามเย็น ลัดเลาะไปตามริมน้ำสาละวินกันเลยค่า






จากจุดกางเต็นท์เดินลงมาด้านล่าง ลัดเลาะโขดหินไปทางขวามือ
สักพักก็จะเห็นหาดทรายขาวทอดตัวยาวสุดสายตาเลย

จะบอกว่ามองด้วยตาเปล่า มันสวยงามมาก
เม็ดทรายละเอียดยิบนุ่มมาก ถอดรองเท้าเดิน เดิน เดิน เดิน ไม่มีเบื่อหรือเหนื่อยเลย

เด็ก ๆ พากันวิ่งขึ้น สไลด์ลงเนินทรายเป็นว่าเล่น
เหมือนสนามเด็กเล่น ที่กว้างและยาวแบบไม่ต้องแย่งพื้นที่กับใครเขา
สวรรค์ของเด็ก ๆ เค้าล่ะ







































แสงไฟที่เห็น เราใช้ไฟจากพาวเวอร์แบงค์ค่ะ
ไปแคมป์ปิ้งในป่าบนดอยทีไร ขนพาวเวอร์แบงค์ที่มีไปเต็มอัตราศึก
แอดเซสซอรี่และพร็อบพร้อม สบายและไม่อดว่างั้น^^






มาชม บรรยากาศยามเช้า กันบ้างค่า
เมื่อคืนอากาศไม่เย็นเลยค่ะ เพราะที่ตั้งของท่าตาฝั่งใกล้ทะเล และมีโขดหินเยอะ
ตอนกลางคืน หินคลายความร้อนออกมา เลยทำให้อากาศอบอ้าวค่ะ

จริงแท้แน่นอนอย่างไรไม่รู้ เจ้าถิ่นเขาเล่ามาเราก็เล่าไป
แต่น่าจะเค้าความจริงอยู่บ้างค่ะ เพราะสุดสายแม่น้ำสาละวินเต็มไปด้วยโขดหินทั้งนั้น













เป็นมื้อเช้าที่แสนจะธรรมดา มาม่าคัพกับกาแฟทรีอินวัน
เสริฟพร้อมสายน้ำสาละวินทอดยาวกับแผ่นดินประเทศพม่าที่อยู่เบื้องหน้าตอนนี้

รู้สึกว่า.. กินมาม่าคัพที่ไหนๆ ก็ไม่อร่อยเท่านั่งกินที่นี่

แม่น้ำสาละวิน
ที่รู้จักกันอีกชื่อคือ แม่น้ำคง เป็นแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับที่ 26 ของโลก
มีความยาว 2,800 กิโลเมตร มีต้นกำหนดจากการละลายของหิมะเหนือเทือกเขาหิมาลัย
ไหลผ่านมณฑลยูนนานประเทศจีนแล้วไหลเข้าสู่ประเทศพม่า

เป็นแม่น้ำที่กั้นพรมแดนระหว่างพม่ากับไทย ที่ จ.แม่ฮ่องสอน
โดยแม่น้ำสาละวินนี้ทำหน้าที่กั้นเขตแดน ถึง 101 กิโลเมตร ที่เหลือเป็นสันเขากั้นเขตแดน 65 กิโลเมตร

ไหลลงมาบรรจบกับแม่น้ำเมย ที่ อ.สบเมย แล้วไหลวกกลับประเทศพม่า
และไหลลงสู่อ่าวเมาะตะมะต่อไป















แดดเริ่มไล่ที จำต้องเก็บข้าวของขึ้นรถ แล้วลงเรือกลับไปยังจุดผ่อนปรนการค้าฯ
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที แล้วรอรถออกมาจากหน่วยพิทักษ์ ซึ่งใช้เวลามากกว่าทางเรือ 
ก่อนจะเดินทางต่อไปยัง อ.แม่ลาน้อย อันเป็นจุดหมายที่สามของทริป

อีกภาพกับความประทับใจ "หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สว.1 ท่าตาฝั่ง"
อุทยานแห่งชาติสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน






ขอเบอร์พี่คนขับเรือมาฝากด้วยค่ะ เผื่อมีใครสนใจ..
พี่พล นายวีระ โทร.090-0608065 เป็นเรือขนาดกลาง นั่งได้ประมาณ 10 คน
บังหมาด โทร.089-4348393 เป็นเรือลำใหญ่ นั่งได้ประมาณ 15-18 คน

ราคาเหมาลำนี้ เราสามารถขอพี่เค้าขับเรือไปเที่ยว โรงพักเก่า และ หมู่บ้านท่าตาฝั่ง
เป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงคริส มีอาชีพหลักเกษตรกรรมปลูกข้าวดอยและถั่วเหลือง
เสร็จแล้วค่อยวนลงมายังที่พักที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ก็ได้


ทริปหน้าจะพาไปเที่ยว อ.แม่ลาน้อย
พาเที่ยว ถ้ำแก้วโกมล / หมู่บ้านห้วยห้อม  / โครงการหลวงแม่ลาน้อย
และ เฮินไต ที่พักสุดฮิปในอำเภอแม่ลาน้อยค่ะ

.. ปิดท้ายด้วยภาพนี้ค่ะ ..


Create Date :19 มกราคม 2561 Last Update :23 มกราคม 2561 16:54:29 น. Counter : 5651 Pageviews. Comments :47