ว่านนางคุ้ม ชื่อวิทยาศาสตร์ : Proiphys amboinensis วงศ์ : AMARYLLIDACEAE ชื่อสามัญ : Cardwell Lily, Northern Christmas Lily ชื่ออื่นๆ : ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน
ลักษณะทั่วไป เป็นว่านที่มีหัวอยู่ใต้ดิน ลักษณะคล้ายหอมหัวใหญ่ ซึ่งหัวประกอบไปด้วยกลีบของหัวที่เรียงซ้อนกันอยู่จนเป็นหัวกลม ใบกลมใหญ่ หนา คล้ายใบฟักทอง มีสีเขียว ก้านใบยาวสีเขียวแก่ ดอกออกเป็นช่อจากกลางกอ ก้านดอกเป็นแท่งสูงตรง จะมีดอกตูมก่อนแล้วบานเป็นสีขาว แต่ละดอกประกอบด้วยกลีบ 6 กลีบ เกสรสีเหลือง มีกลิ่นหอม การปลูก ดินที่จะนำมาปลูกว่านนางคุ้ม ให้นำไปเผาไฟเสียก่อน แล้วทุบดินให้แตกละเอียด แล้วตากน้ำค้างทิ้งไว้ 1 คืน จึงนำดินใส่กระถางสำหรับปลูกวางหัวว่านกลางกระถางแล้วกลบดินไม่ต้องให้ดินปิดหัวว่านจนมิด ให้หัวว่านโผล่ขึ้นมาเล็กน้อย รดน้ำพอเปียกเท่านั้น อย่าให้น้ำมากไป เพราะจะทำให้หัวว่านเน่าได้ รดน้ำ เช้า-เย็น อย่างสม่ำเสมอ การขยายพันธุ์ : โดยการแยกหัว
|
ว่านนางล้อม ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eurycles amboinensis วงศ์ : AMARYLLIDACEAE ชื่ออื่นๆ : บัวเงิน (ร้อยเอ็ด), บัวบก (เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน)
ลักษณะทั่วไป เป็นว่านที่มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ในหนึ่งกอจะมีหัวใหญ่อยู่ 1 หัว อยู่ตรงกลางกอ มีหัวเล็กๆ ซึ่งเกิดทีหลังเรียงรายอยู่รอบๆ หัวใหญ่ ลักษณะของหัวเป็นสีเขียว กลมเรียวเป็นมัน ใบแตกตรงส่วนยอดของหัวว่าน ใบคล้ายใบกุยช่ายพื้นใบสีเขียว ใบแคบเล็ก ยาว ขอบใบทั้งสองข้างใบจะเป็นเส้นขนานปลายใบแหลม ผิวและขอบใบเรียบ ไม่มีจัก ไม่มีก้านใบ การปลูก ให้ปลูกในดินร่วนปนทราย ที่ระบายน้ำได้ดี และควรปลูกใส่กระถางปากกว้าง ทรงเตี้ย แล้วจัดวางกระถางว่านไว้ในที่ร่มรำไร อย่าให้โดดแดดจัด รดน้ำเฉพาะตอนเช้า เพียงวันละหนึ่งครั้งก็พอ รดน้ำให้ชุ่ม แต่อย่าให้แฉะ เพราะจะทำให้หัวว่านเน่าได้ การขยายพันธุ์ : ขยายพันธุ์โดยการแยกหัว
|
ว่านมหาโชค ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eucharis spp. วงศ์ : AMARYLLIDACEAE
ลักษณะทั่วไป ว่านมหาโชคมีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน ภายในหัวจะเป็นกลีบเรียงตัวซ้อนกันอยู่ คล้ายหัวหอมใหญ่ ส่วนที่โผล่พ้นผิวดินจะเป็นกาบใบ ใบ และดอกเท่านั้น ใบลักษณะคล้ายใบพาย ปลายใบแหลม โคนใบค่อยๆ สอบเข้าหาก้านใบ พื้นใบสีเขียวเป็นมัน มีเส้นเรียงเป็นแถวตามแนวยาวของใบเล็กน้อย ก้านดอกเป็นทรงกรวยยาวประมาณ 30-40 ซม. ตรงปลายก้านแยกออกเป็น 5–7 ก้าน มีดอกสีขาวปลายก้าน มีกลีบเรียงซ้อนๆ กันเป็นทรงกลม 6 กลีบ มีเกสรกลางดอกเป็นสีเหลืองอ่อน และยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย การปลูก ควรปลูกในดินปนทราย รดน้ำแต่ปานกลางพอให้ดินชุ่ม และให้ได้รับแสงแดดรำไร การขยายพันธุ์ - ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อไปปลูก
