xs
xsm
sm
md
lg

แอ่ว “ลำปาง” ตระเวนไหว้พระ 9 วัดงาม อิ่มบุญ เบิกบานใจ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Facebook :Travel @ Manager
วัดพระธาตุลำปางหลวง พระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีฉลู
“ลำปาง” เป็นหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวทางภาคเหนือที่มีความน่าสนใจชวนให้ไปท่องเที่ยว ด้วยความที่เคยเป็นดินแดนอารยธรรมล้านนาที่รุ่งเรืองมาแต่ครั้งโบราณ ทำให้เมืองลำปางมีสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณสถานอย่างวัดวาอารามที่สวยงามและทรงคุณค่า ชวนให้เดินทางไปสัมผัสกัน

ทริปนี้ “ตะลอนเที่ยว” เลยขอมาแอ่วจังหวัดลำปาง และเลือกที่จะไปเที่ยวตระเวนไหว้พระ เพื่อเสริมสิริมงคลให้ชีวิต กับเหล่าวัดวาอารามที่มีความงดงามของเมืองลำปางถึง 9 วัดด้วยกัน เปิดฉากทัวร์มากันที่ “วัดพระธาตุลำปางหลวง” (ต. ลำปางหลวง อ.เกาะคา) เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณที่มีความสวยงาม แนะนำว่าควรหาโอกาสมาให้ได้สักครั้งในชีวิต เพราะเป็นพระธาตุประจำปีปีฉลู (วัว)
พระเจ้าองค์หลวงเมืองเขลางค์ ประดิษฐานในวิหารลายคำ วัดพระธาตุลำปางหลวง
ภายในวัดพระธาตุลำปางหลวง มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการไหว้ขอพรจากองค์พระธาตุ เจดีย์ เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ทรงล้านนาหุ้มด้วยแผ่นทองเหลืองฉลุลายมีความงดงามเป็นอย่างมาก ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และมีพระวิหารหลวง ที่ประดิษฐานพระเจ้าล้านทองอยู่ภายใต้ซุ้มปราสาททอง เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในลำปาง และด้านหลังมีพระเจ้าทันใจให้ได้ไหว้ขอพร ที่เชื่อกันว่าขอแล้วจะสัมฤทธิ์ผลดังใจหมาย

มีวิหารลายคำ ที่งดงามด้วยศิลปะล้านนาฝีมือช่างลำปาง มีลวดลายลงรักปิดทองสวยงามมาก ด้านในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าองค์หลวงเมืองเขลางค์ (หลวงพ่อพระพุทธ) เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนสิงห์สาม ปางมารวิชัย เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นที่มีลักษณะสวยงามที่สุดองค์หนึ่งของล้านนา และยังมีสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่ควรพลาดชม คือ การเข้าไปชม “พระธาตุหัวกลับ” หรือ “เงาพระธาตุ” ในมณฑปพระพุทธบาท ที่เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์กล้องรูเข็ม ที่อนุญาตให้เฉพาะผู้ชายเข้าไปชมได้เท่านั้น
วัดไหล่หินหลวง วัดเก่าแก่งดงามด้วยลวดลายศิลปะแบบล้านนาไทย
จากวัดพระธาตุลำปางหลวง เดินทางมาไม่ไกลมากนักก็มาถึง “วัดไหล่หินหลวง” (วัดเสลารัตนปัพพตาราม) หรือ “วัดไหล่หินแก้วช้างยืน” เป็นวัดเล็กๆ ที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก ภายในวัดมีโบราณสถานที่น่าสนใจชวนชมอย่าง ซุ้มประตูโขงซึ่งเป็นงานประติมากรรมของช่างฝีมือเชียงตุง ที่มีลวดลายประติมากรรมประดับประดาอยู่อย่างสวยงาม เป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ อาทิ หงส์ มังกร นาค นก

ส่วนวิหารโบราณถูกสร้างพร้อมกับซุ้มประตุโขง มีลักษณะสกุลช่างลำปางที่มีความงดงามอ่อนช้อย ด้านหลังมีองค์ธาตุเจดีย์ให้ได้สักการะ และด้านหน้าวัดยังมี “หอพิพิธภัณฑ์โบราณล้านนา สุวัณณะกีฏะศรัทธาสามัคคี” ภายในเก็บรวบรวมโบราณวัตถุล้ำค่าต่างๆ ไว้เป็นอย่างดี อาทิ หีบพระธรรม คัมภีร์ใบลานจำนวนมาก เครื่องใช้ในครัวเรือนโบราณ เป็นต้น ให้ได้ชมและเรียนรู้กัน
วัดศรีชุม เป็นวัดที่มีศิลปะแบบพม่าอันงดงาม
ออกจากวัดไหล่หินหลวง เราเดินทางมาที่ “วัดศรีชุม” คำว่า ศรีชุม ในภาษาเหนือ หมายถึงต้นโพธิ์ ที่นี่เป็นวัดที่มีศิลปะสถาปัตยกรรมแบบพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างในปี พ.ศ. 2433 โดยคหบดีชาวพม่า เมื่อมาถึงที่วัดเราได้เห็นถึงความงดงามอันโดดเด่นของพระวิหารที่สวยงามตระการตา ลักษณะเป็นอาคารสองชั้นครึ่งตึก ครึ่งไม้ ตัวหลังคาเป็นเครื่องไม้ยอดแหลมแกะสลักสวยงามมาก ตกแต่งคล้ายปราสาทตามศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบพม่า มีระแนงไม้ฉลุเป็นลวดลายที่มีความอ่อนช้อยประณีตเป็นอย่างมาก แต่เมื่อปี พ.ศ. 2535 ได้เกิดเพลิงไหม้พระวิหาร ทำให้เหลือเพียงไม้แกะสลักตรงซุ้มประตูทางขึ้นวิหารเท่านั้น ปัจจุบันทางวัดได้ทำการบูรณะขึ้นใหม่ และยังคงไว้ซึ่งศิลปะการแกะสลักไม้ที่งดงามเหมือนเดิม และด้านบนพระวิหารมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ให้ได้กราบขอพรด้วย
พระธาตุศรีจอมไคล ที่วัดปงสนุก
ภายในบริเวณวัดศรีชุมยังมีโบสถ์ขนาดเล็กอายุกว่าร้อยปี ที่สวยงามถูกตกแต่งด้วยลวดลายตามศิลปะแบบพม่า ด้านหน้าโบสถ์มีบันไดนาคนำเข้าสู่ตัวโบสถ์ ประตูไม้ถูกประดับทองและกระจกอย่างสวยงาม ด้านในมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ และมีพระเจดีย์สีทองอร่ามด้านหลังโบสถ์ ซึ่งมีพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากพม่าบรรจุให้ได้สักการะกัน

แล้วเดินทางมายังวัดต่อมา คือ “วัดปงสนุก” เป็นวัดเก่าแก่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาช้านาน เมื่อเดินเข้ามาภายในวัดจะได้พบกับงานพุทธศิลป์ที่ทรงคุณค่าและงดงามเป็นอย่างมาก มีวิหารพระเจ้าพันองค์ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า สร้างด้วยไม้ ลักษณะเป็นวิหารโถงทรงจัตุรมุขที่มีรูปสถาปัตยกรรมที่งดงาม ตรงกลางประดิษฐานพระพุทธรูป 4 องค์ ที่พระพักตร์แต่ละองค์หันออกไปยังทิศทั้ง 4 รอบตัวพระวิหาร ประดับด้วยพระพิมพ์องค์เล็กจำนวน 1,080 องค์ จึงเป็นที่มาของชื่อ วิหารพระเจ้าพันองค์ และวิหารหลังนี้ได้รับรางวัลจากยูเนสโกด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ในปี พ.ศ. 2551 ส่วนด้านข้างวิหารพระเจ้าพันองค์ ยังเป็นที่ตั้งของพระธาตุศรีจอมไคล องค์สีทองเหลืองอร่ามงามจับตา ที่ให้เราได้กราบขอพร และยังมีวิหารพระนอนให้ไหว้ ได้ทำบุญแบบอิ่มเอมใจ
วิหารพระเจ้าพันองค์ ได้รับรางวัลการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมดีเด่นจากยูเนสโก
ได้ไหว้พระขอพรที่วัดปงสนุกกันแล้ว ไปเสริมบุญกันต่อที่ “วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม” เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่อายุกว่า 500 ปี มีความสำคัญเคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตมาก่อน เมื่อมาถึงวัดจะได้เห็นพระบรมธาตุดอนเต้า เป็นพระเจดีย์องค์ใหญ่ทรงล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ด้านหน้ามีมณฑปยอดปราสาทศิลปะแบบพม่าที่งดงามเป็นอย่างมาก ประดับประดาด้วยลวดลายไม้แกะสลัก ประดับกระจกสีสวยวิจิตรงามตา และภายในมณฑปเป็นที่ประดิษฐานพระบัวเข็ม เป็นพระพุทธรูปสำริดลงรักปิดทองศิลปะแบบพม่า มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงพระเกจิอาจารย์ให้ได้กราบขอพร
พระบรมธาตุดอนเต้า ที่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม
และภายในวัดพระแก้วดอนเต้าฯ ยังมีวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่มีพุทธลักษณะอันงดงาม มีวิหารหลวงที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย วิหารพระเจ้าทองทิพย์ที่มีพระเจ้าทองทิพย์ศิลปะสมัยเชียงแสนโบราณประดิษฐานอยู่ แล้วก็ยังมีพิพิธภัณฑสถานแห่งล้านนา ที่รวบรวมศิลปวัตถุโบราณล้ำค่าแบบล้านนา อาทิ พระพุทธรูป สัตภัณฑ์ เครื่องถ้วยกระเบื้องต่างๆ ฯลฯ
พระบัวเข็ม (องค์กลาง) พระพุทธรูปสำริดลงรักปิดทองศิลปะแบบพม่า
วัดถัดมาที่เดินทางมา คือ “วัดพระธาตุเสด็จ” เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจ.ลำปาง มีตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นในสมัยพระนางจามเทวี อุโบสถและวิหารต่างๆ ซึ่งเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ ได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมดแต่ยังคงสภาพศิลปะโบราณให้เห็นได้อยู่จนปัจจุบัน กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นโบราณสถานของชาติ

ภายในวัดมีพุทธสถานที่สำคัญคือ มีองค์พระธาตุเสด็จสีเหลืองทองอร่ามงามตา เป็นเจดีย์แบบล้านนา มีลักษณะคล้ายพระธาตุลำปางหลวงแต่องค์เล็กกว่า ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ให้ได้กราบขอพร มีวิหารใหญ่ เรียกว่า “วิหารกลาง” เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อห้ามญาติ พระพุทธรูปสำริดปางลีลาองค์ใหญ่ ที่มีพุทธลักษณะงดงามแล้วก็ มีวิหารหลวง เรียกว่า “วิหารจามเทวี” ประดิษฐานพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน และมีวิหารพระพุทธ ด้านในมี “พระเจ้าดำองค์อ้วน” เป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่ให้ได้กราบขอพรกัน อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่ภายในมีวัตถุโบราณทรงคุณค่ามากมายให้ได้เดินชมแบบได้ความรู้ไปในตัว
วัดพระธาตุเสด็จ เป็นโบราณสถานสำคัญอันศักดิ์สิทธิ์ของเมืองลำปาง
แล้วก็มากันที่วัดนี้ “วัดเกาะวาลุการาม” เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าของลำปาง ภายในวัดเกาะฯ มีสิ่งที่น่าสนใจให้ชมหลายอย่าง มีหอพระนอนที่ภายในมีพระนอนประดิษฐานให้กราบขอพร และมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์อื่นๆ ให้ได้สักการะด้วย มีพระอุโบสถลักษณะแบบไทยภาคกลาง ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือ ครูปวน สุวรรณสิงห์(ป.สุวรรณสิงห์) มีเจดีย์วัดเกาะฯ ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบพม่า มีศาลาการเปรียญ สถาปัตยกรรมแบบไทยภาคกลาง ที่เรียกได้ว่าเป็นวัดเดียวในลำปางที่มี
วัดเกาะวาลุการาม ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าของลำปาง
เดินชมวัดเกาะฯ และไหว้พระนอนจนอิ่มบุญแล้ว ก็เดินทางไปยังวัดต่อไป คือ “วัดพระเจดีย์ซาวหลัง” หมายถึง วัดที่มีเจดีย์ 20 องค์ เมื่อมาถึงที่วัดเราได้เห็นองค์พระธาตุเจดีย์ซาวหลัง ที่มีศิลปะล้านนาผสมศิลปะพม่า และข้างหมู่พระเจดีย์มีวิหารหลังเล็กเป็นที่ประดิษฐาน "พระเจ้าทันใจ" เป็นพระพุทธรูปสำริดปางสมาธิ ศิลปะเชียงแสน และที่พระอุโบสถหลังใหญ่ มีพระพุทธรูปแสนแซ่ทองคำ เป็นพระปางมารวิชัยศิลปะล้านนา เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองลำปางให้ได้สักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง
วัดเจดีย์ซาวหลัง วัดที่มีเจดีย์ 20 องค์
และวัดสุดท้ายที่เรามาเป็นวัดที่มีชื่อเสียงกำลังมาแรง เป็นที่กล่าวถึงความสวยงามของวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขา วัดที่ว่านี้คือ “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์” หรือชื่อเดิมเรียกว่า “วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง” ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีน เนื่องจากยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก ซึ่งเมื่อได้มาถึงวัดแล้ว จะได้พบกับภาพความงดงามของเจดีย์สีทองที่ถูกสร้างขึ้นบนภูเขาสูง และเจดีย์น้อยใหญ่ตั้งเรียงรายอยู่บนยอดเขา รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพของสายหมอกและทิวเขาสูงที่มองเห็นได้แบบ 360 องศา ที่วัดแห่งนี้ยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ให้นมัสการ และมีรอยพระพุทธบาทให้ได้สักการะกันด้วย
ความสวยงามของวัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ ตั้งอยู่บนยอดเขา
“ตะลอนเที่ยว” รู้สึกอิ่มบุญ เบิกบานใจเป็นอย่างมาก ที่ในทริปนี้เราได้มาตระเวนไหว้พระ และได้ชมวัดวาอารามที่มีความงดงามเป็นอย่างมากถึง 9 วัด ซึ่งถ้าหากว่าใครมีโอกาสมาแอ่วลำปาง แล้วอยากจะทัวร์ไหว้พระ เหมือนเราบ้างก็ไม่สงวนสิทธิ์แต่อย่างใด ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้าเลยเจ้า
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น