ล่องทะเลสาบ เยี่ยม "โรงเรียนเรือนแพ" กางเต็นท์รับลมหนาวเบาๆ ที่ทุ่งกิ๊ก อช.แม่ปิง

“อุทยานแห่งชาติแม่ปิง” เป็นอุทยานแห่งชาติของภาคเหนือที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 3 จังหวัดด้วยกัน ได้แก่ อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และอำเภอสามเงา จังหวัดตาก


ที่ได้ชื่อว่าอุทยานแห่งชาติแม่ปิงเพราะมีพื้นที่ครอบคลุมลำน้ำปิงบางส่วนซึ่งมีระยะทางประมาณ 100 ก.ม. ตั้งแต่บริเวณอ่างเก็บน้ำดอยเต่า จ.เชียงใหม่ มาจนถึงเขื่อนภูมิพล จ.ตาก นั่นเอง


ในวันนี้ “ตะลอนเที่ยว” มาเยือนอุทยานแห่งชาติแม่ปิงเฉพาะในเขตพื้นที่ของอำเภอลี้ จังหวัดลำพูนเท่านั้น เก็บส่วนอื่นๆ ไว้เที่ยวต่อวันหลัง เฉพาะแหล่งท่องเที่ยวในเขตอำเภอลี้ก็มีหลายแห่งที่น่าสนใจและสวยงาม โดยมีทั้งธรรมชาติของป่าเขา สายน้ำและทุ่งหญ้า


เริ่มต้นกันที่ “ทุ่งกิ๊ก” ที่ราบกว้างใหญ่กลางป่าพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ซึ่งเป็นจุดกางเต็นท์พักผ่อนของผู้นิยมไพรในบรรยากาศเงียบสงบ เหตุที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นในบริเวณทุ่งกิ๊กก็เพราะใต้พื้นดินในแถบนี้ลึกลงไปจะเต็มไปด้วยหิน จึงมีเพียงต้นไม้เล็กๆ ประเภทไม้พุ่มและทุ่งหญ้าขึ้นเต็ม


ส่วนบริเวณรอบๆ ทุ่งกิ๊กเป็นป่าเต็งรังสลับกับป่าเบญจพรรณที่สมบูรณ์ เป็นแหล่งดูนกและส่องสัตว์ โดยจะมีบ้านต้นไม้สำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นไปส่องสัตว์ ถ้าโชคดีก็จะได้เห็นนกนานาชนิด รวมไปถึงสัตว์เล็กๆ อย่างละอง ละมั่ง เก้ง กวางทั้งหลาย


ส่วนมากผู้ที่มานอนกางเต็นท์ที่ทุ่งกิ๊กจะนอนค้างเพื่อตื่นแต่เช้ามืดเพื่อไปชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ “จุดชมวิวผาแดงหลวง” ซึ่งเป็นหน้าผาสูงตั้งอยู่เคียงคู่แม่น้ำปิง หากขึ้นไปที่จุดชมวิวในยามเช้าก็จะได้เห็นแม่น้ำปิงไหลคดโค้งไปตามหุบเขาขณะที่พระอาทิตย์ค่อยๆ ฉายแสง และในวันที่สภาพอากาศเป็นใจก็จะได้ชมหมอกงามๆ ลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือสายน้ำปิงด้วย แต่การเดินทางขึ้นไปยังจุดชมวิวนั้นจะต้องติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่อุทยานก่อน โดยต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ และต้องเดินเท้าจากจุดจอดรถขึ้นไปยังจุดชมวิวอีกประมาณ 1.5 ก.ม.

แต่สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่เดินทางไปได้ง่ายกว่า แถมยังสวยงามและเหมาะกับการท่องเที่ยวกับครอบครัวและเพื่อนฝูงก็คือที่ “น้ำตกก้อหลวง” น้ำตกขนาดกลางที่มีความงดงามชุ่มฉ่ำ สายน้ำที่น้ำตกเกิดจากลำห้วยแม่ก้อซึ่งไหลผ่านเทือกเขาหินปูนลดหลั่นลงมา 7 ชั้น ลงสู่แอ่งน้ำสีเขียวมรกตขนาดใหญ่ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นหินปูนและมีน้ำไหลตลอดปี จึงทำให้บริเวณน้ำตกมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถลงไปแหวกว่ายในแอ่งน้ำสีเขียวใสสดชื่นนั้นได้ ส่วนเด็กเล็กๆ ผู้ปกครองก็จะพาไปเล่นน้ำตามแอ่งหินตื้นๆ สนุกสนานกันได้ทั้งครอบครัว



