วิธีเลือกปลาสลิดและการเก็บด้วย เครื่องแพ็คสูญญากาศ

ปลาสลิด เป็นชื่อปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง ที่เนื้อมีรสชาติอร่อยมาก โดยเฉพาะในช่วงที่มันมีไขมัน และช่วงที่มีไข่ จะเป็นอาหารที่คนโปรดปราน แต่ไม่นิยมทานสดมากเท่ากับการนำไปทำเป็นปลาแดดเดียวเสียก่อน ซึ่งปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงปลาสลิดเพื่อทำปลาแดดเดียวจำหน่ายกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน โดยเฉพาะ อำเภอบางบ่อ และบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนั้นก็ยังมีเพาะเลี้ยงกันอีกในหลายพื้นที่ แหล่งใหญ่ที่สุดในปัจจุบันคือ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร แต่ก็พบว่ามีบ่อยครั้งเวลาที่ซื้อกลับมารับประทานมักจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นปลาที่มักมีกลิ่นตุๆ เนื้อยุ่ย เอาง่ายๆ ว่ามันชักจะเน่า !

ซึ่งจริงๆ มันก็เป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้เพราะเราต้องไม่ลืมว่า ปลาสลิดที่เขาเอามาขาย มันไม่ใช่ปลาแห้ง แต่เป็นปลาแดดเดียว คือตากผ่านแดดแค่วันเดียว เอาแค่พอแห้งข้างนอกเท่านั้น ในเนื้อปลายังมีความชื้นอยู่ ดังนั้นมันย่อมไม่สามารถอยู่ได้นานในที่อุณหภูมิปกติได้หลายวันโดยไม่เป็นไรเหมือนปลาแห้ง ซึ่งเรื่องนี้เราต้องรู้จักวิธีเลือกซื้อ และเมื่อเอากลับมาบ้านแล้วก็ควรรีบรับประทาน ไม่เช่นกันก็ควร จัดการบรรจุมันเอาไว้ด้วยการใช้ เครื่องแพ็คสูญญากาศขนาดเล็ก ก่อนเอาเก็บเข้าตู้เย็นเพื่อให้อยู่ได้นานขึ้น และป้องกันปัญหาเรื่องกลิ่นของปลาไปรบกวนอาหารอื่นในตู้เย็น

การเลือกปลาสลิดแดดเดียว เวลาที่ไปซื้อให้เลือกดูปลาที่ตัวออกสีขาวๆ ลองเอามือกดๆ ดู ต้องไม่แข็งมาก หรือนิ้มจนนิ้วกดแล้วบุ๋มเป็นรอย เนื้อต้องมีความเด้งดีดสะท้อนเหมือนปลาสดอยู่บ้าง และเมื่อซื้อเอากลับมาถึงบ้านแล้วก็ควรจะเอาไปตากแดดซ้ำอีกสัก แดดสองแดด เพื่อให้แห้งสนิทเก็บได้นานขึ้น แต่หากกลัวว่ามันจะแห้งเกินไปเนื้อแข็งไม่อร่อย ก็ตากอีกแค่ครึ่งวันก็พอ แล้วเอาไปบรรจุลงใน ถุงซีลสูญญากาศ แล้วเก็บเข้าตู้แช่เย็น ก็ทำให้สามารถรักษาสภาพมันได้นานเช่นเดียวกัน

หรือหากต้องการเก็บนานมากๆ จะเอาปลาที่บรรจุด้วย เครื่องแพ็คสูญญากาศ ไปแช่ไว้ในชั้นแช่แข็งเลยก็ได้ แบบนี้หมดกังวลเรื่องการเน่าเสีย เก็บได้นาน และยังไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นเหม็นอีกด้วย

ภาพประกอบจาก : taxclinic.mof.go.th