ช้างน้าว…… กล้วยไม้พื้นบ้านของไทยที่ไม่ควรลืม

ช้างน้าว กล้วยไม้พื้นเมืองกับวิถีชีวิตแบบธรรมชาติของชาวบ้าน………หากมีโอกาสได้ไปจังหวัดรอบนอกทางภาคเหนือตอนบน อาทิ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน หรือ น่าน จะพบว่า ชีวิตของชาวบ้านส่วนใหญ่มักมีความผูกพันกับกล้วยไม้พื้นเมือง สังเกตได้จากตามบ้านเรือนของชาวบ้านนิยมปลูกกล้วยไม้หลากหลายชนิดไว้กับต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน และในบรรดากล้วยไม้ต่างๆเหล่านั้น ช้างน้าว เป็นกล้วยไม้อีกชนิดหนึ่งที่พบเจอได้แทบทุกบ้าน ความสวยและมีจุดเด่นเฉพาะตัวของช้างน้าวจึงเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้พบเห็น ช้างน้าว เป็นชื่อเรียกที่ชาวบ้านไม่คุ้นเคยมากนัก เพราะปกติแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่มักเรียกว่า เอื้องตาควาย  คำว่า “เอื้อง” เป็นคำเรียก กล้วยไม้ ซึ่งนิยมใช้เรียกกันทางภาคเหนือ


ช้างน้าว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Dendrobium  pulchellum  Roxb. ex Lindl.    ลำต้นเป็นลำลูกกล้วยยาวตั้งแต่ 1 ถึง 2 เมตร แตกกอใหญ่มาก  ใบสีเขียวยาวประมาณ  10 ถึง 15 เซนติเมตร รูปขอบขนานแกมใบหอก กาบใบมีเส้นสีม่วงตามยาวเห็นได้ชัดเจน  ช่อดอกเกิดบนลำลูกกล้วยที่แก่และทิ้งใบแล้ว โดยแตกออกจากข้อส่วนปลายลำและห้อยลง ปกติจะมี 5-10 ดอกต่อช่อ  ดอก มีขนาดค่อนข้างใหญ่ กลีบนอกและกลีบในมีสีเหลืองครีม หรือสีชมพูอ่อนโดยมีเส้นสีชมพูเรื่อๆ  ผิวกลีบเป็นมันคล้ายขี้ผึ้ง ด้านหลังกลีบฉาบด้วยสีชมพูปนม่วง  ปากมีลักษณะห่อขึ้น มีขน มีแต้มสีม่วงแดงสองข้างของปากด้านใน กลีบนอกรูปใบพาย กลีบในรูปไข่  ดอกออกประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนมีนาคม หรืออาจถึงเดือน เมษายน  ดอกบานเต็มที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์


ช้างน้าว เป็นเพียงกล้วยไม้พื้นบ้านและปลูกตามวิถีชาวบ้าน เป็นกล้วยไม้ที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณค่าความสวยงามและมีเสน่ห์อยู่ตลอดกาล   ช้างน้าว จึงเป็นกล้วยไม้ที่ควรอนุรักษ์ให้คงอยู่คู่สังคมไทยตลอดไป



ร่วมแสดงความคิดเห็น