และที่อยู่ไม่ไกลกันก็คือ “น้ำตกตาดสดอ” เป็นน้ำตกขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ในหน้าน้ำจะมีความลึกถึง 6 เมตร เป็นสายน้ำที่ไหลต่อจากน้ำตกก้อหลวงมานั่นเอง ที่นี่ก็เป็นแอ่งน้ำใสสีเขียวมรกตเช่นกัน แต่เนื่องจากมีความลึกมากจึงมีป้ายเตือนให้ระมัดระวังและให้แจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนลงเล่นน้ำ


บริเวณริมน้ำตกตาดสดอยังมีที่ราบเป็นจุดกางเต็นท์พักผ่อนได้ด้วย การเข้าถึงน้ำตกทั้งสองแห่งนี้ก็ไม่ยากเลย จากจุดจอดรถเดินมาประมาณ 200 เมตรจะถึงน้ำตกตาดสดอก่อน ส่วนน้ำตกก้อหลวงอยู่เลยไปอีก 300 เมตร ทางเดินเป็นทางดินราบสลับกับเนินเล็กๆ มีป่าไผ่อยู่สองข้างทาง


มาปิดท้ายอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแม่ปิงในเขตอำเภอลี้ จังหวัดลำพูนกันที่ “แก่งก้อ” ซึ่งทะเลสาบส่วนหนึ่งของอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล แต่เดิมบริเวณนี้เป็นจุดที่น้ำจากห้วยแม่ก้อไหลลงสู่แม่น้ำปิง แต่ภายหลังที่มีการสร้างเขื่อนภูมิพล ระดับน้ำก็ได้สูงท่วมพื้นที่แถบนี้จนกลายเป็นทะเลสาบ


และเนื่องจากมีทัศนียภาพอันงดงามของทิวเขาหินปูนและทะเลสาบ ชาวบ้านบริเวณแก่งก้อจึงเปิดเรือนแพให้บริการนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนกินข้าวหรือล่องแพชมบรรยากาศของทะเลสาบแห่งนี้ ซึ่งแก่งก้อนี้เป็นจุดที่ตั้งอยู่ระหว่างเขื่อนภูมิพลกับดอยเต่า นักท่องเที่ยวจึงสามารถล่องแพจากแก่งก้อขึ้นไปยังดอยเต่า หรือล่องมาชมเขื่อนภูมิพล เที่ยวพระธาตุแก่งสร้อยได้ด้วย


แต่หากมีเวลาไม่มาก “ตะลอนเที่ยว” ขอแนะนำให้ไปที่นี่เลย “โรงเรียนบ้านก้อจัดสรร สาขาเรือนแพ” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “โรงเรียนเรือนแพ” แต่หลายๆ คนอาจจะรู้จักในชื่อ “โรงเรียนคิดถึงวิทยา” เพราะที่นี่เป็นโรงเรียนในภาพยนตร์ไทยเรื่อง “คิดถึงวิทยา” เรื่องราวของคุณครูจากในเมืองที่ต้องไปสอนเด็กๆ ในโรงเรียนซึ่งตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวกลางน้ำห่างไกลความเจริญ แต่ทั้งเด็กและครูก็มีความสุขและความผูกพันกันอย่างเรียบง่าย ซึ่งต้นแบบของโรงเรียนในภาพยนตร์ก็คือโรงเรียนเรือนแพแห่งนี้นี่เอง (ในภาพยนตร์เซ็ทฉากถ่ายทำขึ้นที่อื่น) ดังนั้นใครเป็นแฟนหนังเรื่องนี้และอยากมาชมบรรยากาศโรงเรียนของจริงก็ต้องมาที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิงนี่แหละ


จากแก่งก้อเราล่องเรือมาถึงที่โรงเรียนใช้เวลาประมาณ 45 นาที ระหว่างทางจะได้ชมทิวทัศน์สองข้างทางที่เป็นภูเขาสูงใหญ่สวยแปลกตา รับลมเย็นๆ และอากาศสดชื่นระหว่างที่เรือแล่นไปเพลินๆ ก็มาถึงที่โรงเรียนเรือนแพกันแล้ว


บางคนอาจสงสัยว่าทำไมจึงต้องมาตั้งอยู่กลางทะเลสาบอย่างนี้ด้วย เหตุผลก็คือเพื่อให้เด็กๆ บุตรหลานของชาวแพในทะเลสาบลุ่มน้ำปิงแห่งนี้ได้มีโอกาสได้รับการศึกษาและไปโรงเรียนได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องเดินทางไกล จึงเปิดห้องเรียนสาขาของโรงเรียนบ้านก้อจัดสรรขึ้นเป็นโรงเรียนเรือนแพ เด็กๆ ที่มาเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ถือว่าเป็นนักเรียนประจำก็ว่าได้ เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองจะมาส่งที่โรงเรียนในวันจันทร์ และมารับกลับบ้านอีกทีในวันศุกร์ โดยเด็กนักเรียนที่นี่มีอยู่ไม่ถึง 10 คน


ดังนั้นผู้ที่ต้องรับผิดชอบดูแลเด็กๆ ทั้งเรื่องการเรียนการสอนไปจนถึงการกินการอยู่ก็คือครูที่ประจำอยู่ในโรงเรียนเรือนแพ ปัจจุบันคือ “ครูสามารถ สุทะ” หรือครูมาด ครูผู้มีความรักและมุ่งมั่นในวิชาชีพ รวมถึงมีความเสียสละอย่างมากเพราะต้องคอยอยู่ดูแลเด็กๆ ทั้ง 5 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง


วันที่ “ตะลอนเที่ยว” มาเยือนโรงเรียนเรือนแพนั้นตรงกับวันหยุด ทั้งครูและเด็กๆ ต่างกลับบ้านไปพักผ่อน จึงได้ชมบริเวณรอบๆ โรงเรียนที่มีแม้จะตั้งอยู่กลางน้ำแต่ก็มีบรรยากาศน่ารักๆ ชวนให้น่าเรียนไม่น้อย ด้านหน้าโรงเรียนมีธงชาติไทยโดดเด่น แถมยังมีสไลเดอร์ให้เด็กๆ ไว้เล่นน้ำกันอีกด้วย ตามห้องเรียนและระเบียงทางเดินมีลวดลายการ์ตูนน่ารักๆ สร้างความสดใส มีเรือนแพที่เป็นห้องเรียนและเรือนพักต่อกัน และมีเรือนแพไว้เลี้ยงไก่และปลูกผักเพื่อประกอบอาหารกินกันที่โรงเรียนอีกด้วย เรียกได้ว่าเด็กๆ ที่นี่ได้ทั้งเรียนหนังสือและเรียนรู้การใช้ชีวิตอีกด้วย

สำหรับใครที่อยากมาเยี่ยมเยือนเด็กๆ หรืออยากมาทำกิจกรรมร่วมกับเด็กๆ และทางโรงเรียน ก็ต้องติดต่อผ่านทางโรงเรียนบ้านก้อจัดสรร หรือทางครูสามารถเข้ามาก่อน หรือแค่อยากชมบรรยากาศของโรงเรียน ก็สามารถมาเที่ยวกันได้ในวันเสาร์อาทิตย์

แม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าอุทยานแห่งชาติอื่นๆ ของทางภาคเหนือ แต่ก็ถือว่าอุทยานแห่งชาติแม่ปิงมีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าสนใจและสวยงามไม่แพ้ที่อื่นๆ ถ้ามีโอกาสจึงอยากให้ลองแวะมาที่ "อุทยานแห่งชาติแม่ปิง" ทั้งในเขตจังหวัดลำพูน เชียงใหม่ หรือตาก มารับพลังธรรมชาติจากแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ กลับไปกัน

ผู้ที่สนใจจะเดินทางไปท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแม่ปิง สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.06 1375 3500, 09 8808 2827 หรือสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางไปในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดลำพูนเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลำปาง (พื้นที่รับผิดชอบลำปาง,ลำพูน) โทร.0-5422-2214-15

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager