โถงถ้ำดึกดำบรรพ์งามอลังการ ฝายกั้นน้ำกับมุมถ่ายรูปชวนตะลึง ต้นไม้มหึมาขนาด 40 คนโอบ เช็กอินคาเฟ่น่ารัก แวะตลาดท้องถิ่นที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ฯลฯ เป็นส่วนหนึ่งของ “อำเภอบ้านไร่-อำเภอลานสัก” ที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและธรรมชาติเขียวขจีในจังหวัดอุทัยธานี
ระยะทางประมาณ 60-70 กิโลเมตรจากตัวเมืองอุทัยธานี สู่ “อำเภอบ้านไร่-อำเภอลานสัก” จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญประจำจังหวัด ที่ในวันนี้มีนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คู่รัก คนรุ่นใหม่ ต่างปักหมุดไปเยือน เพราะความหลากหลายอย่างมีเอกลักษณ์
ชวนมาทำความรู้จักอำเภอแห่งนี้กันให้มากกว่าเดิมผ่าน “9 สีสันการท่องเที่ยว” มุมมองใหม่ อุทัยธานี
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม
ททท.สำนักงานอุทัยธานี www.facebook.com/TAT.Uthai โทร.056 514 651
วัดเขาถ้ำประทุน
วัดเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติตั้งอยู่ในตำบลทัพหลวง อำเภอบ้านไร่ มีอาณาเขตราว 200 ไร่ ซึ่งมีพระอุโบสถขนาดใหญ่เป็นเอกลักษณ์ที่งดงามมากไม่ควรพลาดชม สร้างจากรากไม้ตะเคียนทอง ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ กันเกรา นำมาแกะสลักอย่างประณีตกลายเป็นงานพุทธศิลป์สุดวิจิตร โดยมีการแกะสลักไม้ทั้งภาพพระพุทธเจ้า เจ้าแม่กวนอิม พระพิฆเนศ ท้าวเวสสุวรรณ ฯลฯ ด้านในพระอุโบสถ ยังมีพระพุทธรูปองค์ประธานซึ่งแกะสลักด้วยไม้ตะเคียนอายุประมาณ 400 ปี
ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์
จากตัวอำเภอบ้านไร่ออกไปราว 20 กิโลเมตร มีฝายกั้นน้ำขนาดเล็กของชุมชนบ้านปางสวรรค์ที่หากมองผิวเผินจากด้านบนอาจดูราบเรียบแทบไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่จุดขายของฝายแห่งนี้ ต้องเดินลงไปด้านล่าง ลุยน้ำไปยังมุมที่สายน้ำด้านบนไหลลงมาราวกับม่านน้ำรอบตัว โดยเฉพาะหากใครมีอุปกรณ์กล้องถ่ายภาพที่ใช้ขาตั้งกล้องคู่กัน ฝายกั้นน้ำแห่งนี้ก็จะกลายเป็นจุดเช็กอินสุดว้าวที่โดนใจคนชอบถ่ายรูปแน่นอน
วัดถ้ำเขาวง
เรือนไทยงามสง่าที่มีเขาหินปูนตระหง่านเป็นฉากหลัง โดยด้านหน้ามีสวนหย่อม สวนหิน และสระน้ำนำสายตา ถือเป็นภาพจำที่ใครๆประทับใจในภูมิทัศน์ของ “วัดถ้ำเขาวง" ในอำเภอบ้านไร่ โดยจุดเริ่มต้นของวัดนั้นมาจากการเดินธุดงค์ของหลวงพ่อสนอง กตปุญโญ เจ้าอาวาสวัดสังฆทาน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ได้พาคณะพระภิกษุธุดงค์ผ่านมาพบเห็นสถานที่นี้ซึ่งเงียบสงบเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม จึงได้สร้างเป็นธรรมสถานปฏิบัติธรรม
สำหรับไฮไลต์ของวัด คือ เรือนไทยประยุกต์ สูง 4 ชั้น ไล่ระดับกันไปตามเนินเขา เริ่มจากชั้นใต้ถุนที่ใช้เป็นลานอเนกประสงค์ ร้านขายของ ถัดขึ้นไปเป็นชั้นที่ 2 เป็นวิหาร ชั้นที่ 3 เป็นกุฏิ และชั้นที่ 4 เป็นโบสถ์ไม้สัก ไม้มะค่า ที่ได้รับบริจาคจากชาวบ้าน รวมทั้งไม้เก่าเรือนไทยจากอยุธยา อ่างทอง และลำพูน ภายในวัดแห่งนี้ มีลักษณะเป็นธรรมสถานเพื่อการปฎิบัติธรรม มีทางเดินไปชมถ้ำด้านหลังวัดที่เหมาะสำหรับเป็นสถานที่นั่งวิปัสสนา
ต้นไม้ยักษ์บ้านสะนำ
“ต้นเชียง" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ต้นผึ้ง” ต้นไม้ยักษ์ ขนาด 40 คนโอบ เส้นรอบโคนต้นความยาว 97 เมตร อายุกว่า 200 ปี ต้นไม้ยักษ์ตระหง่านเด่นอยู่ท่ามกลางป่าหมากอันร่มรื่นในหมู่บ้านสะนำ อำเภอบ้านไร่ ถือเป็นศูนย์กลางจิตวิญญาณของชุมชน
แต่เดิมเป็นพื้นที่ของพ่อตาของ “นายเฮียง ชาวป่า” ซึ่งขอต้นไม้นี้กับพ่อตาไว้ เพราะเห็นคุณค่า และจะหาต้นไม้ใหญ่แบบนี้ในชุมชนไม่มีอีกแล้ว จึงอยากอนุรักษ์ต้นไม้ไว้ให้ลูกหลานได้เห็นความสำคัญ ความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ รวมทั้งเผยแพร่มรดกของดีในหมู่บ้านให้คนภายนอกได้รับรู้ ทั้งนี้ต้นไม้ยักษ์บ้านสะนำ ยังเป็นหนึ่งใน “รุกขมรดกของแผ่นดินใต้ร่มพระบารมี” โดยกระทรวงวัฒนธรรมอีกด้วย
ยางนาแคมป์
สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมานอนเต็นท์ ท่ามกลางผืนหญ้าเขียวขจี กับความร่มรื่นของต้นยางสูงใหญ่ โอบล้อมบรรยากาศขุนเขาเงียบสงบ “ยางนาแคมป์” ถือเป็นตัวเลือกจุดกางเต็นท์ที่สะดวกสบายในอำเภอบ้านไร่ รูปแบบพื้นที่กางเต็นท์ของเอกชน มีลานกว้าง ห้องน้ำสะอาด ไฟฟ้าให้ใช้ จุดล้างภาชนะ แถมยังอนุญาตให้สัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆได้ ค่าบริการคนละ 200 บาท ต่อคน/คืน โทร. 08-7152-4837
ป้าจำปี ศิลปินผ้าทอ
คงมีน้อยคนในอำเภอบ้านไร่ ที่จะไม่รู้จัก “จำปี ธรรมศิริ” หรือ “ป้าจำปี” ผู้มีชื่อเสียงในระดับอาเซียน ฐานะ “ศิลปินทอผ้าเล่าเรื่อง” เจ้าของรางวัล (ASEAN Selection 2016 –Innovative Crafts of Textiles in ASEAN, SACICT และรางวัลการเชิดชูเกียรติครูศิลป์ของแผ่นดิน (ผ้าทอลาวครั่ง) ประจำปี 2560 ด้วยการเป็นปราชญ์ท้องถิ่นผู้ถ่ายทอดภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษ สั่งสมวิชาการทอผ้าซิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวลาวครั่ง
มีรูปแบบการทอที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งความงามตามมาตรฐานผสมผสานไปกับจินตนาการไปตามที่ใจคิดสร้างสรรค์ ทำให้ป้าจำปี ได้รับฉายาว่า “สมองสั่งลาย หัวใจสั่งทอ” โดยมีผลงานระดับมาสเตอร์พีซ เช่น ผ้าทอเล่าเรื่องพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ลายทุ่งใหญ่นเรศวร และผ้าทอเล่าเรื่องเมืองกระบี่ เป็นต้น
ชมผลงานสุดประณีต ได้ที่ “พิพิธภัณฑ์เรือนผ้าย่ายาย” สอบถาม โทร. 08-9839-1446
Loom Cafe
คาเฟ่สไตล์ร่วมสมัยในอำเภอบ้านไร่ ที่อยู่ท่ามกลางบรรยากาศหุบเขาเขียวขจี มีบริการอาหาร เบเกอรี เครื่องดื่ม เมนูที่หลากหลาย ภายในมีที่นั่งให้ตากแอร์เย็นฉ่ำ รับประทานอาหารเสร็จแล้ว จะออกมาหามุมถ่ายภาพบริเวณสวนด้านนอกก็มีให้เลือกหลายจุด บรรยากาศโปร่งโล่งสบาย และยังมีพื้นที่ให้บริการจุดกางเต็นท์อีกด้วย
เปิด จันทร์-ศุกร์ 8.00 - 17.00 น., เสาร์-อาทิตย์ 7.00 - 17.30 น. สอบถาม โทร. 08-4629-5419
ตลาดซาวไฮ่
ตลาดแห่งนี้เหมาะแก่การจัดอันดับให้เป็นตลาดน่ารักที่สุดแห่งหนึ่งที่ผสานวิถีชุมชนตลาดกับศิลปะได้อย่างลงตัว ตลาดขนาดย่อมในอำเภอบ้านไร่ ละลานตาไปด้วยสินค้าและของกินท้องถิ่นมาวางจำหน่าย ทั้งพืชผักพื้นบ้าน อาหารการกิน ขนม ผ้าทอ งานจักสาน เสื้อผ้า งานคราฟต์ ผลิตผลในท้องถิ่น ร้านกาแฟ เวิร์กช็อปศิลปะ การแสดงดนตรี ไม้ดอกไม้ประดับ ฯลฯ รวมทั้งโต๊ะที่นั่งที่เปิดโอกาสให้ซื้อของกินอร่อยๆมาซึมซับบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเองของชาวชุมชนบ้านไร่
ตลาด เปิดทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 08.30 – 16.00 น. https://www.facebook.com/Organicbanrai/
หุบป่าตาด
เดินทางย้อนอดีตไปสู่โลกยุคดึกดำบรรพ์ที่ “หุบป่าตาด” แหล่งท่องเที่ยวดังด้านธรณีวิทยาในอำเภอลานสัก ซึ่งคำว่า โลกยุคดึกดำบรรพ์ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำขนานนามให้น่าตื่นเต้น หากแต่เป็นข้อเท็จจริงของโถงถ้ำเขาหินปูนที่มีอายุกว่าสองร้อยล้านปี รวมทั้งพืชพรรณยุคโบราณที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาราวกับไร้การเปลี่ยนแปลง
หุบป่าตาด ตั้งอยู่ใน “พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน” เดิมเคยเป็นถ้ำหินปูนมาก่อน ต่อมาถ้ำเกิดการพังถล่มลงมา กลายเป็นหลุมยุบหรือหุบ ซึ่งพันธุ์ไม้ต่างๆก็หล่นลงไปพร้อมกับการพังทลายครั้งนั้น ทำให้มีพืชพรรณจากยุคโบราณในหุบ เช่น ต้นตาด สมพง ยมหิน ปอหูช้าง ปรง และกล้วยผา เป็นต้น หุบเขาที่ล้อมรอบจึงกลายเป็นเกราะกำบังให้แมกไม้หายากยังคงเจริญเติบโตได้มาจนถึงยุคปัจจุบัน
หุบป่าตาด นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวดาวเด่นของอุทัยธานี เคยได้รับเลือกจาก ททท. ให้เป็นอันซีนไทยแลนด์ โดยมีบรรยากาศการท่องเที่ยวที่เรียงร้อยความน่าตื่นตาตื่นใจของธรรมชาติได้อย่างลงตัว เริ่มจากการเดินขึ้นเนินเขา แล้วเดินเข้าไปในอุโมงค์ถ้ำมืดมิดที่เรียกว่า “อุโมงค์แห่งกาลเวลา” ก่อนจะทะลุออกไปเจอบรรยากาศราวกับเป็นอีกยุคที่เต็มไปด้วยพืชโบราณ กับสถาปัตยกรรมเขาหินปูน หินงอกหินย้อยสุดอลังการในหุบด้านล่าง
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน เปิดทำการ 08.30 น. - 16.30 น. ทุกวัน
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline
