รีวิวทริปพม่านี้มีอะไรน่าสนใจเยอะเลยค่ะ เราเดินทางคนเดียวโดยสายการบินนกแอร์ ราคาไปและกลับรวม 3,230 บาท
เริ่มจากคืนวันศุกร์ ที่จะมีฝนหน่อย ๆ ทำให้เครื่องบินดีเลย์ไป 1 ชั่วโมง เพราะสภาพอากาศที่แย่

เราพักในเมืองย่างกุ้ง การเดินทางของเราให้แท็กซี่พาไป ในวันแรกเราเดินทางไปที่ ตลาดสก๊อต พม่า หรือ ตลาดโบ-ยก เป็นศูนย์รวมสินค้าขนาดใหญ่ ของขวัญ ของฝาก ทอง อัญมณี พระพุทธรูป รวมทั้งแกลอรี่ ของฝากที่เราได้ในวันนี้ไปฝากเพื่อน ๆ ที่กรุงเทพฯ

สินค้าราคาไม่แพงค่ะ รองเท้าเตะน่าสนใจที่สุด เพราะเพรชล้อมเลยค่ะ รองเท้าแตะคือรองเท้าสุภาพที่นี่สามารถสวมใส่สำหรับติดต่องานราชการก็ได้
แม็กเน็ทติดตู้เย็น 6 ชิ้น 5,000 จ๊าต  = 125 บาท
โมบายหยกระดิ่งเล็ก อันละ 2,000 จ๊าด = 50 บาท
ย่ามจิ๋ว 2,500 จ๊าด = 62 บาท
รองเท้าแตะ 5,000 จ๊าด = 125 บาท
ชุดลองยี ผู้หญิง เสื้อ + ผ้าถุง 13,000 จ๊าด = 327 บาท

เราไปช๊อปปิ้งก่อนเพื่อซื้อชุดลองยี ชุดประจำชาติพม่า ใส่เพื่อไปเจดีย์ ชเวดากอง และ ตาโบทาวน์เจดีย์

ไปสถานที่สำคัญต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยสำรวมนะคะ ชาวพม่าเขาแต่งตัวกันเรียบร้อยมาก ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย

ระหว่างทางเราจะเห็นรถรา บ้านเมืองซึ่งดูแล้วก็ไม่ต่างจากกรุงเทพเมื่อ 50 ปีที่แล้ว

ที่ชเวดากองจะมีบัตรเข้าชมสำหรับต่างชาติในราคา 8,000 จ๊าด หรือประมาณ 200 บาท สำหรับคนในประเทศเดินเข้าได้ฟรีค่ะ เราซื้อดอกไม้บูชาไปพวงนึงประมาณ 5,000 จ๊าด หรือประมาณ 125 บาท แต่ไม่มีที่ใหนขายเลยค่ะ ที่ขายในวัดนี่น่าจะใช้สำหรับบำรุงวัดมากกว่า

เงินที่ใช้จ่ายในวันนี้ก็หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ ที่นี่มีแต่ธนบัตรไม่มีเหรียญค่ะ

ทันทีที่สุดทางลิฟท์ เราก็เจอต้นโพธิ์ปากทางเข้าเจดีย์เชวดากอง โดยประวัติว่ากันว่า
เจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า โดยคำว่า "ชเว" หมายถึง ทอง, "ดากอง" เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น บนยอดสุดของพระเจดีย์ มีเพชรอยู่ 5,448 เม็ด ชั้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ 76 กะรัต และทับทิม 2,317 เม็ด มีมรกตเม็ดใหญ่อยู่ตรงกลาง เพื่อรับลำแสงแรกและลำแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ ผู้ที่เข้ามานมัสการหรือเยี่ยมชมจะต้องถอดรองเท้าทุกครั้ง (ขอบคุณข้อมูลประกอบจากอินเตอร์เน็ท)

กิจกรรมที่มาทำกันที่นี่ก็คือไหว้พระประจำวันเกิด หรือนักษัติ โดยการนำดอกไม้บูชาพระพทธรุปประจำวันเกิด และขอพร รดน้ำพระตามอายุวันเกิด จุดนี้เล่นเอาเมื่อยมือเลยทีเดียว

เราจะเข้าใจประวัติความเป็นมาได้ดีมากขึ้น เมื่อเราเข้าพิพิธพันธ์ ที่แสดงภาพวัตถุที่อยู่บนยอดเจดีย์

ไกด์เล่าให้เราฟังว่า คนที่มีทรัพย์สินมากเมื่อยังมีชีวิต ครั้นเสียชีวิตไปแล้ว ได้สั่งลูกหลานไห้นำทรัพย์สินมาไว้ ณ ยอดเจดีย์เชวดากอง เพื่อเป็นศิริมงคลต่อตระกูลตนเอง ชาวพม่านี้เน้นให้สละทรัพย์สินเพื่อพุทธศาสนา ละเว้นความโลภ เราจะเห็นเจดีย์เล็กๆ รายล้อมที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ ก็มาจากตระกูลเหล่านี้สร้างกันขึ้นมาเรื่อย ๆ รุ่นต่อรุ่น

