ถ้ำลอด เป็นถ้ำขนาดใหญ่ในอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ถ้ำแห่งนี้มีสายน้ำไหลผ่านตั้งแต่ปากทางเข้าถ้ำไปจนถึงถ้ำสุดท้ายที่อยู่ภายในโพรง สายน้ำกัดเซาะโพรงถ้ำแห่งนี้มากกว่าล้านปี ก่อเกิดเป็นถ้ำใหญ่ ๆ 3 แห่ง ได้แก่ ถ้ำเสาหิน ถ้ำตุ๊กตา และถ้ำผีแมน การเข้าไปในทั้งสามถ้ำ ด้วยความที่มีน้ำ จึงต้องอาศัยการนั่งแพเข้าไป นักท่องเที่ยวเดินเข้าไปเองไม่ได้ ผมจึงต้องใช้บริการของ "ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าถ้ำลอด" ซึ่งเป็นกลุ่มชาวบ้านที่รวมตัวกันมาจัดการการท่องเที่ยวในชุมชนของตัวเอง ตามแนวทางการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยผู้ชายมาทำหน้าที่ถ่อแพ ส่วนผู้หญิงทำหน้าที่เป็นผู้นำทาง รายได้จากนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่ม (จำกัดให้แต่ละกลุ่มไม่เกิน 4 คน) คือ 400 บาทสำหรับค่าแพ และ 150 บาทสำหรับค่าผู้นำทาง การท่องเที่ยวเชิงนิเวศคือการท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญกับการวิถีธรรมชาติ มุ่งเน้นการอนุรักษ์เพื่อความยั่งยืน การท่องเที่ยวเชิงนิเวศของถ้ำลอดเป็นอย่างไร จากการสังเกตของผม ผสมรวมกับคำบอกเล่าของคุณป้าที่นำเที่ยว ได้ความเช่นนี้ ประการแรก การท่องเที่ยวในถ้ำลอดนั้นไม่ก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งก็คือตัวถ้ำลอดเองรวมถึงบริเวณข้างเคียง เป็นเพราะว่าการจัดการการท่องเที่ยวในถ้ำลอดเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ไว้เพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน บริเวณถ้ำลอดจึงมีการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยการจัดแบ่งพื้นที่ในการใช้ประโยชน์ออกเป็นสามส่วน นั่นก็คือในตัวถ้ำเองจะถือเป็นพื้นที่สงวนซึ่งจะไม่มีการก่อสร้างสิ่งแปลกปลอมใด ๆ เข้าไป ทำให้ยังคงมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ ถัดออกมาจึงจะเป็นพื้นที่อนุรักษ์ซึ่งจะเป็นระยะทางประมาณ 350 เมตรที่นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้ามาจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจนถึงปากถ้ำ ซึ่งบริเวณนี้เองที่จะทำหน้าที่เป็นกันชนไม่ให้ตัวถ้ำลอดได้รับความเสื่อมโทรมอันเนื่องมาจากกิจกรรมในพื้นที่บริการ โดยในพื้นที่บริการจะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ห้องน้ำ จำหน่ายสินค้า มีที่กางเตนท์พักแรม โดยทั้งหมดอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวโดยไม่กระทบกับธรรมชาติของพื้นที่สงวนที่อยู่ลึกเข้าไป ดังที่บอกไว้ว่า การจะเข้าชมถ้ำลอดได้นั้นจะต้องจ้างผู้นำทางซึ่งเป็นชาวบ้านพานั่งแพเข้าไปในถ้ำ ทำให้นักท่องเที่ยวต้องเดินไปตามทางที่จัดให้เท่านั้น จึงลดโอกาสที่จะเกิดความเสื่อมโทรมของธรรมชาตินอกเส้นทาง รวมทั้งจะมีการควบคุมดูแลโดยผู้นำทางทำให้นักท่องเที่ยวไม่มีโอกาสได้กระทำการอันเป็นการทำลายสภาพธรรมชาติ จากการสังเกตของผมในวันนี้ ผมประทับใจบทบาทของชาวบ้านที่ช่วยกันจัดการการท่องเที่ยวโดยให้ความสำคัญกับการดูแลสภาพธรรมชาติของถ้ำลอด คงเพราะชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ทุกคนเห็นถึงประโยชน์จากถ้ำลอดที่เป็นขุมทรัพย์ด้านการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้มหาศาลให้แก่พวกเขา ชาวบ้านไม่เหมือนกับนายทุนที่สามารถย้ายไปลงทุนที่อื่นได้เมื่อเกิดความเสื่อมโทรม แต่ชาวบ้านจะต้องอยู่และหากินในบริเวณนี้ไปตลอดชีวิต ลุง ๆ ป้า ๆ จึงมีจิตสำนึกที่จะดูแลสภาพธรรมชาติของถ้ำลอด ไม่ว่าจะเป็นการเน้นย้ำกับนักท่องเที่ยวตลอดเวลา การไม่ก่อสร้างสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในถ้ำ การมีข้อตกลงร่วมกันที่จะไม่จับปลาพลวงในถ้ำไปกิน เป็นต้น ประการที่สอง กลุ่มชาวบ้านจัดเต็มความรู้ให้ผมในทุกด้าน เพื่อให้ได้มีความรู้ติดตัวกลับออกไปไม่ใช่ได้แต่เพียงความเพลิดเพลินเท่านั้น ถ้ำบางแห่งปล่อยให้นักท่องเที่ยวเดินชมกันเอง ก็เลยได้แต่เดินชื่นชมความงามของหินงอกหินย้อยเท่านั้นโดยไม่ได้ความรู้อะไร แต่ที่ถ้ำลอด ผู้นำทางจะคอยบรรยายตลอดทั้งความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการเกิดหินงอกหินย้อย ทั้งประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเกี่ยวกับความเป็นมาของถ้ำ ทั้งตำนานพื้นบ้าน ทั้งความเชื่อต่าง ๆ รวมถึงตอบข้อข้องใจของนักท่องเที่ยวได้อย่างชำนาญ ประการสุดท้าย การจัดการท่องเที่ยวที่นี่นั้นจะยอมรับถึงข้อจำกัดของสภาพแหล่งท่องเที่ยว กล่าวคือถ้ำลอดเป็นถ้ำที่มีน้ำไหลผ่านและภายในก็มืดมาก ทางเดินก็เดินค่อนข้างลำบาก จึงไม่ใช่เรื่องน่าถูกใจนักของนักท่องเที่ยวที่รักความสบาย แต่ที่นี่ก็จัดการท่องเที่ยวโดยยอมรับในข้อจำกัดนี้และไม่พยายามจะสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เข้าไป ไม่มีการติดไฟเพื่อให้สว่าง แต่จะใช้เพียงตะเกียงดวงเล็ก ๆ นำทางเพื่อที่จะไม่ก่อความเสียหายแก่หินงอกหินย้อย ไม่มีการเทปูนลาดทางเดิน ไม่มีการทำบันไดใหญ่ ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างจึงยังคงอยู่ในสภาพธรรมชาติล้วน ๆ สภาพแวดล้อมภายในถ้ำจึงไม่ถูกทำลาย การจัดการท่องเที่ยวของสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งเป็นการจัดการท่องเที่ยวแบบทุบหม้อข้าวตัวเอง คือพยายามกอบโกยเอาผลประโยชน์ทุกอย่างให้มากที่สุด แต่ไม่นานนักเมื่อแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรมก็จะไม่มีสถานที่ให้ถ้ำมาหากินอีก แต่ชาวบ้านถ้ำลอดเลือกที่จะจัดการท่องเที่ยวตามหลักการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ทำให้ถึงแม้ว่าแต่ละวันพวกเขาจะรองรับนักท่องเที่ยวได้น้อยเพราะข้อจำกัดเรื่องคนนำทาง แพ หรือระยะห่างของแต่ละกลุ่มที่จะต้องทิ้งช่วงกัน แต่พวกเขาก็มั่นใจได้ว่า ถ้ำลอดจะเป็นทรัพยากรที่สร้างผลประโยชน์ให้กับพวกเขาอย่างยั่งยืนไปชั่วลูกชั่วหลาน ถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน 75 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ตามทางหลวงหมายเลข 1095 พิกัด https://goo.gl/maps/3vnuLdecwmjChHUi6 รูปภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน