สร้อยกัทลี หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า ปากนกแก้ว เป็นพืชเขตร้อนที่มีรูปร่างเฉพาะตัวที่ทำให้ผู้เขียนทึ่งมาโดยตลอด ผู้เขียนพบพืชชนิดนี้ครั้งแรกระหว่างการเยี่ยมชมงานสวนพฤกษศาสตร์เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งรู้สึกประทับใจกับสีสันที่สดใสและรูปร่างที่แปลกตา ตั้งแต่นั้นมา ก็สนใจในไม้ประดับนี้และได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับพืชชนิดนี้ผ่านการค้นคว้าหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตและประสบการณ์ส่วนตัวสร้อยกัทลีเป็นพืชเมืองร้อนขนาดใหญ่ที่เติบโตได้สูงถึง 15 ฟุต มีโครงสร้างรูปร่างที่แปลกตา โดยมีใบและกิ่งที่แตกออกมาจากเหง้า ซึ่งเป็นระบบรากที่คล้ายกับขิง ใบมีขนาดและรูปร่างใกล้เคียงกับต้นกล้วย ส่วนก้านใบที่ปลายมีช่อดอกห้อยยาว กาบดอกห้อยนั้นเป็นการผสมผสานระหว่างสีชมพูร้อน สีเหลือง และสีเขียว ซึ่งมีลักษณะคล้ายปากนกแก้วและเป็นที่มาของชื่อเล่นของพืชชนิดนี้สร้อยกัทลีมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเขตร้อนและเกาะบางแห่งในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก เป็นไม้ประดับยอดนิยมและนิยมปลูกเพราะกาบดอกมีสีสันสดใส อย่างไรก็ตาม ไม่ง่ายเลยที่จะปลูกพืชชนิดนี้นอกถิ่นกำเนิด พืชชนิดนี้ต้องการสภาพอากาศที่อบอุ่นและชื้น โดยมีอุณหภูมิระหว่าง 20 ถึง 30 องศาเซลเซียส และมีความชื้นสูง นอกจากนี้ยังต้องการดินที่ระบายน้ำได้ดีและการรดน้ำอย่างสม่ำเสมอสร้อยกัทลีถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการประดับและใบประดับถูกใช้ในการจัดดอกไม้แบบตัดดอก ผู้เขียนหลงใหลในสร้อยกัทลีที่แขวนอยู่มาตลอดและพยายามปลูกในสวนของตนเอง ด้วยที่ผู้เขียนอาศัยอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งมีภูมิอากาศที่เหมาะกับพืชชนิดนี้ สามารถปลูกพืชชนิดนี้ได้สำเร็จ ผู้เขียนสามารถเพลิดเพลินกับความงามของมันได้ตลอดเวลา กาบดอกของสร้อยกัทลีมักจะทนทานเล็กน้อยและคงความสดได้นานถึงสองสัปดาห์โดยสรุปแล้ว ประสบการณ์ของผู้เขียนกับสร้อยกัทลีเป็นหนึ่งในความหลงใหลและความชื่นชม พืชเมืองร้อนที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์และสีสันที่สดใสนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติอย่างแท้จริง แม้ว่าจะไม่ง่ายที่จะเติบโตนอกถิ่นกำเนิด แต่ก็ยังเป็นไม้ประดับที่ได้รับความนิยม ผู้เขียนถูกดึงดูดไปที่พืชชนิดนี้เสมอ และจะชื่นชมความงามของสร้อยกัทลีภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !