xs
xsm
sm
md
lg

เปิดลานสนภูสอยดาว 1 ก.ค.นี้ สายป่า-ขาลุย ห้ามพลาดทุ่งดอกหงอนนาคสวยที่สุดในเมืองไทย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ทุ่งดอกหงอนนาคบนลานสนภูสอยดาว
อุทยานฯ ภูสอยดาว ประกาศเปิดลานสนภูสอยดาวอีกครั้ง 1 ก.ค. 62-15 ม.ค. 63 หลังปิดเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติมาตั้งแต่เดือน ม.ค. ซึ่งที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งชมทุ่งดอกหงอนนาคที่สวยที่สุดในเมืองไทย นอกจากนี้ทางอุทยานฯ ยังเปิดให้ให้ขึ้นยอดภูสอยดาวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 62- 15 ม.ค. 63
ลานสนภูสอยดาวแผ่นดิน ในเขตฝั่งลาว
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ประกาศเปิดลานสนภูสอยดาว ให้นักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวและชมธรรมชาติบนลานสนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 – 15 มกราคม 2563 หลังจากปิดเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติมาตั้งแต่กลางเดือนมกราคม

ลานสนภูสอยดาวตั้งอยู่บนความสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีระยะทางเดินเท้าจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 6.5 ก.ม. เป็นเส้นทางขึ้นเขาสูงชัน ระหว่างทางจะผ่านน้ำตกภูสอยดาว และ เนินหลัก ๆ 5 เนิน คือ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และ เนินมรณะ ใช้เวลาเดินประมาณ 4-6 ชม.
เนินมรณะ
ลานสนภูสอยดาวเป็นป่าสนสามใบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มีพื้นที่ครอบคลุมประเทศไทยและสปป.ลาว ตามพื้นดินที่ปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้าจะมีดอกไม้ป่าหลากหลายชนิดออกดอกหมุนเวียนอวดโฉมความงามกันอยู่ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ดอกหงอนนาค” ซึ่งที่นี่ได้ชื่อว่า “เป็นดินแดนแห่งทุ่งดอกหงอนนาคที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดในเมืองไทย”
ดอกหงอนนาค
“ดอกหงอนนาค” มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า หญ้าหงอนเงือก หรือน้ำค้างกลางเที่ยง เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งที่ออกดอกในฤดูฝน ดอกจะมีทั้งสีม่วงอ่อนหรือม่วงน้ำเงิน สีขาว และสีชมพู ซึ่งค่อนข้างหายาก ยามเช้าดอกหงอนนาคจะหุบดอก และจะบานเมื่อมีแสงแดด ส่วนกลางของดอกมักมีหยดน้ำติดอยู่ เป็นที่มาของชื่อน้ำค้างกลางเที่ยง นอกจากนั้นก็ยังพบได้บ้างตามภูเขาอื่นๆ เช่น เขาสมอปูน ทุ่งโนนสน เขาใหญ่ เป็นต้น
ดอกหงอนนาคภูสอยดาวจะเบ่งบานเต็มที่ในช่วง ส.ค.-ก.ย.
ดอกหงอนนาคบนภูสอยดาว จะพร้อมใจกันเบ่งบานในช่วงกลางฤดูฝน ตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค.-ปลายเดือน ก.ย. และจะบานเต็มที่ในช่วงราวเดือน ส.ค.-ก.ย. ของทุกปี โดยการขึ้นมาพิชิตลานสน เราจะได้ใกล้ชิดดอกหงอนนาคแบบใกล้ชิดสุด ๆ เพราะที่ลานกลางเต็นท์นอนนั้น แวดล้อมไปด้วยทุ่งดอกหงอนนาค ชนิดเดินไปไม่กี่ก้าวก็ได้ถ่ายรูปกับดอกหงอนนาคสวยๆกันอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
หลักเขตชายแดนไทย-ลาว
บนลานสนยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เป็นวงรอบในระยะทาง 2.28 กิโลเมตร ชมความงามของสนสามใบสูงตระหง่าน ดอกไม้ป่าแปลกตา จุดชมวิวเลาะเลียบผา และ “หลักเขตชายแดนไทย-ลาว” หรือหลักเขต 2 แผ่นดิน ที่อยู่ห่างจากลานกางเต็นท์ทางด้านหลังไปประมาณ 1 กม.

นอกจากลานสนภูสอยดาวแล้ว ทางอุทยานฯภูสอยดาว ยังประกาศเปิดให้ขึ้นยอดภูสอยดาว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ถึง 15 มกราคม 2563
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบนลานสวนภูสอยดาว
ยอดภูสอยดาวมีความสูง 2,102 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีความสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย มีระยะทางจากลานบนภูสอยดาวไปยอดสูงสุดประมาณ 3 กม. แต่มีสภาพเส้นทางที่สูงชันและสมบุกสมบันมาก ต้องใช้ระยะทางเดินไป-กลับ ร่วม ๆ วัน ประมาณ 7-8 ชม. ใครอยากพิชิตต้องขอให้เจ้าหน้าที่นำทางเป็นพิเศษ และต้องมีร่างกายแข็งแรง
น้ำตกภูสอยดาว ชั้นแรก
สำหรับ “อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว” ตั้งอยู่ที่ ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ การเดินทางสู่ภูสอยดาว จากตัวเมืองพิษณุโลก ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 ที่มุ่งตรงไปยัง จ.อุตรดิตถ์ ถึง อ.วัดโบสถ์ ให้แยกขวาไปบ้านโป่งแคตามทางหลวงหมายเลข 1206 ถึงสามแยกบ้านโป่งแค เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 1143 มุ่งตรงไปจนถึง อ.ชาติตระการ เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1237 วิ่งตรงไปถึงแยกทางหลวงสาย 1268 เลี้ยวซ้ายไปภูสอยดาว รวมระยะทาง 188 กม.

บนลานสนไม่มีไฟฟ้าและร้านค้า ร้านอาหาร นักท่องเที่ยวต้องเตรียมไฟฉาย เสบียงอาหาร น้ำดื่มและเครื่องใช้ต่าง ๆ ไปเอง โดยทางอุทยานฯ คิดค่าลูกหาบกิโลกรัมละ 30 บาท ด้านบนมีให้เช่าเตาถ่าน เตาแก๊ส และมีห้องน้ำไว้บริการ แต่ต้องเช่าถังน้ำเพื่อไปตักน้ำจากลำธารมาใช้เอง

ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 09 5629 9528, 095-024-7633, 091-024-7633 ตั้งแต่เวลา 08:00-16:30
....................................................................................................

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น