|
ว่านมหาลาภ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Phaedranassa spp. วงศ์ : AMAPYLLIDACAE ชื่ออื่นๆ : ว่านหงสาวดี
ลักษณะทั่วไป ว่านมหาลาภมีลักษณะต้นเหมือนว่านมหาโชค คือลำต้นเป็นหัวใต้ดิน หัวเหมือนหอมหัวใหญ่แต่มีขนาดเล็กกว่า ใบรูปใบพาย แต่ค่อนข้างสั้นและป้อม ปลายใบโค้งมนแหลม โคนใบค่อยๆ สอบเข้าหาก้านใบ พื้นใบเรียบสีเขียวเป็นมัน ก้านใบจะยาวกว่าใบเล็กน้อย ก้านดอกพุ่งตรงขึ้นมาจากกลางลำต้นสูงประมาณ 30-40 ซม. ออกดอกเป็นกลุ่มแล้วทยอยกันบาน ดอกสีแสดปนเหลือง กลีบดอกค้อนข้างเล็กและยาว ปลายกลีบมน เกสรยาวลงสู่พื้นดิน ส่วนปลายเกสรงอนขึ้นเล็กน้อย ช่อดอกหนึ่งๆ มีดอกประมาณ 3-7 ดอก ขึ้นกับความสมบูรณ์ของต้น การปลูก ว่านมหาลาภเจริญงอกงามได้ดีในดินร่วนปนทราย และผสมดินลูกรังสีแดงด้วย ควรให้มีการระบายน้ำที่ดี เพราะหากน้ำขังจะทำให้หัวว่านเน่าได้ หากปลูกในกระถางปากกว้างจะเหมาะมาก เพราะใบจะปกคลุมปากกระถางดูสวยงาม เป็นไม้ที่ไม่ชอบแดดจัดนักจึงควรจัดให้ได้รับแสงปานกลาง รดน้ำแต่ตอนเช้า การขยายพันธุ์ - โดยการแยกต้น
|
ว่านรางนาก ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hippeastrum spp. วงศ์ : AMARYLLEDACEAE
ลักษณะทั่วไป ว่านรางนากเป็นหัวกลมคล้ายหอมหัวใหญ่ ฝังอยู่ใต้ดิน ใบจะงอกจากหัว ลักษณะใบหนาและแข็ง โคนใบจะเป็นกาบในรูปหอก ปลายใบแหลมมน ขอบใบเรียบ ไม่มีจัก ใบสีเขียวเข้ม หน้าใบมีร่องกลางใบเป็นสีขาวลากยาวตลอดใบ โคนใบด้านหลังเป็นสีแดง หรือแดงปนม่วง ดอกลักษณะเดียวกับว่านสี่ทิศ มีสีชมพูแสด โดยก้านดอกจะมีสีเขียวนวลยาวสูงพ้นใบ ดอกเป็นรูปกรวย ปลายดอกแยกออกเป็น 6 กลีบ ช่อหนึ่งจะมีดอก 2-4 ดอก การปลูก ว่านรางนากชอบดินร่วนปนทราย ควรมีอิฐทุบละเอียดผสมผงถ่าน หรือใบไม้ผุ เวลาปลูกให้หัวว่านโผล่พ้นดินเล็กน้อย รดน้ำปานกลางเช้า–เย็น ควรอยู่ที่แดดร่มรำไร ปลูกในกระถางทรงเตี้ยจะงามยิ่งนัก การขยายพันธุ์ - ขยายพันธุ์โดยการใช้หัว
|
ว่านไชยมงคล ชื่อวิทยาศาสตร์ : Crinum spp. วงศ์ : AMARYLLEDACEAE ชื่ออื่นๆ : ศรีกันไชย เศรษฐีสอด
ลักษณะทั่วไป เป็นว่านมีหัวเหมือนหอมหัวใหญ่ มีลำต้นซึ่งประกอบด้วยกาบก้านใบเรียวซ้อนกันหลายกานลำต้นสีขาว ใบเหมือนใบพลับพลึง แต่มีขนาดแคบกว่า พื้นใบสีเขียว ปลายใบมักมัดสอดอยู่อีกปลายใบหนึ่งต่อเนื่องกันไป ดอกสีขาวเหมือนดอกพลับพลึง การปลูก ควรปลูกด้วยดินร่วนปนทรายชอบน้ำ แต่อย่าให้แฉะ ควรจัดวางกระถางว่านไว้ในที่ร่ม หรือให้ถูกแสงแดดเพียงรำไร รดเช้าเย็น การขยายพันธุ์ - ขยายพันธุ์โดยการใช้หัว
|
ว่านแร้งคอดำ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Crinum latifolium Linn. วงศ์ : AMARYLLEDACEAE ชื่ออื่นๆ : ว่านแร้งคอดำ, ว่านคอแดง (กรุงเทพฯ), ว่านแร้งคอคำ (ภาคกลาง), ว่านคอแดง (ภาคใต้)
ลักษณะทั่วไป เป็นพรรณไม้ล้มลุก มีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน ลักษณะหัวกลมคล้ายหอมหัวใหญ่ ใบมีลักษณะเป็นรูปขอบขนานยาวเรียว ขอบใบเป็นคลื่นบาง มีความยาวประมาณ 60-90 ซม. กว้างประมาณ 7-10 ซม. ดอกออกเป็นช่อ เป็นกระจุกประมาณ 10-20 ดอก ตรงปลายช่อ ดอกตูมมีลักษณะเป็นรูปหอกมีกาบหุ้มยาวประมาณ 7-10 ซม. อยู่บนก้านดอกสั้นๆ ก้านดอกอวบหนามีความยาวประมาณ 60-90 ซม. กลีบดอกแยกเป็น 6 กลีบ และมีความกว้างกว่าดอกพลับพลึง เป็นสีขาว หรือแต้มด้วยสีแดงตรงกลาง หรือทางด้านหลังของกลีบ ส่วนเกสรตัวผู้จะมีอู่ 6 อัน และมีอับเรณูเป็นรูปโค้ง การปลูก ชอบดินร่วนปนทราย ที่ระบายน้ำได้ดี ชอบความชื้นสม่ำเสมอ ควรอยู่ที่แดดรำไร การขยายพันธุ์ - ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ
|
ว่านกุมารทอง ชื่อวิทยาศาสตร์ : Haemanthus multiforus (Tratt.) Martyn. วงศ์ : AMARYLLEDACEAE ชื่อสามัญ : Blood flower, Powder puff lily ชื่ออื่นๆ : ว่านกระทุ่ม ว่านตะกร้อ (เหนือ) ว่านแสงอาทิตย์ (กรุงเทพฯ)
ลักษณะทั่วไป เป็นพันธุ์ไม้ล้มลุกที่มีลำต้นใต้ดิน ลักษณะหัวว่านคล้ายหอมหัวใหญ่ เปลือกที่หุ้มหัวมีสีน้ำตาลไหม้ และมีจุดสีแดงคล้ำประทั่วหัว ส่วนล่างของหัวมีรากออกเป็นกระจุกหนาแน่นดูเหมือนแท่นหรือฐานรองหัว ทำให้ดูคล้ายเด็กนั่งอยู่บนแท่นไว้ผมจุก จึงถูกเรียกชื่อว่า "ว่านกุมารทอง" ลำต้นส่วนที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวดินจะมีลักษณะกลม สีเขียว มีจุดสีแดงคล้ำตลอดทั้งก้าน ใบเป็นใบเลี้ยงเดี่ยว ลักษณะใบรีแกมรูปขอบขนาน ปลายใบมน โคนใบสอบเรียว ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย พื้นใบเป็นสี เขียวสด บิดตัวเป็นคลื่นเล็กน้อย ก้านใบเป็นรูปครึ่งวงกลม หรือหวายผ่าซีก แตกใบตรงส่วนยอดของต้นหรือก้านใบ ดอกจะออกก่อนใบ เมื่อดอกโรยแล้วใบจึงจะแทงขึ้นจากหัวใต้ดิน ดอกเป็นช่อแบบช่อซี่ร่ม ลักษณะของช่อดอกกลม ช่อหนึ่งๆ ประกอบด้วยดอกเล็กๆ หลายดอก ซึ่งแต่ละดอกมีกลีบดอกเป็นเส้นฝอยสีแดง ตรงปลายเป็นสีเหลืองเล็กน้อย ก้านดอกยาวมีสีเขียว ดอกดูสวยงามมาก โดยส่วนใหญ่แล้วดอกจะออกประมาณเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมของทุกปี การปลูก ใช้ดินปนทรายหรือดินเผาไฟเป็นดินปลูก กลบดินพอมิดหัวว่าน ว่านต้นนี้ชอบความชื้นสูง ควรตั้งไว้ในที่ร่มรำไร การขยายพันธุ์ : ขยายพันธุ์ด้วยการแยกต้นที่เกิดใหม่หรือหัวใต้ดิน
|