“เขาช้างเผือก ” เส้นทางเดินป่าระยะไกลและเส้นทางศึกษาธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ใหม่ แต่กำลังเป็นสถานที่ฮอตฮิตติดลมบน ของนักเดินป่ามือใหม่ และมือฉมังทั้งหลาย อีกทั้งยังขึ้นชื่อได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไปยากที่สุดที่หนึ่งในขณะนี้อีกด้วย
อย่าเพิ่งตกอกตกใจกันไปว่าเขาช้างเผือกนั้นมีเส้นทางที่โหดร้ายอะไรมากมาย ที่ล่ำลือกันว่าไปยากนั้นเพราะทางอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิอนุญาติจำกัดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปพักได้คืนล่ะไม่เกิน 60 คนเท่านั้น เนื่องด้วยพื้นที่ในการตั้งแค้มป์ด้านบนมีเพียงกระหยิบมือเดียว แต่พื้นที่กระหยิบมือเดียวนั้นก็อัดแน่นไปด้วยทัศนียภาพที่สวยบาดจิตบาดใจ ชนิดที่ต้องแย่งชิงกันอย่างดุเดือน นอกจากพื้นที่ในการตั้งแค้มป์จะจำกัดแล้วนั้น จำนวนวันเวลาที่ทางอุทยานเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ยลโฉมงามๆ ของเขาช้างเผือกได้ ยิ่งจำกัดมากกว่า เพราะเขาช้างเผือกเปิดให้ท่องเที่ยวเข้าชมได้เพียงปีล่ะ 3 เดือนเท่านั้น! นั่นคือเดือน พฤศจิกายน, ธันวาคม และ มกราคม ของทุกปี และนักท่องเที่ยวทุกคนต้องโทรมาจองคิวล่วงหน้า เพื่อเตรียมเจ้าหน้าที่นำทางและลูกหาบ สำหรับคนที่หวังไปตายเอาดาบหน้าโดยแบกเป้เดินดุ่มๆ ไปหน้าอุทยานนั้น เห็นจะต้องคอตกผิดหวังไปตามๆ กัน
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จะเริ่มเปิดให้จองการเดินทางขึ้นเขาช้างเผือกตั้งแต่เดือนตุลาคมของทุกปี ถ้าโทรไปก่อนหน้านั้นก็ไร้ซึ่งความหมาย เพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถให้คำตอบอะไรได้ เนื่องด้วยต้องรอเกี่ยวกับฝนฟ้าอากาศของปีนั้นๆ ว่าจะเป็นใจเปิดรับนักท่องเที่ยวได้เมื่อใด ไม่มีใครสามารถบังคับธรรมชาติได้ดั่งใจนึก เราจึงทำได้เพียงแค่ “ รอ” ให้ธรรมชาติอนุญาติให้เราเมื่อไหร่ เท่านั้น และด้วยความ “จำกัด” ของทุกๆ อย่าง ทำให้เขาช้างเผือกเป็นอีกหนึ่ง สถานที่ที่ผู้คนมากมาย ร่ำร้อง อยากจะไป เห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง
เหตุผลที่ทางอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการขึ้นไปท่องเที่ยวบนเส้นทางเขาช้างเผือกมากมายขนาดนี้เนื่องมาจาก เขาช้างเผือก มีสภาพป่าทั่วไปเป็นทุกหญ้าโล่งกว้างมีหญ้าขึ้นสูงและต้นไม้ใหญ่นั้นมีน้อย ทำให้เขาช้างเผือกเกิดไฟป่าได้ง่ายในช่วงฤดูร้อน อีกทั้งกาญจนบุรีขึ้นชื่อเรื่องฤดูร้อนที่ร้อนเป็นพิเศษ ทำให้การเดินตากแดดบนทุ่งโล่งบนเขานานๆ ไม่ใช่เรื่องสนุก และยังเสี่ยงต่อการเป็นลมแดดอีกด้วย
ในส่วนของฤดูฝน เขาช้างเผือกมีฝนตกชุกตลอดทั้งฤดู ทำให้เส้นทางบางช่วงที่ลาดชันไม่สามารถเดินผ่านได้เนื่องจากลื่นมาก ซึ่งเส้นทางครึ่งหลังก่อนจะถึงจุดหมาย เป็นทางขึ้นเขาและทางลาดชันที่อันตราย มีหญ้าขึ้นสูงเกือบมิดหัว เพิ่มความลื่นและบดบังการมองเห็น เส้นทางอย่างมิดชิด เมื่อฝนตกหนักก็แทบจะหาที่หลบฝนไม่ได้ อีกทั้งสัตว์เลื้อยคลานมีพิษต่างๆ ยังออกมาเดินเล่นกันเพ่นพล่านอีกด้วย ฤดูฝนจึงเป็นอีกช่วงเวลาที่เขาช้างเผือกแผดพิษสงค์ออกมามากที่สุดฤดูนึง
ด้วยข้อจำกัดมากมายในสถานที่และสภาพอากาศทำให้เขาช้างเผือกกลายเป็นสถานที่ที่พิเศษมากขึ้นไปอีกเท่าตัว แต่เมื่อคุณผ่านกระบวนการแย่งชิงทั้งหมดมาได้แล้วนั้น รับรองว่าสิ่งที่คุณจะได้กลับมานั้นคุ้มซ่ะยิ่งกว่าคุ้ม
เส้นทางขึ้นเขาช้างเผือกนั้นเริ่มต้นที่หมู่บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาที่อากาศดีและผู้คนน่ารัก ห่างไกลจากตัว อ.ทองภาภูมิ ประมาณ 70 กิโลเมตร เส้นทางคดเคี้ยวว่า 399 โค้ง และเป็นทางลาดชันทำให้ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะถึงที่หมู่บ้าน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่จะขึ้นเขาช้างเผือกนั้นจะเลือกพักที่ที่ทำการอุทยานหรือในหมู่บ้านอีต่อง (หรือเรียกอีกชื่อว่าเหมืองปิล็อก) เพื่อง่ายต่อการเดินทางขึ้นเขาในตอนเช้า โดยรวมตัวกันที่ร้านน้องหน่อย ตามเวลาที่เจ้าหน้าที่นัดหมายแต่ล่ะหมู่คณะ
เมื่อตระเตรียมอาหาร น้ำดื่มและสัมภาระเรียบร้อย ก็เริ่มออกเดินทางโดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-5 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เส้นทางเป็นทุ่งโล่งทางเรียบสลับกับทางขึ้นเขาและทางลงลาดชัน เมื่อถึงจุดกางเต๊นให้จัดการสัมภาระให้เรียบร้อยก่อนค่อยเดินทางต่ออีกนิดหน่อยเพื่อขึ้นสู่ยอดเขาช้างเผือก
โดยเส้นทางจะลาดชันเกือบทั้งหมด และไฮไล้ ของเส้นทางคือการไต่เชือกปีนขึ้นสันเขาขนาดแค่พอดีตัวเรียกว่า “สันคมมีด” โดยฝั่งซ้ายและขวาเป็นหน้าผาลึกสุดลูกหูลูกตา มีเพียงเชือกหนึ่งเส้น ให้เราได้คลาย ความกังวล ไปได้บ้าง และถือว่าเป็นจุดวัดใจที่สำคัญที่สุดของเขาช้างเผือก
เมื่อคุณถึงยอดเขาช้างเผือกแล้วนั้น คุณจะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์เทือกเขาที่สวยงามได้แบบ 360 องศา สามารถมองเห็นเขื่อนศรีนครินทร์ที่สวยงามได้ ถ้าโชคดีในวันฟ้าเปิดจะสามารถเห็นทะเลอันดามันฝั่งประเทศพม่า แต่ถ้ามาในช่วงปลายฤดูฝนก็จะมีทะเลหมอกเป็นรางวัลพิเศษ แต่สำหรับผู้เขียนช่วงเวลาที่สะกดอารมณ์มากที่สุดบนยอดเขาคือช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ทั้งสวย ทั้งสงบ ทุกอย่างดูหยุดนิ่ง เพื่อให้เราจดจำภาพนั้นได้เนิ่นนานที่สุด และภาพนั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับการบากบั่นสิ่งต่างๆ มากมายที่ทำให้มายืนอย่างสง่าผ่าเผยได้ ณ จุดจุดนี้
การเตรียมตัวสำหรับขึ้นเขาช้างเผือก
ï โทรจองที่สำหรับกางเต๊นบนยอดเขา เจ้าหน้าที่ และลูกหาบ
ï เสื้อผ้าควรเป็นกางเกงขายาวและเสื้อแขนยาว ผ้าปิดจมูก (กันต้นหญ้าบาดเนื่องจากหญ้าจะสูงและคม) เสื้อผ้าระบายอากาศได้ดี หมวก แว่นกันแดด เพราะอากาศในช่วงสายจะร้อนมากและทางเดินเป็นทุ่งโล่งต้นไม้ใหญ่น้อย
ï รองเท้าที่เกาะพื้นได้ดีเยี่ยม เพื่อลดการลื่นล้มบ่อยๆ ตลอดเส้นทาง
ï น้ำดื่ม (สำคัญมากเพราะเขาช้างเผือกไม่มีแหล่งน้ำเราจึงต้องเตรียมน้ำให้เพียงพอทั้งดื่มและใช้)
ï อาหารและอุปกรณ์ทำอาหาร (ตลอดเส้นทางไม่มีร้านค้า)
ï อุปกรณ์ให้แสงสว่างต่างๆ (เขาช้างเผือกไม่มีไฟฟ้า)
ï กระดาษเปียกและอุปกรณ์ห้องน้ำ (จุดตั้งแค้มป์มีห้องน้ำที่เป็นส้วมหลุม ไม่มีน้ำและไฟ หลายๆ คนจึงสบายใจกว่าในการใช้ห้องน้ำแบบทุ่งโล่ง)
ï เครื่องกันลมและกันหนาว (จุดที่พักเป็นช่องลมอากาศจึงหนาวและมีลมแรงตลอดเวลา)
ï เสื้อผ้าไว้เปลี่ยนนอน (เอาของไปให้น้อยที่สุดเพราะยังไงคุณก็ไม่ได้อาบน้ำ)
ï อุปกรณ์การนอนต่างๆ
ï ยาประจำตัว
ï กล้องถ่ายรูป (คุณคงไม่อยากพลาดที่จะเก็บภาพที่สวยที่สุดครั้งนึงในชีวิตคุณแน่ๆ)
ï เตรียมใจ (ไปต่อสู้กับสันคมมีด)
เรื่องน่ารู้รอบๆ เขาช้างเผือก
ï จุดกลางเต๊นบริเวณที่ทำการอุทยานสามารถมองเห็นเขาช้างเผือกได้สวยงามที่สุด
ï หมู่บ้านอิต่องมีอาหารพื้นบ้านของพม่าและอาหารทะเลราคาไม่แพงขาย (มาจากทะเลอันดามันประเทศพม่าที่ห่างจากหมู่บ้านเพียง 60 กิโลเท่านั้น)
ï บนยอดเขาสามารถเห็นเส้นแบ่งระหว่างประเทศไทยและประเทศพม่าได้
ï หมู่บ้านอิต่องในอดีตเป็นเหมืองแร่ดีบุก รู้จักกันในชื่อ เหมืองปิล็อก
ï ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวพม่า
ï ระหว่างทางจากที่ทำการอุทยานมาหมู่บ้านอิต่องมีน้ำตกที่สวยงามมากๆ ชื่อน้ำตกจ๊อกกระดิ่ง
ï ระหว่างทางจากที่ทำการอุทยานมาหมู่บ้านอิต่อง มีร้านเค้กที่อร่อยที่สุดหลบซ่อนอยู่กลางป่าชื่อร้าน “บ้านป้าเกล็น ณ เหมืองสมศักดิ์”
ï หมู่บ้านอิต่องมีเด็กเล็กๆ จำนวนมาก การติดขนมไปแจกเด็กๆ เพียงเล็กน้อย กลับสร้างรอยยิ้มให้ผู้ให้และผู้รับได้มากมายนัก
ï ที่นี่มีสัญญาณโทรศัพท์และ 3G
ï คุณสามารถไม่อาบน้ำนอนได้โดยไม่รู้สึกผิด เพราะบนเขาไม่มีน้ำให้คุณอาบ
ïจากตัวอำเภอทองผาภูมิคุณจะผ่านโค้งจำนวน 399 โค้งก่อนถึงหมู่บ้านอิต่อง
ï สามารถชมทะเลหมอกแบบจอดรถถึงได้ที่ เนินช้างศึก, เนินกูดดอย และเนินช้างเผือก
ประวัติอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 114 ของประเทศไทย โดยประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 126 ตอนที่ 96 ก ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2552 มีเนื้อที่ประมาณ 772,214.27 ไร่ หรือ 1,235.54 ตารางกิโลเมตร
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยเขย่งและป่าเขาช้างเผือก มีเนื้อที่ประมาณ 700,000 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อดังนี้ ทิศเหนือจดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ทิศใต้จดอุทยานแห่งชาติไทรโยค ทิศตะวันออกจดอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ทิศตะวันตกจดเขตแดนไทย-พม่า อยู่ห่างจากอำเภอทองผาภูมิไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 60 กิโลเมตร ตามทางหลวง 3272 มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายจุด สำหรับจุดชมวิวทิวทัศน์มี 2 แห่ง คือ ดอยต่องปะแล ซึ่งต้องจอดรถและเดินขึ้นเขาไปประมาณ 300 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มองเห็นน้ำตกจ๊อกกะดิ่นอยู่ไม่ไกล ส่วนเนินกูดดอย สามารถนำรถขึ้นไปจอดได้ เป็นจุดชมวิวทิวเขาซับซ้อนสุดสายตา มองเห็นทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ์และเขาช้างเผือกภูเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ โดยเขาช้างเผือกนั้น มีความสูง 1,249 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เส้นทางเดินไปสู่ยอดเขาช้างเผือก ระยะทางเดินเท้าประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า ในบางช่วงต้องเดินข้ามเขาขึ้นลง มองได้รอบทิศทาง 360 องศา
และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีก 3 เส้นทาง คือ น้ำตกจ๊อกกะดิ่น น้ำตกผาแป น้ำตกเจ็ดมิตร ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เป็นผู้นำทาง น้ำตกเหล่านี้อยู่ในเขตตำบลปิล๊อก ซึ่งเดิมเป็นเหมืองแร่ดีบุก วุลแฟรม ตั้งอยู่พรมแดนไทย-พม่า อุดมด้วยป่าดิบ ปกคลุมด้วยหมอกเกือบตลอดทั้งปี ซึ่งต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ
ลักษณะภูมิประเทศ
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน แนวเขาวางตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี มีพื้นที่ราบลุ่มเป็นจำนวนน้อย ความสูงของพื้นที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100-1,249 เมตร มีเขาช้างเผือกซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของพื้นที่เป็นยอดเขาสูงสุด สูง 1,249 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยอดเขาที่สำคัญ ได้แก่ เขาช้างเผือก เขานิซา เขาพุถ่อง เขาด่าง เขาปาก ประตู เขาเลาะโล เขาประหนองโทคี เขาชะโลง ฯลฯ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของลำห้วยต่างๆ เช่น ห้วยมาลัย ห้วยกบ ห้วยซ่าน ห้วยองค์พระ ห้วยปีคี ห้วยปากคอก ห้วยเจ็ดมิตร ฯลฯ โดยไหลลงสู่ที่ราบทิศตะวันออก ลงสู่เขื่อนเขาแหลม และลำน้ำอีกส่วนไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย
การเดินทาง อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ห่างจากตัว อ.ทองผาภูมิ ประมาณ 59 กม. โดยเป็นเส้นทางลาดยาง แต่เป็นทางขึ้นเขาและมีโค้งหักศอกอยู่มาก จึงต้องขับอย่างระมัดระวัง บริเวณอุทยานฯ มีบริการบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 1382 0359 หรือ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตู้ ปณ.18 อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71180
#การเดินทางของลม
*ขอบคุณภาพเปิดเขาช้างเผือกสวยๆ จากพี่จ่าหมูนะคะ*