xs
xsm
sm
md
lg

นักเคลื่อนไหวหลายขั้วร่วมรำลึก “ภูพยัคฆ์” ที่มั่นพรรคคอมม์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - นักเคลื่อนไหวทั้งเหลือง-แดง รวมไปถึงหลากสี ตลอดจนคนในขั้วการเมืองต่างๆ ร่วมกิจกรรมบน “ภูพยัคฆ์” อนุสรณ์สถานที่มั่นพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในอดีต นักเคลื่อนไหวหวังเป็นเวทีถอดบทเรียน เป็นแนวคิดใหม่ภาคประชาชน

รายงานข่าวแจ้งว่า หลายชุมชนใน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน โดยเฉพาะชาวม้งที่ภูพยัคฆ์ และชาวลัวะที่ภูแว พร้อมเครือข่ายสหายหรือกลุ่มคนที่มีแนวคิดทำงานกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในอดีต เดินทางมาทำบุญและทำกิจกรรมสันทนาการร่วมกัน เป็นการพบปะสังสรรค์เป็นประจำทุกปีสืบทอดมา ปีนี้ได้จัดขึ้นระหว่าง 8-9 ธ.ค. 55 ซึ่งถือเป็นปีที่ 8 แล้วที่บริเวณอนุสรณ์สถานฐานที่มั่น สำนัก 708 ที่ตั้งศูนย์กลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย

โดยปีนี้นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาร่วมเป็นประธานในพิธี ท่ามกลางประชาชนและชาวมิตรสหายจำนวนนับ 1,000 คนที่เดินทางมาจากหลายจังหวัดในภาคเหนือและกรุงเทพมหานคร โดยมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ต้องสูญเสียชีวิตไปในการต่อสู้ทางการเมืองในอดีตและเป็นความทรงจำที่ทุกคนไม่อาจลืมได้

ทั้งนี้ ในการร่วมกันทำกิจกรรมดังกล่าวทุกครั้งจะมีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายฝ่ายเดินทางมาร่วมกิจกรรมกัน โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่ม นปช.หรือกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งไม่มีปัญหาความขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้นในการจัดงาน

นายทวี เรืองปราชญ์ หนึ่งในผู้ประสานงานจัดงานรำลึกอนุสรณ์สถาน กล่าวว่า ในประเทศไทยกลุ่มพลังประชาชนที่ถูกกดขี่ทั้งปวงในประเทศไทยมีอยู่ 3 ดุลกำลัง หนึ่งคือ ดุลกำลังอำนาจเก่าแบบศักดินา กับอำนาจใหม่ทุนนิยมใหม่ และกลุ่มพลังประชาชน ที่อยู่ภายใต้การทำงานของพรรคคอมมิวนิสต์ ปัจจุบัน 3 ขุมกำลังนี้มีการแปรเปลี่ยนกันไปมาอยู่อย่างต่อเนื่องเป็นระยะผ่าน ก็แล้วแต่ว่าใครจะคิดว่าจุดไหนดี ก็ไปอยู่จุดนั้น เข้าไปเรียนรู้ ซึ่งระยะหนึ่งก็จะเกิดบทเรียนใหม่ได้ สำหรับมิตรสหายของเราจะคิดอย่างไรและคงตั้งแถวใหม่

ในอนุสรณ์สถานแห่งนี้ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญจารึกคนดีของสังคมที่ออกมาต่อสู้กับการเมืองในระดับสูงสุดคือ ใช้อาวุธ และวิธีการรูปแบบต่างๆ มากมาย เพื่อรักษาความดีและคุณธรรมประชาชนเอาไว้ อนุสรณ์สถานแห่งนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ประชาชนได้มีกิจกรรมมารวมตัวกันและสรุปบทเรียนร่วมกัน ปีนี้เป็นปีที่ 8 แล้วหลังมีการตั้งอนุสรณ์สถานมา ซึ่งเป็นเวทีที่ให้สิทธิและเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มาคิดร่วมกัน ดังนั้น จะเห็นว่าแม้มีกลุ่มขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบัน เช่น เหลือง แดง หลากสี ที่นี่ก็ยังเป็นจุดที่ให้พวกเขาส่วนหนึ่งได้มาทำบุญร่วมกัน

นายอำนวย พลหล้า ผู้แทนสภาพัฒนาการเมือง จ.แพร่ กล่าวว่า การร่วมกันจัดงานของกลุ่มคนที่มีความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบันมีที่มาที่ไปที่เขาเหล่านั้นเคยร่วมทำงานทางการเมืองขั้นสูงสุดในอดีตมาก่อน มีประวัติศาสตร์ร่วมกัน ทำให้เกิดการเกรงใจและยังหวังว่าแนวคิดจะมาร่วมกันอยู่ ซึ่งก็เป็นโอกาสดีที่มีอนุสรณ์สถานแห่งนี้ เพราะทุกปีที่หลายคนมาพบกันก็จะเป็นเวทีเรียนรู้ร่วมกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยเป็นความร่วมมือที่น่าชื่นชม ส่วนหลายคนที่ยังไม่สามารถมาในจุดนี้ได้ก็ไม่เป็นไร

“หลายคนหวังว่าความแตกต่างจะมีการสรุปบทเรียนในอนาคตและจะทำให้ภาคประชาชนมีความพร้อมและความเข้มแข็งทางความคิดมากขึ้น อนุสรณ์สถานแห่งนี้จึงไม่ต่างอะไรกับศูนย์เรียนรู้แนวคิดทางการเมืองที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ดังนั้น ทุกปีจะเป็นเวทีที่คนหลายฝ่ายมาร่วมกันและคนที่ไม่มีประวัติศาสตร์ร่วม ก็สามารถเดินทางมาร่วมงานได้เช่นกัน คนที่มาก็ไม่ต้องพักโรงแรมหรือห้องพักดีๆ เพียงหาที่นอน สุมไฟกันชายป่าข้างทาง เป็นบรรยากาศที่น่าสนใจมาก”



กำลังโหลดความคิดเห็น