14 ก.ค. 2021 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
หลังจากที่เราได้พูดถึงนางในวรรณคดีที่แอบแซ่บจนหนุ่ม ๆ ต้องร้องซี๊ดกันไปแล้ว วันนี้เรามาฉีกกฎความเป็นกุลสตรีผู้งดงามทั้งใบหน้า และกิริยาวาจากัน เพราะนาง ๆ เหล่านี้กลับมีฝีปากกล้า ด่ากราดจนคนฟังหน้าชามาแล้ว ใครจะด่าเก่งกว่าใคร มาดูกันเลย
6
คนแรกที่เราจะนำเสนอคือ นางมโนราห์ เธอคือต้นฉบับของสตรีฝีปากกล้าที่ด่ากราดแม้กระทั่งมารดาของตนเอง เพราะนิสัยที่ชอบเที่ยวเตร่ รักสนุก แม่ห้ามไม่ให้เล่นน้ำกับพี่ ๆ ก็ไม่ฟัง แถมนางยังเถียงคอเป็นเอ็นจนคนเป็นแม่ปรี๊ดแตกด่าว่า อีดอกทอง
2
นางได้ยินแบบนั้นมีหรือจะยอมให้โดนด่าฝ่ายเดียว นางจึงตอกกลับไปทันทีว่า
นางแม่ของลูกอา แม่มาด่าลูกไม่ถูกต้อง
ทั้งพี่ทั้งน้อง เหล่าเราดอกทองเหมือนกัน
ดอกทองสิ้นทั้งเผ่า เหล่าเราดอกทองสิ้นทั้งพันธุ์
ดอกทองเสมอกัน ทั้งองค์พระราชมารดา
7
อื้อหือ เจอด่าแบบนี้มีจุกไปตาม ๆ กันเลยจ้า
2
เห็นใส ๆ แบบนี้ก็ด่าเจ็บเหมือนกันนะจ๊ะ
นางในวรรณคดีฝีปากกล้าคนต่อไปมาเป็นแพ็กคู่นั่นคือ นางตะเภาแก้ว และนางตะเภาทอง จากเรื่องไกรทองนั่นเอง โดยคนที่พวกนางด่าคือ วิมาลา จระเข้สาวที่ไกรทองพาเข้ามาในบ้าน หลัวพาภรรยาน้อยเข้ามาในบ้านขนาดนี้ มีหรือภรรยาหลวงจะพอใจ พอสบโอกาสทีมเมียหลวงพร้อมคนใช้จึงรุมด่าชุดใหญ่ไฟลุกท่วม
1
ไม่เหมือนอีอุบาทว์ชาติกุมภีล์ ตัวกะลีกะลำส่ำสาม
ลอยหน้าลอยตาว่าข้างาม แต่งจริตติดตามผัวกูมา
กูจะว่าให้สาสมใจ อีจัญไรร้อยแปดแพศยา
แม้นไม่เข็ดหลาบยังหยาบช้า จะให้ข้ากูตบไสคอไป
2
ว่าแล้วสองพี่น้องก็ยกทัพกับคนใช้เข้าตบตีนางวิมาลา แต่อย่าลืมนะคะว่านางวิมาลาเป็นจระเข้ พอถูกตบ มนต์ที่แปลงกายก็เสื่อม นางจึงกลายร่างกลับไปเป็นเป็นจระเข้ตามเดิม แล้วไล่กัดสองพี่น้องกับเหล่าคนใช้จนวิ่งหนีหางจุกก้น
2
ผัวข้าใครอย่าแตะ แม่พร้อมตบ
คนต่อมาหลายคนคงจะแปลกใจไม่น้อย เพราะเธอคือนางพิกุลทอง ซึ่งเป็นที่มาของสำนวน กลัวดอกพิกุลจะร่วง ประชดคนพูดน้อยนั่นเอง แต่รู้หรือไม่ว่าเรื่องด่า เธอก็ไม่ได้เป็นสองรองใครเลย โดยเรื่องมันเกิดจากพญาแร้งคาบหมาเน่าลอยน้ำมาในขณะที่นางกำลังอาบน้ำพอดี ทำให้นางด่ากราดพญาแร้งเพราะหัวเสียที่ตัวเองต้องมาอาบน้ำในน้ำแช่ศพว่า
นางจึงร้องตอบไปด้วยพลัน ชาติมึงอย่างนั้นจึงสมใจ
กินของโสโครกทั้งตาปี กูเหม็นซากผีกูด่าให้
ลอยมาท่าฉนวนของกูไย อ้ายแร้งจัญไรอ้ายหูยาน
2
พญาแร้งได้ยินแบบนั้นก็โกรธสิจ๊ะ ไล่จับนางกินให้หายแค้นจนนางต้องหนีหัวซุกหัวซุนวุ่นวายเลยทีเดียว
1
เป็นสาวหวานก็ด่ากราดได้เหมือนกันนะ
คนที่สี่นี้คือ นางวันทองคนเดิมเพิ่มเติมคือความปากจัด โดยคำด่าของเธอนั้นเล่นเอาคนฟังถึงกับหน้าชาไปตาม ๆ กัน โดยเรื่องมันเกิดจากนางไม่พอใจที่ขุนช้างคอยตามวอแว แถมยังยกขันหมากมาสู่ขอทั้ง ๆ ที่เธอไม่เคยชายตาแล นางจึงเรียกคนใช้หัวล้านแถวนั้นมาด่ากระทบขุนช้างที่ไม่เจียมตัว
3
อ้ายเจ้าชู้ลอมปอมกระหม่อมบาง ลอยชายลากหางเที่ยวเกี้ยวหมา
ชิชะแป้งจันทร์น้ำมันทา หย่งหน้าสองแคมเหมือนหางเปีย
หมามันจะเกิดชิงหมาเกิด มึงไปตายเสียเถิดอ้ายห้าเบี้ย
หน้าตาเช่นนี้จะมีเมีย อ้ายมะม่วงหมาเลียไม่เจียมใจ
5
ถ้าคุณเป็นขุนช้าง คุณจะทำยังไง ?
คำว่าตื๊อ ใช้ไม่ได้กับแม่นะจ๊ะ
มาถึงคนสุดท้ายที่เป็นตัวร้ายในวรรณคดีชื่อดังที่ใคร ๆ คงรู้จักกันดี นั่นคือนางผีเสื้อสมุทร ในตอนที่นางตามพระอภัยมณี และลูกไปยังเกาะแก้วพิสดาร พระอภัยมณีจึงตัดสินใจเป่าปี่สังหารนาง แต่ตายเฉย ๆ โลกคงไม่จำ นางผีเสื้อสมุทรจึงหันไปด่านางเงือกสักยกก่อนจะสิ้นใจว่า
2
แล้วชี้หน้าด่าอึงหึงนางเงือก ทำซบเสือกสอพลออีตอแหล
เห็นผัวรักยักคอทำท้อแท้ พ่อกับแม่มึงเข้าไปอยู่ในท้อง
ทำปั้นเจ๋อเย่อหยิ่งมาชิงผัว ระวังตัวมึงให้ดีอีจองหอง
พลางเข่นเขี้ยวเคี้ยวกรามคำรามร้อง เสียงกึกก้องโกลาลูกตาโพลง
1
อย่าให้แม่ต้องโกรธ
โอ้โห คำพูดคำจาของพวกนางแต่ละคนนี่เล่นเอาคนอ่านถึงกับต้องเรียก “แม่” เพราะความปากร้ายยืนหนึ่งที่โลกต้องจารึก
2
รู้หรือยัง ?
เรามีเพจ Facebook ให้ติดตามกันแล้วนะคะ ไปติดตามกันได้แล้วคลิกเลย https://www.facebook.com/KODUNGKAO1997
6
ขอบคุณข้อมูลจาก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา