ลำปาง - เขื่อนกิ่วลม หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวลำปาง แทบหมดสภาพแล้ว..หลังจอกแหนแพร่พันธุ์ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 64 จนล่าสุดยึดท้องน้ำเหนือไปแล้วร่วม 1,000 ไร่ กระทบทั้งเรือหางยาว-ธุรกิจแพนำเที่ยวที่มีกว่า 34 ลำล่องไม่ได้
สภาพท้องน้ำเหนือเขื่อนกิ่วลม ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เต็มไปด้วยจอกแหนยึดพื้นที่เกือบ 1,000 ไร่ ทำให้แพผู้ประกอบการนำเที่ยวกว่า 34 ลำ รวมถึงเรือหางยาว แล่นผ่านไม่ได้
นายปองพล ไชยยะ ประธานชมรมผู้ประกอบการล่องแพหมู่บ้านสำเภาทอง เปิดเผยว่า หลังจากทะเลสาบในพื้นที่เหนือเขื่อนกิ่วลมได้รับผลกระทบจากวัชพืชทางน้ำ หรือจอกแหน มาตั้งแต่ในช่วงเดือนธันวาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน จอกแหนได้แพร่ขยายเต็มแม่น้ำเริ่มลอยน้ำมาขยายวงกว้าง สะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ยาวไปจนถึงแนวบริเวณสันเขื่อน
โดยเฉพาะฝั่งหมู่บ้านสำเภาทอง ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ขณะนี้ปริมาณจอกแหนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบหนักไปยังเรือหางยาวของชาวบ้านที่ออกหาปลา ตลอดจนผู้ประกอบการแพ ที่จะต้องพานักท่องเที่ยวล่องแพในเขื่อนกิ่วลมไปยังเกาะแก่งต่างๆ ในพื้นที่ก็ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะรากของจอกแหนจะติดใต้ท้องแพ ใบพัดของเครื่องยนต์ หางเสือ บางครั้งต้องใช้เวลาเคลียร์นานกว่าครึ่งชั่วโมง
“ที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการและกรมชลประทานได้ใช้เชือกมัดแกลลอนน้ำมันทำเป็นทุ่นลอยเป็นแนวกั้นเพื่อให้แพล่องไปตามเส้นทางที่กั้นไว้ แต่ขณะนี้จอกแหนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีการเข้ามากำจัดแต่ก็ไม่สามารถกำจัดได้หมด จึงอยากวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งมาช่วยแก้ปัญหากำจัดวัชพืชจอกแหนออกจากผิวน้ำเหนือทะเลสาบเหนือเขื่อนกิ่วลม เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านผู้ประกอบการแพ ที่จะต้องพานักท่องเที่ยวชมธรรมชาติเหนือเขื่อนด้วย”
