วัยรุ่นทะเลาะวิวาท สวนสาธารณะ แพร่สะพัดโซเซียล เสียภาพลักษณ์ เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เอาจริง ขอความร่วมมือตำรวจ ล่าสุด ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้สั่งให้สายตรวจให้เข้มงวดและคอยสอดส่องการรวมกลุ่มของวัยรุ่น หรือแด็กแว้นเพื่อเป็นการป้อมปราม ไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นในเขตรับผิดชอบ

วันที่ 22 มิถุนายน 2566 นายชาติชาย น้อยสกุล รักษาการปลัดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากการได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านให้ทางเทศบาลเอาจริงกับกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุรุมทำร้ายบุคคลอื่นในที่สาธารณะ บริเวณสวนสาธารณะหนองจองคำ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวใจกลางเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งถือเป็นการกระทำที่อุกอาจและเสียภาพลักษณ์เมืองแม่ฮ่องสอน หลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสอบถามข้อมูลจากพ่อค้าแม่ จึงทราบว่าผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายชื่อนายอาวู่ อายุ 17 ปี หลังเกิดเหตุมีความหวาดกลัวได้พาแฟนสาวชื่ออ้อม หนีออกจากแม่ฮ่องสอนไปอาศัยอยู่บ้านญาติที่จังหวัดเชียงใหม่ ตนจึงประสานให้เดินทางกลับมาแจ้งความที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งต่อมาทราบว่าคู่อริที่เป็นหัวโจกทำร้ายนายอาวู่ ชื่อนายอาร์ม อายุ 18 ปี ทาง พ.ต.ท.บุญรับ ยุคล สารวัตรสอบสวนจึงได้ประสานครอบครัวให้พาบุตรชายมารับทราบข้อกล่าวหา

โดยนายอาวู่ ผู้ถูกทำร้ายให้การว่า ขณะพาแฟนสาวมาเดินเล่นที่สวนสาธารณหนองจองคำ ได้เจอกับน้องชายของนายอาร์ม จากนั้นไม่นานนายอาร์มกับพวกก็ขับรถจักรยานยนต์มาที่สวนสาธารณหนองจองคำ คาดว่าน้องชายคงโทรแจ้งพี่ชายว่าเจอตน เมื่อนายอาร์มมาถึงก็วิ่งเข้าชกต่อยตนทันที ตนจึงวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือกับพ่อค้าแม่ค้าบริเวณถนนคนเดินจึงรอดมาได้  หลังก่อเหตุก่อนหนีไปนายอาร์มยังได้ทุบทำลายพร้อมตัดสายเบรคจักรยานยนต์ของตนที่จอดอยู่ข้างหนองจองคำด้วย  
ทางด้านนายอาร์ม ที่เดินทางมารับข้อกล่าวหายอมรับว่าได้ก่อเหตุทำร้ายนายอาวู่ จริง เพราะไม่พอใจที่อดีตแฟนสาวของตนมาคบกับนายอาวู่  จึงเจ็บใจแค้นมาตลอด  ขณะที่ผู้เป็นแม่ของนายอาร์มผู้ก่อเหตุก็ยินดีชดใช้ค่าเสียหายและค่าปรับที่ลูกชายก่อขึ้น พร้อมรับปากจะอบรมสั่งสอนลูกชายไม่ให้ก่อเหตุทำนองนี้ขึ้นอีก เพราะหลังเหตุการณ์ดังกล่าวโด่งดังทางโซเซียล แม่ของนายอาร์มที่เป็นแม่ค้าก็ได้รับผลกระทบลูกค้าหาย ค้าขายไม่ได้เหมือนแต่ก่อน จึงอยากวิงวอนขอความเห็นใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  และสัญญาจะว่ากล่าวตักเตือนลูกไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครอีก 

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการทะเลาะวิวาทและไม่ได้ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส  มีเพียงรถจักรยานยนต์เสียหาย จึงให้คู่กรณีทั้งฝ่ายเจรจาตกลงค่าเสียหายกันเอง หลังทั้งคู่ทำความเข้าใจกันแล้วก็ได้จับมือกัน เพื่อยุติความบาดหมางก่อนแยกย้ายกันไป

ก่อนหน้านั้น ได้มีการแชร์ทางโลกโซเซียล กับเหตุการณ์วัยรุ่นชายกลุ่มหนึ่งวิ่งไล่ทำร้ายคู่อริอีกฝ่ายที่มาเดินเที่ยวกับแฟนสาวที่บริเวณส่วนสาธารณหนองจองคำ ภายในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน  จนชายที่ถูกทำร้ายต้องวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากพ่อค้าแม่ค้าบริเวณถนนคนเดินริมหนองจองคำ ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุจึงได้หันไปทุบทำลายรถจักรยานยนต์ของคู่กรณีจนได้รับความเสียหายแทน  ก่อนพากันหลบหนีไป ระบุเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 มิ.ย ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุชาวโซเซียลเรียกร้องให้ทางเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนผู้รับผิดชอบดูแลสวนสาธารณหนองจองคำ เอาจริงกับกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุ เนื่องเห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่อันตราย อาจไม่มีความปลอดภัยกับผู้ที่มาพักผ่อนหย่อนใจที่บริเวณสวนสาธารณหนองจองคำ  รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มักจะใช้สวนสาธารณะแห่งน้ำสำหรับถ่ายรูปวิวหนองจองคำคู่กับพระเจดีย์วัดจองกลางที่อยู่ติดกัน

ด้าน นายชาติชาย น้อยสกุล รักษาการปลัดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน  ยังกล่าวอีกว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอนเคยอยู่กันแบบสงบสุข แต่ระยะหลังเริ่มมีวัยรุ่นจับกลุ่มก่อตัวกันเป็นแก็งค์แว้นรถ หากเจ้าหน้าที่ไม่เด็ดขาดอาจเป็นอันตรายและสร้างความรำคาญใจให้กับชาวบ้านได้ เบื้องต้น พตอ.ภาสวินท์ แก้วต่าย ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้เข้มงวดสายตรวจให้คอยสอดส่องการรวมกลุ่มของวัยรุ่น หรือแด็กแว้นเพื่อเป็นการป้อมปราม ไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นในเขตรับผิดชอบ