ทรัพย์สมบัติมากมายจึงมารวมกันไว้ที่นี่

สำหรับพระสงฆ์ของที่นี่ ทำหน้าที่มากกว่าการศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
แต่จำเป็นที่ต้องศึกษาทางโลกและดำเนินการเกี่ยวกับทางโลกโดยเป็นเสมือนครูให้กับชาวพม่าด้วย
ไกด์เล่าให้ฟังว่า คนพม่านั้นนับถือพระมากกว่านักการเมืองเสียอีก และการที่พระพม่านั้นสามารถใกล้ชิดกับผู้หญิงได้นั้นก็ไม่ผิด เพราะคนพม่าดูที่เจตนามากกว่า ซึ่งพระพม่านั้นจะมีความสำรวมอยู่แล้ว และแทบจะไม่พบการละเมิดผู้หญิงเลยก็ว่าได้ เราสามารถบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษาต่อพระสงฆ์ได้ ทุกเวลาที่เจอท่าน ที่นี่บินฑบาตกันทั้งวันเป็นเรื่องปกติ คือเจอที่ใหนก็ให้ได้ที่นั่น

คนพม่าส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่พวกเขาน่ารักและดูเป็นมิตรมาก ๆ

สำหรับหนุ่มใหญ่ หนุ่มน้อยพม่านั้น พวกเขาก็ชอบมาที่นี่ เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ใครที่เกิดตรงวันนี้จะมาถือศีล 8 เพื่อให้ชีวิตมีศิริมงคล

มีการทำพิธีขอพรอะไรกันด้วยแต่เราไม่เข้าใจ

ที่นี่แม้จะกว้างขวางแต่ก็มีอาสามัคร มาทำความสะอาด แต่ละคนต้องการรับการอนุญาติและติดบัตรก่อนเท่านั้น
จะมีคนคุมงานให้กวาดเป็นจังหวะ คนพม่าเชื่อว่าการได้มากวาดเจดีย์เชวดากองนั้นเป็นบุญกุศลแห่งชีวิต คนที่นี่เชื่อเรื่องเหตุต้น ผลกรรมมาก ๆ

ลุงไกด์ไม่รอช้า ขอไม้กวาดมาให้เราเดินแถวกวาดด้วย มีโอกาศจงรีบทำความดี

ที่นี่สร้างพระกันเยอะมาก ไหว้กันไม่แทบไม่ทั่ว และมีก่อสร้างใหม่ ๆ เกิดขึ้นเรื่อย ๆ


ไกด์บอกว่ามุมนี้เป็นมุมที่สวยที่สุด ควรถ่ายภาพเก็บไว้หากคุณได้มาเยี่ยมพม่า ก็ถือว่าคุณมาถึงแล้วจริง ๆ

ภายในบริเวณวัด หรือรอบ ๆ วัดก็ไม่ได้มีแม่ค้ามาขายอาหารหรือสินค้าที่ระลึกให้กวนใจ มีเพียงแค่น้ำดื่มไว้บริการแขกผู้มาเยือนเท่านั้น คือรอบ ๆ วัดนี้ไม่มีธุรกิจอะไรเลยก็ว่าได้
ยกเว้นของที่ระลึกชั้นล่างที่เป็นของทางวัดนะคะ

ขอบคุณไกด์วันนี้ที่ทำให้เราไม่ต้องเดินหลงทางในเจดีย์ และได่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จริง ๆ เรามีค่าใช้จ่ายไกด์ที่นี่ประมาณ 10,000 จ๊าด หรือประมาณ 250 บาท
มันคุ้มค่าดีกว่าเดินชมเอาความสวยงามของสถานที่ และแค่ถ่ายภาพเซลฟี่ การมาพม่ามาศึกษาผู้คนความเป็นอยู่นับว่าเมืองเขาเคร่งครัดในเรื่องการศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมวินัย สวดภาวนา มากกว่าการให้ความสำคัญในเรื่องเครื่องลางของขลัง เราไม่เจอวัตถุมงคลที่นี่ ส่วนร้านขายของที่ระลึกเล็ก ๆ ซึ่งก็ขายสินค้าพื้นเมือง ภาพวาด และเครื่องประดับมากกว่า

สรุป การมาเที่ยวพม่าคนเดียวไม่ได้อันตรายหรือน่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าเราพักในสถานที่ปลอดภัยและ ทางโรงแรมจัดหาแท็กซี่ให้ ก็ปลอดภัยแล้วค่ะ ส่วนการมาเที่ยวที่ชเวดากอง ถ้าไม่มาเช้าตรู่ก็ควรมาประมาณ 5 โมงเย็นไปแล้ว เพราะพื้นหินอ่อนจะดูดความร้อนไว้จะทำให้เดินได้ไม่สะดวกค่ะ ควรทานอาหารมาให้อิ่มเรียบร้อยด้วยนะคะ เพราะสถานที่กว้างขวางใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงในการเยี่ยมชมอย่างแน่นอนค่ะ