ทุ่งแสลงหลวง ดินแดนทุ่งหญ้าสะวันน่า และป่าสน จ.เพชรบูรณ์

“ทุ่งแสลงหลวง” เป็นอุทยานแห่งชาติ ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีเนื้อที่ประมาณ 789,000 ไร่หรือ 1,262.40 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ ใน 2 จังหวัด คือ อ.วังทอง อ.นครไทย อ.เนินมะปราง ใน จ.พิษณุโลก และ อ.เขาค้อ อ.วังโป่ง ใน จ.เพชรบูรณ์ มีสภาพธรรมชาติ และลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง

ด้วยสภาพภูมิประเทศแบบทุ่งหญ้าแบบสะวันนา จึงได้รับฉายาว่า “ทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย” จัดเป็นจุดถ่ายภาพที่นักถ่ายภาพเข้ามาถ่ายภาพ ไม่ขาดสาย ทุกช่วงฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วง ปลายฝนต้นหนาว จะมีหมอก ปกคลุมไปทั่วบริเวณ แลดูให้ภาพมีเสน่ห์ ชวนฝัน ไม่ซ้ำแบบ แล้วแต่ธรรมชาติรังสรรค์ รวมทั้ง มีป่าสนสองใบ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้สัตว์ป่านานาชนิดซึ่งเป็นสถานที่ๆ เหมาะแก่การไปท่องเที่ยว, กางเต๊นท์ รวมทั้งมีบ้านพักของอุทยานรับรองด้วย

ทางเข้า อุทยานแห่งชาติ ทุ่งแสลงหลวง จะมี 2 จุด คือ

จุดทางเข้า 1 อยู่ที่ ถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 80 และเป็นที่ทำการของอุทยานแห่งชาติ ทุ่งแสลงหลวง
จุดทางเข้า 2 อยู่ที่ ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ หน่วยพิทักษ์อุทยาน สล.8 (หนองแม่นา)

ทั้ง 2 ทางเข้าอยู่ห่างกันราว 60 กิโลเมตร จึงต้องพิจารณาให้ดีว่า จุดทางเข้าใดสะดวกและใกล้ที่สุด

ทริปนี้เราจะไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น ที่ ศาลาดุสิตา ซึ่งอยู่ที่ หนองแม่นา ดังนั้นจึงเลือกไปทางเข้าจุดที่ 2

การเดินทางจากกรุงเทพ เลือกเส้นทางหมายเลข 21 เมื่อถึง บ้านนางั่วแล้ว ก็เลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 2258 ขึ้นเขาต้อ ผ่านสี่แยกบ้านสะเดาพง ผ่านพระตำหนักเขาค้อ ตรงไปจนถึงบ้านทานตะวัน แล้วเลี้ยวขวาไปอิก 4 กิโลเมตร ก็จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยาน สล.8 (หนองแม่นา)

แต่ก่อนจะเข้าไปที่ อุทยานแห่งชาติ ผมขอเดินทางแยก ขึ้นไป ร้านอาหาร และจุดชมวิว ที่ “แทนรัก ทะเลหมอก” โดยทางหลวงหมายเลข 2258 เมื่อถึงสี่แยก รื่นฤดี (GPS 16.5714708,100.9889708) ก็ให้เลี้ยวขวา เข้า ทางหลวงหมายเลข 2193 แล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีที่สามแยก เพื่อเข้า ทางหลวงหมายเลข 2325 ขับไปสักพักก็จะถึงร้าน แทนรักทะเลหมอก

แต่ไฮไลต์ของจุดหมายที่แท้จริง ไม่ใช่เพื่อไป ร้าน แทนรักทะเลหมอก เราจะไปชื่นชมวิวของถนนช่วงก่อนถึง ร้าน ดังกล่าวมีความสวยงาม (ตามความรู้สึกผม) ตามธรรมชาติ มีเนินถนน คดเคี้ยวไปมา และวิวสองข้างทางที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ เหมือนวิวในต่างประเทศ เลย

หลังจากนั้น จึงเดินทางเข้าไปที่อุทยานแห่งชาติ ทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา) โดยวิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 2325 แล้วเลี้ยวขวาเข้า ทางหลวงหมายเลข 2258

เมื่อถึง อช. ทุ่งแสลงหลวง ก็ติดต่อ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จัดการเรื่องค่าธรรมเนียมกางเต๊นท์ และหาจุดกางเต๊นท์ เพราะคืนนี้จะนอนที่นี่

วันที่ผมเดินทางไป เป็นวันธรรมดา จึงไม่แน่ใจว่า ที่อุทยานมีร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว หรือไม่ เพราะปิดหมด (แต่ถ้าใครจะไปตั้งเต๊นท์พักแรมที่ทุ่งนางพญา ป่าสน ต้องจัดเตรียมอาหารและน้ำดื่มไปเอง) แต่ก็มีทางออกในกรณีไม่เจอร้านอาหาร คือ บริเวณ ถนนทางเข้า อุทยาน ทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา) ก็มีร้านอาหาร และร้านขายของชำของชาวบ้าน พอให้อาศัยได้บ้าง รวมทั้งเต็นท์ ก็มีให้เช่าด้วย แต่ควรจัดเตรียมไปเองจะดีกว่า
ห้องน้ำที่อุทยาน สะดวกสบาย

จากจุดกางเต๊นท์ เข้าไปที่ ศาลาดุสิตา ระยะทางประมาณ 5 กม. ตลอดเส้นทางเป็นถนนดินแดง การเข้าไปที่ จุดชมวิว ศาลาดุสิตา ถ้าหน้าฝน จำเป็นต้องใช้ กะบะยกสูง ถ้าเป็นรถออฟโรด ก็ยิ่งดี แต่ถ้าหน้าร้อน หรือหนาว (คือช่วงที่ ไม่มีฝนตกมานาน) รถเก๋ง ก็พอไปได้ ในทริปนี้ รถเก๋งจึงพอเดินทางเข้าไปได้ แต่ต้องขับด้วยความระมัดระวังอย่างมาก เพราะสภาพถนนดินแดงยังมี หลุมบ่อ และบางจุดก็ลึกพอสมควร.

แต่หากนักท่องเที่ยวจะไปเข้าไปต่อที่ ทุ่งนางพญา หรือป่าสน จำเป็นต้องใช้ รถออฟโรด เท่านั้น เพราะบางช่วง ต้องปีนป่าย เจอดินโคลน และหลุมลึก

ผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ตี 4 ครึ่ง แล้วเริ่มออกเดินทางจากจุดกางเต๊น์ไป ศาลาดุสิตา (ระยะทาง 5 กิโลเมตร) เพื่อไป ตั้งกล้อง รอพระอาทิตย์ขึ้น เส้นทางช่วงเดินทางตอนขาไป จะมืดมาก ทั้ง 2 ข้างทางเป็นทุ่งหญ้า ขึ้นสูง

พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้ว ณ.เวลาประมาณ 6 โมง เช้า มีนักท่องเที่ยว มาตั้งกล้องรอถ่ายภาพ อาทิตย์ขึ้น พอสมควร

ณ.เวลา 6:30 พระอาทิตย์ก็มาตามนัด บรรยากาศ ดีมาก อากาศหนาวเย็น ลมพัดเอื่่อยๆ ดื่มด่ำกับสิ่งที่เห็น เวลาทุกอย่างเหมือนช้าลง

อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ สำหรับการถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น ก็คือ Graduated filter ภาพนี้ผมใช้ GND 3 Stop แบบ Soft ของ Hi-Tech filter หรือบางท่าน อาจใช้การถ่ายคล่อม หลายๆ ภาพ (Exposure Bracketing) แล้วมารวมกันใน Photoshop หรือ LightRoom ก็ได้ หากไม่ใช้ GND ฟิลเตอร์

เส้นทางเดินทาง ในทุ่งแสลงหลวง

นอกจาก จุดชมวิว ศาลาดุสิตาแล้ว ทุ่งแสลงหลวง (ฝั่งหนองแม่นา) ยังมี ทุ่งนางพญา ป่าสน ซึ่งเป็นเส้นทางที่เหมาะกับการปั่นจักรยาน (ควรมีประสบการณ์การปั่นจักรยานมาบ้าง) ระยะทาง 15 กิโลเมตร ไป-กลับรวม 30 กิโลเมตร และเหมาะจะเข้าไปกางเต๊นท์พักแรม เป็นอย่างมาก แต่ต้องจัดเตรียม อาหารและน้ำดื่มไปเอง รวมทั้งไม่มีห้องน้ำ (จริงๆ ก็มีห้องน้ำนะ คือ พื้นที่บริเวณป่า หลายแสนไร่ หลังคาเป็นท้องฟ้า นั่นแหล่ะ ห้องน้ำใหญ่ที่สุดในโลก 555) และรถที่เดินทางเข้าไป ควรเป็นรถกะบะยกสูง หรือรถออฟโรด.

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว ที่ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ฝั่งพิษณุโลก (ทางเข้าที่จุดที่ 1) ก็มี น้ำตกแก่งโสภา, ชมความงาม และล่องแก่งลำน้ำเข๊ก ซึ่งต้องหาโอกาสไปสัมผัสให้ได้.